กระสุนปืนเพียงไม่กี่นัด ระเบิดเพียงลูกเดียว ทำให้การสลายการชุมนุมของมวลชนกองทัพธรรมบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ เกิดความพลิกผันในพริบตา
จากสถานการณ์ตำรวจกำลังฮึกเหิมไล่ทุบ ไล่ตี ทำร้ายทรัพย์สินของประชาชน ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนถล่มใส่ประชาชนอย่างไม่ยั้ง กลับต้องถอยร่นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไม่เหลือศักดิ์ศรีแต่อย่างใด
ระเบิดที่ตกลงกลางกลุ่มตำรวจจนล้มกันระเนนระนาด กระสุนปืนที่จับเป้าหมายตำรวจบางคนอย่างแม่นยำจนเสียชีวิต ทำให้แผนสลายการชุมนุมเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่มทันที
ตำรวจคงไม่คาดคิดว่า จะถูกตอบโต้อย่างรุนแรงขนาดนี้ และแม้แต่กลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งผู้ที่ติดตามสถานการณ์จากหน้าจอทีวี คงประเมินเหมือนกันว่า
กองทัพธรรมต้องถูกสลายแน่ หรือแม้แต่ผู้ชุมนุมกลุ่ม คปท.คงทานกำลังตำรวจไม่ไหว ถูกสลายภายในวันเดียวกัน แต่ขณะที่ประชาชนกำลังเพลี่ยงพล้ำ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายก็ออกมาช่วย
ไม่มีความจำเป็นที่ตำรวจจะต้องพกอาวุธสงครามสวมหมวกอำพรางใบหน้า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กระบองไล่ตีประชาชนที่นั่งสวดมนต์ประจันหน้า ไม่มีความจำเป็นที่ตำรวจจะเที่ยวใช้มีดกรีดทำลายเต็นท์ของผู้ชุมนุม
และไม่มีความจำเป็นใดเลยที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาพร้อมกระสุนปืนใส่ผู้ชุมนุม
กองกำลังไม่ทราบฝ่ายเปิดฉากตอบโต้ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและปืนใส่ประชาชนที่ชุมนุม
ตำรวจที่ถูกล็อกเป้ายิง มีรายงานว่า เป็นตำรวจที่สาดกระสุนใส่กองทัพธรรม
ไม่สามารถระบุว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ตอบโต้ตำรวจจนถอยร่นไม่เป็นขบวน เป็นใคร มาจากไหน และอาจไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องรู้ก็ได้
รู้เพียงเป็นฝ่ายเดียวกับ กปปส.ก็พอ
ปฏิบัติการปกป้องประชาชนจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่ม “โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานีที่ได้รับการคุ้มครองจากตำรวจ นำชายฉกรรจ์ประมาณ 300 คน พร้อมอาวุธครบมือ เตรียมถล่มกลุ่มหลวงปู่พุทธะอิสระ บริเวณแยกหลักสี่
แต่ถูกกลุ่มชายนิรนามยิงสกัดจนโกตี๋วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ไพร่พลที่ยกมาแตกกระเจิง
การถูกตอบโต้ในลักษณะตาต่อตา ฟันต่อฟัน คงทำให้ตำรวจต้องประเมินมาตรการสลายการชุมนุมใหม่ เพราะจะใช้ความรุนแรงไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีกลุ่มนิรนามพร้อมจะออกมาปกป้องประชาชนที่มีแต่มือเปล่า
ภาพถ่ายและหลักฐานบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ ที่เผยแพร่ออกไปทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่า ตำรวจเป็นฝ่ายเปิดฉากใช้อาวุธก่อน ยิงใส่ผู้ชุมนุมด้วยปืนนานาชนิด ปลอกกระสุนปืนลูกซองตกเกลื่อน ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 4 ราย ขณะที่ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย
การปะทะเดือดที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ ช่วงสายวันที่ 18 กุมภาพันธ์ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม เพราะมีคนพร้อมออกมาตอบโต้ด้วยความรุนแรงเหมือนกัน เพื่อปกป้องประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ
ตำรวจกลัวตายยิ่งกว่าประชาชนเสียอีก เพราะหลังจากเจอของแข็ง ก็ถอยกันไม่เป็นขบวน จนแตกทัพไปคนละทิศละทาง
ปฏิบัติการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงอาจไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะตำรวจระดับล่างเริ่มมีคำถามแล้วว่า ทำไมต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง ทำไมต้องเป็นศัตรูกับประชาชน
ตำรวจมีลูกมีเมีย มีครอบครัวที่ต้องห่วงใย การทำให้ประชาชนเสียเลือดเสียเนื้อ และถูกเกลียดชัง ไม่เป็นผลดีต่อตำรวจและครอบครัว
ตำรวจส่วนใหญ่ อึดอัดที่ถูกสั่งให้เดินทางมาสลายการชุมนุม เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับประชาชน แต่ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ได้
เสียงปืนเพียงไม่กี่นัด เสียงระเบิดเพียงลูกเดียว จึงทำให้ตำรวจแตกพ่าย เพราะใจไม่อยากจะสู้อยู่แล้ว
ธุระอะไรที่ต้องเอาชีวิตมาทิ้ง เพื่อให้นายตำรวจระดับสูงนั่งเสวยสุขจากการเป็นขี้ข้ารับคำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเป็นอะไรที่ต้องเสี่ยงเสียเลือดเสียเนื้อ เพื่อให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั่งอย่างสบายในตำแหน่ง
ใครจะเจ็บใครจะตาย ทุกเย็น “เฉลิม” ก็จิบไวน์ราคาแพงตามปกติ
เหตุการณ์บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ สะท้อนให้เห็นแล้วว่า ตำรวจชั้นผู้น้อยต้องเสี่ยงภัยขนาดไหน เพียงเพื่อให้รัฐบาลทรราชอยู่ต่อไป
ส่วนนายตำรวจระดับสูงที่รับคำบงการเข่นฆ่าประชาชน อาจได้รับการปูนบำเหน็จด้วยเงินก้อนโต พร้อมเสนอยศและตำแหน่งใหญ่ที่สูงขึ้นหรือมีตำแหน่งทางการเมืองไว้ล่อใจการเป็นขี้ข้ารับใช้
ตำรวจชั้นผู้น้อยทั้งประเทศกำลังเกิดความรู้สึกต่อต้านคำสั่งที่มิชอบมากขึ้น ทำไมต้องเป็นขี้ข้าคนอย่างร.ต.อ.เฉลิม ทำไมต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อค้ำยันอำนาจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเป็นอะไรที่จะต้องเปิดสงครามประหัตประหารกับประชาชน
และเมื่อมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่พร้อมออกมาปกป้องประชาชนที่ถูกรังแก ตำรวจที่ถูกเกณฑ์มาสลายการชุมนุมยิ่งตกอยู่ในอันตราย
ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุด นับตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.มีจำนวนทั้งสิ้น 14 ศพ บาดเจ็บกว่า 700 คน ซึ่งมีทั้งตำรวจและประชาชน
ต้นตอของโศกนาฏกรรมที่พี่น้องคนไทยต้องฆ่ากันเอง เกิดจากรัฐบาลทรราชและนักการเมืองขี้ข้าชั้นต่ำอย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง”
ตำรวจชั้นผู้น้อยยังเต็มใจรับคำสั่งอำมหิต ไล่ฆ่าประชาชนอยู่อีกหรือ จะเปิดสงครามกับคนทั้งประเทศเพื่อปกป้องรัฐบาลเลวๆ นักการเมืองชั่วๆ หรือ
จากสถานการณ์ตำรวจกำลังฮึกเหิมไล่ทุบ ไล่ตี ทำร้ายทรัพย์สินของประชาชน ยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนถล่มใส่ประชาชนอย่างไม่ยั้ง กลับต้องถอยร่นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต ไม่เหลือศักดิ์ศรีแต่อย่างใด
ระเบิดที่ตกลงกลางกลุ่มตำรวจจนล้มกันระเนนระนาด กระสุนปืนที่จับเป้าหมายตำรวจบางคนอย่างแม่นยำจนเสียชีวิต ทำให้แผนสลายการชุมนุมเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ล่มทันที
ตำรวจคงไม่คาดคิดว่า จะถูกตอบโต้อย่างรุนแรงขนาดนี้ และแม้แต่กลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งผู้ที่ติดตามสถานการณ์จากหน้าจอทีวี คงประเมินเหมือนกันว่า
กองทัพธรรมต้องถูกสลายแน่ หรือแม้แต่ผู้ชุมนุมกลุ่ม คปท.คงทานกำลังตำรวจไม่ไหว ถูกสลายภายในวันเดียวกัน แต่ขณะที่ประชาชนกำลังเพลี่ยงพล้ำ กองกำลังไม่ทราบฝ่ายก็ออกมาช่วย
ไม่มีความจำเป็นที่ตำรวจจะต้องพกอาวุธสงครามสวมหมวกอำพรางใบหน้า ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กระบองไล่ตีประชาชนที่นั่งสวดมนต์ประจันหน้า ไม่มีความจำเป็นที่ตำรวจจะเที่ยวใช้มีดกรีดทำลายเต็นท์ของผู้ชุมนุม
และไม่มีความจำเป็นใดเลยที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาพร้อมกระสุนปืนใส่ผู้ชุมนุม
กองกำลังไม่ทราบฝ่ายเปิดฉากตอบโต้ เพียงไม่กี่นาทีหลังจากตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและปืนใส่ประชาชนที่ชุมนุม
ตำรวจที่ถูกล็อกเป้ายิง มีรายงานว่า เป็นตำรวจที่สาดกระสุนใส่กองทัพธรรม
ไม่สามารถระบุว่า กองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่ตอบโต้ตำรวจจนถอยร่นไม่เป็นขบวน เป็นใคร มาจากไหน และอาจไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องรู้ก็ได้
รู้เพียงเป็นฝ่ายเดียวกับ กปปส.ก็พอ
ปฏิบัติการปกป้องประชาชนจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่กลุ่ม “โกตี๋” แกนนำคนเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานีที่ได้รับการคุ้มครองจากตำรวจ นำชายฉกรรจ์ประมาณ 300 คน พร้อมอาวุธครบมือ เตรียมถล่มกลุ่มหลวงปู่พุทธะอิสระ บริเวณแยกหลักสี่
แต่ถูกกลุ่มชายนิรนามยิงสกัดจนโกตี๋วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน ไพร่พลที่ยกมาแตกกระเจิง
การถูกตอบโต้ในลักษณะตาต่อตา ฟันต่อฟัน คงทำให้ตำรวจต้องประเมินมาตรการสลายการชุมนุมใหม่ เพราะจะใช้ความรุนแรงไม่ได้แล้ว เนื่องจากมีกลุ่มนิรนามพร้อมจะออกมาปกป้องประชาชนที่มีแต่มือเปล่า
ภาพถ่ายและหลักฐานบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ ที่เผยแพร่ออกไปทั่วโลก สะท้อนให้เห็นว่า ตำรวจเป็นฝ่ายเปิดฉากใช้อาวุธก่อน ยิงใส่ผู้ชุมนุมด้วยปืนนานาชนิด ปลอกกระสุนปืนลูกซองตกเกลื่อน ทำให้ประชาชนเสียชีวิต 4 ราย ขณะที่ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย
การปะทะเดือดที่บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ ช่วงสายวันที่ 18 กุมภาพันธ์ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบการใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม เพราะมีคนพร้อมออกมาตอบโต้ด้วยความรุนแรงเหมือนกัน เพื่อปกป้องประชาชนที่ชุมนุมโดยสงบ
ตำรวจกลัวตายยิ่งกว่าประชาชนเสียอีก เพราะหลังจากเจอของแข็ง ก็ถอยกันไม่เป็นขบวน จนแตกทัพไปคนละทิศละทาง
ปฏิบัติการสลายการชุมนุมด้วยความรุนแรงอาจไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว เพราะตำรวจระดับล่างเริ่มมีคำถามแล้วว่า ทำไมต้องเอาชีวิตมาเสี่ยง ทำไมต้องเป็นศัตรูกับประชาชน
ตำรวจมีลูกมีเมีย มีครอบครัวที่ต้องห่วงใย การทำให้ประชาชนเสียเลือดเสียเนื้อ และถูกเกลียดชัง ไม่เป็นผลดีต่อตำรวจและครอบครัว
ตำรวจส่วนใหญ่ อึดอัดที่ถูกสั่งให้เดินทางมาสลายการชุมนุม เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับประชาชน แต่ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงไม่ได้
เสียงปืนเพียงไม่กี่นัด เสียงระเบิดเพียงลูกเดียว จึงทำให้ตำรวจแตกพ่าย เพราะใจไม่อยากจะสู้อยู่แล้ว
ธุระอะไรที่ต้องเอาชีวิตมาทิ้ง เพื่อให้นายตำรวจระดับสูงนั่งเสวยสุขจากการเป็นขี้ข้ารับคำบงการของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเป็นอะไรที่ต้องเสี่ยงเสียเลือดเสียเนื้อ เพื่อให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั่งอย่างสบายในตำแหน่ง
ใครจะเจ็บใครจะตาย ทุกเย็น “เฉลิม” ก็จิบไวน์ราคาแพงตามปกติ
เหตุการณ์บริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ สะท้อนให้เห็นแล้วว่า ตำรวจชั้นผู้น้อยต้องเสี่ยงภัยขนาดไหน เพียงเพื่อให้รัฐบาลทรราชอยู่ต่อไป
ส่วนนายตำรวจระดับสูงที่รับคำบงการเข่นฆ่าประชาชน อาจได้รับการปูนบำเหน็จด้วยเงินก้อนโต พร้อมเสนอยศและตำแหน่งใหญ่ที่สูงขึ้นหรือมีตำแหน่งทางการเมืองไว้ล่อใจการเป็นขี้ข้ารับใช้
ตำรวจชั้นผู้น้อยทั้งประเทศกำลังเกิดความรู้สึกต่อต้านคำสั่งที่มิชอบมากขึ้น ทำไมต้องเป็นขี้ข้าคนอย่างร.ต.อ.เฉลิม ทำไมต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อค้ำยันอำนาจของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จำเป็นอะไรที่จะต้องเปิดสงครามประหัตประหารกับประชาชน
และเมื่อมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายที่พร้อมออกมาปกป้องประชาชนที่ถูกรังแก ตำรวจที่ถูกเกณฑ์มาสลายการชุมนุมยิ่งตกอยู่ในอันตราย
ตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุด นับตั้งแต่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.มีจำนวนทั้งสิ้น 14 ศพ บาดเจ็บกว่า 700 คน ซึ่งมีทั้งตำรวจและประชาชน
ต้นตอของโศกนาฏกรรมที่พี่น้องคนไทยต้องฆ่ากันเอง เกิดจากรัฐบาลทรราชและนักการเมืองขี้ข้าชั้นต่ำอย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง”
ตำรวจชั้นผู้น้อยยังเต็มใจรับคำสั่งอำมหิต ไล่ฆ่าประชาชนอยู่อีกหรือ จะเปิดสงครามกับคนทั้งประเทศเพื่อปกป้องรัฐบาลเลวๆ นักการเมืองชั่วๆ หรือ