ASTV ผู้จัดการรายวัน-ตำรวจรวมหัวบิดเบือน ป้ายสีการ์ด กปปส. รุมทำร้าย "ดาบติ" ทำให้ต้องชักปืนยิงป้องกันตัว "แจ๊ด"สั่งดำเนินคดีทั้งสองฝ่าย เผยคดียิงถล่ม "สุทิน" มีความคืบหน้าเร็วๆ นี้ ด้านเครือข่ายอาสาสมัครการแพทย์ตบหน้าบิ๊กตำรวจ แฉผู้ชุมนุมถูกยิงก่อน จึงรุมสกรัม "หมอพรทิพย์"ลงพื้นที่ตรวจหลักฐาน มึนมาสังเกตการณ์ ทำไมต้องพกปืน พกระเบิด ล่าสุดคนร้ายลอบยิง M79 ใส่ผู้ชุมนุมห้าแยกลาดพร้าว บาดเจ็บ 1 ราย
หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. นำโดยนายชุมพล จุลใส และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นำกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน เดินขบวนไปชุมนุมที่บริเวณหน้าสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้เกิดเหตุการณ์ ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ชุดสืบสวนของ บก.น.2ยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีการตอบโต้กลับจนทำให้ ด.ต.คงเพชร ได้รับบาดเจ็บ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่า ด.ต.คงเพชร ได้ปลอมตัวเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อปฏิบัติหน้าที่ถ่ายภาพการชุมนุมบริเวณดังกล่าว ต่อมาการ์ดผู้ชุมนุมได้ขอค้นตัว และได้มีการต่อต้านไม่ยอมให้ค้นตัว จึงทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายกันขึ้น และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วน ด.ต.คงเพชร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ปาก สำหรับในส่วนของผู้ชุมนุม กปปส. ได้มีการประสานไปแล้ว ยังไม่ได้มีการสอบปากคำ รวมถึงหลักฐานของกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับ
*** "แจ๊ด"ป้องดาบตร.ถูกรุมยำก่อน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวว่า ต้นสังกัดได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนตำรวจนครบาลที่ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ปะทะกันหน้าสโมสรทหารบกแล้ว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัตน์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการสอบสวนเป็นหัวหน้าชุดสอบสวนและให้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบโดยเร็ว
ขณะนี้ ด.ต.คงเพชร ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีอาการหนัก ยังไม่สามารถให้การได้ ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงาน พร้อมกับดูภาพจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันในโซเชียลมีเดีย พบว่า ด.ต.คงเพชร เข้าไปในพื้นที่ เพราะได้รับมอบหมายให้ไปสืบสวนหาข่าวในที่ชุมนุม แล้วถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายจนจวนตัว จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ผู้ชุมนุมเพื่อป้องกันตัว ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหากับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งต้องรอสรุปการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน
***ยันคดียิง "สุทิน"ใกล้มีความคืบหน้า
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เสียชีวิตบริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยมเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า ฝ่ายสืบสวนสอบสวนนครบาลกำลังดำเนินการอยู่ โดยร่วมกับคณะทำงานของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนในคดีนี้ โดยอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
***เครือข่ายอาสาแพทย์ตบหน้าตร.บิดเบือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ ซึ่งได้ส่งหน่วยแพทย์และกู้ภัยอาสาเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ได้เปิดเผยถึงเหตุการความรุนแรงหน้าสโมสรของทัพบกว่า จากมุมมองของอาสาทางการแพทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ข้อมูลที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงนั้น มีการบิดเบือน โดยระบุว่า ด.ต.คงเพชร ยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมก่อน พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะเป็นฝ่ายใด อาสาสมัครจะดูแลโดยไม่แบ่งแยก
รูปจากเหตุการณ์จริงที่สโมสร ทบ. (ผ่านสายตาของอาสาทางการแพทย์) หลังจากเสียงปืนดังขึ้น มีคนเจ็บ และมีคนเห็นว่ามีคนยิงปืน ทุกคนไม่กลัวพยายามตามจับคนที่ยิงปืนให้ได้ (ตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าคนที่ยิงเป็นตำรวจ เพราะเค้าใส่เสื้อวินมอเตอร์ไซค์) เรื่องจริง คือ ตำรวจนายนี้ไม่ได้ถูกการ์ดทำร้ายก่อนหน้าที่ยิงปืนแต่อย่างใด (ซึ่งข่าวที่ออกมาจาก ศรส. ก่อนหน้านี้ว่าถูกการ์ดทำร้ายก่อนนั้น บิดเบือนจากความจริง) ผู้ชุมนุมตามจับคนที่ยิงปืนได้ ด้วยความโกรธผู้ชุมนุมบางคนจึงรุมประชาทัณฑ์จนบาดเจ็บที่ศีรษะ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทีมอาสาทางการแพทย์ จึงเข้าไปพาตัวออกมา เพื่อนำส่งผู้บาดเจ็บ รวมถึงคนร้ายด้วย (อย่างที่บอกว่าเราไม่เคยแบ่งแยกในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เป็นใครเราก็ต้องช่วยค่ะ) ผู้ชุมนุมบางส่วนอารมณ์ค้าง ทำให้เจ้าหน้าที่เราต้องใช้ตัวเองเข้าไปป้องกันคนร้ายไม่ให้บาดเจ็บมากขึ้น แม้ว่าจะทำให้เราเจ็บ เราก็ต้องเสียสละ หนึ่งในทีมอาสาสมัครของเราคือ คุณโป้ง ถูกลูกหลงผู้ชุมนุมเตะมาถูกแขน จนแขนบวม อย่างไรก็ตาม เราก็ดีใจที่สามารถนำตัวคนร้าย (ที่ทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ) ส่ง รพ.ได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น หน้าที่ของเราก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ ก็คือ การดูแลประชาชนทุกฝ่ายโดยไม่แบ่งแยก
***"หมอพรทิพย์"ร่วมตรวจหลักฐาน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางตรวจสอบหลักฐานจากเหตุการณ์การยิงที่หน้าสโมสรทหารบก พร้อมกล่าวว่า มาตรวจสอบหลักฐาน ในฐานะคนกลางและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อเก็บภาพหลักฐานจากวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม., ลูกกระสุน 1 แมกกาซีน, ประทัดยักษ์, วิทยุสื่อสาร, กุญแจมือ และเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งหลังจากตรวจสอบหลักฐานแล้ว จะนําข้อมูลหลักฐานทั้งหมดนี้ส่งมอบให้ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบหลักฐานต่อไป
เบื้องต้นการพิสูจน์หลักฐานไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้จากลายนิ้วมือ เพราะมีการจับต้องวัตถุทั้งหมดด้วยมือเปล่าแล้ว แต่การพิสูจน์หลักฐานยังมีวิธีการอื่น เช่น การตรวจหมายเลขเครื่องของวิทยุสื่อสารที่ต้องมีการลงทะเบียน ซึ่งจะทําให้ทราบถึงบุคคลที่จดทะเบียน หากเป็นของหน่วยงานรัฐ ก็จะต้องมีการสอบถามในการมอบวิทยุสื่อสารเครื่องนี้ให้บุคคลใดในการปฏิบัติหน้าที่ และ หากเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่จริง ประทัดยักษ์ก็ไม่ควรที่จะพกเข้ามาในพื้นที่ด้วย
***M79 ถล่มเวทีกปปส.แยกลาดพร้าว
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 04.00 น. ได้เกิดเหตุเสียงระเบิดดังสนั่นในพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เวที 5 แยกลาดพร้าว ฝั่งสวนจตุจักร ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้ให้การ์ดเข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า มีคนร้ายได้ยิงระเบิด คาดว่าเป็นระเบิดชนิดเอ็ม 79 เข้ามาตกข้างอาคารระบายอากาศ รถไฟฟ้าใต้ดิน ภายในสวนจตุจักร ใกล้กับจุดพักค้างแรมของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งมีผู้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่แขน 1 ราย และรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน รวมถึงช่องระบายอากาศรถไฟฟ้าใต้ดินได้รับความเสียหายบางส่วน
พร้อมกันนี้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสะเก็ดระเบิดยิงขนาด 40 มม. หรือเอ็ม 79 มีรัศมีอันตรายหลังจากตกกระทบแล้ว 5 เมตร ระยะหวังผล 200 เมตร และ สามารถยิงได้ไกลสุด 400 เมตร เบื้องต้นคาดว่ายิงมาจากฝั่งถนนกำแพงเพชร 3
***คดีชายคล้ายการ์ดกปปส.ถูกฆ่าคืบหน้า
ที่ สน.ประชาชื่น พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 กล่าวถึงกรณีพบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 35-45 ปี มีรอยสักเต็มตัวสวมเสื้อยืดการชุมนุม สกรีนภาพอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีข้อความ “2557 ปฏิวัติประเทศไทย” ข้อมือขวามีสายรัดลายธงชาติ ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณข้างถนนกำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ห่างจากวัดเสมียนนารีประมาณ 200 เมตร ว่า จากการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ รวมทั้งทะเบียนประวัติอาชญากรของผู้ตาย พบว่า ผู้ตาย คือ นายบุญเที่ยง คำอิ่ม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 4 ต.วังชมพู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยถูกดำเนินมา 5-6 คดี ในข้อหาลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ในหลายท้องที่ แต่เชื่อว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นการตาย ยังระบุไม่ได้ เป็นไปได้ทั้งเรื่องทะเลาะวิวาท และการเมือง
***ปชป.หอบคลิป"สุทิน" โดนยิงฟ้อง"ยูเอ็น"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนตะวันออกเฉียงใต้ของสหประชาชาติ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าประเทศไทยมีรัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีพฤติกรรมเผด็จการ ปล่อยให้ประชาชนถูกสังหารเหี้ยมโหด สนับสนุนให้มีกองกำลังทำร้ายประชาชน สิ่งเหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ต้องการฟ้องต่างประเทศ แต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดในสถานการณ์ประเทศ โดยจะคลิปภาพเหตุการณ์ที่นายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท. ถูกกยิงจนเสียชีวิตบริเวณวันศรีเอี่ยมไป ยื่นประกอบในครั้งนี้ด้วย
**แดงน่านเหิมสั่งผู้ว่าฯปลดป้ายปฏิรูป
กลุ่มคนเสื้อแดงแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) น่าน 8 คน นำโดยร.ต.ต.สมศักดิ์ แพทย์สมาน ยื่นหนังสือถึงนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการ จ.น่าน เรียกร้องให้สั่งปลดป้ายสนับสนุน "ให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" ที่โรงพยาบาลน่าน และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่ได้นำมาติดไว้หน้าอาคาร อ้างว่าเป็นสถานที่ราชการ เป็นข้อความก่อให้เกิดความแตกแยก เป็นข้าราชการได้รับค่าตอบแทนจากภาษีของประชาชน และไม่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงขอให้ปลดป้ายออก หากไม่ดำเนินการ จะแสดงพลังวันที่ 31 ม.ค. เพื่อกดดันต่อไป
หลังจากเกิดเหตุการณ์กรณีกลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. นำโดยนายชุมพล จุลใส และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นำกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 500 คน เดินขบวนไปชุมนุมที่บริเวณหน้าสโมสรกองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา และได้เกิดเหตุการณ์ ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ชุดสืบสวนของ บก.น.2ยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุม จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และมีการตอบโต้กลับจนทำให้ ด.ต.คงเพชร ได้รับบาดเจ็บ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่า ด.ต.คงเพชร ได้ปลอมตัวเป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างเพื่อปฏิบัติหน้าที่ถ่ายภาพการชุมนุมบริเวณดังกล่าว ต่อมาการ์ดผู้ชุมนุมได้ขอค้นตัว และได้มีการต่อต้านไม่ยอมให้ค้นตัว จึงทำให้เกิดการทำร้ายร่างกายกันขึ้น และมีเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ส่วน ด.ต.คงเพชร ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ได้มีการสอบปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ปาก สำหรับในส่วนของผู้ชุมนุม กปปส. ได้มีการประสานไปแล้ว ยังไม่ได้มีการสอบปากคำ รวมถึงหลักฐานของกลาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รับ
*** "แจ๊ด"ป้องดาบตร.ถูกรุมยำก่อน
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวว่า ต้นสังกัดได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณี ด.ต.คงเพชร เพชรกันหา ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนตำรวจนครบาลที่ถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุการณ์ปะทะกันหน้าสโมสรทหารบกแล้ว โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัตน์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการสอบสวนเป็นหัวหน้าชุดสอบสวนและให้รายงานข้อเท็จจริงให้ทราบโดยเร็ว
ขณะนี้ ด.ต.คงเพชร ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีอาการหนัก ยังไม่สามารถให้การได้ ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ได้รับรายงาน พร้อมกับดูภาพจากคลิปวิดีโอที่เผยแพร่กันในโซเชียลมีเดีย พบว่า ด.ต.คงเพชร เข้าไปในพื้นที่ เพราะได้รับมอบหมายให้ไปสืบสวนหาข่าวในที่ชุมนุม แล้วถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายจนจวนตัว จึงชักอาวุธปืนออกมายิงใส่ผู้ชุมนุมเพื่อป้องกันตัว ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหากับทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเป็นข้อหาอะไรบ้าง ซึ่งต้องรอสรุปการสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน
***ยันคดียิง "สุทิน"ใกล้มีความคืบหน้า
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายลอบยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) เสียชีวิตบริเวณหน้าวัดศรีเอี่ยมเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่า ฝ่ายสืบสวนสอบสวนนครบาลกำลังดำเนินการอยู่ โดยร่วมกับคณะทำงานของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร. ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนในคดีนี้ โดยอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็วๆ นี้
***เครือข่ายอาสาแพทย์ตบหน้าตร.บิดเบือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของเครือข่ายอาสาสมัครทางการแพทย์ ซึ่งได้ส่งหน่วยแพทย์และกู้ภัยอาสาเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ได้เปิดเผยถึงเหตุการความรุนแรงหน้าสโมสรของทัพบกว่า จากมุมมองของอาสาทางการแพทย์ที่อยู่ในเหตุการณ์ ข้อมูลที่ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) แถลงนั้น มีการบิดเบือน โดยระบุว่า ด.ต.คงเพชร ยิงปืนใส่ผู้ชุมนุมก่อน พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะเป็นฝ่ายใด อาสาสมัครจะดูแลโดยไม่แบ่งแยก
รูปจากเหตุการณ์จริงที่สโมสร ทบ. (ผ่านสายตาของอาสาทางการแพทย์) หลังจากเสียงปืนดังขึ้น มีคนเจ็บ และมีคนเห็นว่ามีคนยิงปืน ทุกคนไม่กลัวพยายามตามจับคนที่ยิงปืนให้ได้ (ตอนนั้นไม่มีใครทราบว่าคนที่ยิงเป็นตำรวจ เพราะเค้าใส่เสื้อวินมอเตอร์ไซค์) เรื่องจริง คือ ตำรวจนายนี้ไม่ได้ถูกการ์ดทำร้ายก่อนหน้าที่ยิงปืนแต่อย่างใด (ซึ่งข่าวที่ออกมาจาก ศรส. ก่อนหน้านี้ว่าถูกการ์ดทำร้ายก่อนนั้น บิดเบือนจากความจริง) ผู้ชุมนุมตามจับคนที่ยิงปืนได้ ด้วยความโกรธผู้ชุมนุมบางคนจึงรุมประชาทัณฑ์จนบาดเจ็บที่ศีรษะ หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ทีมอาสาทางการแพทย์ จึงเข้าไปพาตัวออกมา เพื่อนำส่งผู้บาดเจ็บ รวมถึงคนร้ายด้วย (อย่างที่บอกว่าเราไม่เคยแบ่งแยกในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ เป็นใครเราก็ต้องช่วยค่ะ) ผู้ชุมนุมบางส่วนอารมณ์ค้าง ทำให้เจ้าหน้าที่เราต้องใช้ตัวเองเข้าไปป้องกันคนร้ายไม่ให้บาดเจ็บมากขึ้น แม้ว่าจะทำให้เราเจ็บ เราก็ต้องเสียสละ หนึ่งในทีมอาสาสมัครของเราคือ คุณโป้ง ถูกลูกหลงผู้ชุมนุมเตะมาถูกแขน จนแขนบวม อย่างไรก็ตาม เราก็ดีใจที่สามารถนำตัวคนร้าย (ที่ทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ) ส่ง รพ.ได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น หน้าที่ของเราก็ยังคงเหมือนเดิมค่ะ ก็คือ การดูแลประชาชนทุกฝ่ายโดยไม่แบ่งแยก
***"หมอพรทิพย์"ร่วมตรวจหลักฐาน
พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงยุติธรรม ได้เดินทางตรวจสอบหลักฐานจากเหตุการณ์การยิงที่หน้าสโมสรทหารบก พร้อมกล่าวว่า มาตรวจสอบหลักฐาน ในฐานะคนกลางและคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เพื่อเก็บภาพหลักฐานจากวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ปลอกกระสุนปืน ขนาด 11 มม., ลูกกระสุน 1 แมกกาซีน, ประทัดยักษ์, วิทยุสื่อสาร, กุญแจมือ และเสื้อวินจักรยานยนต์รับจ้าง ซึ่งหลังจากตรวจสอบหลักฐานแล้ว จะนําข้อมูลหลักฐานทั้งหมดนี้ส่งมอบให้ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบหลักฐานต่อไป
เบื้องต้นการพิสูจน์หลักฐานไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้จากลายนิ้วมือ เพราะมีการจับต้องวัตถุทั้งหมดด้วยมือเปล่าแล้ว แต่การพิสูจน์หลักฐานยังมีวิธีการอื่น เช่น การตรวจหมายเลขเครื่องของวิทยุสื่อสารที่ต้องมีการลงทะเบียน ซึ่งจะทําให้ทราบถึงบุคคลที่จดทะเบียน หากเป็นของหน่วยงานรัฐ ก็จะต้องมีการสอบถามในการมอบวิทยุสื่อสารเครื่องนี้ให้บุคคลใดในการปฏิบัติหน้าที่ และ หากเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่จริง ประทัดยักษ์ก็ไม่ควรที่จะพกเข้ามาในพื้นที่ด้วย
***M79 ถล่มเวทีกปปส.แยกลาดพร้าว
วันเดียวกันนี้ เมื่อเวลา 04.00 น. ได้เกิดเหตุเสียงระเบิดดังสนั่นในพื้นที่การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เวที 5 แยกลาดพร้าว ฝั่งสวนจตุจักร ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้ให้การ์ดเข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ พบว่า มีคนร้ายได้ยิงระเบิด คาดว่าเป็นระเบิดชนิดเอ็ม 79 เข้ามาตกข้างอาคารระบายอากาศ รถไฟฟ้าใต้ดิน ภายในสวนจตุจักร ใกล้กับจุดพักค้างแรมของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งมีผู้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการถูกสะเก็ดระเบิดที่แขน 1 ราย และรถยนต์ได้รับความเสียหาย 2 คัน รวมถึงช่องระบายอากาศรถไฟฟ้าใต้ดินได้รับความเสียหายบางส่วน
พร้อมกันนี้ ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและหน่วยเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผู้กำกับการกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด พร้อมด้วยเจ้าหน้าหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบสะเก็ดระเบิดยิงขนาด 40 มม. หรือเอ็ม 79 มีรัศมีอันตรายหลังจากตกกระทบแล้ว 5 เมตร ระยะหวังผล 200 เมตร และ สามารถยิงได้ไกลสุด 400 เมตร เบื้องต้นคาดว่ายิงมาจากฝั่งถนนกำแพงเพชร 3
***คดีชายคล้ายการ์ดกปปส.ถูกฆ่าคืบหน้า
ที่ สน.ประชาชื่น พ.ต.อ.กิตติคุณ พูลสมบัติ รอง ผบก.น.2 กล่าวถึงกรณีพบศพชายนิรนาม อายุประมาณ 35-45 ปี มีรอยสักเต็มตัวสวมเสื้อยืดการชุมนุม สกรีนภาพอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีข้อความ “2557 ปฏิวัติประเทศไทย” ข้อมือขวามีสายรัดลายธงชาติ ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณข้างถนนกำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ห่างจากวัดเสมียนนารีประมาณ 200 เมตร ว่า จากการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือ รวมทั้งทะเบียนประวัติอาชญากรของผู้ตาย พบว่า ผู้ตาย คือ นายบุญเที่ยง คำอิ่ม อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 4 ต.วังชมพู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเคยถูกดำเนินมา 5-6 คดี ในข้อหาลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย ในหลายท้องที่ แต่เชื่อว่าผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งไว้ที่เกิดเหตุ ส่วนประเด็นการตาย ยังระบุไม่ได้ เป็นไปได้ทั้งเรื่องทะเลาะวิวาท และการเมือง
***ปชป.หอบคลิป"สุทิน" โดนยิงฟ้อง"ยูเอ็น"
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนตะวันออกเฉียงใต้ของสหประชาชาติ เพื่อแจ้งให้ทราบว่าประเทศไทยมีรัฐบาลที่อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่มีพฤติกรรมเผด็จการ ปล่อยให้ประชาชนถูกสังหารเหี้ยมโหด สนับสนุนให้มีกองกำลังทำร้ายประชาชน สิ่งเหล่านี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ต้องการฟ้องต่างประเทศ แต่ไม่อยากให้เข้าใจผิดในสถานการณ์ประเทศ โดยจะคลิปภาพเหตุการณ์ที่นายสุทิน ธราทิน แกนนำ กปท. ถูกกยิงจนเสียชีวิตบริเวณวันศรีเอี่ยมไป ยื่นประกอบในครั้งนี้ด้วย
**แดงน่านเหิมสั่งผู้ว่าฯปลดป้ายปฏิรูป
กลุ่มคนเสื้อแดงแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) น่าน 8 คน นำโดยร.ต.ต.สมศักดิ์ แพทย์สมาน ยื่นหนังสือถึงนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการ จ.น่าน เรียกร้องให้สั่งปลดป้ายสนับสนุน "ให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง" ที่โรงพยาบาลน่าน และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ที่ได้นำมาติดไว้หน้าอาคาร อ้างว่าเป็นสถานที่ราชการ เป็นข้อความก่อให้เกิดความแตกแยก เป็นข้าราชการได้รับค่าตอบแทนจากภาษีของประชาชน และไม่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงขอให้ปลดป้ายออก หากไม่ดำเนินการ จะแสดงพลังวันที่ 31 ม.ค. เพื่อกดดันต่อไป