xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนารีดเลือดจาก ‘ปู’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

สภาพทุรนทุรายใกล้สิ้นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของรัฐบาลนางโพยปูโพรกเน่าใน ช่วงนี้หาได้สร้างความรู้สึกสังเวชอเนจอนาถต่อผู้พบเห็นแต่อย่างใดไม่ การดื้อรั้นด้านทนเกาะเก้าอี้ศูนย์อำนาจจนชาติจวนล่มจมนั้นน่าทุเรศมากกว่า

การชุมนุมขับไล่ของมวลชนถูกตราหน้าว่าเป็นกบฏทำให้รัฐบาลนางโพยไร้ที่ทำงาน ต้องตะลอนๆ ไปทั่ว ล่าสุดไปปักหลักยึดอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นปราการสุดท้าย ใช้ตำรวจ ทหารกว่า 5 พันนายปกป้อง ถูกเยาะเย้ยถากถางว่าเป็นการใช้กองกำลังมากที่สุดคุ้มครองคนโง่

ขี้ข้าบักเหลี่ยมชั้นอ๋องสมองเลี่ยมทองประกอบด้วยไอ้ปึ้งไส้อั่วหัวเหม่ง บักริดสีดวง บักเฉ-ลิม และอับดุล รับบทม้า 4 ตัวลากรถนางโพยให้เดินหน้า ฝ่าอุปสรรคสารพัด มีเป้าหมายอย่างเดียวคือต้องรักษาอำนาจไว้ให้ได้

ฟ้าถล่มอดินทลาย ชาวบ้านล้มตาย บาดเมืองวอดวาย ต้องไม่สนใจ!

นั่นเป็นเพราะต้องสู้เพื่อเดิมพันสูง ถ้าพ่ายแพ้เกมนี้ นอกจากบักเหลี่ยมจะหมดโอกาสได้เหยียบแผ่นดินเกิดถาวรแล้ว พวกเครือข่ายครอบครัว ญาติพี่น้อง ข้าทาสบริวาร แกนนำเสื้อแดง นักการเมืองขี้ฉ้อกังฉินต้องอพยพหนีด้วย

ข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ ผู้คนทุกสาขาอาชีพ นักปราชญ์ราชบัณฑิต รวมทั้งบุคคลระดับสูงทั้งสถานภาพสังคมสติปัญญาต่างรวมตัวกันกดดันรัฐบาลนางโพยและเครือข่ายให้ยอมลงจากอำนาจ เห็นแก่ความสงบสุขสันติ

เปิดทางให้มีการปฏิรูป ฟื้นฟูประเทศ ก่อนจะย่อยยับมากกว่านี้

แต่พวกขี้ข้าบักเหลี่ยมชั้นอ๋องสมองเลี่ยมทองรู้ดีว่าถ้าหลุดจากเก้าอี้ ไม่มีโอกาสได้หวนคืนสู่อำนาจ ต้องเผ่นหนีคดีอาญา เพราะโกงกินไว้มากมายติดคุกอีก 10 รอบก็ล้างมลทินไม่หมด เพราะสร้างกรรมชั่วไว้เกินกว่าให้อภัยได้

ขณะนี้นอกจากคนในกองทัพ และตำรวจ ยังมีรัฐบาลสหรัฐฯ และยูเอ็นทำหน้าที่เสือกไม่จำกัด อุ้มรัฐบาลหมาเมินเพราะผลประโยชน์จากการกอบโกยทรัพย์สินแผ่นดินไทย น่าเสียดายที่ผู้นำกองทัพไม่ได้วางเฉยปล่อยให้ตำรวจค้ำ อำนาจนางโพยเพียงองค์กรเดียว เพราะนั่นจะทำให้การปฏิรูปตำรวจเกิดขึ้น

หัวโจกตำรวจก็รู้ดีว่าการเลิกอุ้มนางโพย นอกจากตัวเองจะโดนรื้อฟื้นพฤติกรรมชั่วแล้ว ต้องเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี ยึดทรัพย์ ดังนั้น จึงกัดฟังร่วมหัวจมท้าย ไม่ยอมไปตายเอาดาบหน้า ถ้ายังเหลือมาตรการทางกฎหมาย

ช่วงนี้ย่ามใจ หลังจากบักริดสีดวงรุกคืบหน้า หลังจากศาลอนุมัติหมายจับแกนนำ 19 คน และจะยังขอเพิ่มอีก กะว่าจะปิดล้อมไม่ให้กระดิกได้

แต่ก็นั่นแหละ กรรมมหันต์กำลังคิดบัญชีนางโพยและเครือข่ายนักการเมืองชั่วเมื่อชาวนาทั่วประเทศ ยกเว้นเชียงใหม่ ลุกฮือทวงเงินจากโครงการจำนำข้าว “เอาข้าวกูไป เอาเงินกูมา” ทำให้เห็นธาตุแท้ว่านักการเมืองภายไต้ “ทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ” นั้นได้สร้างความระยำหายนะมากเพียงใด

มาตรการปิดถนนแทบทุกเส้นทางสายหลักไม่ได้รับความสนใจจากนางโพยและพวก ยึดถือหลักว่า “อยากปิดถนนก็ทำไป พวกข้าอยู่ในห้องแอร์”

นั่นเป็นเพราะรัฐบาลนางโพยกำลังสิ้นท่า สิ้นสภาพ ถูกกระชากหน้ากากว่าเป็นจอมเขมือบข้าว โกงมหาศาล มีทั้งสต็อกลม ข้าวเน่า ข้าวหาย ข้าวขายไม่ได้ ไร้เครดิตกู้เงินจากธนาคารของรัฐก็ไม่ได้ อยู่ในสภาพสิ้นความน่าเชื่อถือ

ทุกวันนี้ผู้คนในสังคมขับไล่ ชาวนาคงรู้ซึ้งแล้วว่าการ “รีดเลือดจากนังปู”นั่นเป็นไปไม่ได้ตามคำเปรียบเปรยไว้ เพราะนางโพยเลือดเย็นอำมหิตเกินคาด นอกจากใช้ตามหน้าด้านโทษคนอื่น เหตุต่างๆ เช่นปิดกระทรวงการคลัง แล้วแต่จะคิดได้ ล่าสุดอ้างการยุบสภาทำให้จ่ายเงินไม่ได้ ทั้งๆ ที่ตัวเองทำ

จากนั้นก็อ้างว่าจีนไม่รับซื้อ ทั้งๆ ที่มีหลายประเทศทั่วโลกที่เคยเป็นผู้รับซื้อข้าวไทย แต่เป็นเพราะความชั่วระยำสุดขีดของนโยบายประชานิยมแท้ๆ ทำให้ชาวบ้านต้องอกไหม้ไส้ขม ประเทศไทยเสียตลาดข้าว ตกไปอยู่อันดับ 3

การหลอกชาวนา ฐานเสียงหลัก เหมือนโครงการรับจำนำข้าว เป็นงูกินหาง ไม่ช้าก็เร็วผลร้ายจะปรากฏ เพราะโกงจนนึกว่าจะได้เงินกู้ก้อนใหญ่มาต่อยอด ยื้อเวลาโกงบ้านกินเมืองจนกว่าจะล่มสลายให้ชาวบ้านเป็นหนี้นาน 50 ปี

ใช้เล่ห์อุบาทว์ ยุบสภา ดันทุรังเลือกตั้ง แต่ประชาชนให้บทเรียนเจ็บปวด ก็ยังกดดัน กกต. ให้จัดเลือกตั้งซ่อม ทั้งๆ ที่ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ขอดิ้นรนอีกเฮือก ทั้งๆ ที่รู้ว่าหลักประหารรออยู่ มีชาวนาล้อมรอทึ้งซากศพพวกกังฉิน

การกดดันโดยมาตรการกฎหมาย ออกหมายจับ ทำให้กำนันสุเทพและพวกต้องเร่งปิดเกมเช่นกัน พยายามไม่ให้ถูกจับกุม เพราะจะไม่มีโอกาสได้ประกันตัว ถูกคุมขังยาวนานถึงภายไต้เงื่อนไขของประกาศภาวะฉุกเฉิน

นักการเมืองกังฉินใช้กฎหมายและกลไกอำนาจรัฐเพื่อปิดเกมเช่นกัน ยิ่งศาลอนุมัติคำขอต่างๆ เท่ากับสร้างความชอบธรรมให้กลุ่มกุมอำนาจรัฐ รู้สึกฮึกเหิม แต่สภาพเช่นนี้หาได้ทำให้นางโพยมั่นใจ เพราะชาวนาต้องการเงินเพื่อยังชีพ จึงไม่รับฟังข้ออ้างแบบข้างๆ คู ไร้เหตุผล เพราะหูตาสว่างแล้วนั่นเอง

การชุมนุมของ “กบฏ” จัดเวทีรื่นเริงกลางเมือง สลับกับปราศรัยเปิดโปงความชั่วร้ายสะท้อนให้เห็นความพิสดาร เพราะรัฐบาลกลับซุกตัวหลบซ่อนอยู่ในซอกหลืบ กลายเป็น “รัฐบาลลับ” ไม่มีหลักแหล่ง หนีหน้าประชาชน

คงต้องให้มวลชนในเมือง ประสานพลังของชาวนา หนุนด้วยข้าราชการ ร่วมมือรุกครั้งสุดท้ายในศึกใหญ่ ถ้ากองทัพยังเพิกเฉยไม่กดดัน ก็ต้องทวงถามว่ายังมีจิตวิญญาณความรักชาติเหลือหรือไม่ หรือยังจะอุ้มรัฐบาลโจรต่อไป

ตำรวจระดับหัวโจกไร้ความน่าเชื่อถือ สิ้นสภาพ ถ้าตำรวจดียังไม่กล้าสนับสนุนประชาชน การฟื้นฟูความไว้วางใจยิ่งจะยากกว่าที่เป็นอยู่ ผลสุดท้ายกองทัพ ตำรวจจะถูกถามโดยประชาชนว่ายึดวินัยมากกว่าความถูกต้องหรือ

หรือว่าสิ้นจิตวิญญาณ สติปัญญา แยกแยะว่าอะไรดีชั่ว อะไรทำให้หน้ามืดตามัว จนลืมถึงหน้าที่ว่าต้องจงรักภักดีต่อความอยู่รอดของชาติ ประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น