“ส.ว.ไพบูลย์” ยื่นศาล รธน.วินิจฉัยสถานภาพรักษาการนายกฯ และ ครม. หลังศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยการย้าย “ถวิล” พ้นเลขาฯ สมช.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ด้านโฆษก กปปส.ยันเปิดเวทีปฎิรูปประเทศวันนี้ควบการชุมนุม ยันไม่ตั้งพรรคการเมือง
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา กล่าวว่า วันนี้ (10 มี.ค.) จะเดินทางไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยสถานภาพรักษาการนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี โดยยื่นในนามสมาชิกวุฒิสภา ด้วยการเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ผ่านประธานวุฒิสภา คาดว่าประมาณ 13.00 น.จะสามารถยื่นได้
นายไพบูลย์กล่าวว่า การยื่นครั้งนี้สืบเนื่องมาจากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กรณีการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและเอื้อพวกพ้อง ซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามมาตรา 182 (7) และเข้าข่ายมาตรา 68 หากยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้วพบว่ามีความผิด สถานภาพรักษาการนายกรัฐมนตรีจะสิ้นสุดลงทันที เพื่อหานายกรัฐมนตรีคนใหม่ เข้ามาทำหน้าที่แทนตามมาตรา 172 และมาตรา 173 ที่ต้องดำเนินการโดย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ส.ส. หากไม่มี ส.ส.ก็อนุโลมให้ใช้ ส.ว. ทำหน้าที่แทนได้ ส่วนเวทีปฏิรูปของ กปปส. คาดว่าจะดำเนินการเสร็จก่อนมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ด้านนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) วันนี้จะมีการเปิดเวทีปฏิรูปประเทศของ กปปส.ในเวลา 10.00 น. และดำเนินการจัดเสวนาในเวลา 13.00 น. โดยจะทำควบคู่การชุมนุม ซึ่งเนื้อหาของการปฏิรูป จะเริ่มจากการเชิญนักวิชาการเข้ามาหารือถึงเรื่องต่างๆ ที่เป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วน เช่น ความยากจน พลังงาน และสื่อ เพื่อจัดตั้งสภาปฏิรูป โดยทุกขั้นตอนจะมีประชาชนส่วนร่วม
นายเอกนัฏยืนยันว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ไม่มีแนวคิดตั้งพรรคการเมือง และหลวงปู่พุทธะอิสระก็ไม่มีการยุบเวทีแจ้งวัฒนะมารวมกับเวทีสวนลุมพินี ส่วนกรณีศาลอาญาออกหมายจับนายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. คดีทำร้าย รปภ.กลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เชื่อว่าเป็นเรื่องของการกลั่นแกล้ง แต่ทางเวทีจะเร่งสืบสวนเพื่อหาความจริงต่อไป