รองโฆษกทัพบกเผยผลถกผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก “ประยุทธ์” สั่งยืนไว้อาลัย 8 ทหารที่ จ.ยะลาถูกสังหาร บอกเสียใจ พร้อมกำชับเข้มยุทธวิธี กล่อมแนวคิดสร้างรั้วชายแดน ถ่ายทอดความรู้เป็นครูทหารได้ - พร้อมเดินหน้าโครงการ “ครอบครัวต้นไม้ น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ”
วันนี้ (2 ก.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงผลการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ประจำเดือนกรกฎาคม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ก่อนการประชุม ผบ.ทบ.ได้ให้ ผบ.หน่วยที่มาร่วมประชุมได้ยืนสงบนิ่งเพื่อเป็นการไว้อาลัยให้แก่กำลังพลทุกนายที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงเหตุการณ์ล่าสุดที่มีทหารเสียชีวิต 8 นาย จ.ยะลา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งท่านบอกว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นความรับผิดชอบในฐานะที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาที่ต้องกำกับดูแล ทั้งนี้ การดำเนินการให้ภารกิจตามแนวชายแดนประสบผลสำเร็จจะต้องทำให้กำลังพล และประชาชนปลอดภัย จึงจะถือว่า ภารกิจประสบผลสำเร็จ ซี่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของคนที่ปฏิบัติราชการสนาม คือ เรื่องความปลอดภัย
“การปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทาง ผบ.ทบ.ได้กำชับให้ทุกกองทัพภาค กำกับดูแลหน่วยทหารของตนเองที่ส่งเข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ทั้งในด้านยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี งานธุรการ งานสวัสดิการและสิทธิกำลังพล และการสร้างความปลอดภัยในการทำงาน โดยให้ทุกกองทัพภาคลงไปในรายละอียด ต้องเพิ่มความเข้มงวดทางยุทธวิธีเพื่อให้กำลังพลและประชาชนปลอดภัยในทุกห้วงของการทำงาน ทั้งในช่วงเวลาปกติ และการลาพัก รวมถึงให้กำลังพลช่วยอธิบายสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเสนอขอสร้างรั้วชายแดน โดยให้ไปอธิบายกับสังคมให้เกิดความเข้าใจถึงความจำเป็นที่ต้องขอรับการสนับสนุน” รองโฆษกกองทัพบกกล่าว
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า นอกจากนี้ ผบ.ทบ.ยังได้ให้แนวทางในการจะสร้างหรือพัฒนาให้กำลังพลทุกนายสามารถถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในหน้าที่ของตน ในลักษณะการเป็น “ครูทหาร” อีกด้วย ที่สำคัญคือ หน่วยทหารต้องสามารถปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายได้เป็นผลสำเร็จ ภายใต้ความปลอดภัยของกำลังพลและประชาชนส่วนกองกำลังชายแดนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดนให้ดำรงความพร้อมในการป้องกันประเทศ ป้องกันการกระทำผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน ดูแลด่านตรวจและช่องทางในพื้นที่ชายแดนให้มีความปลอดภัย รวมถึงการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในเรื่อง การป้องกันมิให้มีการลักลอบเอาพืชผลการเกษตรจากนอกประเทศ มาสวมสิทธิ์ในโครงการที่รัฐบาลดำเนินการเพื่อเกษตรกรชาวไทย
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวอีกว่า ในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับสังคม ผู้บัญชาการทหารบก ได้สั่งการให้ทุกหน่วยเดินหน้าจัดกิจกรรม “ครอบครัวต้นไม้ น้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ” โดยนอกจากถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม 56 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 12 สิงหาคม 56 แล้วยังเป็นการรณรงค์สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการปลูกต้นไม้ ช่วยลดภาวะโลกร้อน และเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไป โดยกำลังพลและครอบครัวจะร่วมกันปลูกต้นไม้อย่างน้อย 1 ต้น ตลอดเดือนสิงหาคม-ธันวาคม 56 ใช้พื้นที่ว่างของหน่วยทหาร บ้านพัก และพื้นที่ทีหน่วยทหารออกปฏิบัติงาน เป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ นอกจากนี้จะสนับสนุนการจัดกิจกรรมการปลูกต้นไม้ของทุกภาคส่วนอย่างเต็มที่ โดยจะเน้นให้ปลูกต้นไม้ในเขตเมืองและพื้นที่ที่มีชุมชนอยู่มาก สำหรับต้นไม้ที่ใช้ในการปลูกเป็น ไม้ยืนต้น ไม้มีค่า และไม้ผล ซึ่งเมื่อปลูกแล้วจะมีการดูแลให้เติบโต และใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
