xs
xsm
sm
md
lg

ชี้สปป.ล้านนาผิดร้ายแรง ทบ.ฮึ่ม!ฟันฐานกบฎ แดงคึก-เตือนอย่าประเมินต่ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ประยุทธ์" ฮึ่ม "แดงเชียงใหม่" ปลุกระดมแบ่งแยกประเทศผิดกฎหมายร้ายแรง ต้องจัดการ มทภ.3 รับลูกเข้าแจ้งความฐานกบฎ พร้อมกำชับผู้ว่าฯ 17 จว.ภาคเหนือจับตากลุ่มเคลื่อนไหวกระทบความมั่นคงแล้ว ด้าน ปชป.ลั่นเอาผิด มท.1 -ยุบพรรคเพื่อไทย "สุริยะใส" ชี้ เสื้อแดงสร้างเงื่อนไขรัฐประหาร เตือน ผบ.ทบ.อย่าประเมินกระแสแยกประเทศต่ำ หวั่นซ้ำรอยกระแสล้มเจ้า ขณะที่คนเสื้อแดงเคลื่อนพลเปิดเวทีขอนแก่นคึกคัก เมืองสองแควขึ้นป้ายต้าน"ใครแยกประเทศจงพินาศ"

วานนี้ (2 มี.ค.) พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ มีการเคลื่อนขบวน แห่ธงแดงขาว โดยมีป้ายผ้าเขียนข้อความว่า สปป.ล้านนา ว่า ขณะนี้พบว่า มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนบางกลุ่มในพื้นที่ภาคเหนือ มีการแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยใช้ชื่อ สปป.ล้านนา ซึ่งฝ่ายความมั่นคงประเมินว่า การแสดงออกในลักษณะดังกล่าว อาจเข้าข่ายความผิดทางกฎหมาย และถือว่าไม่สร้างสรรค์ และไม่เหมาะสมต่อสถานการณ์ โดยขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)ได้สั่งการให้ พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ไปดำเนินการทางด้านกฏหมายแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังด้วย เพราะการดำเนินกิจกรรมในบางลักษณะ ถือเป็นการทำผิดกฎหมายร้ายแรง การแสดงออกถึงความแตกต่างทางความคิดคงเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญพึงกระทำได้ ภายใต้กรอบ แต่การแสดงออกถึงความต้องการจะแบ่งแยกประเทศ ถือว่าอยู่นอกกรอบคงไม่สามารถกระทำได้

พ.อ.วินธัย ยังกล่าวถึงกรณี นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง พูดปลุกระดมประกาศออกรายการทางวิทยุ มีเนื้อหาข่มขู่ว่า จะให้มวลชนไปจับตัว พล.ต.วราห์ บุญญะสิทธิ์ ผู้บัญชาการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) และ พ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.11 รอ.) ว่า เหมือนเป็นการประกาศให้ผู้อื่นกระทำผิด คุกคามต่อเสรีภาพผู้อื่น คุกคามเจ้าหน้าที่ด้วยการโฆษณา ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ ไม่เหมาะสม และเป็นการแสดงออกถึงความก้าวร้าว ทั้งนี้ ทางกองทัพบก จะเร่งตรวจสอบและพิจารณาดำเนินการให้ถึงที่สุด รวมถึงจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามความคืบหน้า กรณีอาจเป็นผู้ต้องสงสัยความผิดในคดีอื่นๆด้วย

ทภ.3 แจ้งความเอาผิด"แดงเชียงใหม่"

พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงกรณี ที่กลุ่มเสื้อแดง เดินขบวนแห่ธงแดงขาว และชูป้ายผ้า สปป.ล้านนา ว่า การข่าวดังกล่าวทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ดำเนินการตรวจสอบมาโดยตลอด และเมื่อเห็นว่า เข้าข่ายรุนแรง ได้สั่งการให้มณฑลจังหวัดทหารบกเชียงใหม่ และมณฑลทหารบกพะเยา ไปดำเนินการแจ้งความตามกฎหมาย ในลักษณะฐานกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมาย อาญา 113 ที่ระบุ ว่า ผู้ใดใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร หรืออำนาจตุลาการ แห่งรัฐธรรมนูญ หรือให้ใช้อำนาจดังกล่าวแล้วไม่ได้ หรือแบ่งแยกราชอาณาจักร หรือยึดอำนาจปกครองในส่วนหนึ่งส่วนใดแห่งราชอาณาจักร ผู้นั้นกระทำผิดฐานเป็นกบฏ ต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต และมาตรา 114 ผู้ใดสะสมกำลังพล หรืออาวุธ ตระเตรียมการอื่นใด หรือสมคบกัน เพื่อเป็นกบฏ หรือยุยงราษฎร ให้เป็นกบฏ หรือรู้ว่า มีผู้จะเป็นกบฏ แล้วกระทำการใดอันเป็นการช่วยปกปิดไว้ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีหรือสิบห้าปี โดยทางมณทลทหารบกทั้ง 2 แห่ง ได้เข้าดำเนินคดีกับกลุ่ม สปป. ล้านนา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (2มี.ค.)

ขณะเดียวกันเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) ที่ผ่านมา ได้ใช้อำนาจผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในกองทัพภาคที่ 3 เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด เข้าประชุม เพื่อขอความร่วมมือในการช่วยสอดส่องดูแล และตรวจสอบการดำเนินการใดๆ อันจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 17 จังหวัดเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพไม่สามารถสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดได้ เพราะไม่ใช่ผู้บังคับบัญชาโดยตรง เพียงแต่ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัด และทางกองทัพภาคที่ 3 ได้จับตาดูพฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของกลุ่ม สปป. ล้านนา และกลุ่มรักเชียงใหม่อย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้านี้ให้กับผู้บัญชาการทหารบก รับทราบ ในการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก ซึ่งจะมีการประชุมในวันนี้ (3 มี.ค. )

แม่ทัพภาคที่ 3 ยืนยันว่า ทหารทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่เคยเลือกข้าง แต่การเคลื่อนไหวในพื้นที่ภาคที่ 3 ของบางกลุ่ม ที่อาจสร้างความเข้าใจผิดกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มสปป. ล้านนา ที่มีการตั้งเชื่อคล้ายกับการจัดตั้งรัฐใหม่ ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายอาญา และ รัฐธรรมนูญ

ปชป.ลั่นเอาผิด มท. 1 ยุบพรรค พท.

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การที่กลุ่มนปช. เสนอให้แบ่งแยกดินแดนว่า เรื่องนี้ทีมกฎหมายของกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และจะดำเนินการอย่างแน่นอน เนื่องจากมีความผิดฐานเป็นกบฏชัดเจน ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 1 ที่บัญญัติว่า ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ สามารถดำเนินคดีอาญาได้ รวมทั้งจะยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่บัญญัติว่า บุคคลจะใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญนี้ หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนี้มิได้ เพราะนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ขึ้นเวทีดังกล่าว พร้อมระบุว่าจะทำตามที่คนเสื้อแดงเสนอทุกอย่าง

" นอกจากนี้ ก็จะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ดำเนินการเรื่องนี้ด้วย เพราะนายจารุพงศ์ เป็น รมว.มหาดไทย เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 1 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ฐานเป็นกบฏ" นายวิรัตน์ กล่าว

จวกรัฐทำผิด 4 ข้อ พาชาติล้มเลว

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมวลชนที่สนับสนุนรัฐบาล ดำเนินการไม่ถูกต้องหลายประการ แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชิยวัตร นายกรัฐมนตรี ยังมีพฤติกรรมยักคิ้วหลิ่วตา ปล่อยให้มวลชนที่สนับสนุนตัวเอง ออกมามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการดังนี้

1 .ประกาศแบ่งแยกประเทศไทย โดยหลังมีคำประกาศนายกรัฐมนตรีไม่เคยพูดว่า จะดำเนินการอย่างไรกับผู้ที่มีแนวคิดขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ และกฎหมายอาญาหลายมาตรา แต่นายกฯ ปล่อยให้มีการนำเสนอแนวคิดแบ่งแยกประเทศไทยในรูปแปบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

2. มีการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธอย่างเปิดเผย จากมวลชนและแกนนำรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะควรมีกองกำลังติดอาวุธเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร หรือตำรวจ หรือที่กฎหมายกำหนดให้เท่านั้น

3. พยายามปลุกปั่นให้มีการใช่้ความรุนแรงระหว่างคนไทย เผยแพร่ตามโซเชียลออนไลน์ กระจายความคิดผ่านวิทยุชุมชน โดยเฉพาะภาคอีสานและภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง

4. พยายามชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน ดึงเลขาสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย

"น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น จะอ้างว่าเป็นแค่เรื่องวาทกรรม หรือการพูดเล่นไม่ได้ เพราะเมื่อมีการเผยแพร่ต่อสาธารณชนนั้น หมายถึงความผิดสำเร็จแล้ว นายกฯในฐานะผู้นำประเทศ ควรสั่งดำเนินการระงับยับยั้ง จัดการตามกฎหมายกับบุคคลที่กระทำการขัดรธน. ผิดกฎหมาย และไม่ถูกต้องชอบธรรม จึงหวังให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ หยุดยักคิ้วหลิ่วตา ทำให้ชาติเสียหาย แต่ต้องรักษาความสงบสุขเรียบร้อยให้เกิดในบ้านเมือง" นายองอาจ กล่าว

ชี้ "เสื้อแดง" สร้างเงื่อนไขรัฐประหาร

นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และกรรมการ กปปส. กล่าวว่า สถานการณ์การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง กำลังสร้างเงื่อนไขให้เกิดรัฐประหาร ไม่ว่าจะเป็นการเปิดประเด็นแบ่งแยกประเทศ การจัดตั้งกองกำลังชายฉกรรจ์ การชูธงคอมมิวนิสต์ การโจมตีสถาบันฯ ล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นที่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ ล้ำเส้นรัฐธรรมนูญชัดเจน

คนกลุ่มนี้ ปากบอกว่า ต้องการปกปัองประชาธิปไตย แต่กลับมีพฤติกรรมคุกคามศาล องค์กรอิสระ หรือส่งลิ่วล้อบริวารปิดสำนักงาน ป.ป.ช. ขบวนการเหล่านี้ทำงานสอดประสานกันภายใต้ทฤษฎีแก้ว 3 ประการ มีมวลชนเสื้อแดง มีพรรค มีกองกำลังติดอาวุธ แบ่งงานกันทำ จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกัน คงไม่มีใครเชื่อ

วันนี้ ทักษิณและแกนนำเสื้อแดง ก็รู้ดีว่ารัฐบาลที่พวกเขาเลือกมา บริหารประเทศไม่ผ่าน ไปต่อไม่ได้ แต่ก็ยากจะทำใจและยอมรับความจริง จึงฉวยโอกาสเบี่ยงเบนประเด็นเอาประชาธิปไตยมาอ้าง ตบตามวลชนเสื้อแดงต่อไป และชูธงแบ่งแยกประเทศ เพื่อพลิกจากตั้งรับเป็นรุก และข่มขู่ฝ่ายตรงข้าม

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. อาจจะเรียกกลุ่มที่คิดแบ่งแยกประเทศ เป็นเพียงกบฏน้ำลายก็ตาม แต่อย่าประมาท และมองข้าม เพราะชุดความคิดแบ่งแยกประเทศ มีร่องรอยความคิดตามทฤษฎี รัฐไทยใหม่ของ นปช. ซึ่งถ้าไปดูหลักสูตรโรงเรียนการเมืองของ นปช. จะเห็นภาพชัดเจนว่าประชาธิปไตย หรือรัฐไทยใหม่ ของคนเสื้อแดงบางกลุ่มและแกนนำบางคน หมายถึงอะไร

และกระแสนี้อาจซ้ำรอยกระแสล้มเจ้า ที่ใครๆ ก็คิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ของคนจำนวนน้อยนิด แต่ทุกวันลุกลามใหญ่โต และทำกันเป็นขบวนการ เพราะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบมองข้าม และประเมินต่ำไป

วานนี้ ( 2 มี.ค.)นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช. นำขบวนแรลลี่เคลื่อนพลคนรักประชาธิปไตย จากสนามทุ่งศรีเมือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี มาที่จ.กาฬสินธุ์ สมทบกับอดีตส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 6 เขต ไปตามถนนในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อแสดงพลังปกป้องประชาธิปไตย และไปเปิดเวทีค่ำวันเดียวกันใกล้กับบขส.ขอนแก่น แห่งที่ 3 ถนนเลี่ยงเมืองขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น

"บุญรื่น"ยันส.ส.อีสาน-เหนือไม่คิดแยกปท.

นางบุญรื่น ศรีธเรศ อดีตส.ส.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เป็นการเคลื่อนพลแบบสันติวิธี ไม่มีกองกำลังติดอาวุธ เปิดเผย เพื่อปกป้องประชาธิปไตย ส่วนที่มีผู้กล่าวอ้างว่าส.ส.ภาคอีสานและภาคเหนือ ปลุกระดมประชาชนแบ่งแยกประเทศนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยคิดที่จะทำด้วย แต่เป็นการปล่อยข่าวใส่ร้ายจากฝ่ายตรงข้าม เราคนไทยด้วยกัน ไม่เคยคิดแบ่งแยกประเทศ

ด้านนพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แกนนำเสื้อแดงขอนแก่น กล่าวว่า สัปดาห์หน้าหากสถานการณ์เอื้ออำนวย จะเคลื่อนพลที่ภาคเหนือใน จ.ลำพูน และจ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นจะรอการประกาศเคลื่อนพลเข้ากรุงเทพฯ เพื่อปกป้องประชาธิปไตย ขอให้สบายใจได้ว่าแนวทางของเรายังคงสันติวิธิ ไม่ใช้ความรุนแรงและไม่มีกองกำลังติดอาวุธ แต่จะจัดเป็นกองกำลังของประชาชนอย่างเปิดเผย ตรงไปตรงมา ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้าม ซึ่งไม่ใช่การท้าทายแต่อย่างไร

"แดงเชียงใหม่"รับทำจริงแบบ"จีน-ฮ่องกง"

ด้านเว็บไซต์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก รายงานข่าว "แดงรับแล้ว! ตั้งสปป.ล้านนา คุยมา 6 เดือน" โดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยืนยันว่า ทางกลุ่มหารือการจัดตั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนล้านนาหรือสปป.ล้านนา มากว่า 6 เดือน และโอกาสที่จะแบ่งแยกเป็นไปได้สูงตามเงื่อนไข 3 ข้อ คือ 1.การดูถูกความเป็นมนุษย์จากคนอีกกลุ่มในประเทศ 2.การไม่เคารพกฎหมาย และมีความเหลื่อมล้ำเกิดขึ้น 3.การไม่ปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ใช่การแบ่งแยกประเทศ เป็นเพียงการแบ่งแยกการปกครอง เหมือนกับจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกง ซึ่งสปป.ล้านนา คือ คนที่เคารพระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัติริย์ทรงเป็นประมุข ไม่เหยียดหยามดูถูกหรือเหยียบย่ำศักดิ์ศรีใคร เชื่อว่าประชาชนร้อยละ 80 ของ 8 จังหวัดภาคเหนือ หรือ 4 ล้านคนจาก 6 ล้านคนจะแสดงตัวสนับสนุน แม้จะไม่ใช่คนเสื้อแดง

นายเพชรวรรต กล่าวถึงกรณีคลิปเสียงของนายอภิชาต อินสอน หรือดีเจอ้วน ที่ข่มขู่ศิลปิน ดารา นักร้อง ห้างร้าน ที่ให้การสนับสนุนเวทีกปปส. ห้ามมาทำการแสดงหรือทำธุรกิจในจ.เชียงใหม่ ไม่เช่นนั้นจะเคลื่อนขบวนไปต้อนรับ และกลับไปได้เฉพาะตัว แต่หัวต้องอยู่ที่เชียงใหม่ว่า มีเหตุผลชัดเจนว่าถิ่นใครถิ่นมัน หากตนมีธุระไปกรุงเทพฯก็จะหลีกเลี่ยง ไม่ไปใกล้ เพราะรู้ว่าอันตราย ดังนั้นคนกปปส.ก็ควรรู้ตัวว่าเมื่อด่าพวกเราให้เสียหาย เราก็ไม่พอใจ จะมาเชียงใหม่เราก็มีสิทธิที่จะไม่ต้อนรับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะจับอาวุธเข้าทุบตี ก็แค่เตือนว่ามันอันตราย

"สองแคว"ขึ้นป้ายแช่งใครแยกปท.จงพินาศ

จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้นำป้ายข้อความต่อต้านการแบ่งแยกประเทศเป็นสปป.ล้านนา มาติดตามสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ป้ายข้อความ "พวกกูไม่ยอมให้พวกมึงมาแยกแผ่นดินพระนเรศวร ไปขึ้นกับดูไบโดยเด็ดขาด พวกมึงแบ่งแยกแผ่นดิน กบฏชัดเจนโทษประหารชีวิต" บนสะพานลอยข้ามถนนพิชัยสงคราม หน้าโรงเรียนวัดศรีวิสุทธาราม และถนนสิงหวัฒน์ หน้าที่ว่าการอำเภอเมือง หรือ "มีสติ สามัคคี สมานฉันท์ ชาวพิษณุโลกร่วมใจรักษาชาติไทย"

ซึ่งในหลายอำเภอที่มีการนำป้ายข้อความต่อต้านมาติดตั้งเช่นกัน เช่น อ.วังทอง มีป้ายข้อความ "ชาวอำเภอวังทอง จะไม่ยอมให้ใครมาแบ่งแยกแผ่นดินไทยโดยเด็ดขาด" ส่วนที่อ.เนินมะปราง มีป้าย "คนเนินมะปรางไม่ยอมให้ใครมาแยกแผ่นดินโดยเด็ดขาด ใครแยกประเทศจงพินาศ" และ "ลูกหลานพ่อขุนบางกลางท่าว และสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สำนึกรักในผืนแผ่นดินไทย ไม่สนับสนุนให้ใครมาแบ่งดินแดน"

เช่นเดียวกับที่อ.นครไทย ที่มีป้าย "ดินแดนไทยนี้ พ่อขุนศรีฯเป็นผู้สร้าง ให้ลูกหลานทุกคนได้อาศัย รักพ่อขุน ต้องรักษาเขตแดนไทย อย่าแบ่งแยก อย่าทำลาย บ้านเกิดเรา" มาติดที่ประตูเมืองบริเวณแยกบ้านแยง ต.บ้านแยง ถนนพิษณุโลก-หล่มสัก.
กำลังโหลดความคิดเห็น