ASTVผู้จัดการรายวัน-ศรส.เล่นไม่เลิก เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ม็อบ กปปส. ชุมนุมมิชอบ พร้อมอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งกำหนดเงื่อนไขพ.ร.ก.ฉุกเฉิน "เหลิม"ชี้ปาบึ้ม ป.ป.ช. บ้านแกนนำ กปปส. เป็นการสร้างสถานการณ์ เชื่อมีอีก "ปึ้ง"แฉ"สุเทพ" เปลี่ยนแผนใช้ ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นตัวช่วยล้มรัฐบาล ด้านศาลอาญาออกหมายจับ "สุเทพ" คดีสลายม็อบแดง หลวงปู่ยังไม่คืนพื้นที่แจ้งวัฒนะ "สาธิต"ถวายฎีกาวันนี้ หลังถูกเนรเทศ ทนายแม้วด่า กปปส. อันธพาลข้างถนน
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ศรส. วานนี้ (5 มี.ค.) ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. ได้ลงนามคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยว่าการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยได้เตรียมนำเสนอข้อมูล และการกระทำผิดของแกนนำ กปปส. ที่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง ต่างกรรมต่างวาระ ตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งความเสียหายที่เกิดแก่ประเทศ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อที่จะเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ
"คำร้องที่ยื่นในครั้งนี้ มีรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนถึง 89 แฟ้ม แฟ้มละประมาณ 300 หน้า โดยการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม จะเป็นผู้ยื่นทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะผอ.ศรส. ส่วนการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งกรณีกำหนดเงื่อนไขใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คาดว่าจะสามารถยื่นได้ภายในสัปดาห์นี้"
นอกจากนี้ ศรส. ยังได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า มีคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง 364 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้รวมทั้งสิ้น 163 คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว 66 คน และเฉพาะเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 1,451คน ซึ่งโทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง
นายธาริตกล่าวถึงกรณีที่กปปส. บุกไปปิดล้อมบ้านพักส่วนตัวว่า คงจะไม่ดำเนินการใดๆ เพราะเตรียมใจไว้อยู่แล้ว ในภาวะที่บ้านเมืองไม่ปกติ การกระทำของหลายกลุ่มไม่มีขื่อมีแป ต้องทำใจ
เมื่อถามว่าถ้ามีการบุกบ้านอีก จะให้มีการคุ้มกันอีกหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ต้องมีการดูแลความปลอดภัยในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ใช่นายธาริต เนื่องจากว่าในตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบคดีแกนนำจำนวนมาก และมีการข่าวค่อนข้างชัดเจนว่า ตนตกเป็นเป้าหมายปองร้าย จำเป็นต้องมีการดูแลความปลอดภัย
**"เหลิม"ชี้มีบึ้มสร้างสถานการณ์อีก
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. กล่าวถึงกรณีกลุ่มกปปส. เดินทางไปปิดบ้านพักของนายธาริตว่า เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นการกระทำเยี่ยงโจร ตนถึงบอกว่า ม็อบนายสุเทพ ทำการไม่สำเร็จ เมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค. เหลือเพียง 1,800 คน อยากถามว่า สุดท้ายจะเรียกร้องปฏิรูปการเมือง หรือจะล้มรัฐบาล หรือจะรอองค์กรอิสระเป็นตัวช่วย ตนถึงบอกว่าการเมืองไม่จบ เพราะนายสุเทพรู้แล้วว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ นักวิชาการ และนายทุนเลิกออกมา นายสุเทพ รู้ตัวเอง จึงหวังไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าผลออกมาถูกใจนายสุเทพ แต่ฝืนความรู้สึกคนส่วนใหญ่ บ้านเมืองก็ยังไม่สงบอยู่ดี
ส่วนเหตุระเบิด 2 ลูก ลูกแรกที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี และลูกที่สองบ้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. แต่ไม่ระเบิด พักนี้ระเบิดสามัคคีกันไม่ระเบิด ตนได้รับรายงานจากผู้บังคับการตำรวจจังหวัดนนทบุรีว่าคนร้ายเก่ง สามารถเล็ดลอดเข้าไปซอยข้างๆ ได้ ทั้งที่มีทหารดูแลอยู่ โดยตนคิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เพราะทำอะไรคนก็มองมาที่รัฐบาล ระเบิดลงที่สำนักงานป.ป.ช. คนก็มองว่ารัฐบาลโกรธ ป.ป.ช. หรือไม่ บอกเลยว่าไม่ต้องไปโกรธ เพราะนายกฯ ไม่ผิด
"เดี๋ยวก็มีอีก ผมถึงบอกว่า เหตุการณ์ยังไม่สงบ สัปดาห์หน้า ถ้าองค์กรอิสระวินิจฉัยไม่ตรงใจพวกมัน ก็เปลี่ยนหน้าไพ่เล่น เทพแน่จริง ภาษาคนเล่นดัมมี่ เพื่อนฉีกตองตีเลยดีกว่า ใครอยู่ข้างหลังเพื่อนจะได้จบกัน แพ้ชนะกันไปเลย ม็อบนายสุเทพ มีเส้น ถ้าไม่มี น็อกไปนานแล้ว ส่วนเส้นของรัฐบาล คือ ประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้ง"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เหตุการณ์หลังจากนี้ ต้องดูองค์กรอิสระ ถ้าป.ป.ช. ตัดสินถูกใจนายสุเทพ และถูกใจพรรคประชาธิปัตย์ บรรยากาศก็เป็นอย่างหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถูกใจนายสุเทพ และถูกใจผู้อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ก็เป็นอีกอย่าง แต่ถ้าออกมาค้านสายตาคนดู บ้านเมืองก็ไม่สงบ แน่นอนว่า อีกฝ่ายย่อมออกมา เพราะความเป็นธรรมไม่มี ใครจะยอม แต่ท้ายที่สุดระบอบประชาธิปไตยต้องแข็งแกร่งกว่าระบอบอื่น การที่นายกฯ ระบุว่า จะยอมยืนตายคาสนามประชาธิปไตย เป็นคำพูดที่ถูกต้อง เพราะนายกฯ มาจากการเลือกตั้ง อะไรที่ท่านทำผิด ท่านยอมรับ แต่อะไรที่ไม่ได้ทำผิด ท่านก็ต้องสู้ โดยเฉพาะเรื่องข้าว ตนรู้ตั้งแต่ต้นว่า นายกฯ ไม่เกี่ยวข้อง สอบไปสอบมา เอานายกฯ มาเกี่ยวข้องด้วย ใครที่คิดจะเอากลุ่มคน และองค์กรอิสระมาทำลายล้างประชาธิปไตย นั่นหมายความว่า บุคคลกลุ่มนั้นอยากเห็นความหายนะของประเทศ ขอให้เปลี่ยนใจ บ้านเมืองจะเสียหาย
** "ปึ้ง"แฉใช้ศาล-องค์กรอิสระล้มรัฐบาล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศรส. กล่าวถึงเหตุปาระเบิดใส่สำนักงานป.ป.ช. และบ้านพักของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. เมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค. ว่า เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อป้ายสีให้อีกกลุ่ม และหากเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ยังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ นายสุเทพ กำลังเปลี่ยนแผน มาเป็นรูปแบบที่จะใช้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบธรรมของรัฐบาล โดยอ้างว่ารัฐบาลรักษาการหมดอายุแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการในการใช้องค์กรอิสระ เข้ามาล้มรัฐบาล นอกเหนือจากการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ และเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าเป็นกลวิธีที่นอกเหนือจากวิถีทางระบอบประชาธิปไตย
"รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ได้พูดชัดเจนว่า มีความกังวลในการใช้วิธีอื่นๆ ในการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย โดยอยากขอฝากไปยังนายสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ และผู้ที่คิดอยากให้มีนายกฯคนกลางว่าต่างชาติรับไม่ได้ในสิ่งนี้ ขอให้หลายฝ่ายที่ทำอะไรนอกเหนือจากระบอบประชาธิปไตย ต้องคิดให้หนัก"
**พท.ลุยฟ้องโลกองค์กรอิสระคุกคาม
นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีมติให้ตน น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.ภูวนิดา คุนผลิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เป็นตัวแทนเดินทางไปยังกรุงเจนีวา ในช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อองค์กรรัฐสภาระหว่างประเทศ (IPU) ชี้แจงกรณีที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา 308 ส.ส. และ ส.ว. กรณีร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของส.ว.โดยมิชอบ โดยจะบอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจโดยชอบธรรมของสมาชิกรัฐสภาที่จะดำเนินการ ไม่ใช่หน้าที่ของป.ป.ช. ที่จะเข้ามาสอบสวนชี้มูล เพราะเราไม่ยอมรับองค์กรอิสระที่ตั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่เป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร
** "ปู"โบ้ยม็อบทำแก้ปัญหาอียูตัด GSPไม่ทัน
เมื่อเวลา16.00 น. วานนี้ (5 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพลต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า สหภาพยุโรป จะยกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) แก่ไทย ทำให้สินค้าสำคัญ เช่น งแปรรูป สัปปะรดกระป๋อง น้ำสัปปะรดกระป๋อง อาหารสุนัขหรือแมว รถจักรยานยนต์ ถุงมือยาง ยางนอกรถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เลนส์แว่นตา จะถูกเก็บภาษีปกติตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่คู่แข่ง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ยังได้สิทธิ GSP อยู่ ส่วนมาเลเซีย ที่แม้จะถูกตัดสิทธิไปแล้ว แต่ก็ยังได้สิทธิภาษี 0% เพราะได้มีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับอียู แต่ไทย รัฐบาลได้พยายามเร่งเจรจา FTA แต่ทางอียูได้ระงับการเจรจาไว้ก่อน เนื่องจากเหตุการณ์การเมือง ทำให้การเจรจาต้องล่าช้าออกไป มีแนวโน้มจะไม่ทันการถูกตัดสิทธิ GSP ในปี 2558 และยังส่งผลให้บริษัทข้ามชาติย้ายฐานการผลิต จึงขอให้สนับสนุนการเลือกตั้งให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ปัญหาการเมืองมาฉุดรั้งประเทศ
**"มาร์ค"ชี้ประชาธิปไตยจะตายในมือ"ปู"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า ส่อที่จะนำไปสู่ความยืดเยื้อ เพราะจุดยืนที่รัฐบาลหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วางอยู่ คือ ไม่พิจารณาข้อเรียกร้อง และยังกำหนดเงื่อนไขว่าถ้าจะมีการพูดคุยด้วย กปปส. ต้องกลับบ้านก่อน หรือต้องเลือกตั้งให้จบก่อน หรือถ้าจะรอให้องค์กรอิสระ และศาล มาไล่เรียงพิจาณาคดีที่ละเปลาะว่าเลือกตั้งโมฆะไหม นายกฯ มีความผิดเรื่องจำนำข้าวไหม สถานการณ์จะยืดเยื้อแน่
"ไม่คิดว่านายกฯ จะตายในสนามประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำมา 2 ปี ประชาธิปไตยจะตายในมือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะมีการละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาธิปไตย คิดว่าที่กำหนดจุดยืนเช่นนี้ เพราะนายกฯ ไม่ประสงค์ที่จะหาทางออกให้ประเทศ แต่จะรักษาอำนาจ โดยท้าทายว่าใครที่ไม่เห็นด้วยกับการครองอำนาจของตนเอง ก็ต้องสู้กับรัฐบาลไปทุกรูปแบบ จึงเกิดประเด็นปัญหาการแบ่งแยกดินแดน ปลุกระดมปลุกปั่นให้คนไม่พอใจศาล และองค์กรอิสระ หากทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ประชาธิปไตยก็จะตายในมือยิ่งลักษณ์"
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามเปิดสภาโดยที่ยังไม่มีการรับรองการเป็น ส.ส. ว่า ไม่ทราบว่าจะเปิดอะไร ทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
***ศาลอาญาออกหมายจับ"สุเทพ"
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ผู้ต้องหาในคดีที่ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่า กรณีออกคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 โดยศาลพิเคราะห์คำร้องและพยานเอกสารจากผู้ร้องแล้ว เห็นควรอนุญาตให้ออกหมายจับได้
สำหรับหมายจับของนายสุเทพในคดีนี้ ถือว่าเป็นหมายจับที่ 3 แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลได้ออกหมายจับในข้อหากบฏ และข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่การออกหมายจับในครั้งนี้ เป็นกรณีที่ดีเอสไอจะต้องติดตามตัวนายสุเทพมาให้อัยการ เพื่อยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล ในคดีที่ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ ในความผิดร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่า จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค.2553
** ศรส.เจรจาขอพื้นที่"หลวงปู่"เหลว
วันเดียวกันนี้ พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพ.อ.ยุทธ พรหมพงษ์ รองผอ.สำนักงานกิจการพลเรือน กระทรวงกลาโหม ผู้แทนจาก ศรส. เข้าเจรจากับหลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. ที่ปักหลักชุมนุมบนถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อให้ย้ายเวทีการชุมนุมไปตั้งบนถนนทางเข้าศูนย์ราชการ เพื่อเปิดพื้นที่ส่วนราชการ และการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ
หลวงปู่พุทธะอิสระ ชี้แจงว่า เนื่องจากพื้นที่ชุมนุมไม่ปลอดภัย และพร้อมจะเปิดการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ แต่มีเงื่อนไขว่าพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม หรือร.ต.อ.เฉลิม จะต้องมานอนค้างคืนในพื้นที่การชุมนุม 3 วัน 3 คืน และต้องใช้ตำแหน่งและชีวิตรับผิดชอบ หากผู้ชุมนุมเกิดอันตรายใดๆ เช่นเดียวกับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม
ด้านพล.ต.สุรชาติ กล่าวว่า หากผู้ชุมนุมยอมย้ายเวทีไปตั้งบนถนนทางเข้าศูนย์ราชการ จะมีการจัดตั้งด่านเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม
อย่างไรก็ตาม หลวงปู่พุทธะอิสระ ไม่ยินยอมข้อเสนอดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขอีกว่า ยินดีย้ายที่ชุมนุม แต่ขอย้ายไปตั้งเวทีชุมนุมใหม่ที่อาคารภายในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หรือสโมสรตำรวจ ที่ตั้งของ ศรส. และตัวอาคารของศูนย์ราชการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ทำให้ตัวแทนจาก ศรส. ต้องเดินทางกลับ พร้อมกล่าวว่า จะนำเงื่อนไขของหลวงปู่พุทธะอิสระ ไปเสนอต่อที่ประชุมศรส. และรายงานไปยังปลัดกระทรวงกลาโหมต่อไป
***ทนายแม้วด่า กปปส. อันธพาลข้างถนน
โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เจ้าของสำนักงานกฎหมาย “อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พาร์ทเนอร์ส” เผยแพร่บทความชิ้นล่าสุดผ่านบล็อกส่วนตัวโจมตีการทำหน้าที่ของ กกต. รวมถึงกองทัพ โดยระบุทั้งสององค์กรกำลังมีความเคลื่อนไหวที่น่ากลัวและชั่วร้ายเพื่อปกป้อง “อำนาจมืด” ของ “มือที่มองไม่เห็น” ในประเทศไทย ผ่านทางกระบวนการกดขี่คุกคามประชาชนที่เห็นต่าง พร้อมชี้ว่า พฤติกรรมโฉดของทั้ง กกต. และกองทัพไทยขณะนี้ ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของ “ประชาธิปไตยโดยพลเรือน” ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ตัวการที่ทำให้เกิดกระบวนการแบ่งแยกในประเทศไทยขณะนี้นั้น แท้จริงแล้วคือ กลุ่มกปปส. หรือพวกอันธพาลตามท้องถนน ภายใต้การนำของนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ที่ได้รับการหนุนหลังโอบอุ้มจากบรรดานายพลในกองทัพไทย รวมถึงมือที่มองไม่เห็น ซึ่งต่อต้านประชาธิปไตย และมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐบาลพลเรือนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความชอบธรรม ตามกฎหมายของน.ส.ยิ่งลักษณ์
***"สาธิต"ถวายฎีกาหลังถูกไล่พ้นประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานทูตอินเดียได้แจ้งไปยังนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจสีลมที่ร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส.ว่า ทางนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในหนังสือถอนถิ่นที่อยู่ให้ ศรส. และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ได้ลงนามแล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวนายสาธิตส่งออกนอกประเทศได้ทันที
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ระหว่างที่นายสาธิตเตรียมจะถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีความพยายามที่จะต่อรองว่าหากนายสาธิตไม่เคลื่อนไหวกับ กปปส.อีก จะไม่มีการเนรเทศออกนอกประเทศ ทำให้นายสาธิตหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด แต่สุดท้ายกลับมีคำสั่งถอนถิ่นที่อยู่ ดังนั้น ในวันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 09.00 น. นายสาธิตจะเดินทางไปถวายฎีกาที่สำนักพระราชวัง
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะกรรมการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เปิดเผยภายหลังการประชุม ศรส. วานนี้ (5 มี.ค.) ว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. ได้ลงนามคำร้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้วินิจฉัยว่าการชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยได้เตรียมนำเสนอข้อมูล และการกระทำผิดของแกนนำ กปปส. ที่ได้ทำอย่างต่อเนื่อง ต่างกรรมต่างวาระ ตลอดจนพยานหลักฐานต่างๆ ทั้งความเสียหายที่เกิดแก่ประเทศ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเดือดร้อนของประชาชน เพื่อที่จะเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญ
"คำร้องที่ยื่นในครั้งนี้ มีรายละเอียดดังกล่าวอย่างครบถ้วนถึง 89 แฟ้ม แฟ้มละประมาณ 300 หน้า โดยการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ร.ต.อ.เฉลิม จะเป็นผู้ยื่นทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะผอ.ศรส. ส่วนการยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลแพ่งกรณีกำหนดเงื่อนไขใน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คาดว่าจะสามารถยื่นได้ภายในสัปดาห์นี้"
นอกจากนี้ ศรส. ยังได้รับรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า มีคดีที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง 364 คดี โดยศาลได้ออกหมายจับให้รวมทั้งสิ้น 163 คน ได้ตัวมาสอบสวนแล้ว 66 คน และเฉพาะเจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จงใจละทิ้งไม่จัดการเลือกตั้งมีจำนวนถึง 1,451คน ซึ่งโทษที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการเลือกตั้ง เป็นความผิดอุกฉกรรจ์ ที่มีทั้งโทษจำคุกและปรับ รวมถึงการตัดสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี ตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง
นายธาริตกล่าวถึงกรณีที่กปปส. บุกไปปิดล้อมบ้านพักส่วนตัวว่า คงจะไม่ดำเนินการใดๆ เพราะเตรียมใจไว้อยู่แล้ว ในภาวะที่บ้านเมืองไม่ปกติ การกระทำของหลายกลุ่มไม่มีขื่อมีแป ต้องทำใจ
เมื่อถามว่าถ้ามีการบุกบ้านอีก จะให้มีการคุ้มกันอีกหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ต้องมีการดูแลความปลอดภัยในฐานะอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ใช่นายธาริต เนื่องจากว่าในตำแหน่งหน้าที่รับผิดชอบคดีแกนนำจำนวนมาก และมีการข่าวค่อนข้างชัดเจนว่า ตนตกเป็นเป้าหมายปองร้าย จำเป็นต้องมีการดูแลความปลอดภัย
**"เหลิม"ชี้มีบึ้มสร้างสถานการณ์อีก
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผอ.ศรส. กล่าวถึงกรณีกลุ่มกปปส. เดินทางไปปิดบ้านพักของนายธาริตว่า เป็นการคุกคามสิทธิส่วนบุคคล ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นการกระทำเยี่ยงโจร ตนถึงบอกว่า ม็อบนายสุเทพ ทำการไม่สำเร็จ เมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค. เหลือเพียง 1,800 คน อยากถามว่า สุดท้ายจะเรียกร้องปฏิรูปการเมือง หรือจะล้มรัฐบาล หรือจะรอองค์กรอิสระเป็นตัวช่วย ตนถึงบอกว่าการเมืองไม่จบ เพราะนายสุเทพรู้แล้วว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ นักวิชาการ และนายทุนเลิกออกมา นายสุเทพ รู้ตัวเอง จึงหวังไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าผลออกมาถูกใจนายสุเทพ แต่ฝืนความรู้สึกคนส่วนใหญ่ บ้านเมืองก็ยังไม่สงบอยู่ดี
ส่วนเหตุระเบิด 2 ลูก ลูกแรกที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี และลูกที่สองบ้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. แต่ไม่ระเบิด พักนี้ระเบิดสามัคคีกันไม่ระเบิด ตนได้รับรายงานจากผู้บังคับการตำรวจจังหวัดนนทบุรีว่าคนร้ายเก่ง สามารถเล็ดลอดเข้าไปซอยข้างๆ ได้ ทั้งที่มีทหารดูแลอยู่ โดยตนคิดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ เพราะทำอะไรคนก็มองมาที่รัฐบาล ระเบิดลงที่สำนักงานป.ป.ช. คนก็มองว่ารัฐบาลโกรธ ป.ป.ช. หรือไม่ บอกเลยว่าไม่ต้องไปโกรธ เพราะนายกฯ ไม่ผิด
"เดี๋ยวก็มีอีก ผมถึงบอกว่า เหตุการณ์ยังไม่สงบ สัปดาห์หน้า ถ้าองค์กรอิสระวินิจฉัยไม่ตรงใจพวกมัน ก็เปลี่ยนหน้าไพ่เล่น เทพแน่จริง ภาษาคนเล่นดัมมี่ เพื่อนฉีกตองตีเลยดีกว่า ใครอยู่ข้างหลังเพื่อนจะได้จบกัน แพ้ชนะกันไปเลย ม็อบนายสุเทพ มีเส้น ถ้าไม่มี น็อกไปนานแล้ว ส่วนเส้นของรัฐบาล คือ ประชาชน เพราะมาจากการเลือกตั้ง"ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เหตุการณ์หลังจากนี้ ต้องดูองค์กรอิสระ ถ้าป.ป.ช. ตัดสินถูกใจนายสุเทพ และถูกใจพรรคประชาธิปัตย์ บรรยากาศก็เป็นอย่างหนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินถูกใจนายสุเทพ และถูกใจผู้อยู่เบื้องหลัง เหตุการณ์ก็เป็นอีกอย่าง แต่ถ้าออกมาค้านสายตาคนดู บ้านเมืองก็ไม่สงบ แน่นอนว่า อีกฝ่ายย่อมออกมา เพราะความเป็นธรรมไม่มี ใครจะยอม แต่ท้ายที่สุดระบอบประชาธิปไตยต้องแข็งแกร่งกว่าระบอบอื่น การที่นายกฯ ระบุว่า จะยอมยืนตายคาสนามประชาธิปไตย เป็นคำพูดที่ถูกต้อง เพราะนายกฯ มาจากการเลือกตั้ง อะไรที่ท่านทำผิด ท่านยอมรับ แต่อะไรที่ไม่ได้ทำผิด ท่านก็ต้องสู้ โดยเฉพาะเรื่องข้าว ตนรู้ตั้งแต่ต้นว่า นายกฯ ไม่เกี่ยวข้อง สอบไปสอบมา เอานายกฯ มาเกี่ยวข้องด้วย ใครที่คิดจะเอากลุ่มคน และองค์กรอิสระมาทำลายล้างประชาธิปไตย นั่นหมายความว่า บุคคลกลุ่มนั้นอยากเห็นความหายนะของประเทศ ขอให้เปลี่ยนใจ บ้านเมืองจะเสียหาย
** "ปึ้ง"แฉใช้ศาล-องค์กรอิสระล้มรัฐบาล
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ในฐานะประธานที่ปรึกษา ศรส. กล่าวถึงเหตุปาระเบิดใส่สำนักงานป.ป.ช. และบ้านพักของ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ แกนนำ กปปส. เมื่อคืนวันที่ 4 มี.ค. ว่า เป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อป้ายสีให้อีกกลุ่ม และหากเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่า ยังยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ได้ ซึ่งขณะนี้ นายสุเทพ กำลังเปลี่ยนแผน มาเป็นรูปแบบที่จะใช้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบธรรมของรัฐบาล โดยอ้างว่ารัฐบาลรักษาการหมดอายุแล้ว ซึ่งเป็นวิธีการในการใช้องค์กรอิสระ เข้ามาล้มรัฐบาล นอกเหนือจากการเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติ และเป็นสิ่งที่สหรัฐฯ คาดการณ์ไว้ว่าเป็นกลวิธีที่นอกเหนือจากวิถีทางระบอบประชาธิปไตย
"รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ได้พูดชัดเจนว่า มีความกังวลในการใช้วิธีอื่นๆ ในการล้มล้างระบอบประชาธิปไตย โดยอยากขอฝากไปยังนายสุเทพ พรรคประชาธิปัตย์ และผู้ที่คิดอยากให้มีนายกฯคนกลางว่าต่างชาติรับไม่ได้ในสิ่งนี้ ขอให้หลายฝ่ายที่ทำอะไรนอกเหนือจากระบอบประชาธิปไตย ต้องคิดให้หนัก"
**พท.ลุยฟ้องโลกองค์กรอิสระคุกคาม
นางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทย มีมติให้ตน น.ส.จารุพรรณ กุลดิลก อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และน.ส.ภูวนิดา คุนผลิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เป็นตัวแทนเดินทางไปยังกรุงเจนีวา ในช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อองค์กรรัฐสภาระหว่างประเทศ (IPU) ชี้แจงกรณีที่ ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหา 308 ส.ส. และ ส.ว. กรณีร่วมกันแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของส.ว.โดยมิชอบ โดยจะบอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นอำนาจโดยชอบธรรมของสมาชิกรัฐสภาที่จะดำเนินการ ไม่ใช่หน้าที่ของป.ป.ช. ที่จะเข้ามาสอบสวนชี้มูล เพราะเราไม่ยอมรับองค์กรอิสระที่ตั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ที่เป็นผลพวงมาจากการรัฐประหาร
** "ปู"โบ้ยม็อบทำแก้ปัญหาอียูตัด GSPไม่ทัน
เมื่อเวลา16.00 น. วานนี้ (5 มี.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้โพลต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ว่า ได้รับรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า สหภาพยุโรป จะยกเลิกการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) แก่ไทย ทำให้สินค้าสำคัญ เช่น งแปรรูป สัปปะรดกระป๋อง น้ำสัปปะรดกระป๋อง อาหารสุนัขหรือแมว รถจักรยานยนต์ ถุงมือยาง ยางนอกรถยนต์ เครื่องปรับอากาศ เลนส์แว่นตา จะถูกเก็บภาษีปกติตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่คู่แข่ง เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ยังได้สิทธิ GSP อยู่ ส่วนมาเลเซีย ที่แม้จะถูกตัดสิทธิไปแล้ว แต่ก็ยังได้สิทธิภาษี 0% เพราะได้มีข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับอียู แต่ไทย รัฐบาลได้พยายามเร่งเจรจา FTA แต่ทางอียูได้ระงับการเจรจาไว้ก่อน เนื่องจากเหตุการณ์การเมือง ทำให้การเจรจาต้องล่าช้าออกไป มีแนวโน้มจะไม่ทันการถูกตัดสิทธิ GSP ในปี 2558 และยังส่งผลให้บริษัทข้ามชาติย้ายฐานการผลิต จึงขอให้สนับสนุนการเลือกตั้งให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้ปัญหาการเมืองมาฉุดรั้งประเทศ
**"มาร์ค"ชี้ประชาธิปไตยจะตายในมือ"ปู"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองว่า ส่อที่จะนำไปสู่ความยืดเยื้อ เพราะจุดยืนที่รัฐบาลหรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร วางอยู่ คือ ไม่พิจารณาข้อเรียกร้อง และยังกำหนดเงื่อนไขว่าถ้าจะมีการพูดคุยด้วย กปปส. ต้องกลับบ้านก่อน หรือต้องเลือกตั้งให้จบก่อน หรือถ้าจะรอให้องค์กรอิสระ และศาล มาไล่เรียงพิจาณาคดีที่ละเปลาะว่าเลือกตั้งโมฆะไหม นายกฯ มีความผิดเรื่องจำนำข้าวไหม สถานการณ์จะยืดเยื้อแน่
"ไม่คิดว่านายกฯ จะตายในสนามประชาธิปไตย แต่สิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำมา 2 ปี ประชาธิปไตยจะตายในมือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะมีการละเมิดสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของประชาธิปไตย คิดว่าที่กำหนดจุดยืนเช่นนี้ เพราะนายกฯ ไม่ประสงค์ที่จะหาทางออกให้ประเทศ แต่จะรักษาอำนาจ โดยท้าทายว่าใครที่ไม่เห็นด้วยกับการครองอำนาจของตนเอง ก็ต้องสู้กับรัฐบาลไปทุกรูปแบบ จึงเกิดประเด็นปัญหาการแบ่งแยกดินแดน ปลุกระดมปลุกปั่นให้คนไม่พอใจศาล และองค์กรอิสระ หากทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ประชาธิปไตยก็จะตายในมือยิ่งลักษณ์"
นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงกรณีที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยพยายามเปิดสภาโดยที่ยังไม่มีการรับรองการเป็น ส.ส. ว่า ไม่ทราบว่าจะเปิดอะไร ทุกคนต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
***ศาลอาญาออกหมายจับ"สุเทพ"
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนดีเอสไอ ได้ยื่นคำร้องขอออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ผู้ต้องหาในคดีที่ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กระทำผิดฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่า กรณีออกคำสั่งศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ขอคืนพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2553 โดยศาลพิเคราะห์คำร้องและพยานเอกสารจากผู้ร้องแล้ว เห็นควรอนุญาตให้ออกหมายจับได้
สำหรับหมายจับของนายสุเทพในคดีนี้ ถือว่าเป็นหมายจับที่ 3 แล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลได้ออกหมายจับในข้อหากบฏ และข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แต่การออกหมายจับในครั้งนี้ เป็นกรณีที่ดีเอสไอจะต้องติดตามตัวนายสุเทพมาให้อัยการ เพื่อยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาล ในคดีที่ร่วมกับนายอภิสิทธิ์ ในความผิดร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าและพยายามฆ่า จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช. ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค.2553
** ศรส.เจรจาขอพื้นที่"หลวงปู่"เหลว
วันเดียวกันนี้ พล.ต.สุรชาติ จิตต์แจ้ง หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพ.อ.ยุทธ พรหมพงษ์ รองผอ.สำนักงานกิจการพลเรือน กระทรวงกลาโหม ผู้แทนจาก ศรส. เข้าเจรจากับหลวงปู่พุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. ที่ปักหลักชุมนุมบนถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อให้ย้ายเวทีการชุมนุมไปตั้งบนถนนทางเข้าศูนย์ราชการ เพื่อเปิดพื้นที่ส่วนราชการ และการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ
หลวงปู่พุทธะอิสระ ชี้แจงว่า เนื่องจากพื้นที่ชุมนุมไม่ปลอดภัย และพร้อมจะเปิดการจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ แต่มีเงื่อนไขว่าพล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม หรือร.ต.อ.เฉลิม จะต้องมานอนค้างคืนในพื้นที่การชุมนุม 3 วัน 3 คืน และต้องใช้ตำแหน่งและชีวิตรับผิดชอบ หากผู้ชุมนุมเกิดอันตรายใดๆ เช่นเดียวกับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม
ด้านพล.ต.สุรชาติ กล่าวว่า หากผู้ชุมนุมยอมย้ายเวทีไปตั้งบนถนนทางเข้าศูนย์ราชการ จะมีการจัดตั้งด่านเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม
อย่างไรก็ตาม หลวงปู่พุทธะอิสระ ไม่ยินยอมข้อเสนอดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขอีกว่า ยินดีย้ายที่ชุมนุม แต่ขอย้ายไปตั้งเวทีชุมนุมใหม่ที่อาคารภายในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หรือสโมสรตำรวจ ที่ตั้งของ ศรส. และตัวอาคารของศูนย์ราชการ เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ทำให้ตัวแทนจาก ศรส. ต้องเดินทางกลับ พร้อมกล่าวว่า จะนำเงื่อนไขของหลวงปู่พุทธะอิสระ ไปเสนอต่อที่ประชุมศรส. และรายงานไปยังปลัดกระทรวงกลาโหมต่อไป
***ทนายแม้วด่า กปปส. อันธพาลข้างถนน
โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม เจ้าของสำนักงานกฎหมาย “อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พาร์ทเนอร์ส” เผยแพร่บทความชิ้นล่าสุดผ่านบล็อกส่วนตัวโจมตีการทำหน้าที่ของ กกต. รวมถึงกองทัพ โดยระบุทั้งสององค์กรกำลังมีความเคลื่อนไหวที่น่ากลัวและชั่วร้ายเพื่อปกป้อง “อำนาจมืด” ของ “มือที่มองไม่เห็น” ในประเทศไทย ผ่านทางกระบวนการกดขี่คุกคามประชาชนที่เห็นต่าง พร้อมชี้ว่า พฤติกรรมโฉดของทั้ง กกต. และกองทัพไทยขณะนี้ ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของ “ประชาธิปไตยโดยพลเรือน” ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
ที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุว่า ตัวการที่ทำให้เกิดกระบวนการแบ่งแยกในประเทศไทยขณะนี้นั้น แท้จริงแล้วคือ กลุ่มกปปส. หรือพวกอันธพาลตามท้องถนน ภายใต้การนำของนายสุเทพ และนายอภิสิทธิ์ ที่ได้รับการหนุนหลังโอบอุ้มจากบรรดานายพลในกองทัพไทย รวมถึงมือที่มองไม่เห็น ซึ่งต่อต้านประชาธิปไตย และมุ่งหมายที่จะล้มล้างรัฐบาลพลเรือนที่เปี่ยมล้นไปด้วยความชอบธรรม ตามกฎหมายของน.ส.ยิ่งลักษณ์
***"สาธิต"ถวายฎีกาหลังถูกไล่พ้นประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานทูตอินเดียได้แจ้งไปยังนายสาธิต เซกัล นักธุรกิจสีลมที่ร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส.ว่า ทางนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ได้ลงนามในหนังสือถอนถิ่นที่อยู่ให้ ศรส. และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส.ได้ลงนามแล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวนายสาธิตส่งออกนอกประเทศได้ทันที
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ระหว่างที่นายสาธิตเตรียมจะถวายฎีกาต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีความพยายามที่จะต่อรองว่าหากนายสาธิตไม่เคลื่อนไหวกับ กปปส.อีก จะไม่มีการเนรเทศออกนอกประเทศ ทำให้นายสาธิตหยุดการเคลื่อนไหวทั้งหมด แต่สุดท้ายกลับมีคำสั่งถอนถิ่นที่อยู่ ดังนั้น ในวันนี้ (6 มี.ค.) เวลา 09.00 น. นายสาธิตจะเดินทางไปถวายฎีกาที่สำนักพระราชวัง