บก.น.5 สั่งพักราชการดาบ ตร.จราจร ตั้งด่านเถื่อนรีดส่วยในพื้นที่ สน.บางนา พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดทั้งทางวินัยและอาญา
ชมคลิป...
วันนี้ (7 พ.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ในฐานะรับผิดชอบงานด้านกฎหมายและสอบสวน รักษาการแทน ผบก.น.5 เปิดเผยว่า เรื่องนี้ได้รับรายงานจาก พ.ต.ท.ศุภชัย ชัยสุวรรณ รอง ผกก.จร.สน.บางนาแล้วว่า นายตำรวจที่ปรากฏในคลิปที่มีการเผยแพร่ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ชื่อ ด.ต.นิพนธ์ โศรกหาย ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางนา และได้เรียกตัวมาสอบถามแล้ว ด.ต.นิพนธ์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง ขณะนี้ได้สั่งการให้ บก.น.5 ตั้งคณะพนักงานสอบสวนขึ้นมาพิจารณาข้อบกพร่องกรณีการกระทำผิดวินัยร้ายแรง โดยมี พ.ต.อ.สุนทร เขมะประภา รอง ผบก.น.5 เป็นกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เบื้องต้นได้มีความเห็นให้สั่งพักราชการจนกว่าการสอบสวนจะเสร็จสิ้น เนื่องจากเป็นการทำผิดที่เสียหายร้ายแรง คาดว่าจะทราบผลการสอบสวนได้ภายใน 3 วันนี้
พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวอีกว่า อยากให้ผู้ที่ถูก ด.ต.นิพนธ์เรียกรับผลประโยชน์ เข้ามาให้การเป็นพยาน เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ แต่ถ้าหากผู้เสียหายไม่มาแจ้งความให้ดำเนินคดีหรือมาให้ปากคำ ทางตำรวจก็สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้เท่าที่มีอยู่ แต่น้ำหนักอาจจะไม่หนักแน่นเท่ากับการที่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ จากการสอบถาม ด.ต.นิพนธ์ยังไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรมากนัก เพียงแค่ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง ส่วนนายตำรวจอีกคนที่ปรากฏอยู่ในคลิปด้วยนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยก็จะต้องถูกดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา อย่างไรก็ตามจะขอตรวจสอบย้อนหลังไปด้วยว่า ก่อนหน้านี้ ด.ต.นิพนธ์เคยมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์แบบนี้หรือไม่ แต่เท่าที่สอบถามรอง ผกก.จร.สน.บางนา เบื้องต้นทราบว่ายังไม่เคยมีประวัติในลักษณะนี้มาก่อน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ทาง บช.น.เคยมีการคาดโทษทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เรียกรับสินบน และประชาชนที่ให้เงินกับตำรวจด้วย พล.ต.ต.อนุชัยกล่าวว่า ในเรื่องของคดีการเรียกรับผลประโยชน์นั้น หากมีการดำเนินคดีต่อผู้ให้ด้วย ก็จะไม่มีใครมาผู้เสียหายหรือเป็นพยานให้กับพนักงานสอบสวน ความผิดต่อเจ้าพนักงานในการเรียกรับผลประโยชน์ ต้องมีทั้งสองฝ่ายก็จริง แต่กฎหมายต้องการที่จะลงโทษเจ้าพนักงานที่ไปเรียกรับ ผู้ที่ให้ก็ถือว่ามีความผิด แต่ในโทษทัณฑ์ที่ร้ายแรงกว่าคือความเป็นเจ้าพนักงานและอาศัยเครื่องแบบแสวงหาผลประโยชน์ ดังนั้น ทางด้านคุณธรรมก็ต้องให้ความคุ้มครองกับผู้ที่ให้ก่อน เพื่อกันไว้เป็นพยาน ในการที่จะลงโทษผู้กระทำผิด
“ส่วนเรื่องการตั้งด่านจราจรในบริเวณที่ปรากฏตามภาพนั้น อยู่ระหว่างการพูดคุยกับ พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รอง ผบช.น. ซึ่งรับผิดชอบงานด้านจราจรว่า บริเวณดังกล่าวสามารถตั้งด่านได้หรือไม่อย่างไร และในช่วงเวลาดังกล่าวมีนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรอยู่ด้วยหรือไม่ เพราะตำรวจที่แสวงหาผลประโยชน์หรือประพฤติตัวนอกลู่นอกทางก็มีวิธีช่องทางในการกระทำความผิดอยู่แล้ว เราเป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องกวดขัน ถ้าพบการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการ ส่วนการดำเนินการกับผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ ด.ต.นิพนธ์นั้น ปกติทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการกำหนดเอาไว้อยู่แล้ว ในการให้ผู้บังคับบัญชาควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ทาง บช.น.เองก็ได้เรียกประชุม ผกก.และรอง ผกก.ให้ควบคุมดูแลลูกน้องไม่ให้มีความประพฤติที่เสียหาย มีขึ้นตอนการปฏิบัติอยู่แล้ว ใครบกพร่องก็พิจารณาเป็นรายๆ ไป” รอง ผบช.น. กล่าว