สลด! เด็กวัย 5 ขวบสังเวยชีวิต เหตุคนร้ายปาระเบิด-ยิงถล่ม กปปส.ตราด อีกรายอายุเท่ากันเซลสมองตาย "อีโอดี" ตรวจที่เกิดเหตุชี้ระเบิดเอ็ม 26 ใช้ในราชการทหาร ผู้ว่าฯประกาศพื้นที่ภัยพิบัติก่อการร้าย แกนนำยุติเวทีชั่วคราว ขณะที่ กปปส.ราชประสงค์โดนอีก บึ้มหน้าห้างบิ๊กซีราชดำริตาย 2 ศพ เด็กวัย 4 ปีเคราะห์ร้ายดับด้วย อีก 2 คนต้องผ่าตัด ศาลรัชดาฯ เจอเอ็ม 79 อีกลูก กปปส.ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลทรราช วอนมวลชน อดทน อดกลั้น อย่าใช้ความรุนแรงตอบโต้
จากเหตุคนร้ายใช้รถกระบะ 2 คันเป็นพาหนะ ปาระเบิดและยิงกราดใส่กลุ่มคนที่กำลังนั่งรับประทานอาหาร และฟังการอภิปรายเวทีรวมพลคนไทยหัวใจรักชาติ ของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ตราด ที่ตลาดยิ่งเจริญ หมู่ 1 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง จ.ตราด เหตุเกิดเวลา 21.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่า 30 คนนั้น
มื่อเวลา 11.30 น. วานนี้(23 ก.พ.)ที่ศาลากลางจังหวัดตราด น.ส.เบญจวรรณ อ่านเปรื่อง ผู้ว่าราชการจังหวัด นายพยัคฆพันธุ์ โพธิแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัด และพล.ต.ท.ถิสทัต บูรณรัช ผบก.ภ.จว. ร่วมกันแถลงข่าว โดยน.ส.เบญจวรรณ กล่าวว่า เป็นเหตุอุกฉกรรจ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะสถานการณ์การเมืองในจ.ตราด ไม่ได้มีความรุนแรง ซึ่งยอดผู้ได้รับบาดเจ็บ 35 ราย เป็นชาย 17 ราย หญิง 14 ราย เป็นเด็กชาย-หญิง 4 ราย ผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 1 ราย คือ ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ พรหมชัย อายุ 5 ปี 1 เดือน หลานของนายนคร บุญชู เหยื่อระเบิดครั้งนี้เช่นกัน อยู่บ้านเลขที่ 63/1 หมู่ 4 ต.แสนตุ้ง ซึ่งมีบาดแผลที่ศรีษะ เสียชีวิตเมื่อเวลา 02.00 น. ที่โรงพยาบาลตราด ส่วนด.ญ.ณัฐยา หรือน้องขิม รอสูงเนิน อายุ 5 ขวบ ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลระยอง และอยู่ระหว่างใส่เครื่องช่วยหายใจ อีกรายอยู่ในอาการโคม่า
เบื้องต้นจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากการก่อการร้าย และเตรียมช่วยเหลือแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บรายละ 2,500 บาท ผู้เสียชีวิตและครอบครัวรายละ 25,000 บาท สำหรับร้านค้าที่เสียหายให้แจ้งต่อทางอำเภอเขาสมิงเพื่อช่วยเหลือต่อไป
พล.ต.ต.ถิร์สทัต กล่าวว่า ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ แต่ได้จัดชุดปฏิบัติการหาข่าวและติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อสอบสวนถึงสาเหตุในการก่อเหตุสะเทือนขวัญ
จากนั้นน.ส.เบญจวรรณและคณะเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลตราด โดยแต่ละรายยังอยู่ในอาการตกใจ และขวัญเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยผู้ได้รับบาดเจ็บ 35 ราย แพทย์ให้กลับบ้าน 5 ราย นอนที่โรงพยาบาล 29 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพตราด 6 ราย โรงพยาบาลตราด 22 ราย ส่งต่อโรงพยาบาลระยอง 1 ราย คือ ด.ญ.ณัฐยา วัย 5 ขวบ ถูกยิงที่ศีรษะทะลุ รักษาตัวอยู่ที่ตึกฉัตรแก้ว 2 ยังไม่รู้สึกตัว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
หมอ รพ.ชี้ 5 ขวบอีกรายเซลสมองตาย
เวลา 17.30 น. น.พ.ประสิทธิ์ ทองสดายุ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม และน.พ.วิชุ ลัทธิวงศกร ศัลยแพทย์ระบบประสาท โรงพยาบาลระยอง ร่วมกันเปิดเปยอาการของด.ญ.ณัฐยา ว่าเหลือสมองทำงานน้อยมาก กระสุนปืนเข้าที่ท้ายทอยซ้าย หัวกระสุนฝังบริเวณขมับด้านขวา วิถีกระสุนผ่านสมองทั้ง 2 ข้าง ขณะนี้สมองหยุดทำงาน เซลสมองตายแล้ว ความดันต่ำลงเรื่อยๆ ตอนนี้ก็ได้แต่รักษาไปตามอาการ และใช้เครื่องช่วยหายใจ จากการพูดคุยกับป้าของเด็กก็ไม่อยากให้ทำอะไร ซึ่งเขายอมรับได้ แต่ญาติไม่อนุญาตให้นักข่าวสัมภาษณ์และถ่ายรูปด.ญ.ณัฐยา แม้แต่ฟิล์มเอ็กซเรย์ก็ไม่อนุญาต
ด้านความคืบหน้าของคดีนั่น พ.ต.อ.วุฒิชัย อนันต์ รองผบก.ภ.จว.ตราด พ.ต.อ.สิทธิพร โพธิทอง พ.ต.อ.วีรพันธ์ รักษาทัพ รองผบก.ภ.จว. มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยมีพ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑะศรี ผกก.เขาสมิง และนายพยัคฆพันธ์ โพธิแก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมรับฟังข้อมูล และสั่งการให้นำหลักฐานจากกล้องวงจรปิดของเทศบาลตำบลแสนตุ้งมาตรวจสอบ
"อีโอดี" ชี้เอ็ม 26 ใช้ในราชการทหาร
พ.ต.อ.จิระวุฒิ กล่าวว่า จากกล้องวงจรปิดหน้าตลาดยิ่งเจริญ พบว่ามีรถคันหนึ่งวิ่งเข้ามา เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนที่นั่งอยู่ในกระบะ2-3 คนทำท่าลุกขึ้นมา แล้วก็เลยผ่านกล้องไป ไม่เห็นตอนยิงหรือขว้างระเบิด ซึ่งกำลังตรวจสอบทะเบียนรถทั้งสองคัน
ขณะที่ตำรวจชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด(อีโอดี)ภ.จว.ตราด 10 นาย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยหัวหน้าชุดอีโอดี กล่าวว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้ ซึ่งในชั้นแรกระบุว่าเป็นชนิดเอ็ม 29 ผลิตรัสเซียนั้น ล่าสุดขณะนี้ยืนยันแล้วว่าเป็นเอ็ม 26 ผลิตในสหรัฐอเมริกา มีใช้ในราชการทหารเท่านั้น โดยกระเดื่องระเบิด มีการขูดลบรหัสทิ้งเพื่อไม่ให้ตรวจสอบได้ นอกจากนี้ยังมีร่องรอยกระสุนปืนตามหลังคากว่า 10 รู ซึ่งกำลังตรวจสอบวิถีการยิงโดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน
ผบ.หน่วยซีลปัดให้ข่าวฝีมือต่างชาติ
วันเดียวกันมีข่าวทางสื่อออนไลน์ ว่าพล.ร.ต.วินัย กล่อมอินทร์ ผบ.หน่วยสงครามพิเศษทางเรือหรือหน่วยซีล แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ พร้อมระบุว่าเตือนแล้วเรื่องกองกำลังต่างชาติมันโหดเหี้ยม เตือนแล้วว่ามันเข้ามา คาดไม่ถึงจะกล้าทำแบบนี้ ไม่ต้องคิดมากว่าใครทำ
ผู้สื่อข่าวASTVผู้จัดการรายวัน โทรศัพท์สอบถามไปยังพล.ร.ต.วินัย ได้รับคำตอบว่าไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อแขนงใดทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะไม่พูดเรื่องนี้อีกแล้ว
เหยื่อเผยนาทีสังหารเสียงร้องระงม
ด้านนายยืนยง เกตปราชญ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 1 ต.แสนตุ้ง อ.เขาสมิง พ่อค้าขายหอยทอด ติดกับร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว เล่าถึงนาทีชีวิตว่า ระหว่างที่เวทีกปปส.กำลังปราศรัยโจมตีรัฐบาล ก็มีลูกค้ามากินก๋วยเตี๋ยวและหอยทอดกว่า 20 คน และมีประชาชนส่วนหนึ่งอยู่ที่ร้านขายเฟอร์นิเจอร์ไม้ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเวที ขณะนั้นมีรถกระบะ 2 คัน คันหนึ่งเป็นรถมิตซูบิชิ สีบรอนซ์ ชะลอรถแล้วโยนระเบิดเข้ามาทางร้านก๋วยเตี๋ยว 2 ลูก ลูกแรกตกที่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยว อีกลูกตกห่างไปประมาณ 5 เมตร ใกล้กับรถจักรยานยนต์ เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว และคันหลังมีคนนั่งอยู่ในกระบะหลายคนและใส่หมวกคลุมศีรษะ ใช้อาวุธปืนระดมยิงเข้ามายังหน้าเวทีกปปส. ตนได้หมอบหลบด้านหน้ารถยนต์ที่จอดอยู่ เมื่อคนร้ายขับรถหนีไป จึงลุกขึ้นมาวิ่งตาม เห็นรถทั้ง 2 คันขับออกไปอย่างรวดเร็ว มุ่งหน้าไปยังอำเภอเมืองตราด
"ผมวิ่งกลับมาเห็นคนล้มระเนระนาดอยู่บนพื้น ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด โดยเฉพาะแม่ค้าขายบะหมี่ล้มฟุบอยู่บริเวณที่ถูกระเบิด รถขายก๋วยเตี๋ยวเสียหาย ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มารักษาความปลอดภัย ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกันอย่างโกลาหล ภรรยาของผมก็ได้รับบาดเจ็บที่ขาขวาด้วย"
ส่วนนายสมคิด บุญชู เจ้าของร้านชายสี่บะหมี่เกี๊ยว กล่าวว่า ภรรยาและลูกรวม 6 คนได้รับบาดเจ็บด้วย โดยขณะเกิดเหตุภรรยาและลูกช่วยกันทำก๋วยเตี๋ยว ตนยืนอยู่ห่างๆ ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น และมีเสียงปืนตามมา หันไปด็ก็พบภรรยาและลูกได้รับบาดเจ็บแล้ว เช่นเดียวกับลูกค้าที่นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่หน้าร้าน
นายนคร บุญชู บุตรชายนายสมคิด กล่าวว่า ครอบครัวตนได้รับความเดือนร้อนมาก เพราะญาติพี่น้องบาดเจ็บทั้ง 7 คน ทำมาหากินไม่ได้ ทรัพย์สินและอุปกรณ์ประกอบอาชีพเสียหาย ทั้งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ จึงขอความเห็นใจจากผู้รับผิดชอบด้วย
ขณะที่นายลือเกษ ยิสารคุณ ประธานสภาทนายความจังหวัดตราด เข้าพบนายนครที่โรงพยาบาล โดยกล่าวว่า เหตุลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในจ.ตราด ถือเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ซึ่งทางสภาทนายความพร้อมให้ความช่วยเหลือเรียกร้องค่าเสียหาย ซึ่งจะใช้หลักเกณฑ์เหมือนกลุ่มเสื้อแดง
แกนนำเชื่อเชือดไก่ให้ลิงดู-ยุติชั่วคราว
ด้านนายชัยวัฒน์ ปริ่มผล แกนนำกปปส.ตราด กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าละอายของการเมืองตราด เพราะที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุทำนองนี้มาก่อน แม้จะมีความขัดแย้งทางความคิดกันอย่างไรก็ไม่เคยมุ่งเอาชีวิตกันถึงขนาดนี้ คนที่ทำไม่น่าจะใช่คนตราด และต้องการอะไรจึงทำให้เกิดความเสียหายขนาดนี้ น่าเชื่อว่าคงไม่ต้องการให้กปปส.ตราด เคลื่อนไหวอีก ทั้งยังต้องการข่มขู่ คุกคาม สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้ที่จะมาร่วมงานกับกปปส. จึงเชือดไก่ให้ลิงดู
"กปปส.ตราดหารือกันแล้วมีมติว่าจะหยุดเคลื่อนไหวสักระยะหนึ่งก่อน เพื่อความปลอดภัยของชาวตราด ส่วนจะมีการเคลื่อนไหวเมื่อไหร่และอย่างไร จะประสานงานกันอีกครั้ง"
เชื่อผู้มีอำนาจทำหวังคง พ.ร.ก.
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นเหตุต่อเนื่องหลังศาลแพ่งมีคำสั่งห้าม 9 ข้อเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ไม่ให้ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ปฏิบัติตามประกาศควบคุมการชุมนุมของกปปส. จึงไม่ใช่เรื่องปกติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องรับผิดชอบ หากไม่ดำเนินการใดๆจะทำให้ประชาชนสงสัยได้ว่า เป็นความประสงค์ของน.ส.ยิ่งลักษณ์หรือไม่ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ราย บาดเจ็บกว่า 600 ราย แต่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ ต่างจากกรณีนายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ที่ตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนเหมือนกรณีที่เกิดกับกปปส.
"เชื่อว่าจะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่ใจว่าผู้มีอำนาจต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อคงการใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 หรือไม่"
นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ โฆษกกปปส. แถลงแสดงความเสียใจ พร้อมประณามผู้ก่อเหตุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าไม่ได้เป็นการปะทะกันระหว่างมวลชน หรือมวลชนกับเจ้าหน้าที่ ขณะที่ประชาชนไม่ได้พกพาอาวุธ ขณะเดียวกันคนร้ายใช้อาวุธสงคราม ไม่ใช่กลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับกปปส. แต่เป็นกองกำลังติดอาวุธที่วางแผนมาอย่างดี จึงขอเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งจับกุมคนร้ายให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาลแสดงความรับผิดชอบ เพราะมีหน้าที่ดูแลไม่ให้เกิดความรุนแรง
บึ้มบิ๊กซีราชดำริดับ2มีเด็ก4ขวบอีก
เวลา 17.10 น. เกิดเหตุระเบิดที่เวทีราชประสงค์ หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ ใกล้ด่านของการ์ดกปปส. ศูนย์เอราวัณรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 24 คน โดยเป็นเด็กถึง 3 คน อาการสาหัส 2 คน นำส่งโรงพยาบาลราชวิถี 6 คน โรงพยาบาลรามาธิบดี 8 คน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 5 คน และโรงพยาบาลพญาไท 1 อีก 5 คน
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถตุ๊กตุ๊ก ทะเบียน สค 2780 มีเด็กนั่งมา 3 คนมาจอดตรงจุดเกิดเหตุ และเกิดระเบิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุคนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในห้างสรรสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงปิดห้าง และให้ทุกคนออกจากพื้นที่
พ.ต.อ.ไชยา คงทรัพย์ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวภายหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่าพบสะเก็ดระเบิดกระจายในรัศมี 10 เมตร โดยชุดอีโอดีและผู้เชี่ยวชาญวัตถุระบิดของทหารระบุเป็นลูกระเบิด ลย 40 ยิงมาจากเครื่องยิงลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 วิถีการยิงมาจากที่สูง
ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นหญิงอายุประมาณ 40 ปี ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลพญาไท 1 และเด็กชายอายุ 4 ขวบ ที่นำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี
เวลา 19.30 น. รศ.นพ.สุรศักดิ์กล่าวว่า เด็กชายวัย 4 ขวบเสียชีวิตเนื่องจากมีอาการสาหัสมาก แรงระเบิดทำให้กะโหลกศีรษะแตกจนเห็นเนื้อสมอง มีภาวะตกเลือดในช่องท้องมาก แพทย์ช่วยปั๊มหัวใจเป็นชั่วโมง ส่วนรายที่ 2 เป็นเด็กชายอายุ 9 ขวบ มีบาดแผลที่ต้นคอ และรายที่ 3 เป็นเด็กหญิงอายุ 6 ขวบ มีภาวะตกเลือดในช่องท้อง อยู่ในห้องผ่าตัด ซึ่งอยากฝากทุกคนอย่านำเด็กไปร่วมชุมนุม หรือเข้าใกล้สถานที่ชุมนุม เพราะหากเกิดเหตุขึ้นเด็กไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ปฏิบัติการยิงเอ็ม79หวังถล่มศาลอีกรอบ
ก่อนหน้านี้ เวลาประมาณ 13.00 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 เข้ามาภายในรั้วที่ทำการศาลรัชดาฯ ลูกระเบิดตกใส่ใต้ต้นไม้ ระหว่างศาลอุทธรณ์กับศาลอาญา แต่ระเบิดไม่ทำงาน พนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน พร้อมชุดอีโอดีเข้าตรวจสอบพบว่ายังใช้งานได้ สาเหตุที่ไม่ระเบิดคาดว่าลูกระเบิดยังไม่ได้รอบการทำงาน สันนิษฐานว่า คนร้ายยิงในระยะใกล้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงทำลายแล้ว
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ยังไม่ยืนยันว่ามีผู้ยิงหรือนำมาวางไว้เพื่อต้องการข่มขู่ ซึ่งจะประสานขอภาพกล้องวงจรปิดมาตรวจสอบ หลังก่อนหน้านี้มีผู้ก่อเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ชั้น 7 ศาลอาญามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งจากนี้จะหารือแนวทางการเฝ้าระวังและอารักขาผู้พิพากษากับเลขาธิการศาลยุติธรรมอีกครั้ง แต่เบื้องต้นได้จัดกำลังตั้งจุดตรวจค้นเส้นทางรอบพื้นที่ศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก เน้นเฝ้าระวังจุดระยะ 400 เมตร ที่เป็นระยะยิงหวังผลของระเบิดชนิดเอ็ม 79
ส่วนความคืบหน้าคนร้ายขว้างระเบิดบริเวณแยกประตูน้ำ ใกล้พื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม กปปส.เวทีราชประสงค์ พบว่าเป็นระเบิดชนิดเดียวกับที่ด่านตรวจความมั่นคง สน.บางนา จับกุมได้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากหมายเลขของระเบิดตรงกัน เชื่อว่ามีที่มาจากแหล่งเดียวกัน แต่ต้องขอเวลาในการขยายผล
มือมืดวางเพลิงหน้าคลินิกหมอนิรันดร์
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี เวลา 03.30 น. วันที่ 23 ก.พ. ร.ต.อ.โสภณ ประดา ร้อยเวรสภ.เมือง รับแจ้งมีคนร้ายวางเพลิงหน้าคลินิกนพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เลขที่ 353 ถนนสรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง โดเพลิงกำลังลุกไหม้ บริเวณโคนเสาปูนด้านซ้ายของคลินิก ละทำท่าจะลุกลามผ่านประตูเหล็กเข้าไปด้านใน ซึ่งเป็นที่ตั้งของตู้เก็บเวชระเบียนคนไข้ คนร้ายจึงตักน้ำจากอ่างเลี้ยงปลาหน้าประตูมาดับไฟก่อนหลบหนีไป
ขณะเกิดเหตุประชาชนที่ขับรถผ่าน ได้โทรศัพท์แจ้งหน่วยกู้ชีพ 1669 มาช่วยกันดับไฟให้ดับสนิท ก่อนเรียกนพ.นิรันดร์ที่นอนอยู่ในบ้านมาดูความเสียหาย พบว่าเพลิงได้เผากระเบื้องบริเวณโคนเสาหลุดร่อนออกมา จึงแจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุ
นพ.นิรันดร์ กล่าวว่า สาเหตุคงเป็นเพราะไม่พอใจการทำหน้าที่กสม. ที่ไปตรวจสอบการสลายการชุมนุมของกปปส. ซึ่งขอยืนยันว่าเป็นการทำตามหน้าที่ ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ขอให้ผู้ทำได้เข้าใจ เพราะการกระทำเช่นนี้ไม่เป็นผลดี เพราะเพลิงอาจลุกลามไปติดบ้านใกล้เคียงด้วย แต่เชื่อว่าคนลงมือยังมีจิตสำนึก เพราะเมื่อเพลิงทำท่าลุกลามก็รีบนำน้ำมาดับไฟ จึงขอให้อยู่กันอย่างสงบสุข และปล่อยให้ตนทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายต่อไป
ทั้งนี้ นพ.นิรันดร์เคยถูกข่มขู่มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 5-6 ปีก่อน ดดยมีคนไม่พอใจนำสีแดงมาสาดใส่บ้าน ซึ่งนพ.นิรันดร์ยังเก็บรอยที่ถูกสาดสีใส่ไว้ที่พื้นหน้าบ้าน เพราะต้องการให้เป็นอุทธาหรณ์เตือนใจคนที่ทำ และครั้งนี้คาดว่าเป็นคนที่รู้จักนพ.นิรันดร์ด้วย
ตร.เชื่อข่มขู่เหตุไฟลามกลับช่วยดับ
เช้าวันเดียวกัน พ.ต.ท.สามารถ สีสุนนท์ สารวัตรพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.อุบลราชธานี เข้าเก็บหลักฐานที่คนร้ายใช้วางเพลิง พบมีกระดาษพ็อกเกตบุ๊ก ผ้าขนหนู และขวดน้ำอัดลมขนาดเล็กที่ใช้บรรจุน้ำมัน โดยเจ้าหน้าที่สันนิษฐานต้องการเพียงข่มขู่ เพราะเมื่อเกิดเพลิงลุกไหม้และมีท่าทีจะลอดผ่านประตูเหล็กม้วน คนร้ายก็ตักน้ำจากอ่างเลี้ยงปลามาราดดับไฟก่อนจะหลบหนีไป เมื่อหน่วยกู้ชีพ 1669 มาถึงก็พบเพียงควันจากกองเศษกระดาษและผ้า จึงนำน้ำมาดับให้สงบ ซึ่งจะได้ส่งหลักฐานไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 จ.นครราชสีมา เพื่อตรวจแหล่งที่มาของกระดาษและผ้าขนหนู รวมทั้งหาสารจากคราบน้ำมันว่าเป็นน้ำมันประเภทใด โดยใช้เวลา 2-3 สัปดาห์
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สมพจ ขอมปรางค์ รองผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี มาดูที่เกิดเหตุพร้อมระบุว่าได้รับคำสั่งจาก พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สืบหาตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดี เบื้องต้นได้นำกล้องวงจรปิดจากตึกที่อยู่ติดกับคลินิกไปตรวจสอบ แต่ไม่เห็นใบหน้าคนร้าย เนื่องจากมีไม้ระแนงกั้นระหว่างตัวตึก ซึ่งในอนาคตอาจนำกล้องมาติดตั้งเพื่อให้เห็นความเคลื่อนไหวบริเวณดังกล่าว เพราะตรงข้ามกับคลินิก มีร้านอาหารเวียดนามชื่อดัง ซึ่งผู้หลักผู้ใหญ่ในท้องถิ่นและส่วนกลางมาใช้บริการบ่อย
อัด"ยิ่งลักษณ์"ทรราชเต็มขั้น
เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ ที่เวที ปทุมวัน กลุ่มแกนนำกปปส. อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก นำมวลชนยืนไว้อาลัยให้ ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ พรหมชัย ผู้เสียชีวิตในการชุมนุมเวที กปปส. ที่ ตลาดยิ่งเจริญ จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยบรรยากาศของการชุมนุมเป็นไปอย่างโศกเศร้า มีประชาชนบางส่วนร่ำไห้กับการจากไปของ ด.ญ.ฬิฬาวัลย์ ในครั้งนี้
จากนั้น นายสาทิตย์ ได้กล่าวแถลงการณ์หัวข้อ คำขาดต่อรัฐบาลทรราช หยุดเข่นฆ่าประชาชน ว่า จากเหตุการณ์ล่าสุด ที่สมุนรัฐบาลทรราช น.ส.ยิ่งลักษณ์ ใช้ระเบิดขว้างใส่ประชาชนที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อเย็นวันที่ 23 ก.พ. และการใช้อาวุธสงครามกราดยิงใส่ประชาชน ปาระเบิดที่เวทีชุมนุม กปปส. จ.ตราด เมื่อคืนวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เป็นพฤติการณ์ก่อการร้ายที่อุจอาจ สะท้อนความอำมหิตไร้ปราณีของผู้ก่อเหตุ
ด้วยความเหิมเกริมลำพองว่า มีผู้มีอำนาจรัฐที่อยู่เหนือกฎหมายคอยปกป้อง เป็นเรื่องสะเทือนใจประชาชนผู้ชุมนุมโดยสงบด้วยสองมือเปล่า ที่ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยม โดยเฉพาะด.ญ.วัย 5 ขวบ ที่เสียชีวิตขณะวิ่งเล่นใกล้ร้านก๋วยเตี๋ยว
ในนามมวลมหาประชาชน กปปส.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังครอบครัว ญาติพี่น้องของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และขอประณามผู้ก่อเหตุซึ่งจะเป็นใครไม่ได้ นอกจกสมุนบริวาร ทาสรับใช้ระบอบทักษิณ ความรุนแรงดังกล่าวที่จงใจก่อขึ้นต่อเนื่อง และกระชั้นถี่ หลังศาลแพ่งมีคำสั่งห้าม 9 ข้อ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา ไม่ให้ ศรส.ใช้ความรุนแรง กับกลุ่มกปปส. กลับปรากฏว่า เกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายครั้ง รวมถึงการใช้อาวุธสงครามยิงร้านคาร์แคร์ใกล้ ศรส. ซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติ และเชื่อว่าจะมีเหตุรุนแรงตามมีอีกเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลทรราช ยังคงบงการให้ท้ายสมุน สร้างสถานการณ์ให้สอดรับกับการพยายามใช้ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อปราบปรามประชาชนต่อไป ทั้งที่เราชุมนุมยึดแนวทางสันติ อหิงสา เหตุร้ายต่างๆ เกิดขึ้นตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนบาดเจ็บกว่า 700 คน เสียชีวิตแล้วกว่า 10 ราย แต่รัฐบาลทรราชย์ยังเพิกเฉย ไม่มีคำขอโทษ ไร้สำนึกความรับผิดชอบ แต่ปัดป้องโยนความผิดให้พ้นตัวว่าเป็นมือที่สาม ทั้งที่จงใจก่อความรุนแรง เพื่อหยุดยั้งทำลายขวัญมวลมหาประชาชนให้เกิดความหวาดกลัวต่ออำนาจรัฐที่ชั่วร้ายของตนและเหล่าสมุน หวังแค่จะครองอำนาจทุจริต ย่ำยีประเทศ และข่มเหงรังแกประชาชนคนไทยต่อไป ไม่มีที่สิ้นสุด
เราขอบอกว่า เหล่าทรราช ไม่สามารถหยุดยั้งมวลมหาประชาชนได้ เพราะมีเจตนาแน่วแน่ที่จะล้างระบอบทักษิณให้สิ้นจากแผ่นดินไทย พวกเรายังคงหนักแน่นมั่นคง เพื่อในที่สุดรัฐบาลทรราชจะต้องพ่ายแพ้ ด้วยน้ำมือของมวลมหาประชาชน เราจะเดินหน้าขจัดระบอบทักษิณ และรัฐบาลทรราชยิ่งลักษณ์ อย่างเด็ดเดี่ยวมั่นคงต่อไป เพื่อให้อุดมการณ์ของวีรชนผู้พลีชีพทุกคนสัมฤทธิ์ผล ด้วยจิตคาราวะ กปปส. 23 ก.พ. 57
จากนั้น นายสุเทพ ได้นำมวลชนวางดอกไม้หน้าป้ายชื่อของผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า
ขอมวลชนอดกลั้นอย่าใช้ความรุนแรงโต้
ต่อมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวว่า ในนามของมวลมหาประชาชน ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ร่วมอาลัยน้องที่เสียชีวิตที่ จ.ตราด ขอให้พวกเราช่วยสวดมนต์ให้กับผู้บาดเจ็บเหล่านั้นได้ปลอดภัยด้วย ตนอยากเรียนว่า ไม่เคยคิดว่าประเทศไทยของเรา จะมีคนโหดเหี้ยมอำมหิต มีจิตใจที่ไม่เหมือนมนุษย์สังหารได้แม้แต่เด็กเล็กเพียง 5 ขวบ เพียงเพื่อที่จะรักษาอำนาจในการปกครองประเทศ โดยที่ไม่เห็นคุณค่าชีวิตของประชาชน เมื่อคืนที่ อ.เขาสมิง ใกล้กับเวลาที่ตนปราศรัยอยู่นั้น พี่น้อง กปปส.ตราด ได้จัดเวที่คู่ขนาดเช่นเดียวกับในหลายๆ จังหวัด และไม่ได้มีสัญญาณใดๆ มาก่อนเลย ว่าจะมีการกระทำโหดเหี้ยมเช่นนี้
นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มต่อสู้เพื่อขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ขจัดระบอบทักษิณ ทางฝ่ายรัฐบาลก็ได้ใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน เริ่มจากเหตุการณ์สังหาร น.ศ.รามคำแหง และมีผู้บาดเจ็บกว่า 60 คน ต่อมาที่สนามกีฬาดินแดง ก็มีการปราบปรามด้วยความรุนแรง และทำให้เสียชีวิตอีกราย บาดเจ็บ 23 ราย ถัดมาเพียงสองวัน ก็มีการตามไปลอบฆ่าที่เวที คปท. และไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็ขว้างระเบิดใส่ประชาชนเรา ที่ถนนบรรทัดทอง ทำให้นายประคอง ชูจันทร์ เสียชีวิต ขว้างระเบิดใส่เวทีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ สองลูก ต่อมายิงแกนนำที่ บางนา เหตุการณ์ต่างๆ ที่สร้างมาทั้งหมดนั้น เพียงเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเอาอำนาจกฎหมาย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ปราบปรามประชาชน แต่พี่น้องทหารทั้งสามเหล่าทัพ ไม่ร่วมมือ จึงเหลือเพียงตำรวจที่ทำงานให้ระบอบทักษิณ กระทั่งศาลแพ่งได้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ไม่ให้รัฐบาลปฏิบัติการเกินกว่าเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐไม่ได้ฟังคำสั่งศาล วันที่ 14 ก.พ. ก็ยังมีระดมกำลังกวาดล้างปราบปรามประชาชน เกิดเหตุที่เวทีแจ้งวัฒนะ แต่ว่ากระทำการไม่สำเร็จ วันที่ 18 ก.พ. ก็ระดมกำลังใหม่ แล้วก็เข้าปราบปรามอย่างโหดเหี้ยม ที่สะพาน
ผ่านฟ้าลีลาศ จนประชาชนเสียชีวิตไป 4 ราย บาดเจ็บกว่า 60 ราย
การกระทำของฝ่ายรัฐบาลไม่เคารพยำเกรงคำสั่งศาล จึงหันมาใช้วิธีก่อการร้าย มีการขว้างระเบิด มีผู้บาดเจ็บทั้งที่ตราด และล่าสุดที่เวทีราชประสงค์อีกครั้ง ตนทราบข่าวก่อนขึ้นเวที โดยมีผู้บาดเจ็บ 22 คน เสียชีวิตไปแล้ว 2 คน รายหนึ่งเป็นผู้หญิงเสียที่ รพ.พญาไท 1 อีกหนึ่งรายเป็นเด็กชายอายุ 4 ปีกับ 8 เดือน ที่น่าเศร้าคือ มีเด็กอีก 2 คนอาหารสาหัส อยู่ในห้องไอซียูของรพ.รามา คนหนึ่งอายุ 6 ปี พี่สาวของเด็กชายผู้เสียชีวิต เลือดออกในช่องท้อง ยังอยู่ในไอซียู อีกคน เป็นเด็กผู้ชายอายุ 9 ปี ได้รับบาดเจ็บที่สมองกระทบกระเทือนมาก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นเรื่องของพวกที่จนตรอก ไม่สามารถจะใช้วิธีการปราบปรามโดยเจ้าหน้าที่ได้ จึงได้ใช้คนร้ายออกมาทำการเข่นฆ่าสังหารประชาชนแทน ไม่นึกว่าคนที่อ้างว่าเป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้ง จะกระทำการโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ และยังแสดงออกในลักษณะดีใจที่ประชาชนบาดเจ็บล้มตาย
ในเวลาที่พวกเราบาดเจ็บและเสียชีวิต ขอให้พวกเรามีสติ และยึดมั่นในแนวทางสันติ อหิงสา ไม่ใช้อาวุธ แนวทางเรายึดถือเป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว และขอให้มั่นใจในแนวทาง ขอให้พี่น้องอดทนอดกลั้นต่อไป สิ่งที่คนพวกนี้ได้กระทำต่อประชาชน ด้วยอาวุธสงครามและความรุนแรง โดยไม่ได้หวั่นเกรงกฎหมายบ้านเมืองเพราะลำพองเห็นว่ามีอำนาจรัฐปกป้องคุ้มครองอยู่ ทุกคดีตำรวจไม่เคยจับใครได้ เราจะฟ้องดำเนินคดี และตั้งกองทุนให้การศึกษากับเด็กครอบครัวผู้เสียชีวิต เราจะดูแลเด็กกำพร้าเหล่านั้นแทนพ่อของเขา ให้ได้เรียนหนังสือ
ประกาศล่าตัวยิ่งลักษณ์ต่อ
นายสุเทพ กล่าวว่า ตั้งแต่เช้าวันนี้ (24 ก.พ.) เราจะออกติดตามหาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ได้ พร้อมกับอธิบายว่า พวกเราไม่ใช่คนใจโหดเหี้ยมไม่คิดจะไปเข่นฆ่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ต้องการไปบอกว่า เพราะเราทำทุกอย่างแล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำเป็นไม่เห็น เราจึงจำเป็นต้องไปตามหาให้เจอ โดยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เราจะไปบอกเพื่อให้ได้ยินกับหูตัวเองเพื่อให้รู้ว่า ไม่มีความชอบธรรมทางกฎหมายที่จะรักษาการต่อไป เราจะไปพูดกรอกหูให้ได้ยิน
นอกจากนี้ จะออกรณรงค์ทั่วกรุงเทพฯ ให้ร่วมกันปฏิบัติการ ตัดท่อน้ำเลี้ยงตระกูลชินวัตร ไม่ให้มาเป็นทุนสามานย์ทำร้ายประเทศไทยอีกต่อไป เราจะประกาศให้โลกรู้ว่า ธุรกิจทั้งหลายของตระกูลชินวัตร เป็นที่มาขอความวิบัติเสียหายของบ้านเมือง เพราะทุนเหล่านี้เองที่เอามาใช้ในทางการเมือง ใช้อำนาจเงินซื้ออำนาจในทางการเมือง ใช้อำนาจเงินจ้างให้คนร่วมโกง ร่วมทุจริตทางการเมือง โดยเอาอำนาจมาฉ้อโกงแผ่นดิน และประชาชน ที่เรียกกันว่าระบอบทุนสามานย์
ปฏิบัติการต่อไปคือ รณรงค์กับข้าราชการทั้งหลาย ทั้งพลเรือน และตำรวจ แม้แต่ข้าราชการทหาร โปรดดูเถิดว่า ขอให้พี่น้องข้าราชการออกมาร่วมกับประชาชนเสียแต่วันนี้ อย่าให้บ้านเมืองยับเยินไปกว่านี้เลย
นายสุเทพ ยังฝากบอกไปถึง กปปส.ต่างจังหวัด ขอให้มีความระมัดระวังรอบคอบ หากไม่มั่นใจก็อย่าไปจัด หรือหากสู้ไม่ไหว ก็ให้เคลื่อนมาร่วมกันสู้ที่กรุงเทพฯ และพี่น้องที่กรุงเทพฯ ก็ต้องเพิ่มความระวังให้มากขึ้น เราจะสู้จนกว่ายิ่งลักษณ์ออกไป และนำอำนาจคืนสู่พี่น้องประชาชน
"ปู"โพสต์เฟซบุ๊กประณามมือระเบิด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า ดิฉันขอประณามการใช้ความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ทั้งที่จังหวัดตราด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บริเวณราชประสงค์ เพราะทำให้เด็กเสียชีวิต ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจ และสะเทือนใจมาก ดิฉันขอแสดงความเสียใจต่อผู้ที่บาดเจ็บ และต่อญาติมิตรของผู้ที่เสียชีวิต การกระทำเช่นนี้ ถือเป็นการก่อการร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงชีวิตคน รัฐบาลจะไม่ยินยอม และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการหาผู้กระทำผิดโดยเร็ว และไม่มีข้อยกเว้น
ดิฉันขอวิงวอนต่อทุกฝ่ายว่า ในทางการเมืองเราอาจเห็นต่างได้ และการแสดงออกเพื่อให้เห็นถึงความไม่เห็นด้วยนั้นทำได้หลายวิธี แต่การใช้ความรุนแรง จนมีผู้เสียชีวิตไม่ใช่วิถีของอารยชน ไม่ใช่วิถีของคนไทย ที่มีความเอื้ออาทร และเมตตากรุณาต่อเพื่อนร่วมชาติ มากกว่าการคิดเข่นฆ่าประหัตประหารกัน ดิฉันขอให้ทุกฝ่ายหันมาใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหาความขัดแย้งตามครรลองของประชาธิปไตย จะเป็นการดีที่สุด