สอดแนมการเมือง
โดย...ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย
กรรม(ชั่ว)ใดใครก่อ-กรรม(ชั่ว)นั้นตามสนอง!
เมื่อพูดถึง”เวรกรรม”มนุษย์ “สนธิ ลิ้มทองกุล”ได้พูดถึงถ้อยคำ”หลวงตาบัว”ว่า
“..สนธิ..เชื่อหลวงตาเถอะ..ไม่มีใครหนีกรรมพ้นหรอก..”
”พี่สนธิ”ยังบอกว่า ที่โดนรุมยิงด้วยปืนเอ็ม16 อาร์ก้า เอ็ม 79 กว่า 200 นัดนั้น หลวงตาบัวระบุว่า”..มันเป็นกรรมเก่าของสนธิ..”
ผมถามต่อด้วยอยากรู้ว่า ทันทีที่เสียงปืนดัง..พี่สนธิคิดถึงอะไร..?
“คิดถึงหลวงตาบัว หลวงพ่อญาอาจารย์พี่ที่สิ้นไปแล้ว และพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ..มหัศจรรย์มาก..ตอนนั้นเห็นแต่กระสุนปืนวิ่งวนเป็นวงกลมอยู่ในรถ..”
เหตุการณ์ครั้งนั้น..ผู้คนเชื่อว่า สนธิลิ้มรอดตายด้วยครูบาอาจารย์ และ”ในหลวง”คุ้มครอง รวมทั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บูชาไว้บนคอ ร่วมด้วยช่วยกันปกป้องชีวิตพี่สนธิไว้
พี่สนธิยังเล่าว่า..ค่ำคืนก่อนเกิดเหตุร้ายนี้ หลวงตาบัวได้นั่ง”บริกรรมฯ”ตลอดคืนยันรุ่ง ทันทีที่มีข่าวด่วนสนธิลิ้มโดนยิง ยังไม่รู้เป็นหรือตาย ลูกศิษย์ก็วิ่งมารายงานทันที
แต่หลวงตาบัวกลับบอกกับลูกศิษย์คนนั้นว่า “..อืม..รู้แล้ว..สนธิเขาปลอดภัยแล้วล่ะ..”
พี่สนธิชี้ชี้รอยกระสุนปืนนัดหนึ่งบนหัว ก่อนจะพูดในสิ่งที่หลวงตาฯบอกไว้ว่า..
“..รอยบุ๋มบนหัวจะเตือนให้สนธิรู้ว่า..นี่คือบาดแผลจากกรรมเก่าไงล่ะ..”
รองผู้ว่าฯกทม.”มาลินี”ที่ดูแลการสาธารณสุขตอนนั้น บอกกับผมที่โรงพยาบาลวชิระว่า
“..พี่เธอต้องมีอะไรดีๆ คุ้มครองแน่ๆ กระสุนปืนที่ยิงเข้าตรงหัวใจ-ไม่เข้า (ผมเห็นกับตาว่าหนังตรงหน้าอกพี่สนธิไหม้และยับยู่เป็นชั้นๆ) แต่นัดที่เข้าหัวนี่สิ..ทำไมมาหยุดเอาดื้อๆ ห่างสมองเพียงแค่ 3 มิลเท่า
นั้น หากกระสุนนัดนี้เลยไปโดนสมอง เฮ้อ..ถึงพี่เธอจะรอดชีวิต ก็คงมีปัญหาทางสมองแน่นอน มหัศจรรย์นะ..กระสุนที่ทำให้กะโหลกยุบ ทำไมมาหยุดเอาดื้อๆ แบบนี้..”
ไม่มีมนุษย์ธรรมดาคนไหน ตอบโจทย์มหัศจรรย์แบบนี้ได้ ทุกคนจึงโยนไปที่”สิ่งศักดิ์สิทธิ์มีอยู่จริง” ซึ่งเป็น”คำตอบ”ที่ไม่ใครกล้าเถียงเสียด้วยสิ..
เหลี่ยมกับเมียเพิงหมาแหงน รวมทั้งพี่น้องตระกูล”โกงจนชิน”บางคน เชื่อโชคลาง-หมอดู-อวิชา-มนต์ดำ-คุณไสย-ไสยศาสตร์ทุกแขนง ชนิดเข้ากระดูกดำเลยล่ะ
เหลี่ยมเคยพูดถึงความเชื่อของเขาว่า ช่วงแรกไม่ค่อยเชื่อเรื่องดวงเท่าใดนัก กลับจากต่างประเทศใหม่ๆ มีหมอดูทักว่าดวงไม่ค่อยดี หลังจากนั้นสถานการณ์ของเขาก็ย่ำแย่ ทั้งการงานและการเงิน จากนั้นทุก
ปีเขาจะต้องให้หมอดู ตรวจดวงของเขาทุกครั้ง เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม..เหลี่ยมได้ย้ำความเชื่อเรื่อง”หมอดู”อีกครั้ง ด้วยการให้สัมภาษณ์ว่า
“แม้ผมจะทำงานไฮเทค แต่ผมคิดว่า..ดวงเป็นเรื่องสำคัญ เป็นสิ่งที่น่าคิด มันเชื่อถือได้พอสมควรเพราะในช่วงชีวิตที่ผมเคยผิดพลาดหรือล้มเหลว เป็นช่วงที่ผมไปตรวจดวงกับหมอดู ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน หมอดูก็บอกได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับช่วงที่ผมโชคดี เขาก็บอกออกมาได้อย่างชัดเจนอีกเช่นกัน”
เหลี่ยมจึงยึดถือ”หมอดู” เป็นหนึ่งในคัมภีร์ความเชื่อของชีวิต ทำให้หมอดูหลายคนเข้ามาพัวพันกับชีวิตเหลี่ยม
“ร.ต.สัมฤทธิ์ เกลี้ยงเกลา”คือ“หมอดู” ที่ทำนายชะตาชีวิตเหลี่ยมคราครั้งเป็นแค่”ร.ต.ท.” และก่อนที่เหลี่ยมจะลงเล่นการเมืองไว้ว่า
“..วันหนึ่งจะกลายเป็นเศรษฐี แต่ไม่ควรเล่นการเมือง เพราะจะต้องเจอกับปัญหาใหญ่ในชีวิต..”
”หมอดูสัมฤทธิ์”ลืมดูเหลี่ยมว่า คนๆนี้สันดานใฝ่สูงไม่รู้จักพอ ดังนั้น เมื่อรวยมหาศาลแล้ว..มันยังอยากรวยชนิดไม่รู้จักพอ แถมไม่สนใจวิธีโกยเงินว่า-ถูกหรือผิด-ดีหรือชั่วอีกด้วย
กรรมใหญ่ที่ก่อ..คือ..รวยจากการทำธุรกิจ”ไม่สะอาด” และค้ากำไรเกินควรในธุรกิจคมนาคม ก่อนจะสร้างกรรมโคตรใหญ่ให้ตนเอง นั่นคือ เข้าสู่การเมืองเพื่อ”รวยทางลัด”!
โดยเริ่มสร้าง”ตำนานกำมะลอ”ว่า “เหลี่ยม”คือ”พระเจ้าตากสิน” ดูสิ..ชื่อภาษาอังกฤษของเหลี่ยม จึงตรงกับ”พระเจ้าตากสิน”เป๊ะเลย
นักคิดนักเขียน-นักวิชาการ-นักเคลื่อนไหว-สื่อมวลชน ฯลฯ ทั้งอดีตคอมมิวนิสต์ซ้ายจัด และพวกขี้ข้าเห็นแก่เงิน พยายามจะเปลี่ยนเหลี่ยมจากนายทุนสามานย์ ให้กลายเป็น”พระเจ้าตากสิน”กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง เพื่อ”ล้างแค้น”ให้กับ”พระเจ้าตากสิน”!
ตำนานกำมะลอยังโยงถึง”เพิงหมาแหงน”เมียเหลี่ยมว่า ตระกูลทางแม่คุณเธอนั้น“ณ ป้อมเพชรมหากาฬ” ซึ่งตรงกับภริยารัฐบุรุษท่านหนึ่ง ที่เสียชีวิต ณ ประเทศฝรั่งเศส
กลุ่มคอมฯซ้ายจัด..จึงเชิดให้เหลี่ยมเป็น”ผู้สานต่อ” โดยสร้างเรื่องว่า..เหลี่ยมคนนี้แหละ จะทำงานที่คาค้างของรัฐบุรุษท่านนั้น..ให้สำเร็จในยุคนี้อีกด้วย
พวกอดีตคอมฯซ้ายจัดเหล่านี้ ได้ถือโอกาสนี้แก้ตัวการถูกเปิดโปงว่า-ขายตัว โดยอ้าง”ลัทธิมาร์กซ”แบบมั่วซั่วว่า
ที่จำยอมเป็นขี้ข้าทุนสามานย์เหลี่ยม เพื่อใช้เงินมหาศาลของเหลี่ยม ซื้อเสียงเลือกตั้งเข้ายึดอำนาจรัฐมาไว้ในกำมือ ไว้สำหรับใช้โค่นล้ม”ระบอบล้มศักดินา”ให้ได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยโค่นล้มระบอบทุนนิยมสามานย์เหลี่ยมทีหลังไงล่ะ
งานนี้จึงมีการอ้างว่า “คอมฯ หลอกใช้เหลี่ยม”และ”เหลี่ยมก็หลอกใช้คอมฯ” แต่สิ่งที่ทั้งคู่เห็นตรงกัน คือ ต้องช่วยกัน”ล้มเจ้า”แล้วสร้างรัฐไทยใหม่นั่นเอง
เงินชั่วๆของเหลี่ยมนี้ หลวงตาบัวเคยบอก”สนธิลิ้ม”ว่า “เงินชั่วร้ายของเหลี่ยม คือ ไฟบัลลัยกัณฑ์ ใครไปรับเข้า..จะถูกไฟนี้เผาผลาญ..ชีวิตมีแต่หมกไหม้ล่มจม..”
ดังนั้น เงินและยศศักดิ์ชั่วร้าย จึงได้แปรเปลี่ยนพวกเคยนิยม”คอมมิวนิสต์” ให้กลายพันธุ์เป็นพวกนิยม”คอมมิชชั่น”แทนเรียบวุธเลย
งานตั้งพรรคการเมือง..เหลี่ยมจงใจใช้วันที่“14 กรกฎาคม” ซึ่งเป็น”วันล้มเจ้า”หรือ”วันปฏิวัติฝรั่งเศส” ทั้งๆที่มีคนตั้งพรรคบางคนค้านแล้ว แต่เหลี่ยมไม่แยแสสนใจ แถมยังเอาพวกล้มเจ้าทั้งหลายมาอยู่ข้างตัวอีกด้วย
ส่วนเส้นทางยึดอำนาจรัฐไทยไว้ในกำมือ เหลี่ยมใช้ 4 แผนหลักดังนี้
หนึ่ง-สร้างภาพว่า”กูรวยแล้วไม่โกง” สอง-สร้างนโยบาย”ประชานิยมพวกกูโกงได้” สาม-ใช้เงินซื้อเสียงการเลือกตั้งทุกหย่อมหญ้า สี่-หาเสียงและบริหารชาติโกหกหลอกลวงแบบหน้าด้านๆ
แต่แผนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้เหลี่ยมเป็นใหญ่ทางการเมืองได้ คือ ใช้เงินสกปรกซื้อ ส.ส. และซื้อเสียงการเลือกตั้ง เข้ายึดอำนาจรัฐและใช้กลไกรัฐโกงชาตินั่นเอง
ระบบการเลือกตั้งชั่วๆที่ใช้เงินซื้อเสียงได้ ทำให้เหลี่ยมได้เป็นนายกฯคนที่ 23 ของชาติไทย
เวลาเพียง 4-5 ปีได้ทำให้เหลี่ยม เปลี่ยนจากเศรษฐีหมื่นล้านเป็นหลายแสนล้าน!
ห้วงนี้เหลี่ยมจึงทำแต่เรื่องโคตรชั่ว ทั้งปล้นชาวนา-ปล้นประชาชน-ปล้นชาติ แถมปล้นอำนาจของพระสังฆราช ไปประเคนให้พระพรรคพวกตนและเมีย อีกทั้งยังบังอาจให้พลพรรคปฏิบัติการ ลับและเปิด
เผยในการโค่นล้ม พระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม ที่คนไทยส่วนใหญ่รักยิ่งชีวิตอีกด้วย
กรรมโคตรชั่วอันใหญ่หลวงนี้ ”โหราจารย์”หน้าไหนก็”ตัดกรรม”ให้ไม่ได้แน่นอน!
จน“หมอดูสัมฤทธิ์”ได้ออกมาเตือน บุรุษเหลี่ยมที่ชั่วกว่า”เทวทัต”อีกครั้งว่า
“..ขอให้เหลี่ยมเป็นนายกฯแค่ 4 ปีเท่านั้น จะเป็นการดีที่สุดสำหรับชีวิตของเหลี่ยม..”
แต่”หมอดูสัมฤทธิ์”ที่เหลี่ยมชมว่า“แม่นยำราวตาเห็น” ไม่อาจหยุดยั้งความมักใหญ่ใฝ่สูงอันไม่รู้จักพอของเหลี่ยมได้เสียแล้ว
เหลี่ยม-ยังคงทำกรรมโคตรชั่วไม่หยุดยั้ง เหลี่ยม-ยังพาตนเองและวงศ์ตระกูล เดินหน้าสู่”นรกขุมลึกที่สุด”อย่างต่อเนื่อง โดยมี”กรรมใหญ่หลวง”ตามไล่ล่า หรือกำลัง”ตามสนอง”อย่างกระชั้นชิด..