เมื่อเวลา 14.30 น. วานนี้ (3มี.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ประจำเดือนมีนาคม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) เป็นประธานในการประชุมว่า ในที่ประชุมผบ.ทบ.ได้เน้นย้ำเรื่องการพัฒนา และช่วยเหลือประชาชน โดยให้แสวงความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ในการผลักดันให้มีความคืบหน้าและเกิดความยั่งยืน โดยให้บูรณาการศูนย์การเรียนรู้ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เข้าด้วยกันสร้างเป็นโครงข่ายการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ผบ.ทบ.สั่งการให้เดินหน้าโครงการปลูกป่าอาเซียน โดยประสานความร่วมมือเพิ่มเติมกับส่วนราชการในพื้นที่ชายแดน และหน่วยทหารของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก มีแผนที่จะปลูกป่าจำนวน 41 พื้นที่ คิดเป็น 494 ไร่ โดยเน้นการปลูกไม้ยืนต้น และไม้ที่มีคุณค่าของภูมิภาค นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังมอบให้นำเรื่องโครงการปลูกป่าอาเซียนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการร่วมในทุกระดับกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดเป็น ความร่วมมือที่ยั่งยืน และสานสัมพันธ์อันดีต่อกัน
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ผบ.ทบ. ได้กำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการตาม “กรอบแนวทางดำเนินการของกองทัพบกในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน”โดยดำเนินการใน 2 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น การดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ดำเนินการในพื้นที่ 26 จังหวัด รวม 59 แผนงาน ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 36 % และโครงการความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เช่น โครงการ พัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยฯ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 63 % สำหรับในระยะยาว เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาในห้วง 5-10 ปี ได้แก่ สนับสนุนการดำเนินการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล โครงการ “ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ”และการสร้างจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติ สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งด่วนเฉพาะหน้ากองทัพบกได้สานต่อโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ว” ปีที่ 15 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพบกกับหน่วยงานภาคีรวม 5 หน่วยงาน โดยนำน้ำไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยแล้ง โดยจะมีพิธีเปิดโครงการใน 6 มี.ค.นี้ ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.)
ทั้งนี้ผบ.ทบ.สั่งการให้เดินหน้าโครงการปลูกป่าอาเซียน โดยประสานความร่วมมือเพิ่มเติมกับส่วนราชการในพื้นที่ชายแดน และหน่วยทหารของประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งขณะนี้กองกำลังป้องกันชายแดนของกองทัพบก มีแผนที่จะปลูกป่าจำนวน 41 พื้นที่ คิดเป็น 494 ไร่ โดยเน้นการปลูกไม้ยืนต้น และไม้ที่มีคุณค่าของภูมิภาค นอกจากนี้ ผบ.ทบ. ยังมอบให้นำเรื่องโครงการปลูกป่าอาเซียนเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการร่วมในทุกระดับกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดเป็น ความร่วมมือที่ยั่งยืน และสานสัมพันธ์อันดีต่อกัน
พ.อ.ศิริจันทร์ กล่าวว่า ในที่ประชุม ผบ.ทบ. ได้กำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการตาม “กรอบแนวทางดำเนินการของกองทัพบกในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างยั่งยืน”โดยดำเนินการใน 2 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น การดำเนินโครงการปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ดำเนินการในพื้นที่ 26 จังหวัด รวม 59 แผนงาน ขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 36 % และโครงการความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เช่น โครงการ พัฒนาแก้มลิงหนองเลิงเปือยฯ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 63 % สำหรับในระยะยาว เป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาในห้วง 5-10 ปี ได้แก่ สนับสนุนการดำเนินการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล โครงการ “ฟื้นฟูป่าต้นน้ำเฉลิมพระเกียรติฯ”และการสร้างจิตสำนึกรักษ์ธรรมชาติ สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งด่วนเฉพาะหน้ากองทัพบกได้สานต่อโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ว” ปีที่ 15 ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกองทัพบกกับหน่วยงานภาคีรวม 5 หน่วยงาน โดยนำน้ำไปแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยแล้ง โดยจะมีพิธีเปิดโครงการใน 6 มี.ค.นี้ ณ กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2รอ.)