โฆษก ทบ.เผยทหารติดตามคดีสลายเสื้อแดงจากดีเอสไออย่างใกล้ชิด พร้อมชี้แจงประชาชนหลังถูกมองเชิงลบ เผย ผบ.ทบ.ห่วงกำลังพลที่ต้องให้ปากคำในฐานะพยาน และคดีทหารถูกทำร้ายเสียชีวิต-บาดเจ็บไร้ความคืบหน้า เผยดีเอสไอแจ้งข้อหา “อภิสิทธิ์-สุเทพ” ไม่ส่งผลกระทบต่อกองทัพ
วันนี้ (7 ธ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก เมื่อเวลา 15.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก แถลงภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบก (นขต.ทบ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ผอ.ศอฉ.) ฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาว่า ทางดีเอสไอไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ทหาร เพราะที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทหารเพียงถูกเชิญจากดีเอสไอไปให้ปากคำในฐานะพยาน ซึ่งขณะนี้มีบางคดีที่ศาลได้ไต่สวนแล้ว โดยทางทหารเองก็ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และในบางคดีได้มีการขอยื่นอุทธรณ์สำหรับคำไต่สวนไปแล้วตามช่องทางของกฎหมายที่จะสามารถเอื้ออำนวยให้ทำได้ แม้เจ้าหน้าที่ทหารจะไม่ได้มีผลกระทบด้านกฎหมาย แต่ในมุมของสังคมที่อาจจะถูกมองในเชิงลบนั้น ทางกองทัพบกพยายามชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดความสงสัย
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้ความสำคัญและห่วงใยอยู่ 2 เรื่อง คือ กำลังพลบางส่วนที่จะต้องมาให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนในฐานะพยาน ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกมีความห่วงใยอย่างยิ่ง แต่เข้าใจถึงขั้นตอนกระบวนการยุติธรรม พร้อมทั้งยืนยันจะดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างดีที่สุด สำหรับประการต่อมา คือ เรื่องคดีของเจ้าหน้าที่ทหารที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติตามกฎหมายถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ซึ่งกองทัพบกไม่ได้นิ่งนอนใจได้ตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลติดตามและประสานงานข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด ซึ่งเราได้เคยยืนยันกับญาติพี่น้อง และครอบครัวผู้สูญเสียไปแล้วเมื่อครั้งที่มายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับกองทัพบกเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมาว่า เรามีภาพหลักฐานชัดเจนที่เจ้าหน้าที่ทหารถูกกระทำ และสามารถบันทึกไว้ได้หลายเหตุการณ์ โดยเราเคยส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนไปแล้ว แต่จากการสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบ พบว่าไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องนี้กองทัพบก และคณะทำงานจะดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป” พ.อ.วินธัยระบุ
เมื่อถามว่า การที่มีการแจ้งข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ว่าเป็นเป็นคนสั่งฆ่าประชาชน จะทำให้กองทัพบกเสียภาพลักษณ์หรือไม่ ในฐานะผู้ปฏิบัติ พ.อ.วินธัยกล่าว่า การตั้งข้อกล่าวหาต่ออดีตนายกรัฐมนตรีไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกองทัพ เพียงแต่กลัวความรู้สึกของสังคมจะไม่เข้าใจถึงการปฏิบัติงานของทหาร อาจจะเข้าใจว่าทหารไปฆ่าประชาชน ซึ่งความจริงทหารเพียงทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยเรียบร้อย ไม่ได้ไปฆ่าใคร ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ทหารก็กลายเป็นเป้าหมายในการถูกโจมตีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การไต่สวนพิจารณาของศาลเป็นเพียงการชี้สาเหตุของการเสียชีวิตเท่านั้น ทั้งนี้กองทัพบกไม่ได้แก้ตัวหรือไปแย้งกับทางศาล เพราะไม่ใช่คำตัดสิน หรือคำพิพากษาแต่อย่างใด
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าวเสริมว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้บอกกับที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ว่า ให้ผู้บังคับหน่วยไปแจ้งกับผู้ใต้บังคับบัญชาถึงผลการไต่สวนที่ออกมา ขอให้มั่นใจกองทัพบกว่ากองทัพบกจะใช้กระบวนการ และอำนาจทางกฎหมายช่วยผู้ปฏิบัติหน้าที่ทุกคน ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลา