xs
xsm
sm
md
lg

ตัดกรรม..แต่กรรมกำลังตามสนอง"เหลี่ยม"(ตอนสาม)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

เรื่องลึกลับทางไสยศาสตร์ยุคดิจิตอลเบ่งบาน ที่บางคนไม่เชื่อ-เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง-เชื่อเลยนั้น สำหรับผมเป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ช่วงพันธมิตรฯต่อสู้กับรัฐบาล"เหลี่ยม" ผมไม่รู้ว่าแกนนำพันธมิตรฯคนอื่น เจอเรื่องของ"มนต์ดำ-คุณไสย-อวิชชา"จากเหลี่ยมหรือไม่? แต่"สนธิลิ้ม"และคนรอบข้าง เผชิญกับเรื่องลึกลับมากมาย เช่น

วันหนึ่ง..มีมือลึกลับส่งกล่องมาทางไปรษณีย์ ระบุผู้รับนาม"สนธิ ลิ้มทองกุล" แต่พ่อบ้านที่รับได้เปิดกล่องดู ปรากฏว่ามันเป็น"หนังหัว"ของอะไรสักอย่าง ที่ส่งกลิ่นเหม็นเน่าเป็นอย่างยิ่ง พ่อบ้านจึงนำ”หนังหัว”ชิ้นนั้น ไปราดน้ำมันและจุดไฟเผาในถังน้ำมัน 200 ลิตร

เหลือเชื่อ..เผากันนานถึงสองสามวัน กว่า”หนังหัว”ชิ้นนั้นจะไหม้หมด!

หลังจากนั้น..พ่อบ้านที่รับเคราะห์แทนสนธิลิ้มคนนั้น ก็ป่วยหนักเป็นแรมเดือน รักษาโดยหมอแผนปัจจุบันอย่างไรก็ไม่หาย จนต้องทำพิธีทำลาย"มนต์ดำ-คุณไสย" ที่เข้าตัวพ่อบ้านหลายครั้งคราจนหายป่วย!

การต่อสู้ของพันธมิตรฯห้วงนั้น บางครั้งจะมีพระป่าสายหลวงตาบัว มารวมตัวพร้อมกันนับร้อยๆรูปที่"บ้านพระอาทิตย์" พระป่าเหล่านั้นได้ทำพิธีกรรมทางศาสนา ทั้งสวดมนต์มากมายหลากบทให้สนธิลิ้ม เพื่อป้องกัน-ขับไล่-เอาชนะสิ่งชั่วร้าย ที่"หมอผี"ของเหลี่ยมส่งมา ทำร้ายทำลายแกนนำและการต่อสู้ของพันธมิตรฯ ที่ปกป้องรักษาชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

นั่นยังไม่รวมการได้รับเครื่องลางของขลังสารพัด จากพระสงฆ์องคเจ้าและผู้รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทั้งที่ออกนามและนิรนาม ส่งมาให้"สนธิลิ้ม"และพันธฑมิตรฯ เพื่อป้องกันตัวจากผู้ปองร้าย และป้องกันสิ่งชั่วร้ายในโลกแห่งคุณไสย

แม้แต่หลวงตาบัวที่ปกติจะไม่กระทำเรื่องแบบนี้ ก็ยังเมตตาเป่ากระหม่อมให้สนธิลิ้มถึง 9 ครั้ง แถมยังแผ่พลังอันบริสุทธิ์ดีงาม ด้วยตัวของหลวงตาบัวเอง ลงใน"พระยอดธง"และน้ำมนต์ ซึ่งบรรจุอยู่ในขวดพลาสติกขนาด 5 ลิตร ซึ่งสนธิลิ้มบอกเล่าว่า เมื่อหลวงตาบัวหลับตาลง น้ำมนต์ที่นิ่งสงบในขวดก็หมุนวนราวน้ำเดือด!

นั่นเป็นแค่เศษเสี้ยวการต่อสู้ ในโลกลึกลับที่ผู้คนไม่รู้ไม่เห็น ระหว่าง"บ้านพระอาทิตย์"กับ"บ้านจันทร์ส่องหล้า" ที่ทั้งเหลี่ยม-เพิงหมาแหงน กับญาติพี่น้องตระกูล"โกงจนชิน" รวมทั้งบรรดาขี้ข้าทั้งหลาย สุมหัวกันใช้"จอมขมังเวทย์" ทั้งไทย-เขมร-พม่า ฯลฯ ส่งมนต์ดำ-คุณไสย-อวิชชา-มาทำร้ายทำลายคู่อริอยู่ตลอดเวลา

เรื่องลึกลับแบบนี้..น้อยคนเห็น-บางคนรู้-บางคนไม่เชื่อ-บางคนเชื่อ ขึ้นกับนานาจิตตังของแต่ละคนครับ

คนโบร่ำโบราณเชื่อว่า หากชาติได้คนดีมีบุญญาบารมีขึ้นปกครอง บ้านเมืองและประชาชนจะมีความสุข ชาติไทยจะเจริญรุ่งเรืองอย่างต่อเนื่อง

แต่หากชาติได้คนชั่วช้าสามานย์ หรือคนกาลีบ้านกาลีเมืองขึ้นปกครอง ชาติและประชาชนก็จะพบแต่ความวินาศสันตะโรชนิดไม่คาดฝันสารพัด

ยุคเหลี่ยมเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นอกจากตัวเหลี่ยมจะเป็นผู้บงการ ให้ตำรวจ"ตั้งศาลเตี้ย"ไล่ล่าเข่นฆ่าประชาชน แบบเหวี่ยงแหจนตายไปกว่า 2 พันคน ด้วยข้ออ้างนโยบายปราบปรามยาเสพติด

นอกจากนั้น..เหลี่ยมยังยุบหน่วยงาน"ศอบต." เพื่อให้ตำรวจใช้ความรุนแรง ปราบปรามชาวไทยมุสลิมแบบเหวี่ยงแหแทน โดยมีการเข่นฆ่าชาวไทยมุสลิม ทั้งที่ตากใบและมัสยิดกรือแซะ อย่างป่าเถื่อน จนทำให้สถานการณ์ผู้ก่อการร้ายในภาคใต้ บานปลายรุนแรงชนิดทบท่าวทวีคูณมาจนทุกวันนี้

นอกจากนั้น..ยังเกิดเหตุร้ายที่คาดไม่ถึง กับประเทศไทยอีกหลายเรื่อง ทั้งการแพร่ระบาดของ"โรคซาร์ส" หรือโรคทางเดินหายใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน การแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก และการเกิดธรณีพิบัติ"สึนามิ"ที่ภาคใต้ ทำให้ผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ต้องเสียชีวิตมากกว่า 5 พันคน ฯลฯ

นั่นยังไม่รวมความชั่วช้าอย่างสุดแสน กับการที่รัฐบาลเหลี่ยมกับพวก ทำการโกงชาติบ้านเมืองกันอย่างมโหฬาร โดยไม่กลัวฟ้าดินและไม่แยแส กับการคัดค้าน-ต่อต้าน-ขับไล่ของประชาชนแม้แต่น้อย แถมยังกลับใช้อำนาจรัฐอย่างอธรรม ปราบปรามเข่นฆ่าประชาชนคนไทยอีกด้วย

ที่ชั่วช้ากว่านั้น..คือ..เหลี่ยมยังเป็นหัวโจกที่สนับสนุน ให้พลพรรคของตนปฏิบัติการโค่นล้ม พระเจ้าอยู่หัวฯองค์ปัจจุบันผู้ทรงทศพิธราชธรรม และปวงชนชาวไทยส่วนใหญ่รักเทิดทูนยิ่งชีวิตอีกด้วย

ความเหิมเกริมไม่เจียมตนของเหลี่ยม ที่บังอาจยกตนขึ้นเทียบเทียม พระเจ้าแผ่นดินอันทรงธรรม ซึ่งพระองค์ทรงประกอบพระกรณียกิจดีงามมาตลอดทั้งชีวิต ในขณะที่เหลี่ยมไร้ซึ่งคุณงามความดีแม้แต่น้อยให้ประจักษ์ แถมยังกระทำแต่กรรมชั่วอันใหญ่หลวง ต่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ กับประชาชนคนไทยอย่างต่อเนื่องตราบทุกวันนี้

เรื่องทั้งหมด..ทำให้คนไทยส่วนใหญ่โจษจันกันว่า เหลี่ยมโคตรชั่วคนนี้ คือ ผู้นำที่กาลีบ้านกาลีเมืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์โดยแท้ เพราะไม่มีคนไทยคนไหนกล้าทำชั่วได้ถึงขนาดนี้

นั่นคือ "คนบาปหนาเหลี่ยม”หวังจะเปลี่ยนลิขิตของสวรรค์ จึงบังอาจกระทำเรื่องหยาบช้าสามานย์แบบสุดๆ ด้วยการทำลาย"องค์พระพรหม"เอราวัณ!

โดยเหลี่ยมและกลุ่มจอมขมังเวทย์ของเขาเชื่อว่า นอกจากเงินและอำนาจรัฐแล้ว การเปลี่ยนรัฐไทยเก่าให้เป็นรัฐไทยใหม่ จะสำเร็จราบรื่นได้ต่อเมื่อ ต้องเปลี่ยน"พรหมลิขิต"ให้ได้ก่อนนั่นเอง

การเปลี่ยน"องค์พระพรหม" ที่ตั้งอยู่ ณ โรงแรมเอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ จึงเป็นงานลับสุดยอดของเหลี่ยมและพวก เพราะหากข่าวทำลาย"องค์พระพรหม"รั่วไหล จนผู้คนรู้ว่าเหลี่ยมคือจอมบงการให้”สังหารพระพรหม” ย่อมเป็นผลเสียทางการเมืองอย่างใหญ่หลวงในทันที

ด้วย"องค์พระพรหม"เอราวัณนั้น เป็นที่เคารพนับถือทั้งต่อคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวฮ่องกง-สิงคโปร์-ใต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ที่"ศาลพระพรหม"จึงมีผู้คนหลั่งไหลมาสักการะ กันอย่างมากมายไม่ขาดสายทุกวัน..

หลังตำรวจบางคนผสานกับ"จอมขมังเวทย์"ของเหลี่ยม ได้"มือสังหารพระพรหม"เรียบร้อยแล้ว แผน"ฆ่าองค์พระพรหม"จึงเริ่มขึ้น

ตี 1 ของวันที่ 21 มีนาคม 2549 “ธรกร ภักดีผล”เดิมชื่อ”อามีน” นับถือศาสนาอิสลาม ที่ตำรวจระบุให้เป็น”ชายโรคจิต"ผู้คลุ้มคลั่ง ที่สวมเสื้อแขนสั้นคอโปโลสีขาว กางเกงขายาวสีกากี รองเท้าผ้าใบ ได้เดินข้ามถนนจากฝั่งโรงพยาบาลตำรวจ บุกเข้าไปในรั้วของศาลพระพรหม ก่อนจะชักฆ้อนตอกตะปูที่พกมา ทุบลงไปบนองค์"ท้าวมหาพรหม"จนแตกยับเยิน เหลือไว้เพียงส่วนล่างที่ติดกับฐานเท่านั้น

หลังจากนั้น”ชาย”ที่โดนกล่าวหา ว่าเป็น”โรคจิต"ก็ถูกปิดปากทันทีทันใด ด้วยการโดนรุมประชาทัณฑ์ทุบตีและแทงจนตาย โดยผู้คนกว่า 20 คนที่รุมฆ่า”อามีน”ทั้งหมด หลบหนีเงื้อมมือตำรวจไปได้อย่างเหลือเชื่อ และยังลอยนวลอยู่ในสังคมไทยได้จนทุกวันนี้

ผิดปกติไหม? มีพิรุธใช่ไหม? ที่เรื่องนี้เป็นข่าววูบขึ้น ก่อนจะวาบหายไปดื้อๆ โดยไม่มีการสืบสาวราวเรื่องถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังอะไรเลย!

"ชายโรคจิต"ที่ตำรวจกล่าวหา-ตายฟรี!

“ตาย”พร้อม"พระพรหมองค์เก่า"ที่”ตายฟรี”!!

แต่จอมบงการที่"บาปหนาเหลี่ยม” ยังมีชีวิตทำกรรมชั่วมหันต์อยู่จนทุกวันนี้!!!


..พิธีประดิษฐาน"พระพรหมองค์ใหม่"..คือ..ตอนต่อไปครับ..



กำลังโหลดความคิดเห็น