อหังการ นปช.น่านบี้ผู้ว่าฯ สั่ง ผอ.รพ.ปลดป้าย “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”

น่าน - เสื้อแดง นปช.เมืองน่านบุกยื่นหนังสือกดดันให้ผู้ว่าฯ สั่งปลดป้ายสนับสนุนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้งออกจากหน้า รพ. อ้างเป็นสถานที่ราชการ ขู่ซ้ำ 31 มกราฯ ไม่ปลดมาอีก ด้านแพทย์-พยาบาล-ญาติผู้ป่วย แห่ให้กำลัง ผอ.รพ.น่าน

วันนี้ (29 ม.ค.) กลุ่มคนเสื้อแดง นปช.น่าน จำนวน 8 คน นำโดย ร.ต.ต.สมศักดิ์ แพทย์สมาน แกนนำ นปช.น่าน ได้ยื่นหนังสือถึงนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เรียกร้องให้สั่งการปลดป้ายสนับสนุน “ให้มีการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ที่โรงพยาบาลน่าน และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน นำมาติดไว้ที่ด้านหน้าอาคาร

โดยอ้างเหตุผลว่าเป็นสถานที่ราชการไม่สมควรที่จะติดตั้งป้ายดังกล่าว เนื่องจากมีข้อความที่ก่อให้เกิดความแตกแยกของประชาชนชาวน่าน และเป็นการไม่สนับสนุนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อีกทั้งเป็นสถานที่ราชการ และได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนซึ่งมาจากภาษีของประชาชน จึงขอให้ปลดป้ายดังกล่าวออก ซึ่งหากไม่ดำเนินการใดๆ หลังจากนี้ทางกลุ่ม นปช.น่านจะแสดงพลังในวันที่ 31 มกราคม 2557 เพื่อกดดันต่อไป

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวออกมาด้วยว่า กลุ่ม นปช.น่านจะรวมตัวเข้ากดดันขับไล่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลน่าน กรณีขึ้นป้ายสนับสนุนการปฏิรูปและการแสดงจุดยืนทางการเมืองด้วย แต่ก็ได้ยกเลิกไปก่อน

อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวดังกล่าวกลุ่มมวลชนที่สนับสนุนการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งจำนวนมาก ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล เครือข่ายสาธารณสุขทุกอำเภอ เจ้าหน้าที่ รพ.น่าน และสาธารณสุขน่าน รวมไปถึงประชาชน ญาติผู้ป่วย และกลุ่มมวลชน กปปส.น่าน ได้รวมตัวกันที่ด้านหน้าอาคารสิริเวชรักษ์ รพ.น่าน พร้อมถือสัญลักษณ์ธงชาติและนกหวีด เพื่อให้กำลังใจ นพ.พิษณุ ขันติพงษ์ ผอ.รพ.น่าน

จากนั้น นพ.พิษณุได้อ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนทางการเมือง คือ ไม่เลือกข้างทางการเมือง การดูแลรักษาคนไข้ต้องเท่าเทียมกัน การบริหาร รพ.น่าน เน้นเรื่องคุณภาพคู่คุณธรรมและจริยธรรมมาโดยตลอด เป็นนโยบายถือปฏิบัติชัดเจน

ส่วนการขึ้นป้ายสนับสนุนการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง เป็นไปตามแถลงการณ์ของประชาคมสาธารณสุขเพื่อต่อต้านเรื่องการคอร์รัปชัน ขาดจริยธรรม และการแทรกแซงการทำงานของข้าราชการประจำ เคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างแต่ไม่แตกแยก ในฐานะข้าราชการต้องทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด และข้าราชการต้องรับใช้แผ่นดินไม่รับใช้กระแสทางการเมือง

ซึ่งหลังจากที่อ่านแถลงการณ์จบแล้ว กลุ่มมวลชนได้ร่วมใจกันร้องเพลงชาติไทยเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และได้แยกย้ายกันไปโดยไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายใดๆ