สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
ก่อนเข้าสู่พิธีกรรมประดิษฐาน”พระพรหมองค์ใหม่” คงต้องเริ่มด้วยเรื่อง”ตลกร้าย”ก่อน นั่นคือ
เหตุทุบทำลายพระพรหมเอราวัณนั้น ตำรวจได้จับผู้ที่ทำร้าย นายธรกร ภักดีผล หรือ ”อามีน”จนตายคาที่ได้ 2 ราย ก่อนให้ประกันตัวไปอย่างง่ายดาย ต่อมา พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ อดีตผกก.สน.ลุมพินีขณะนั้น ซึ่งปัจจุบันเพิ่งลาออกจาก”ผู้บัญชาการกองปราบ” มาลงสมัครเป็นสว.กทม.ครั้งนี้..เคยพูดกับผู้สื่อข่าวว่า..
การหาพยานบุคคลในคดีนี้ยากมาก เพราะคนที่เห็นเหตุการณ์เป็นขาจร หลังเกิดเหตุก็หายตัวกันหมด ทำให้ยากในการติดต่อมาสอบปากคำ
นั่นเป็นข้ออ้างที่ทำให้คดี”ฆ่าอามีน” และ”ฆ่าพระพรหมองค์เก่า” เงียบหายไปดื้อๆชนิดไม่ชอบมาพากล เพราะไม่มีการสืบหาถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังว่า
มีใครจ้าง”อามีน”ไหม? แล้วใครเป็นจอมบงการ? ที่สำคัญ..ทุบทำลาย”พระพรหมองค์เก่า”เพื่ออะไร?
พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และ รมว.ยุติธรรมยุคนั้น ได้ใช้วาทะกรรมแปลกๆ เป็นทางออก เหตุ”ฆ่าพระพรหมองค์เก่า”ครั้งนั้นว่า
ได้คุยกับผู้รู้ด้านโหราศาสตร์บอกว่า เป็นการ”เสียสละ”ของท้าวมหาพรหม ที่มารับเคราะห์แทนประเทศชาติ เพื่อให้เหตุการณ์ร้ายๆในบ้านเมืองเบาบางลง ตามความเชื่อโบราณที่ว่า การเสียของรักของหวงถือเป็นการฟาดเคราะห์
แต่ผู้คนไม่น้อยก็ตั้งคำถามว่า การทุบทำลายพระพรหมนั้น ไปตรงกับข่าวลือที่ว่า มี”หมอผีเขมร”จากบุรีรัมย์ แนะเหลี่ยมกับคนไกล้ชิดว่า หากต้องการจะชนะทุกศึก และจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดินไทยคนเดียวดังปรารถนา เหลี่ยมจะต้อง”เปลี่ยนลิขิตสวรรค์” ด้วยการ”ฆ่าพระพรหมองค์เก่า”เสียก่อน แล้วสร้าง”พระพรหมองค์ใหม่”มาแทนที่
เคล็ดสำคัญที่สุดของเรื่องนี้ คือ เหลี่ยมจะต้องเป็นผู้นำ“พระพรหมองค์ใหม่” ไปประดิษฐานไว้ ณ ที่ตั้งจุดเดิม ของ”พระพรหมองค์เก่า”ด้วยตนเองเท่านั้น!
เพราะ”หมอผีเขมร”เชื่อว่า ”พระพรหม”เป็นผู้ลิขิตความเป็นไปของสรรพสิ่ง เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตมนุษย์ทุกคนตั้งแต่เกิดจนตาย “หมอผีเขมร”จึงถือเคล็ดการ”ฆ่าพระพรหมองค์เก่า” คือ การลบล้างลิขิตชีวิตที่ไม่ดีของเหลี่ยมให้มลายไป ส่วนการสร้าง”พระพรหมองค์ใหม่”ขึ้น ก็เสมือนเหลี่ยมได้ลิขิตชีวิตใหม่ตามต้องการ นั่นคือ ชนะศึกจนใหญ่คับฟ้าเมืองไทย แถมอำนาจจะมั่นคงยั่งยืนอีกด้วย
เพราะพระพรหมองค์เก่า ที่ออกแบบและปั้นโดย นายจิตร พิมพ์โกวิท และถูกหล่อด้วยปูนปลาสเตอร์โดย นายวิชิต เชาวน์สังเกต ซึ่งทั้งคู่เป็นช่างอยู่ในกองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร ก่อนจะถูกอัญเชิญมาประดิษฐาน ไว้ที่หน้าโรงแรมเอราวัณ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2499
ส่วนพระพรหมองค์ใหม่ ยังคงรูปแบบและขนาดเหมือนเดิม แต่ได้เปลี่ยนวัสดุปูนปลาสเตอร์ เป็นเนื้อนวโลหะ 9 อย่าง นั่นคือ ทองคำ เงิน ดีบุก ทองแดง ปรอท เหล็ก พลวง ชิน และแร่บริสุทธิ์
โดยมีการนำเอาชิ้นส่วนที่สมบูรณ์ ของ”พระพรหมองค์เก่า”มาบรรจุ ไว้ในร่างของ”พระพรหมองค์ใหม่” และชิ้นส่วนที่แตกเป็นชิ้นเล็กๆถูกบรรจุไว้ที่ฐาน
ช่วงนั้นผมกับเพื่อนศิลปากรบางคน ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข เตรียมสร้างอนุสรณ์สถานของ”สมเด็จย่า” และ”สมเด็จพระบิดา”แห่งวงการแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อประดิษฐานไว้ในกระทรวงสาธารณสุข จึงต้องสัมพันธ์กับบรรดาช่างปั้นชั้นครู ของสำนักช่างสิบหมู่เป็นประจำ
พวกเราพยายามจะสืบถาม ช่างปั้นทั้งหลายในกลุ่มช่างสิบหมู่ ที่ทำงานสร้างพระพรหมองค์ใหม่ว่า มีคนในรัฐบาลเหลี่ยมนำเอาสิ่งชั่วร้าย ไปแอบฝังรูปฝังรอยซ่อนไว้ในรูปปั้นพระพรหมองค์ใหม่บ้างหรือเปล่า?
แต่ไม่มีใครให้ความกระจ่างได้เลย จนรูปปั้นของพระพรหมองค์ใหม่สำเร็จเสร็จสิ้น เตรียมนำเข้าพิธีประดิษฐานตรงตามกำหนดเวลา!
“ประธาน”พิธีอัญเชิญ”พระพรหมองค์ใหม่” ขึ้นประดิษฐาน ณ เทวาลัยข้างโรงแรมเอราวัณ ในหมายอย่างเป็นทางการ คือ ดร.สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ในฐานะตำแหน่งรองนายกฯ และรักษาการรมว.วัฒนธรรม โดยเหลี่ยมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น
เวลามหาฤกษ์ 07.29 น. ของวันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม 2549 เริ่มพิธีอัญเชิญองค์ท้าวมหาพรหม ออกจากสำนักช่างสิบหมู่ จังหวัดนครปฐม เคลื่อนขบวนมาจนไกล้สี่แยกราชประสงค์..
โดยไม่มีใครคาดคิด จู่ๆเหลี่ยมก็โผล่มายังบริเวณพิธี ที่จะประดิษฐาน”พระพรหมองค์ใหม่” โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทำให้ดร.สุรเกียรติ์ต้องหลีกทาง หรือปรับเปลี่ยน”ประธาน”ในพิธีอย่างฉับพลัน
นั่นคือ ต้องให้นายกฯเหลี่ยมที่ตำแหน่งใหญ่กว่า อีกทั้งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ทำหน้าที่เป็นประธานทำพิธี ประดิษฐาน”พระพรหมองค์ใหม่”แทน
11.39 น. เหลี่ยมจึงเป็นผู้อัญเชิญองค์ท้าวมหาพรหม ขึ้นสู่เทวาลัยและเดินประทักษิณ 3 รอบ จนเสร็จสิ้นพิธีทั้งหมดเมื่อเวลา11.59 น.
นั่นถือได้ว่า..เหลี่ยมได้ทำทุกอย่างต้องตามข่าวลือ ที่”หมอผีเขมร”กำหนดไว้ในหลัก “อวิชชา-ฝังรูปฝังรอย”ครบถ้วน
แผน”กู-คือ-ผู้ลิขิตพระพรหม”หรืองานลับสุดยอด ”ฆ่าพรหมลิขิตเก่า-กำหนดพรหมลิขิตใหม่” ตามแนวทาง”หมอผี(เขมร)คิด-เหลี่ยม(กล้า)ทำ”ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว
ส่วนเหลี่ยมจะเป็น”มนุษย์”คนแรก ที่ทำตน”เหนือพระพรหม”หรือ”ลิขิตพระพรหม”ได้หรือไม่นั้น ต้องรอดูบั้นปลายชีวิตเหลี่ยม”รุ่ง”หรือ”ดับ”?
รุ่ง-คือ-เหลี่ยมชนะ”ฟ้า”และปราบ”ดิน”ได้ราบคาบ จนสร้าง”รัฐไทยใหม่”ได้สำเร็จ ส่วนเหลี่ยมจะสถาปนาตนเป็น “ประธานาธิบดีเหลี่ยมส้นตีนแดงที่ 1” แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนา หรือจะเป็น”สมเด็จเจ้ามูลเมืองเดโชโด่ไม่รู้ล้มเหลี่ยม” พระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 1 แห่งราชอาณาจักรล้านนา-เชิญตามสบายนะจ๊ะ..
ดับ-คือ-เหลี่ยมและพวกทรราชแพ้”ฟ้า”พ่าย”ดิน” ทรัพย์สินมหาศาลที่ขี้โกงชาติ ของคนในตระกูล”โกงจนชิน”ถูกยึดเข้าหลวง อีกทั้งเหลี่ยมและนักการเมืองชั่ว ต้องหนึหัวซุกหัวซุนออกจากแผ่นดินไทย ไปเป็น”รัฐบาลมหาโจรพลัดถิ่น”อยู่แถวเขมรโน่น
โหราจารย์อาวุโสที่ทำแต่คุณงามความดี และทำทุกอย่างเพื่อปกป้องรักษา ทั้งชาติ ศาสนา พระกษัตริย์ ระบุว่า
“ไอ้เหลี่ยมมันไร้สติ-มันบ้าไปแล้ว เพราะการทุบทำลายพระพรหมเอราวัณ หวังจะลบลิขิตสวรรค์ที่ไม่ดีในชีวิตตน และสร้างพระพรหมองค์ใหม่มาแทนที่ หวังจะลิขิตชีวิตของตนเองใหม่ตามใจปรารถนานั้น..เป็นไปไม่ได้”
ศาสตร์ในโลกแห่งเทพนั้น ไม่มีมนุษย์คนไหนเหนือพระพรหม ไม่มีมนุษย์-หมอผี-อวิชชา-พิธีกรรมชั่วใด จะ”ฆ่าพระพรหม”และเปลี่ยนลิขิตสวรรค์ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องที่ทุบทำลาย พระพรหมที่เอราวัณ ซึ่งมีผู้คนเคารพบูชามากมายยาวนานถึง 50 ปี จะต้องจบชีวิตลงด้วยภัยร้ายสารพัดอย่างทรมาน
“หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน”ผู้บรรลุธรรม เคยเทศไว้ในปี 2549 ถึงเหลี่ยมว่า..
คนประเภทนี้ขึ้นครองบ้านครองเมือง ตับปอดประชาชนมันจะไม่มีเหลืออยู่แล้วในเวลานี้..เราก็ไม่เห็นนายกฯ ที่ปลิ้นปล้อนหลอกลวง ต้มตุ๋นได้ทุกรูปทุกแบบ เหมือนนายกฯคนนี้ มันมาจากเมืองยักษ์เมืองผีหรือไร ถึงทำลาย 3 สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ได้ล่มจมขนาดนี้
เงินของนายกฯคนนี้ เป็นฟืนเป็นไฟเผาไหม้ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มันหวังจะเป็นประธานาธิบดี กดหัวคนทั้งชาติเพราะลุแก่อำนาจ ระวังทำบาปมหันต์จะพบจุดจบเหมือนเทวทัต
เชื่อไหมว่า..เหลี่ยมกำลัง”ตกนรกทั้งเป็น” เพราะเหลี่ยมทุกข์ทรมานอย่างสุดแสน กับความพยายามสืบทอดอำนาจ เพื่อหวังจะโกงกินชาติไทยต่อไงล่ะ..!