**ในจังหวะที่ “สุเทพ เทือกสุบรรณ”เลขาธิการ กปปส. ตัดสินใจคืนพื้นที่การจราจรให้คนกทม. ด้วยการยุบทุกเวที-ทุกแยกของกปปส.โดยให้มารวมกันที่เวทีใหม่ “สวนลุมพินี”
มีใครบางคนที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) นั่งหัวเราะชอบใจอยู่ พ่วงด้วยเสียงเฮดังๆ ของ “บิ๊กตำรวจ”เพราะเรียกร้องให้ กำนันสุเทพ ยุบเวทีมารวมเป็นเวทีเดียวมานานแล้ว
นั่นเพราะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. รู้ดีว่า การบริหาร“ม็อบกำนัน”จะทำได้ง่ายขึ้น ถ้าหากกระจัดกระจายเป้าหมายเคลื่อน ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการจับกุม
บิ๊ก ศรส. เล่าว่า“เป็ดเหลิม”ถึงกับต่อสายโทรศัพท์ไปถึง“บิ๊กตำรวจ”หลายนาย ให้จัดเตรียมเซ็ตแผนจับกุมแกนนำกปปส.ใหม่ทันที โดยให้นำเสนอที่ประชุม ศรส.ในเร็ววันนี้
มีหวัง “เป็ดเหลิม”ออกแอ๊กชั่น โชว์จัดหนักกันอีกรอบแน่ แม้จะใช้ข้อบังคับตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ไม่เต็มพิกัด แต่สามารถสั่งจับตามกฎหมายอาญาได้
**งานนี้ต้องติดตามว่าตำรวจจะมีน้ำยามากน้อยแค่ไหน และยังจะบ้าจี้ตาม“เจ้านายบ้าอำนาจ”อยู่หรือไม่
แต่ที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุด คงหนีไม่พ้น“สุเทพ-กปปส.”ที่การประกาศยุบรวมเวที กลับถูกสังคมค่อนขอดว่า หมดมุก-หมดคน-หมดพลัง แต่ทั้งทาง กปปส.กลับยืนยันว่า เป็นการปรับกลุยทธ์ ปรับขบวนเพื่อรุกกลับครั้งใหม่
ทว่าบางกระแสกลับบอกว่า“สุเทพ-กปปส.”ทำตามเงื่อนไขหนึ่งของการเจรจา และเพื่อให้การเจรจาเดินหน้าไปได้ ต้องทำให้เห็นว่ามีความจริงใจ
แม้ สุเทพ จะยืนยันขันแข็งบนเวทีปราศรัยทุกครั้งว่า จะไม่เจรจากับ“เครือข่ายทักษิณ”แต่ในทางลับแล้วมีการเจรจาเคลื่อนไหวทุกวัน
“พวกโลกสวย”ที่ สุเทพเอ่ยถึงบนเวทีปราศรัยอยู่หลายครั้ง ยังคงเดินหน้าพูดคุยให้ทั้ง 2 ขั้วอำนาจหน้าฉากได้หันมาสู่ข้อเงื่อนไข ซึ่งกันและกัน
ความพยายามของ“ปลัดเค - มิสเตอร์เอ็น”ยังคงไม่ลดละ พยายามอย่างหนักต่อไป
“พวกภาพสวย”อย่าง “วิษณุ เครืองาม”ต้นตำรับเนติบริกร แม้จะถูกนายใหญ่ขึ้นแบล็คลิสต์ไม่ไว้วางใจ เพราะกระแสหนึ่งระบุว่า สุเทพ ไว้เนื้อเชื่อใจวิษณุมาก กระแสหนึ่งบอกว่าวิษณุ เซย์โนเอง
ขบวนการของ“พวกภาพสวย”ที่ต่างฝ่ายต่างเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะนั่ง“นายกฯคนกลาง”ช่วยแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปได้ ยังคงเดินหน้าอยู่ และเชื่อมคอนเนกชั่นให้สูงขึ้นอีก
ตัวละครสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าใหม่-หน้าเก่าบ้าง ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส แต่ คีย์แมนคนหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนมีชื่อว่า “นิพนธ์ พร้อมพันธ์”ผู้ที่มักจะพก“สัญญาณพิเศษ”มาด้วยเสมอ
**ยี่ห้อ"นิพนธ์"คนในวงการการเมืองรู้ดีว่า“สาย”ใคร
ครั้นหนึ่งในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่มีปัญหาแต่งตั้ง ผบ.ตร. ซึ่งมีแคนดิเดต 2 คนคือ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมายกับ พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ มี “สัญญาณพิเศษ” ทับซ้อน เดือดร้อนให้ นิพนธ์ต้องบินไปประเทศเยอรมันมาแล้ว
ในศึก“กปปส. vsเครือข่ายทักษิณ”จึงมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า“นิพนธ์”หันกลับมารับจ็อบนำ“สัญญาณพิเศษ”มาเจรจาเพื่อต่อรองกับ“สุเทพ-กปปส.”
ตามลูกเชี่ยวการเมืองของ “สุเทพ”จึงรู้ดีว่า จังหวะไหนควรคุย จังหวะไหนควรเลี่ยง
ที่สำคัญใน กปปส.เอง สุเทพ ไว้ใจแค่“ลูกหาบ”ที่พากันออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มายืนแถวหน้ามวลมหาประชาชนเท่านั้น กลุ่มคนเหล่านี้รับรู้ทิศทางความเคลื่อนไหวผลการเจรจาเกือบทั้งหมด
**ระยะหลังเริ่มมีความเคลื่อนไหวในการดีลลับหลายกลุ่ม โดยเฉพาะ “หลวงปู่พุทธะอิสระ”ที่รู้กันดีว่า มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย อาทิ“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา - พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา”จึงมีผู้หวังดีเปิดดีลลับๆ กับ“สมชาย วงศ์สวัสดิ์”น้องเขยนายใหญ่
และหวังดี ถึงขนาดนำภาพมาโพสต์ลงแฟนเพจเฟซบุ๊ก จนฮือฮาใหญ่โต เมื่อแรกเห็นและทราบเรื่องทำเอา “กำนันสุเทพ”อึกอักไปไม่เป็นเหมือนกัน เพราะวันนั้นยังประกาศโครมๆว่า ไม่คุย ไม่เจรจา ไม่ต่อรอง ก่อนจะตั้งหลักกลับมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ“หลวงปู่”ว่า เป็นไปตามบริบทของแต่ละเวที
เสียงอื้ออึงว่า จุดนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ สุเทพตัดสินใจยุบเวที กปปส.ทั้งหมด แล้วมารวมที่สวนลุมพินี เพื่อกระชับอำนาจการต่อรองไว้อยู่ที่สุเทพ คนเดียว
ตามจังหวะที่การเจรจายังชักเข้าชักออก ต่างฝ่ายต่างเล่นแง่กันอยู่ ฝั่ง “คนเสื้อแดง”เร่งเครื่องหนักระดมปลุกลิ่วล้อให้ออกมารักษาประชาธิปไตย ปูดข่าวเกณฑ์คนฝึกอาวุธกันจริงจัง วาดภาพ “สงครามกลางเมือง”ที่พูดขึ้นมาเมื่อใด ประชาชน ก็กลัวเมื่อนั้น
**ความเคลื่อนไหวของแดง นปช.เสมือนบีบให้มวลชนที่ศรัทธา“สุเทพ-กปปส.”ฝ่อตัวไปเอง หวังให้เกิดความกลัว จนไม่กล้าออกมาร่วมการชุมนุมอีก
ทางหนึ่ง"ชายชุดดำ" ที่ฝึกอาวุธมาตั้งแต่ปี 2553 บรรดา"นายพลเฒ่า"ระดมอาวุธยุทโธปกรณ์ ยิงใส่ที่ชุมนุม กปปส. สร้างภาพความรุนแรง มีผลทำให้มวลมหาประชาชนประชาชนออกมาร่วมชุมนุม กปปส.มียอดน้อยลงชัดเจน
ทุกกระบวนการของ “เครือข่ายทักษิณ”บีบให้ “สุเทพ-กปปส.”ต้องขึ้นโต๊ะเจรจาอย่างจริงๆ จังๆ
หลังจากนี้ต้องวัดใจ "สุเทพ-กปปส." ว่าจะดื้อแพ่งไปได้สักกี่น้ำ ก่อนจะยอมขึ้นโต๊ะเจรจา หรือจะยอมฮึดสู้-ยอมตาย ไม่ร่วมขึ้นโต๊ะเจรจา แม้ว่าสัญญาณการเจรจาจะมาจาก"บุคคลระดับสูง" หรือจะมาจากแรงบีบ จากเหตุความรุนแรง
**วัดใจ สุเทพวัดใจ แกนนำกปปส. วัดใจ ปชป. ว่าจะยอมสูญเสียโอกาสที่จะทำลาย“ระบอบทักษิณ”ที่จะหาไม่ได้อีกแล้วหรือไม่ !!
มีใครบางคนที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศรส.) นั่งหัวเราะชอบใจอยู่ พ่วงด้วยเสียงเฮดังๆ ของ “บิ๊กตำรวจ”เพราะเรียกร้องให้ กำนันสุเทพ ยุบเวทีมารวมเป็นเวทีเดียวมานานแล้ว
นั่นเพราะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. รู้ดีว่า การบริหาร“ม็อบกำนัน”จะทำได้ง่ายขึ้น ถ้าหากกระจัดกระจายเป้าหมายเคลื่อน ก็จะทำให้เสี่ยงต่อการจับกุม
บิ๊ก ศรส. เล่าว่า“เป็ดเหลิม”ถึงกับต่อสายโทรศัพท์ไปถึง“บิ๊กตำรวจ”หลายนาย ให้จัดเตรียมเซ็ตแผนจับกุมแกนนำกปปส.ใหม่ทันที โดยให้นำเสนอที่ประชุม ศรส.ในเร็ววันนี้
มีหวัง “เป็ดเหลิม”ออกแอ๊กชั่น โชว์จัดหนักกันอีกรอบแน่ แม้จะใช้ข้อบังคับตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้ไม่เต็มพิกัด แต่สามารถสั่งจับตามกฎหมายอาญาได้
**งานนี้ต้องติดตามว่าตำรวจจะมีน้ำยามากน้อยแค่ไหน และยังจะบ้าจี้ตาม“เจ้านายบ้าอำนาจ”อยู่หรือไม่
แต่ที่ถูกตั้งคำถามมากที่สุด คงหนีไม่พ้น“สุเทพ-กปปส.”ที่การประกาศยุบรวมเวที กลับถูกสังคมค่อนขอดว่า หมดมุก-หมดคน-หมดพลัง แต่ทั้งทาง กปปส.กลับยืนยันว่า เป็นการปรับกลุยทธ์ ปรับขบวนเพื่อรุกกลับครั้งใหม่
ทว่าบางกระแสกลับบอกว่า“สุเทพ-กปปส.”ทำตามเงื่อนไขหนึ่งของการเจรจา และเพื่อให้การเจรจาเดินหน้าไปได้ ต้องทำให้เห็นว่ามีความจริงใจ
แม้ สุเทพ จะยืนยันขันแข็งบนเวทีปราศรัยทุกครั้งว่า จะไม่เจรจากับ“เครือข่ายทักษิณ”แต่ในทางลับแล้วมีการเจรจาเคลื่อนไหวทุกวัน
“พวกโลกสวย”ที่ สุเทพเอ่ยถึงบนเวทีปราศรัยอยู่หลายครั้ง ยังคงเดินหน้าพูดคุยให้ทั้ง 2 ขั้วอำนาจหน้าฉากได้หันมาสู่ข้อเงื่อนไข ซึ่งกันและกัน
ความพยายามของ“ปลัดเค - มิสเตอร์เอ็น”ยังคงไม่ลดละ พยายามอย่างหนักต่อไป
“พวกภาพสวย”อย่าง “วิษณุ เครืองาม”ต้นตำรับเนติบริกร แม้จะถูกนายใหญ่ขึ้นแบล็คลิสต์ไม่ไว้วางใจ เพราะกระแสหนึ่งระบุว่า สุเทพ ไว้เนื้อเชื่อใจวิษณุมาก กระแสหนึ่งบอกว่าวิษณุ เซย์โนเอง
ขบวนการของ“พวกภาพสวย”ที่ต่างฝ่ายต่างเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะนั่ง“นายกฯคนกลาง”ช่วยแก้ไขสถานการณ์บ้านเมืองให้เดินหน้าต่อไปได้ ยังคงเดินหน้าอยู่ และเชื่อมคอนเนกชั่นให้สูงขึ้นอีก
ตัวละครสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนหน้าใหม่-หน้าเก่าบ้าง ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส แต่ คีย์แมนคนหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนมีชื่อว่า “นิพนธ์ พร้อมพันธ์”ผู้ที่มักจะพก“สัญญาณพิเศษ”มาด้วยเสมอ
**ยี่ห้อ"นิพนธ์"คนในวงการการเมืองรู้ดีว่า“สาย”ใคร
ครั้นหนึ่งในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ที่มีปัญหาแต่งตั้ง ผบ.ตร. ซึ่งมีแคนดิเดต 2 คนคือ พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมายกับ พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ มี “สัญญาณพิเศษ” ทับซ้อน เดือดร้อนให้ นิพนธ์ต้องบินไปประเทศเยอรมันมาแล้ว
ในศึก“กปปส. vsเครือข่ายทักษิณ”จึงมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า“นิพนธ์”หันกลับมารับจ็อบนำ“สัญญาณพิเศษ”มาเจรจาเพื่อต่อรองกับ“สุเทพ-กปปส.”
ตามลูกเชี่ยวการเมืองของ “สุเทพ”จึงรู้ดีว่า จังหวะไหนควรคุย จังหวะไหนควรเลี่ยง
ที่สำคัญใน กปปส.เอง สุเทพ ไว้ใจแค่“ลูกหาบ”ที่พากันออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ มายืนแถวหน้ามวลมหาประชาชนเท่านั้น กลุ่มคนเหล่านี้รับรู้ทิศทางความเคลื่อนไหวผลการเจรจาเกือบทั้งหมด
**ระยะหลังเริ่มมีความเคลื่อนไหวในการดีลลับหลายกลุ่ม โดยเฉพาะ “หลวงปู่พุทธะอิสระ”ที่รู้กันดีว่า มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย อาทิ“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ - พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา - พล.อ.ประยุทธ์ จันโอชา”จึงมีผู้หวังดีเปิดดีลลับๆ กับ“สมชาย วงศ์สวัสดิ์”น้องเขยนายใหญ่
และหวังดี ถึงขนาดนำภาพมาโพสต์ลงแฟนเพจเฟซบุ๊ก จนฮือฮาใหญ่โต เมื่อแรกเห็นและทราบเรื่องทำเอา “กำนันสุเทพ”อึกอักไปไม่เป็นเหมือนกัน เพราะวันนั้นยังประกาศโครมๆว่า ไม่คุย ไม่เจรจา ไม่ต่อรอง ก่อนจะตั้งหลักกลับมาสนับสนุนการเคลื่อนไหวของ“หลวงปู่”ว่า เป็นไปตามบริบทของแต่ละเวที
เสียงอื้ออึงว่า จุดนี้เป็นเหตุผลหนึ่งที่ สุเทพตัดสินใจยุบเวที กปปส.ทั้งหมด แล้วมารวมที่สวนลุมพินี เพื่อกระชับอำนาจการต่อรองไว้อยู่ที่สุเทพ คนเดียว
ตามจังหวะที่การเจรจายังชักเข้าชักออก ต่างฝ่ายต่างเล่นแง่กันอยู่ ฝั่ง “คนเสื้อแดง”เร่งเครื่องหนักระดมปลุกลิ่วล้อให้ออกมารักษาประชาธิปไตย ปูดข่าวเกณฑ์คนฝึกอาวุธกันจริงจัง วาดภาพ “สงครามกลางเมือง”ที่พูดขึ้นมาเมื่อใด ประชาชน ก็กลัวเมื่อนั้น
**ความเคลื่อนไหวของแดง นปช.เสมือนบีบให้มวลชนที่ศรัทธา“สุเทพ-กปปส.”ฝ่อตัวไปเอง หวังให้เกิดความกลัว จนไม่กล้าออกมาร่วมการชุมนุมอีก
ทางหนึ่ง"ชายชุดดำ" ที่ฝึกอาวุธมาตั้งแต่ปี 2553 บรรดา"นายพลเฒ่า"ระดมอาวุธยุทโธปกรณ์ ยิงใส่ที่ชุมนุม กปปส. สร้างภาพความรุนแรง มีผลทำให้มวลมหาประชาชนประชาชนออกมาร่วมชุมนุม กปปส.มียอดน้อยลงชัดเจน
ทุกกระบวนการของ “เครือข่ายทักษิณ”บีบให้ “สุเทพ-กปปส.”ต้องขึ้นโต๊ะเจรจาอย่างจริงๆ จังๆ
หลังจากนี้ต้องวัดใจ "สุเทพ-กปปส." ว่าจะดื้อแพ่งไปได้สักกี่น้ำ ก่อนจะยอมขึ้นโต๊ะเจรจา หรือจะยอมฮึดสู้-ยอมตาย ไม่ร่วมขึ้นโต๊ะเจรจา แม้ว่าสัญญาณการเจรจาจะมาจาก"บุคคลระดับสูง" หรือจะมาจากแรงบีบ จากเหตุความรุนแรง
**วัดใจ สุเทพวัดใจ แกนนำกปปส. วัดใจ ปชป. ว่าจะยอมสูญเสียโอกาสที่จะทำลาย“ระบอบทักษิณ”ที่จะหาไม่ได้อีกแล้วหรือไม่ !!