ASTVผู้จัดการรายวัน-เผย "โกตี๋" เผ่น หนีหัวซุกหัวซุนออกนอกราชอาณาจักร หลังล้มเหลวนำ “กองกำลัง-ตำรวจ” ถล่ม กปปส.หลักสี่ แฉนักการเมืองใหญ่ย่านดอนเมือง-โคราชประสานพาหนีไปกัมพูชา ก่อนนั่งเรือต่อไปกบดานที่ฮ่องกง เปิดประวัติเป็นพ่อค้าวิ่งรอกโรงเกลือขายเสื้อผ้าตลาดนัดจตุจักร ก่อนผันตัวเป็นแกนนำเสื้อแดง ขายเครื่องดื่ม “ทักษิณ สู้”
หลังจากเหตุการณ์กลุ่มสนับสนุนการเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทย นำโดยนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ได้นำกองกำลังและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้าโจมตีผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) บริเวณแยกหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงบ่ายถึงเย็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2557 แต่ถูกตอบโต้กลับจนกองกำลังฝ่ายเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุด นายวุฒิพงศ์ได้ออกมายอมรับว่าได้หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และในเวลาต่อมา น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่า "โกตี๋" อาจจะไปอยู่บ้านเขยคนไหน หรือเก็บไว้ในจุดที่เคยฝึกนักรบชายชุดดำที่เขมร และเป็นการสร้างสถานการณ์เก็บตัวนายโกตี๋หรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบย้อนกลับไปดูเหตุการณ์นักการเมือง แกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลตั้งแต่เหตุการณ์เผาเมืองปี 2552 พบว่า คนเหล่านี้มักจะใช้เส้นทางการหลบหนีเข้าไปยังกัมพูชา โดยจากข้อมูลเดิมของศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) มีการเผยแพร่ว่า เส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะกัมพูชา จะมีด่านเถื่อนหลายด่าน และมีหลายช่องทางที่สามารถเดินทางออกไปได้ ทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น จันทบุรี ตราด สระแก้ว ในภาคตะวันออก และจังหวัดในเขตอีสานใต้อีกหลายจังหวัด
วิธีการผ่านด่านพวกนี้ อาจจะขอให้มีคนของประเทศนั้นๆ มารับก็ใช้ได้แล้ว โดยอาจจะต้องจ่ายเจ้าหน้าที่ประจำด่าน บางกลุ่มหนีออกไปกับรถตู้ของบ่อนการพนันตามแนวชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งเขมร เช่น ปอยเปต ที่ติดกับตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ถ้าเป็นผู้ต้องหาคดีไม่สำคัญ ก็สามารถติดไปกับรถของบ่อนการพนันได้เลย โดยทำทีไปเล่นพนัน เมื่อผ่านเข้าไปได้แล้วก็หาทางหนีต่อไป
ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาสำคัญหรือนักการเมือง การหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคนเหล่านี้มีเส้นสายมากมาย เพียงแต่จะไม่ผ่านด่านศุลกากร หรือด่านชายแดนถาวรให้มีหลักฐาน แต่จะผ่านทางด่านเถื่อน หรือมีเรือมารอรับ ซึ่งขบวนการที่มารับก็เป็นคนไทยทั้งนั้น รับไปแล้วก็พาไปส่งตามโรงแรมหรูในเครือข่าย
จากตัวอย่างกรณีของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเคยบรรยายวิธีการหนีไปซุกตัวที่ประเทศกัมพูชาว่า รถยนต์ก็ขับออกมาทางปทุมธานี สุพรรณบุรี ซึ่งต้องเปลี่ยนรถ 5-6 คัน กระทั่งรถแล่นมาถึงถนนมิตรภาพ ก็ยังมาเจอด่านทหารอีก ทหารสั่งให้รถทุกคันเปิดกระจกทั้งหมด เพื่อจะชะโงกหน้าเข้ามาดูในรถ แต่สุดท้ายตนก็ยังผ่านมาได้อีก และผ่านมาได้เรื่อยๆ จนถึงชายแดนที่จังหวัดหนองคาย จากนั้นตนก็ล่องเรือไหลมาตามน้ำเข้าประเทศกัมพูชาได้อย่างปลอดภัย
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ก็เคยอ้างถึงข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า เครือข่ายนักการเมืองสาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หากต้องการจะหนีเข้ากัมพูชาก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ข้ามไปที่เกาะช้าง จากนั้นก็จะมีคนมารับ นั่งเรือสปีดโบตไปไม่นานก็เข้าเขตกัมพูชาแล้ว ที่สำคัญรีสอร์ตใหญ่ๆ บนเกาะช้างล้วนเป็นอาณาจักรของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะซื้อในชื่อคนอื่นเอาไว้หลายแห่ง
ส่วนกรณีของนายวุฒิพงศ์ ที่ยืนยันว่า “ผมหนีมาเอง และผมนั่งรถทัวร์มา เงินก็ไม่มี และตอนนี้รอคนที่บ้าน เอาเงินมาให้ เพราะไม่มีอะไรติดตัวมา แม้แต่บัตรเอทีเอ็ม"
ขณะที่ในแฟนเพจคนเสื้อแดง บางกลุ่มระบุถึงเส้นทางหลบหนีของโกตี๋ โดยมีการโพสต์ภาพถ่ายโกตี๋ ซึ่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระบุว่าอยู่บนเกาะฮ่องกง ในเพจยังมีการเขียนอ้างว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. โกตี๋ได้เข้าพบนักเมืองใหญ่เขตดอนเมือง เพื่อประสานนักเมืองแถวโคราช ช่วยหลบหนีไปทาง จ.ชลบุรี ผ่านเกาะช้าง จ.ตราด ก่อนเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา และนั่งเรือไปเกาะฮ่องกง ตามที่มีการโพสต์ภาพ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในอดีตก่อนที่ “โกตี๋“ จะออกมารับจ้างจัดม็อบทั่วราชอาณาจักร โดยจัดคนไปไปทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ก่อนหน้านี้ “โกตี๋” เคยขายของอยู่ในตลาดนัดจตุจักร วิ่งรอกตลาดโรงเกลือ-ตลาดนัดจตุจักร มาปี 2552 ตั้งกลุ่ม “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” เพื่อสนับสนุนจาก “นายชูชาติ หาญสวัสดิ์” และบรรดา ส.ส.ในจังหวัดปทุมธานี และยกพลไปล้มการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา ปี 2553 เป็นทัพหน้าที่เคลื่อนกำลังบุกยึดสถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว จนเกิดเหตุปะทะกับทหาร และตั้ง “แดงฮาร์ดคอร์” เป็นลูกไล่ “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล” หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก การข่าวระบุว่า ซ่องสุมกำลังกับลูกน้อง "เสธ.แดง” ในจังหวัดปทุมธานี ใช้เป็นฐานในการหลบหนีกบดาน ปี 2554 ตั้งตัวเป็น ดีเจวิทยุเสื้อแดง สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 105.65 จังหวัดปทุมธานี พร้อมจัดตั้ง “หมู่บ้านเสื้อแดง” ตามยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวของ “แดง นปช.” แต่เคลื่อนไหวอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับ นปช.ส่วนกลาง และตั้งสถานีวิทยุ FM 106.10 สถานีวิทยุ เพื่อมวลชน (REDGARD RADIO) แฟนเพจ “โกตี๋ เรดการ์ด” เรดการ์ดเรดิโอ จำหน่าย “เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อ “ทักษิณ สู้” โดย มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นพรีเซ็นเตอร์
ส่วนการร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โกตี๋มีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ อดีตข้าราชการการเมืองสำนักนายกรัฐมนตรี นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น และกับตำรวจ มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยมีรูป “โกตี๋” ถ่ายคู่กับ “บิ๊กแจ๊ด” ปรากฏลงเฟซบุ๊กของ “โกตี๋ แดงนอกคอก” มาแล้ว
หลังจากเหตุการณ์กลุ่มสนับสนุนการเลือกตั้งและพรรคเพื่อไทย นำโดยนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) แกนนำเสื้อแดง จ.ปทุมธานี ได้นำกองกำลังและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้าโจมตีผู้ชุมนุมกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) บริเวณแยกหลักสี่ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อช่วงบ่ายถึงเย็นวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2557 แต่ถูกตอบโต้กลับจนกองกำลังฝ่ายเสื้อแดงได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวล่าสุด นายวุฒิพงศ์ได้ออกมายอมรับว่าได้หลบหนีไปยังประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา และในเวลาต่อมา น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตว่า "โกตี๋" อาจจะไปอยู่บ้านเขยคนไหน หรือเก็บไว้ในจุดที่เคยฝึกนักรบชายชุดดำที่เขมร และเป็นการสร้างสถานการณ์เก็บตัวนายโกตี๋หรือไม่
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบย้อนกลับไปดูเหตุการณ์นักการเมือง แกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลตั้งแต่เหตุการณ์เผาเมืองปี 2552 พบว่า คนเหล่านี้มักจะใช้เส้นทางการหลบหนีเข้าไปยังกัมพูชา โดยจากข้อมูลเดิมของศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) มีการเผยแพร่ว่า เส้นทางหลบหนีออกนอกประเทศที่นิยมกันมาก โดยเฉพาะกัมพูชา จะมีด่านเถื่อนหลายด่าน และมีหลายช่องทางที่สามารถเดินทางออกไปได้ ทั้งทางบกและทางน้ำ เช่น จันทบุรี ตราด สระแก้ว ในภาคตะวันออก และจังหวัดในเขตอีสานใต้อีกหลายจังหวัด
วิธีการผ่านด่านพวกนี้ อาจจะขอให้มีคนของประเทศนั้นๆ มารับก็ใช้ได้แล้ว โดยอาจจะต้องจ่ายเจ้าหน้าที่ประจำด่าน บางกลุ่มหนีออกไปกับรถตู้ของบ่อนการพนันตามแนวชายแดน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝั่งเขมร เช่น ปอยเปต ที่ติดกับตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว ถ้าเป็นผู้ต้องหาคดีไม่สำคัญ ก็สามารถติดไปกับรถของบ่อนการพนันได้เลย โดยทำทีไปเล่นพนัน เมื่อผ่านเข้าไปได้แล้วก็หาทางหนีต่อไป
ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาสำคัญหรือนักการเมือง การหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคนเหล่านี้มีเส้นสายมากมาย เพียงแต่จะไม่ผ่านด่านศุลกากร หรือด่านชายแดนถาวรให้มีหลักฐาน แต่จะผ่านทางด่านเถื่อน หรือมีเรือมารอรับ ซึ่งขบวนการที่มารับก็เป็นคนไทยทั้งนั้น รับไปแล้วก็พาไปส่งตามโรงแรมหรูในเครือข่าย
จากตัวอย่างกรณีของนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ซึ่งเคยบรรยายวิธีการหนีไปซุกตัวที่ประเทศกัมพูชาว่า รถยนต์ก็ขับออกมาทางปทุมธานี สุพรรณบุรี ซึ่งต้องเปลี่ยนรถ 5-6 คัน กระทั่งรถแล่นมาถึงถนนมิตรภาพ ก็ยังมาเจอด่านทหารอีก ทหารสั่งให้รถทุกคันเปิดกระจกทั้งหมด เพื่อจะชะโงกหน้าเข้ามาดูในรถ แต่สุดท้ายตนก็ยังผ่านมาได้อีก และผ่านมาได้เรื่อยๆ จนถึงชายแดนที่จังหวัดหนองคาย จากนั้นตนก็ล่องเรือไหลมาตามน้ำเข้าประเทศกัมพูชาได้อย่างปลอดภัย
ขณะเดียวกัน หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ก็เคยอ้างถึงข้อมูลจากแหล่งข่าวด้านความมั่นคงว่า เครือข่ายนักการเมืองสาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หากต้องการจะหนีเข้ากัมพูชาก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ข้ามไปที่เกาะช้าง จากนั้นก็จะมีคนมารับ นั่งเรือสปีดโบตไปไม่นานก็เข้าเขตกัมพูชาแล้ว ที่สำคัญรีสอร์ตใหญ่ๆ บนเกาะช้างล้วนเป็นอาณาจักรของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะซื้อในชื่อคนอื่นเอาไว้หลายแห่ง
ส่วนกรณีของนายวุฒิพงศ์ ที่ยืนยันว่า “ผมหนีมาเอง และผมนั่งรถทัวร์มา เงินก็ไม่มี และตอนนี้รอคนที่บ้าน เอาเงินมาให้ เพราะไม่มีอะไรติดตัวมา แม้แต่บัตรเอทีเอ็ม"
ขณะที่ในแฟนเพจคนเสื้อแดง บางกลุ่มระบุถึงเส้นทางหลบหนีของโกตี๋ โดยมีการโพสต์ภาพถ่ายโกตี๋ ซึ่งอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง ระบุว่าอยู่บนเกาะฮ่องกง ในเพจยังมีการเขียนอ้างว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ. โกตี๋ได้เข้าพบนักเมืองใหญ่เขตดอนเมือง เพื่อประสานนักเมืองแถวโคราช ช่วยหลบหนีไปทาง จ.ชลบุรี ผ่านเกาะช้าง จ.ตราด ก่อนเดินทางเข้าประเทศกัมพูชา และนั่งเรือไปเกาะฮ่องกง ตามที่มีการโพสต์ภาพ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในอดีตก่อนที่ “โกตี๋“ จะออกมารับจ้างจัดม็อบทั่วราชอาณาจักร โดยจัดคนไปไปทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ก่อนหน้านี้ “โกตี๋” เคยขายของอยู่ในตลาดนัดจตุจักร วิ่งรอกตลาดโรงเกลือ-ตลาดนัดจตุจักร มาปี 2552 ตั้งกลุ่ม “กลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย” เพื่อสนับสนุนจาก “นายชูชาติ หาญสวัสดิ์” และบรรดา ส.ส.ในจังหวัดปทุมธานี และยกพลไปล้มการประชุมอาเซียนซัมมิต ที่โรงแรมรอยัลคลิฟ พัทยา ปี 2553 เป็นทัพหน้าที่เคลื่อนกำลังบุกยึดสถานีไทยคม ลาดหลุมแก้ว จนเกิดเหตุปะทะกับทหาร และตั้ง “แดงฮาร์ดคอร์” เป็นลูกไล่ “พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล” หรือ เสธ.แดง อดีตผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก การข่าวระบุว่า ซ่องสุมกำลังกับลูกน้อง "เสธ.แดง” ในจังหวัดปทุมธานี ใช้เป็นฐานในการหลบหนีกบดาน ปี 2554 ตั้งตัวเป็น ดีเจวิทยุเสื้อแดง สถานีวิทยุเอฟเอ็ม 105.65 จังหวัดปทุมธานี พร้อมจัดตั้ง “หมู่บ้านเสื้อแดง” ตามยุทธศาสตร์เคลื่อนไหวของ “แดง นปช.” แต่เคลื่อนไหวอิสระ ไม่ขึ้นตรงกับ นปช.ส่วนกลาง และตั้งสถานีวิทยุ FM 106.10 สถานีวิทยุ เพื่อมวลชน (REDGARD RADIO) แฟนเพจ “โกตี๋ เรดการ์ด” เรดการ์ดเรดิโอ จำหน่าย “เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อ “ทักษิณ สู้” โดย มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นพรีเซ็นเตอร์
ส่วนการร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โกตี๋มีความสนิทสนมกับ พ.ต.ท.เสงี่ยม สำราญรัตน์ อดีตข้าราชการการเมืองสำนักนายกรัฐมนตรี นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นต้น และกับตำรวจ มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยมีรูป “โกตี๋” ถ่ายคู่กับ “บิ๊กแจ๊ด” ปรากฏลงเฟซบุ๊กของ “โกตี๋ แดงนอกคอก” มาแล้ว
