“ชวนนท์” ไล่รัฐบาลลาออกรักษาการหลังชาวบ้านแห่ถอนออมสิน 30,000 ล้าน “มัลลิกา” จวก “ยิ่งลักษณ์” แถลงโกหกใช้สื่อบิดเบือนใส่ร้าย ไม่รับผิดชอบบริหารล้มเหลว แถมไม่กล้าพบหน้าชาวนา ไม่ตอบจะจ่ายเงินเมื่อไหร่ เสแสร้งตบตาต้มตุ๋น ยันรัฐบาลตัวบ่อนทำลายเกษตรกร ไล่ไปเตรียมตัวแจงศาลดีกว่า “จุฤทธิ์” จี้แก้ไขไม่ใช่แก้ตัว
วันนี้ (18 ก.พ.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการถอนเงิน 30,000 ล้านบาทออกจากธนาคารออมสินภายในวันเดียว เป็นสิ่งที่สะท้อนความล้มเหลวของรัฐบาลเพื่อไทย ที่ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งทันที เพราะประชาชนไม่เชื่อมั่นในรัฐบาลอีกต่อไป เนื่องจากรัฐบาลพยายามเอาเงินประชาชนไปอุดรูรั่วการทุจริตมหาศาลในโครงการรับจำนำข้าว เงินกู้ที่ออกไปจึงไม่ได้ช่วยชาวนา แต่เป็นเงินที่จะไปช่วยรัฐบาลขี้โกงที่โกงเงินชาวนา จึงทำให้ประชาชนต้องการส่งสัญญาณไปถึงรัฐบาลด้วยการถอนเงินออกจากธนาคารออมสิน และตนเชื่อว่าหากมีการตั้งกองทุนบริจาคให้ชาวนาก็เชื่อว่าผู้ที่ถอนเงินจากธนาคารออมสินพร้อมที่จะบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือชาวนา ดังนั้น รัฐบาลต้องหยุดนำการเมืองมาอ้างหรือทำให้เกิดความขัดแย้งเพิ่มเติมระหว่างประชาชน ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดชอบ
ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำแถลงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงผ่านทีวีพูลเกี่ยวกับปัญหาโครงการจำนำข้าวว่า เป็นการโกหกนับครั้งไม่ถ้วน และไม่มีสิ่งใหม่ใช้สื่อบิดเบือนใส่ร้าย เป็นการสร้างปัญหาเพิ่มเติมให้กับวิกฤตความขัดแย้งและชาวนาในปัจจุบัน โดยจงใจใส่ร้ายชาวนา ผู้ชุมนุม และจงใจไม่รับผิดชอบการบริหารที่ล้มเหลว กลับอ้างว่าประสบความสำเร็จทั้งที่ไม่กล้าพบหน้าชาวนาที่ไปพบที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แต่กลับแถลงออกทีวีพูดข้างเดียวไม่มีการตอบคำถามว่าจะจ่ายเงินชาวนาเมื่อไหร่ อย่างไร จึงถือเป็นเกมการเมืองของรัฐบาลยิ่งลักษณ์เพื่อต้มตุ๋นชาวนา เสแสร้งเสียใจออกทีวีตบตาชาวนา เพราะโครงการนี้มีการทุจริตปิดบัญชีไม่ได้ชาวนาถูกโกงเกิดก่อนที่จะมีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ดังนั้นคำพูดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงเป็นคำต้มตุ๋นหลอกลวงประชาชน ไม่มีอะไรใหม่ โดยคนที่บ่อนทำลายข้าวและชาวนาคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์และโครงการจำนำข้าว
น.ส.มัลลิกากล่าวว่า ทั้งนี้ความพยายามป้ายสีให้คนอื่นแล้วยังอ้างว่าโครงการประสบความสำเร็จนั้น เป็นการประจานตัวเอง เพราะมีการใช้งบมหาศาลแต่เงินไม่ถึงมือชาวนา จึงถือเป็นความล้มเหลวไม่ใช่ความสำเร็จ จนชาวนาเอารวงข้าวไปประจานให้ต่างชาติเข้าใจว่าโครงการนี้ล้มเหลวและยังเป็นโครงการแรกที่ทำให้ชาวนาผูกคอตายแล้ว 10 ราย นอกจากนี้ยังมีความพยายามทำลายหลักฐานด้วยการเผาโกดังข้าว โดย ป.ป.ช.กำลังไต่สวนในเรื่องนี้เพื่อดำเนินคดีอาญาต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการในโครงการนี้
“น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงควรเตรียมคำชี้แจงไปพูดในศาลและ ป.ป.ช.มากกว่า ไม่ใช่โกหกผ่านทีวีพูล และขอเรียกร้องให้ทีวีพูลเปิดโอกาสให้ชาวนาได้แถลงผ่านทีวีพูลเท่ากับเวลาที่นายกฯ ได้ใช้ เพื่อให้ประชาชนได้เห็นว่าสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดกับที่ชาวนาพูด ข้อมูลไหนเป็นข้อมูลจริง” น.ส.มัลลิกากล่าว
ขณะที่นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวเสริมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องแก้ไขไม่ใช่แก้ตัว เพราะตอนบริหารก็หนีสภาเป็นนายกฯ รักษาการก็หนีชาวนา แต่หนีความจริงไม่พ้นจากการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว แก้ปัญหาสินค้าราคาแพงไม่ได้ สินค้าเกษตรตกต่ำ และมีการคอร์รัปชันอย่างรุนแรง โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าว มีการจัด ครม.ต่างตอบแทนจนเกิดการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพไม่สามารถแก้ปัญหาให้ประชาชนได้ แม้กระทั่งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯ และรมว.คลังก็หมดสภาพถูกชาวนาขับไล่ไม่ให้ความเชื่อถืออีกต่อไป เพราะฉะนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อาสาเป็นนายกคนต่อไปต้องแสดงวิสัยทัศน์ว่าแก้ปัญหาอย่างไรไม่ใช่แก้ตัวหรือหนีปัญหา ขอให้เปลี่ยนนามสกุลจากชินวัตร เป็นแซ่ลี้ภัย เพราะเหมาะสมที่สุดกับการทำงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์