หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้รัฐบาลเอาแต่อยากเลือกตั้งให้จบ ทั้งที่ยูเอ็นประณามใช้ความรุนแรง อดใช้เป็นเครื่องมือการเมือง ชี้ “ยิ่งลักษณ์” บอกคนทำเพื่อประโยชน์ทางการเมืองจริง แต่เสียดายปากแข็งไม่ยอมบอกฝ่ายไหน หวังทุกฝ่ายร่วมกันหาทางออกตามรอยยูเครน บี้ฝ่ายความมั่นคงจัดการพวกปลุกปั่นแบ่งแยกประเทศ ตามที่พรรคเพื่อไทยยอมรับ
วันนี้ (26 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นว่าตั้งแต่สหประชาชาติไปจนถึงหลายประเทศ ได้ออกแถลงการณ์ ได้แสดงท่าที แสดงความห่วงใย และต้องการเห็นรัฐบาลเอาจริงเอาจังกับความรุนแรงที่เกิดขึ้น และหาผู้ที่กระทำนั้นมาลงโทษมารับผิดชอบให้ได้ การที่มีกองกำลังทหารเข้ามามีบทบาทในการดูความปลอดภัยของประชาชนมากขึ้นด้วยการลาดตระเวนตามจุดต่างๆ ถือเป็นมาตรการหรือการแสดงท่าทีที่เพิ่มความอุ่นใจและความมั่นใจให้กับประชาชน
ส่วนที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ จะให้ UN หรือ EU เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการเลือกตั้งในประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นายสุรพงษ์ ก็คิดได้เท่านี้ การเลือกตั้งจะเดินหน้าไปอย่างราบรื่นได้ ก็เมื่อคนไทยสามารถที่จะตกลงร่วมกันได้ว่านั่นคือแนวทางที่จะต้องมาช่วยกันสนับสนุนให้เกิดทางออกของประเทศ และการที่ นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น แถลงประณามการใช้ความรุนแรงในประเทศไทย เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงโดยทันที และให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ แสดงว่าเริ่มมองเห็นแล้วว่ามีกระบวนการทำร้ายประชาชนที่มาชุมนุม หรือฝ่ายที่ยืนตรงกันข้ามกับรัฐบาลอย่างเป็นระบบ ส่วนจะกดดันรัฐบาลแค่ไหนอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้รัฐบาลที่เคยหวังจะใช้ยูเอ็นเป็นเครื่องมือทางการเมืองของตัวเองนั้น ไม่น่าจะทำได้แล้ว และรัฐบาลจะยังไม่หยุดยั้งความรุนแรง เพราะดูจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา
“อย่าลืมว่าคนที่เขาอยู่เบื้องหลังความรุนแรงทั้งหลายนี้ เขาก็ยังคงมีเป้าหมายทางการเมืองของเขาอย่างชัดเจน ที่คุณยิ่งลักษณ์ขึ้นเฟซบุ๊กบอกว่าคนที่ก่อความรุนแรงนั้น ทำเพื่อประโยชน์ทางการเมือง ก็คงจะจริง แต่เสียดายว่าไม่ระบุมาว่าเป็นฝ่ายไหน เพราะมันชัดเจนว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับคนที่เขามาเรียกร้องความถูกต้องในบ้านเมืองเลย”
นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศยูเครน ที่คลี่คลายได้เพราะพรรคร่วมย้ายข้าง และตำรวจมายืนอยู่กับประชาชน ว่า ตนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายช่วยกันทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ทั้งกลไกฝ่ายการเมือง และกลไกของรัฐ หากทหาร ตำรวจ ต้องเริ่มปฏิเสธการใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่คนอื่นจะวางตัวอยู่ในสังคมว่า พร้อมจะรับใช้ระบอบทักษิณไปเรื่อยๆ หรือไม่จับตาดูต่อไป ซึ่งตนมั่นใจว่า แม้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะร่ำรวยอย่างไรในที่สุดก็เอาชนะความถูกต้องไม่ได้
ส่วนที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมายอมรับว่าแนวคิดการแยกประเทศไทยออกเป็นไทยเหนือ ไทยใต้นั้นมีอยู่จริง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ความคิดดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะมีบางคนจุดความคิด ตนไม่เชื่อว่า คนไทยทั้งเหนือ ใต้ หรือ อีสาน จะมีความรู้สึกว่าอยู่ร่วมกับคนภาคอื่นไม่ได้ เพราะโดยพื้นฐาน คนไทยรักสมานสามัคคี ยอมรับในความแตกต่าง ดังนั้นต้องมีการปลุกปั่น ซึ่งฝ่ายความมั่นคงต้องถือปัญหานี้เป็นปัญหาความมั่นคง และเข้าไปจัดการ