นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นว่าตั้งแต่สหประชาชาติ ไปจนถึงหลายประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ ได้แสดงท่าที แสดงความห่วงใย และต้องการเห็นรัฐบาลเอาจริงเอาจัง กับความรุนแรงที่เกิดขึ้น และหาผู้ที่กระทำนั้น มาลงโทษ มารับผิดชอบให้ได้ การที่มีกองกำลังทหารเข้ามามีบทบาทในการดูความปลอดภัยของประชาชนมากขึ้น ด้วยการลาดตระเวนตามจุดต่างๆ ถือเป็นมาตรการหรือการแสดงท่าที ที่เพิ่มความอุ่นใจและความมั่นใจให้กับประชาชน
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จะให้ UN หรือ EU เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการเลือกตั้งในประเทศไทย ว่า นายสุรพงษ์ ก็คิดได้เท่านี้ การเลือกตั้งจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่นได้ ก็ต่อเมื่อคนไทยสามารถที่จะตกลงร่วมกันได้ ว่านั่นคือแนวทางที่จะต้องมาช่วยกันสนับสนุนให้เกิดทางออกของประเทศ และการที่ นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แถลงประนามการใช้ความรุนแรงในประเทศไทย เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงโดยทันที และให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ แสดงว่าเริ่มมองเห็นแล้วว่า มีกระบวนการทำร้ายประชาชนที่มาชุมนุม หรือฝ่ายที่ยืนตรงกันข้ามกับรัฐบาลอย่างเป็นระบบ ส่วนจะกดดันรัฐบาลแค่ไหน อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้รัฐบาลที่เคยหวังจะใช้ยูเอ็น เป็นเครื่องมือทางการเมืองของตัวเองนั้น ไม่น่าจะทำได้แล้ว และรัฐบาลจะยังไม่หยุดยั้งความรุนแรง เพราะดูจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา
" อย่าลืมว่า คนที่เขาอยู่เบื้องหลังความรุนแรงทั้งหลายนี้ เขาก็ยังคงมีเป้าหมายทางการเมืองของเขาอย่างชัดเจน ที่คุณยิ่งลักษณ์ ขึ้นเฟซบุ๊ก บอกว่าคนที่ก่อความรุนแรงนั้น ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ก็คงจะจริง แต่เสียดายว่า ไม่ระบุมาว่าเป็นฝ่ายไหน เพราะมันชัดเจนว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับคนที่เขามาเรียกร้องความถูกต้องในบ้านเมืองเลย"
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศยูเครน ที่คลี่คลายได้ เพราะพรรคร่วมย้ายข้าง และตำรวจ มายืนอยู่กับประชาชน ว่า ตนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งกลไกฝ่ายการเมือง และกลไกของรัฐ หากทหาร ตำรวจ ต้องเริ่มปฏิเสธการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่คนอื่นจะวางตัวอยู่ในสังคมว่า พร้อมจะรับใช้ระบอบทักษิณไปเรื่อยๆ หรือไม่จับตาดูต่อไป ซึ่งตนมั่นใจว่า แม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะร่ำรวยอย่างไรในที่สุดก็เอาชนะความถูกต้องไม่ได้
ส่วนที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมายอมรับว่า แนวคิดการแยกประเทศไทยออกเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ นั้นมีอยู่จริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะมีบางคนจุดความคิด ตนไม่เชื่อว่าคนไทย ทั้งเหนือ ใต้ หรือ อีสาน จะมีความรู้สึกว่าอยู่ร่วมกับคนภาคอื่นไม่ได้ เพราะโดยพื้นฐาน คนไทยรักสมานสามัคคี ยอมรับในความแตกต่าง ดังนั้น ต้องมีคนมาปลุกปั่น ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ต้องถือปัญหานี้เป็นปัญหาความมั่นคง และเข้าไปจัดการ
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จะให้ UN หรือ EU เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการเลือกตั้งในประเทศไทย ว่า นายสุรพงษ์ ก็คิดได้เท่านี้ การเลือกตั้งจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่นได้ ก็ต่อเมื่อคนไทยสามารถที่จะตกลงร่วมกันได้ ว่านั่นคือแนวทางที่จะต้องมาช่วยกันสนับสนุนให้เกิดทางออกของประเทศ และการที่ นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แถลงประนามการใช้ความรุนแรงในประเทศไทย เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงโดยทันที และให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ แสดงว่าเริ่มมองเห็นแล้วว่า มีกระบวนการทำร้ายประชาชนที่มาชุมนุม หรือฝ่ายที่ยืนตรงกันข้ามกับรัฐบาลอย่างเป็นระบบ ส่วนจะกดดันรัฐบาลแค่ไหน อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้รัฐบาลที่เคยหวังจะใช้ยูเอ็น เป็นเครื่องมือทางการเมืองของตัวเองนั้น ไม่น่าจะทำได้แล้ว และรัฐบาลจะยังไม่หยุดยั้งความรุนแรง เพราะดูจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา
" อย่าลืมว่า คนที่เขาอยู่เบื้องหลังความรุนแรงทั้งหลายนี้ เขาก็ยังคงมีเป้าหมายทางการเมืองของเขาอย่างชัดเจน ที่คุณยิ่งลักษณ์ ขึ้นเฟซบุ๊ก บอกว่าคนที่ก่อความรุนแรงนั้น ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ก็คงจะจริง แต่เสียดายว่า ไม่ระบุมาว่าเป็นฝ่ายไหน เพราะมันชัดเจนว่า ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับคนที่เขามาเรียกร้องความถูกต้องในบ้านเมืองเลย"
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศยูเครน ที่คลี่คลายได้ เพราะพรรคร่วมย้ายข้าง และตำรวจ มายืนอยู่กับประชาชน ว่า ตนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งกลไกฝ่ายการเมือง และกลไกของรัฐ หากทหาร ตำรวจ ต้องเริ่มปฏิเสธการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่คนอื่นจะวางตัวอยู่ในสังคมว่า พร้อมจะรับใช้ระบอบทักษิณไปเรื่อยๆ หรือไม่จับตาดูต่อไป ซึ่งตนมั่นใจว่า แม้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะร่ำรวยอย่างไรในที่สุดก็เอาชนะความถูกต้องไม่ได้
ส่วนที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมายอมรับว่า แนวคิดการแยกประเทศไทยออกเป็นไทยเหนือ ไทยใต้ นั้นมีอยู่จริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะมีบางคนจุดความคิด ตนไม่เชื่อว่าคนไทย ทั้งเหนือ ใต้ หรือ อีสาน จะมีความรู้สึกว่าอยู่ร่วมกับคนภาคอื่นไม่ได้ เพราะโดยพื้นฐาน คนไทยรักสมานสามัคคี ยอมรับในความแตกต่าง ดังนั้น ต้องมีคนมาปลุกปั่น ซึ่งฝ่ายความมั่นคง ต้องถือปัญหานี้เป็นปัญหาความมั่นคง และเข้าไปจัดการ