ASTVผู้จัดการรายวัน - "ยิ่งลักษณ์"นกรู้!! แถลงทีวีพูลแก้ต่างทุจริตจำนำข้าว โวยเกมการเมืองทำลายความฝัน แถมขู่ ป.ป.ช.สอบอย่าลำเอียง ขณะที่มติ ป.ป.ช. เอกฉันท์เรียกนายกฯรับทราบข้อกล่าวหาโกงจำนำข้าว 27 ก.พ.นี้ ระบุเป็นประธานกขช.รับทราบเรื่องทุจริตและผลขาดทุนถึง 2 แสนล้าน ด้านธ.ก.ส.เดินสายแจงชาวนา ย้ำยังไม่มีเงินจ่ายจำนำข้าว เตือนชาวนารับมือ ปีหน้าอาจไม่มีจำนำ-แถมมีข้าวในสต๊อก รบ.อีกอื้อ เสี่ยงราคาร่วง
วานนี้ (18 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯและรมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลก็ประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจรากหญ้า และการเติบโตของระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
สำหรับการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการนั้น มาจากแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการ คือ รายได้จากการระบายข้าวในตลาด และเงินจากการบริหารจัดการของกระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงจะจัดเงินมาสนับสนุน รวมถึงอนุมัติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)กู้เงิน เพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าว จากสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ประชาชนเห็นถึงผลที่ชัดเจน เงินตกถึงมือเกษตรกรตัวจริง โครงการจึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“เป็นที่น่าเสียดายว่า ความฝัน ความหวังที่จะลืมตาอ้าปากของชาวนาไทย กำลังโดนเกมการเมือง กระบวนการ การบ่อนทำลาย ที่เกิดขึ้นอันรวดเร็ว จนหมด จะหมดสิ้นลงในไม่ช้า ดิฉันมีความเสียใจ ที่เหตุการณ์การเอาชาวนาเป็นตัวประกันของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ทำให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินโครงการได้โดยความราบรื่น เกมการเมืองมาจากกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล มีแนวทางที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น และเมื่อมีการยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว แต่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลไม่ยอมดำเนินการตามกติกาที่เป็นสากล ไม่เข้าสู่การเลือกตั้ง และยังคงดำเนินยุทธวิธีที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล "น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวโยนความผิดให้แก่ผู้ชุมนุม
ขณะนี้การบ่อนทำลายโครงการจำนำข้าวไปถึงขั้นการสกัดกั้น เพื่อที่จะไม่ให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวกับชาวนา และหากทุกธนาคาร และผู้บริหาร จะเห็นใจและมีน้ำใจต่อชาวนาไทย เข้าใจถึงความเดือดร้อน และความลำบาก การบริหารการเมืองของรัฐบาลก็จะเดินหน้าไปได้
“ยืนยันว่า เงินทุกบาท รัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว เงินของธนาคารก็มีหลักประกันตามกฎหมาย จึงไม่มีใครสามารถนำเงินฝากของทางธนาคารไปใช้ในทางที่ผิดได้"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงภาระผูกพันงบประมาณกับรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อ
นอกจากนี้ ในปัจจุบันสถาบันการเงินนั้นมีสถานะที่มั่นคง และที่สำคัญ สภาพคล่องในระบบการเงินการธนาคารนั้นมีสูงมาก ดังนั้นทางธนาคารสามารถดำเนินการปล่อยกู้ตามขั้นตอน ซึ่งทุกขั้นตอนมีกฎหมาย และมีมติครม.รองรับอยู่อย่างถูกต้อง
มีกระบวนการกล่าวหา และตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ของการบริหารโครงการรับจำนำข้าว ทั้งโจมตีทางการเมืองและกฎหมาย ว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตคอร์รัปชันที่เป็นระบบในระดับนโยบาย ซึ่งขอยืนยันว่า ในระดับนโยบายไม่มีวิธีการที่จะสร้างวิธีการที่จะโกงเงิน และยินดีในการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดยไม่เลือกปฏิบัติ และมีความเสมอภาค ภายใต้หลักนิติธรรม โดยไม่มีความลำเอียง หรือวาระทางการเมืองที่ซ่อนเร้น
***มติป.ป.ช.แจ้งข้อหา“ปู” โกงจำนำข้าว
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์เรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 14.00 น. หลังพิจารณาจากพยานบุคคลและพยานเอกสารเห็นว่ามีเหตุควรสงสัยว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจริง ยืนยันดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใบสั่ง
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับทราบเรื่องทุจริตในการดำเนินโครงการจากการอภิปรายในสภาฯ และได้รับรายงานผลการดำเนินโครงการจากประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวเปลือกว่าเสียหายถึง 2 แสนล้านบาท รวมทั้งชาวนาที่ร่วมโครงการยังไม่ได้รับเงินอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้เดือดร้อนเสียหายอย่างหนัก ประกอบกับมีหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ให้ทบทวนและยุติโครงการ ซึ่งการดำเนินการในปัจจุบันได้เกิดปัญหาทุจริตในการรับจำนำข้าว การระบายข้าว และการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ แทนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะระงับยับยั้งโครงการตาม พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 (1) กลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการต่อไป
**"ชวนนท์"ชี้จำนำข้าวล้มเหลวเพราะโกง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติ แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โครงการทุจริตจำนำข้าวว่า เป็นกรณีที่ตอกย้ำให้เห็นความล้มเหลวของโครงการจำนำข้าว การที่รัฐบาลไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนา จนเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในขณะนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการทุจริต คอร์รัปชัน อย่างมหาศาล และการออกมาท่องบท ตีสีหน้าเรียกร้องความเห็นใจออกทีวีฝ่ายเดียวนั้นไม่สามารถแก้ปัญหา และไม่สามารถที่จะหลอกลวงพี่น้องชาวนาได้อีกต่อไป
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำแถลงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า โครงการจำนำข้าวเป็นโครงการแรกที่ทำให้ชาวนาผูกคอตายแล้ว 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีความพยายามทำลายหลักฐานด้วยการเผาโกดังข้าว
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีความจริงไม่พ้นจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว แก้ปัญหาสินค้าราคาแพงไม่ได้ สินค้าเกษตรตกต่ำ และมีการคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง แม้กระทั่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ก็หมดสภาพถูกชาวนาขับไล่ไม่ให้ความเชื่อถืออีกต่อไป
***ธ.ก.ส.ชี้รัฐค้าง1.17 แสนล.ขายข้าวได้แค่ 3พันล.
วานนี้ (18 ก.พ.) นายพิเชียร จอมพงศ์ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เชียงราย ได้สั่งให้ผู้บริหาร-เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในหลายอำเภอทั่ว จ.เชียงราย ต่อเนื่อง เพื่อชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวฤดูนาปี 2556/2557 ที่รัฐบาลประกาศจะจ่ายให้ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมา นายสมศักดิ์ แปงกริยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.เชียงราย ได้นำเจ้าหน้าที่ชี้แจงต่อชาวนาที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวฤดูนาปี 2556/2557 ที่สำนักงานเทศบาล ต.จันจว้า อ.แม่จัน โดยมีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวเข้ารับฟังประมาณ 200 คน
นายสมศักดิ์ แจ้งว่า ยังไม่มีการจ่ายเงินให้ชาวนาในวันนี้และหากมีเม็ดเงินถ่ายโอนเข้ามา ทาง ธ.ก.ส.จะโทรศัพท์แจ้งชาวนาทีละรายตามลำดับที่ลงทะเบียนไว้เพื่อแจ้งการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้มีข้าวคงค้างในสต๊อกของรัฐบาลประมาณ 9 ล้านตันอยู่แล้ว ดังนั้น จึงคาดว่าในฤดูกาลถัดไปอาจจะไม่มีโครงการรับจำนำเกิดขึ้นอีก เพราะจัดตั้งรัฐบาลไม่ทัน ขณะที่ราคาข้าวในตลาดก็คงจะไม่ขึ้นสูง เพราะเมื่อมีสต๊อกเหลืออยู่มาก อาจทำให้พ่อค้ารวมกันกดราคาลงไปอีก
"จนถึงขณะนี้ยอดเงินที่รัฐบาลจะต้องจ่ายให้ชาวนามีอยู่ประมาณ 117,000 ล้านบาท แต่ได้รับแจ้งว่าได้เงินจากการขายข้าวมาแล้วจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับทั้งหมดที่จะต้องจ่าย ทำให้มีการจัดสรรให้พื้นที่ จ.เชียงราย ประมาณ 100 ล้านบาท ล่าสุดจะมีการนำไปจัดการและเริ่มจ่ายงวดแรกให้ชาวบ้านได้จำนวนประมาณ 40 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.57 เป็นต้นไป" นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับชาวนาทั่ว จ.เชียงราย ที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ขณะนี้คงเหลืออยู่กว่า 38,902 ราย รวมวงเงิน 3,535 ล้านบาท ปริมาณข้าวจำนวน 216,649 ตัน
นอกจากนี้ ทาง ธ.ก.ส.ยังได้แจ้งชาวนาที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องว่าสามารถกู้ยืมเงินได้ในอัตราดอกเบี้ย 7% และหากชาวนาคนใดไม่มีเงินเพียงพอจะนำมาจ่ายดอกเบี้ยหนี้เดิมที่คงค้าง ทาง ธ.ก.ส.ก็มีโครงการให้กู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้หนี้ดอกเบี้ยเก่าก่อนได้ด้วย
**ข้าวนาปรังจ่อไม่มีเงินจ่ายอีกแสนลบ.
นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย กล่าวว่า จากการหารือกับแกนนำทุกจังหวัด จะมีการยกระดับเพื่อกดดันรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างไร โดยในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) ชาวนาจากภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวจะมาสมทบและร่วมชุมนุมปักหลักที่กระทรวง พาณิชย์ โดยไม่มีกำหนดเวลา และจะปิดกระทรวงพาณิชย์ด้วย และจะมีการขยายพื้นที่การชุมนุมเข้าไปในอาคาร เพราะจะมีชาวนาเดินทางมาสมทบอีกประมาณ 2,000 คน ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ตั้งเป้าที่จะระบายข้าวให้ได้ประมาณเดือนละ 1 ล้านตัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์เพื่อเปิดประมูลข้าวอีก 5 แสนตันให้กับโรงสีที่มีความต้องการซื้อข้าว และกำลังพิจารณาขายข้าวให้บริษัทต่างประเทศที่มีความต้องการซื้อข้าวไทย โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ
ส่วนการเปิดประมูลข้าวเมื่อสัปดาห์ก่อนปริมาณ 4.67 แสนตัน มีเอกชนเสนอซื้อทั้งสิ้น 18 ราย นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติให้ผู้ส่งออกที่เสนอซื้อผ่านวิธีแจ้งคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ปริมาณรวม 2 แสนตัน ทำให้การระบายข้าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปริมาณรวม 6 แสนตัน
นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่จะต้องคำนึงก็คือข้าวนาปรังที่กำลังจะเก็บเกี่ยวทะยอยออกมาช่วงมี.ค.นี้อีกราว 6-7 ล้านตันก็จะต้องใช้เงินประมาณแสนล้านบาทซึ่งหากรัฐบาลไม่หาวิธีแก้ไขล่วงหน้าก็จะทำให้เกษตรกรมีปัญหาไม่ได้รับเงินอีก
***ชัดเจน! รบ.เบี้ยวค่าข้าวตัวการทำชาวนาฆ่าตัวตาย
จากกรณีข่าวชาวนา 13 รายฆ่าตัวตาย เพราะความเครียดจากการถูกรัฐบาลโกงเบี้ยวจ่ายเงินจำนำข้าวนั้น พบว่า 1 รายไม่เกี่ยวข้องกับเหตุจำนำข้าว และอีก 3 รายตายเพราะโรคประจำตัว วันนี้ (18 ก.พ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า การฆ่าตัวตายในทางวิชาการต้องมีแรงผลักดันหรือปัจจัยร่วม ซึ่งจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิต เพื่อวิเคราะห์สาเหตุชาวนาฆ่าตัวตายจำนวน 9 ราย พบว่า มีปัญหาสุขภาพทางกาย มีโรคเรื้อรัง ปัญหาสุขภาพจิต มีภาระความรับผิดชอบที่ต้องเป็นคนแบกรับ ส่วนปัจจัยกระตุ้นคือ ตึงเครียดจากหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้นอกระบบเป็นแรงกดดันค่อนข้างมาก ส่วนกลุ่มชาวนาที่ชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์ ส่วนใหญ่มีความเครียดน้อย พบ 9 รายเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า จึงส่งข้อมูลกลุ่มเสี่ยงให้แกนนำและทีมแพทย์ประจำจุดดูแลช่วยเหลือ
**กกต.พิจารณาเรื่องรัฐบาลขอใช้งบกลางวันนี้
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งเรื่องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ขอให้พิจารณาอนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลางจำนวน 712 ล้าน เพื่อชำระหนี้ให้กับชาวนา ในโครงการรับจำนำข้าว มายังกกต.แล้ว ก็ได้มอบให้สำนักงานไปทำการศึกษาประเด็นตามคำร้อง และประเด็นข้อกฎหมาย และให้นำเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณา ในวันนี้ (19 ก.พ.) แต่คงต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และเห็นว่า เมื่อรัฐบาลเสนอเรื่องมา ผู้แทนก็คงพร้อมที่จะมาชี้แจงกับกกต. ซึ่งหากมีการชี้แจงแล้ว ก็เชื่อว่ากกต.จะสามารถพิจารณาให้ได้ข้อยุติ ภายในสัปดาห์นี้
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกกต.ว่า ที่ชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าว เพราะกกต.ขัดขวางนั้น ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาแล้ว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่เผยแพร่ข้อความดังกล่าว
วานนี้ (18 ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกฯและรมว.กลาโหม ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ระบุว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โครงการจำนำข้าวของรัฐบาลก็ประสบความสำเร็จ บรรลุเป้าหมาย ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจรากหญ้า และการเติบโตของระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม
สำหรับการจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อดำเนินโครงการนั้น มาจากแหล่งเงินทุนหมุนเวียนสำหรับโครงการ คือ รายได้จากการระบายข้าวในตลาด และเงินจากการบริหารจัดการของกระทรวงการคลัง ซึ่งกระทรวงจะจัดเงินมาสนับสนุน รวมถึงอนุมัติให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)กู้เงิน เพื่อใช้ในโครงการรับจำนำข้าว จากสถาบันการเงินต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ภายในวงเงินที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ประชาชนเห็นถึงผลที่ชัดเจน เงินตกถึงมือเกษตรกรตัวจริง โครงการจึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง
“เป็นที่น่าเสียดายว่า ความฝัน ความหวังที่จะลืมตาอ้าปากของชาวนาไทย กำลังโดนเกมการเมือง กระบวนการ การบ่อนทำลาย ที่เกิดขึ้นอันรวดเร็ว จนหมด จะหมดสิ้นลงในไม่ช้า ดิฉันมีความเสียใจ ที่เหตุการณ์การเอาชาวนาเป็นตัวประกันของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล ทำให้รัฐบาลไม่สามารถดำเนินโครงการได้โดยความราบรื่น เกมการเมืองมาจากกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาล มีแนวทางที่จะล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และตั้งรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตยให้เกิดขึ้น และเมื่อมีการยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว แต่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลไม่ยอมดำเนินการตามกติกาที่เป็นสากล ไม่เข้าสู่การเลือกตั้ง และยังคงดำเนินยุทธวิธีที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล "น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวโยนความผิดให้แก่ผู้ชุมนุม
ขณะนี้การบ่อนทำลายโครงการจำนำข้าวไปถึงขั้นการสกัดกั้น เพื่อที่จะไม่ให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าข้าวกับชาวนา และหากทุกธนาคาร และผู้บริหาร จะเห็นใจและมีน้ำใจต่อชาวนาไทย เข้าใจถึงความเดือดร้อน และความลำบาก การบริหารการเมืองของรัฐบาลก็จะเดินหน้าไปได้
“ยืนยันว่า เงินทุกบาท รัฐบาลรับผิดชอบอยู่แล้ว เงินของธนาคารก็มีหลักประกันตามกฎหมาย จึงไม่มีใครสามารถนำเงินฝากของทางธนาคารไปใช้ในทางที่ผิดได้"น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวถึงภาระผูกพันงบประมาณกับรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศต่อ
นอกจากนี้ ในปัจจุบันสถาบันการเงินนั้นมีสถานะที่มั่นคง และที่สำคัญ สภาพคล่องในระบบการเงินการธนาคารนั้นมีสูงมาก ดังนั้นทางธนาคารสามารถดำเนินการปล่อยกู้ตามขั้นตอน ซึ่งทุกขั้นตอนมีกฎหมาย และมีมติครม.รองรับอยู่อย่างถูกต้อง
มีกระบวนการกล่าวหา และตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ของการบริหารโครงการรับจำนำข้าว ทั้งโจมตีทางการเมืองและกฎหมาย ว่า โครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตคอร์รัปชันที่เป็นระบบในระดับนโยบาย ซึ่งขอยืนยันว่า ในระดับนโยบายไม่มีวิธีการที่จะสร้างวิธีการที่จะโกงเงิน และยินดีในการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. โดยไม่เลือกปฏิบัติ และมีความเสมอภาค ภายใต้หลักนิติธรรม โดยไม่มีความลำเอียง หรือวาระทางการเมืองที่ซ่อนเร้น
***มติป.ป.ช.แจ้งข้อหา“ปู” โกงจำนำข้าว
นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเป็นเอกฉันท์เรียก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ารับทราบข้อกล่าวหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าว วันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 14.00 น. หลังพิจารณาจากพยานบุคคลและพยานเอกสารเห็นว่ามีเหตุควรสงสัยว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ(กขช.) ปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจริง ยืนยันดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีใบสั่ง
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้รับทราบเรื่องทุจริตในการดำเนินโครงการจากการอภิปรายในสภาฯ และได้รับรายงานผลการดำเนินโครงการจากประธานอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการจำนำข้าวเปลือกว่าเสียหายถึง 2 แสนล้านบาท รวมทั้งชาวนาที่ร่วมโครงการยังไม่ได้รับเงินอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้เดือดร้อนเสียหายอย่างหนัก ประกอบกับมีหนังสือจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ให้ทบทวนและยุติโครงการ ซึ่งการดำเนินการในปัจจุบันได้เกิดปัญหาทุจริตในการรับจำนำข้าว การระบายข้าว และการชำระหนี้ให้แก่เกษตรกรผู้ร่วมโครงการ แทนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะระงับยับยั้งโครงการตาม พ.ร.บ.ระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 11 (1) กลับยืนยันที่จะดำเนินโครงการต่อไป
**"ชวนนท์"ชี้จำนำข้าวล้มเหลวเพราะโกง
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช. มีมติ แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โครงการทุจริตจำนำข้าวว่า เป็นกรณีที่ตอกย้ำให้เห็นความล้มเหลวของโครงการจำนำข้าว การที่รัฐบาลไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้กับชาวนา จนเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศในขณะนี้ มีสาเหตุหลักมาจากการทุจริต คอร์รัปชัน อย่างมหาศาล และการออกมาท่องบท ตีสีหน้าเรียกร้องความเห็นใจออกทีวีฝ่ายเดียวนั้นไม่สามารถแก้ปัญหา และไม่สามารถที่จะหลอกลวงพี่น้องชาวนาได้อีกต่อไป
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำแถลงของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า โครงการจำนำข้าวเป็นโครงการแรกที่ทำให้ชาวนาผูกคอตายแล้ว 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีความพยายามทำลายหลักฐานด้วยการเผาโกดังข้าว
นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ หนีความจริงไม่พ้นจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว แก้ปัญหาสินค้าราคาแพงไม่ได้ สินค้าเกษตรตกต่ำ และมีการคอร์รัปชั่นอย่างรุนแรง แม้กระทั่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลัง ก็หมดสภาพถูกชาวนาขับไล่ไม่ให้ความเชื่อถืออีกต่อไป
***ธ.ก.ส.ชี้รัฐค้าง1.17 แสนล.ขายข้าวได้แค่ 3พันล.
วานนี้ (18 ก.พ.) นายพิเชียร จอมพงศ์ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เชียงราย ได้สั่งให้ผู้บริหาร-เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส.ลงพื้นที่พบปะกับประชาชนในหลายอำเภอทั่ว จ.เชียงราย ต่อเนื่อง เพื่อชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวฤดูนาปี 2556/2557 ที่รัฐบาลประกาศจะจ่ายให้ชาวนาที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา
ต่อมา นายสมศักดิ์ แปงกริยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.เชียงราย ได้นำเจ้าหน้าที่ชี้แจงต่อชาวนาที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวฤดูนาปี 2556/2557 ที่สำนักงานเทศบาล ต.จันจว้า อ.แม่จัน โดยมีชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าวเข้ารับฟังประมาณ 200 คน
นายสมศักดิ์ แจ้งว่า ยังไม่มีการจ่ายเงินให้ชาวนาในวันนี้และหากมีเม็ดเงินถ่ายโอนเข้ามา ทาง ธ.ก.ส.จะโทรศัพท์แจ้งชาวนาทีละรายตามลำดับที่ลงทะเบียนไว้เพื่อแจ้งการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารให้
นายสมศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้มีข้าวคงค้างในสต๊อกของรัฐบาลประมาณ 9 ล้านตันอยู่แล้ว ดังนั้น จึงคาดว่าในฤดูกาลถัดไปอาจจะไม่มีโครงการรับจำนำเกิดขึ้นอีก เพราะจัดตั้งรัฐบาลไม่ทัน ขณะที่ราคาข้าวในตลาดก็คงจะไม่ขึ้นสูง เพราะเมื่อมีสต๊อกเหลืออยู่มาก อาจทำให้พ่อค้ารวมกันกดราคาลงไปอีก
"จนถึงขณะนี้ยอดเงินที่รัฐบาลจะต้องจ่ายให้ชาวนามีอยู่ประมาณ 117,000 ล้านบาท แต่ได้รับแจ้งว่าได้เงินจากการขายข้าวมาแล้วจำนวน 3,000 ล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับทั้งหมดที่จะต้องจ่าย ทำให้มีการจัดสรรให้พื้นที่ จ.เชียงราย ประมาณ 100 ล้านบาท ล่าสุดจะมีการนำไปจัดการและเริ่มจ่ายงวดแรกให้ชาวบ้านได้จำนวนประมาณ 40 ล้านบาทตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.57 เป็นต้นไป" นายสมศักดิ์ กล่าว
สำหรับชาวนาทั่ว จ.เชียงราย ที่ยังไม่ได้รับเงินจำนำข้าว ขณะนี้คงเหลืออยู่กว่า 38,902 ราย รวมวงเงิน 3,535 ล้านบาท ปริมาณข้าวจำนวน 216,649 ตัน
นอกจากนี้ ทาง ธ.ก.ส.ยังได้แจ้งชาวนาที่มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องว่าสามารถกู้ยืมเงินได้ในอัตราดอกเบี้ย 7% และหากชาวนาคนใดไม่มีเงินเพียงพอจะนำมาจ่ายดอกเบี้ยหนี้เดิมที่คงค้าง ทาง ธ.ก.ส.ก็มีโครงการให้กู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพื่อนำไปใช้หนี้ดอกเบี้ยเก่าก่อนได้ด้วย
**ข้าวนาปรังจ่อไม่มีเงินจ่ายอีกแสนลบ.
นายระวี รุ่งเรือง ประธานเครือข่ายชาวนาไทย กล่าวว่า จากการหารือกับแกนนำทุกจังหวัด จะมีการยกระดับเพื่อกดดันรัฐบาล เนื่องจากที่ผ่านมา รัฐบาลยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาอย่างไร โดยในวันพรุ่งนี้ (19 ก.พ.) ชาวนาจากภาคตะวันตก ภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวจะมาสมทบและร่วมชุมนุมปักหลักที่กระทรวง พาณิชย์ โดยไม่มีกำหนดเวลา และจะปิดกระทรวงพาณิชย์ด้วย และจะมีการขยายพื้นที่การชุมนุมเข้าไปในอาคาร เพราะจะมีชาวนาเดินทางมาสมทบอีกประมาณ 2,000 คน ซึ่งหวังว่าจะได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ
นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ตั้งเป้าที่จะระบายข้าวให้ได้ประมาณเดือนละ 1 ล้านตัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์เพื่อเปิดประมูลข้าวอีก 5 แสนตันให้กับโรงสีที่มีความต้องการซื้อข้าว และกำลังพิจารณาขายข้าวให้บริษัทต่างประเทศที่มีความต้องการซื้อข้าวไทย โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติ
ส่วนการเปิดประมูลข้าวเมื่อสัปดาห์ก่อนปริมาณ 4.67 แสนตัน มีเอกชนเสนอซื้อทั้งสิ้น 18 ราย นอกจากนี้ ยังได้อนุมัติให้ผู้ส่งออกที่เสนอซื้อผ่านวิธีแจ้งคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ปริมาณรวม 2 แสนตัน ทำให้การระบายข้าวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีปริมาณรวม 6 แสนตัน
นายอนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งที่จะต้องคำนึงก็คือข้าวนาปรังที่กำลังจะเก็บเกี่ยวทะยอยออกมาช่วงมี.ค.นี้อีกราว 6-7 ล้านตันก็จะต้องใช้เงินประมาณแสนล้านบาทซึ่งหากรัฐบาลไม่หาวิธีแก้ไขล่วงหน้าก็จะทำให้เกษตรกรมีปัญหาไม่ได้รับเงินอีก
***ชัดเจน! รบ.เบี้ยวค่าข้าวตัวการทำชาวนาฆ่าตัวตาย
จากกรณีข่าวชาวนา 13 รายฆ่าตัวตาย เพราะความเครียดจากการถูกรัฐบาลโกงเบี้ยวจ่ายเงินจำนำข้าวนั้น พบว่า 1 รายไม่เกี่ยวข้องกับเหตุจำนำข้าว และอีก 3 รายตายเพราะโรคประจำตัว วันนี้ (18 ก.พ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า การฆ่าตัวตายในทางวิชาการต้องมีแรงผลักดันหรือปัจจัยร่วม ซึ่งจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่กรมสุขภาพจิต เพื่อวิเคราะห์สาเหตุชาวนาฆ่าตัวตายจำนวน 9 ราย พบว่า มีปัญหาสุขภาพทางกาย มีโรคเรื้อรัง ปัญหาสุขภาพจิต มีภาระความรับผิดชอบที่ต้องเป็นคนแบกรับ ส่วนปัจจัยกระตุ้นคือ ตึงเครียดจากหนี้สิน โดยเฉพาะหนี้นอกระบบเป็นแรงกดดันค่อนข้างมาก ส่วนกลุ่มชาวนาที่ชุมนุมที่กระทรวงพาณิชย์ ส่วนใหญ่มีความเครียดน้อย พบ 9 รายเสี่ยงต่อภาวะซึมเศร้า จึงส่งข้อมูลกลุ่มเสี่ยงให้แกนนำและทีมแพทย์ประจำจุดดูแลช่วยเหลือ
**กกต.พิจารณาเรื่องรัฐบาลขอใช้งบกลางวันนี้
นายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมารัฐบาลได้ส่งเรื่องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 ขอให้พิจารณาอนุมัติให้รัฐบาลใช้งบกลางจำนวน 712 ล้าน เพื่อชำระหนี้ให้กับชาวนา ในโครงการรับจำนำข้าว มายังกกต.แล้ว ก็ได้มอบให้สำนักงานไปทำการศึกษาประเด็นตามคำร้อง และประเด็นข้อกฎหมาย และให้นำเข้าที่ประชุม กกต.พิจารณา ในวันนี้ (19 ก.พ.) แต่คงต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และเห็นว่า เมื่อรัฐบาลเสนอเรื่องมา ผู้แทนก็คงพร้อมที่จะมาชี้แจงกับกกต. ซึ่งหากมีการชี้แจงแล้ว ก็เชื่อว่ากกต.จะสามารถพิจารณาให้ได้ข้อยุติ ภายในสัปดาห์นี้
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกกต.ว่า ที่ชาวนาไม่ได้รับเงินจำนำข้าว เพราะกกต.ขัดขวางนั้น ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาแล้ว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่เผยแพร่ข้อความดังกล่าว