ASTVผู้จัดการรายวัน-"จาตุรนต์"กล้าพูดเต็มปาก "โครงการแท็บเล็ต" ไร้โกง หลังถูก "เซิ่นเจิ้น"บอกเลิกสัญญา ยันนโยบายไม่ผิดพลาด แต่ยอมรับกระทบรัฐบาลในแง่ผลักดันนโยบายไม่สำเร็จ ยังดิ้นหาทางประมูลรอบใหม่อีก "ชวนนท์"ตั้งข้อสังเกต มีปัญหาเรื่องถูกรีดเงินใต้โต๊ะหรือไม่ ถึงถูกล้มสัญญา ซัดขยะอิเล็กทรอนิกส์เกลื่อนเมืองแน่
ความคืบหน้าหลังจากบริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ที่ชนะการประมูลโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ปีการศึกษา 2556 ในการจัดซื้อแท็บเล็ตชั้น ป.1และ ม.1 โซน 1 ภาคกลางและภาคใต้ จำนวน 431,105 เครื่อง มูลค่า 842 ล้านบาท และโซน2 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 373,637 เครื่อง เป็นเงิน 786 ล้านบาท วงเงินรวม วงเงิน 1,628 ล้านบาท ได้ทำหนังสือแจ้งขอยกเลิกสัญญาซื้อขายแท็บเล็ต โดยให้เหตุผลถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย ความเข้าใจต่อทีโออาร์ และสัญญาไม่ตรงกัน รวมถึงการติดต่อสื่อสารมีปัญหาอุปสรรค จนกระทั่งบริษัทส่งมอบของล่าช้าและถูกเรียกค่าปรับ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องนี้ว่า ได้มอบให้คณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ตและคณะกรรมการจัดซื้อของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปทำการรวบรวมประมวลและวิเคราะห์บทเรียนจากการดำเนินการที่ผ่านมาทุกด้าน ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ การจัดส่ง สเปกของเครื่อง ประโยชน์ของการใช้งาน โดยเฉพาะให้ไปดูเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ทีโออาร์ หลักเกณฑ์ในการประมูลและการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งในกรณีที่เป็นบริษัทต่างประเทศจะต้องมีหลักเกณฑ์และคุณสมบัติเช่นไรบ้างที่สอดคล้องกับหลักสากลและสร้างความมั่นใจว่าได้ผู้ขายผู้ผลิตที่ทำงานได้จริง
ขณะเดียวกัน ขอให้ไปดูในประเด็นการประมูลจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน ครั้งใหม่ว่าควรจะให้เป็นหน่วยราชการเดียวแบบเดิม หรือจะแยกการประมูลของแต่ละหน่วยงาน เพราะการจัดซื้อแท็บเล็ตครั้งนี้ มีของส่วนราชการอื่นด้วยประมาณ 7-8หน่วยงานที่เป็นเจ้าของงบประมาณ โดยทั้งหมดนี้ ต้องประเมินมาให้ดีที่สุดและต้องรีบตัดสินใจบนพื้นฐานของการสรุปบทเรียนและป้องกันปัญหา
"ที่ผ่านมา พูดได้เต็มปากว่าไม่มีปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน กรณีมีการทักท้วง ก็หาทางตรวจสอบเพื่อให้หมดข้อสงสัย บางเรื่องที่เห็นว่าจะมีการทุจริต ก็ระงับยับยั้ง ทำการตรวจสอบจนกระทั่งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างมีมติยกเลิกบางสัญญาไป แต่ก็ยังไม่เป็นผล เพราะมีข้อทักท้วงมาอีก เพราะฉะนั้น โดยรวมแล้วตลอดกระบวนการไม่มีการทุจริตและไม่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต แต่กลับพบปัญหาใหญ่ คือ ความไม่สำเร็จในการจัดซื้อ เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดจากความล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพของระบบการจัดซื้อ จึงต้องไปดูกฎระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดทำให้เกิดความเสียโอกาสกับนักเรียนที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องสรุปบทเรียนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดซื้อ ผู้ตรวจรับ เป็นต้น ได้มาร่วมกันแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร" นายจาตุรนต์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อรัฐบาลอยู่บ้างในแง่นโยบายที่ยังไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ แต่ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของนโยบาย เกิดจากระบบการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ความล้มเหลวของการบริหารจัดการที่แม้ตนจะมาในช่วงหลัง ก็ต้องร่วมรับผิดชอบหาทางแก้ปัญหา เพราะฉะนั้น สพฐ.ต้องสรุปรายงานและข้อเสนอ เพื่อนำมาหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการในวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งตั้งใจว่าจะต้องให้ได้ข้อสรุปทั้งหมด โดยเฉพาะการจัดประมูลแท็บเล็ตรอบใหม่ในโซนที่มีปัญหาทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับเกณฑ์ให้เขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการจัดซื้อเอง นายจาตุรนต์กล่าวว่า เป็นประเด็นหนึ่งที่สามารถจะคิดได้ เพราะเดิมได้ดำเนินการจัดซื้อรวมมาแล้ว และต่อมามาแบ่งเป็นโซน เพื่อคำนึงถึงความสะดวกในการซ่อม ดังนั้น ตอนนี้ต้องชั่งน้ำหนักการรวมให้ สพฐ. ดำเนินการจัดซื้อให้ ซึ่งทำให้องค์กรเล็กที่หากดำเนินการเองป่านนี้คงเสร็จไปแล้ว แต่ก็อาจจะเจอปัญหาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินว่าการจัดซื้อราคาต่างกันจะได้หรือไม่ โดยทั้งหมดนี้ต้องมาหารือเพื่อหาข้อสรุปกัน
ทางด้านนายชวนนท์ อินทรโมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่บริษัท เซิ่นเจิ้น ล้มสัญญาที่ทำกับรัฐบาล สะท้อนความล้มเหลวจากนโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทยที่เห็นประโยชน์ซึ่งหน้ามากกว่าประโยชน์ระยะยาวของประเทศ ใช้นโยบายแจกของฟรี ให้ของเล่นเพื่อเข้าสู่อำนาจ แต่ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น จนปัญหาหมักหมม และยังฟ้องถึงการทุจริตอย่างชัดเจน
"การที่บริษัทเซิ่นเจิ้นล้มสัญญา จะทำให้แท็บเล็ตกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ทันที เพราะจะไม่มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ และบริษัทยังไม่ยอมจ่ายค่าปรับที่ไม่สามารถส่งแท็บเล็ตได้ตามสัญญา โดยอ้างว่าตีความทีโออาร์ไม่ตรงกัน เป็นเพราะว่า มีปัญหาเงินใต้โต๊ะ ไม่สมประโยชน์ใช่หรือไม่ หรือบริษัทถูกขูดรีดจากนักการเมือง จนไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นประเทศเสียหายอย่างย่อยยับ ภายใต้การบริหารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ดังนั้น ในช่วงสองสัปดาห์จากนี้ไป กกต. ต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ว่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประเทศได้อย่างไร"นายชวนนท์กล่าว
ความคืบหน้าหลังจากบริษัท เซิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ที่ชนะการประมูลโครงการ 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียน ปีการศึกษา 2556 ในการจัดซื้อแท็บเล็ตชั้น ป.1และ ม.1 โซน 1 ภาคกลางและภาคใต้ จำนวน 431,105 เครื่อง มูลค่า 842 ล้านบาท และโซน2 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 373,637 เครื่อง เป็นเงิน 786 ล้านบาท วงเงินรวม วงเงิน 1,628 ล้านบาท ได้ทำหนังสือแจ้งขอยกเลิกสัญญาซื้อขายแท็บเล็ต โดยให้เหตุผลถึงความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย ความเข้าใจต่อทีโออาร์ และสัญญาไม่ตรงกัน รวมถึงการติดต่อสื่อสารมีปัญหาอุปสรรค จนกระทั่งบริษัทส่งมอบของล่าช้าและถูกเรียกค่าปรับ ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินการในเรื่องนี้ว่า ได้มอบให้คณะกรรมการตรวจรับแท็บเล็ตและคณะกรรมการจัดซื้อของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ไปทำการรวบรวมประมวลและวิเคราะห์บทเรียนจากการดำเนินการที่ผ่านมาทุกด้าน ทั้งที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อ การจัดส่ง สเปกของเครื่อง ประโยชน์ของการใช้งาน โดยเฉพาะให้ไปดูเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ทีโออาร์ หลักเกณฑ์ในการประมูลและการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูล ซึ่งในกรณีที่เป็นบริษัทต่างประเทศจะต้องมีหลักเกณฑ์และคุณสมบัติเช่นไรบ้างที่สอดคล้องกับหลักสากลและสร้างความมั่นใจว่าได้ผู้ขายผู้ผลิตที่ทำงานได้จริง
ขณะเดียวกัน ขอให้ไปดูในประเด็นการประมูลจัดซื้อจัดจ้างทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-ออกชัน ครั้งใหม่ว่าควรจะให้เป็นหน่วยราชการเดียวแบบเดิม หรือจะแยกการประมูลของแต่ละหน่วยงาน เพราะการจัดซื้อแท็บเล็ตครั้งนี้ มีของส่วนราชการอื่นด้วยประมาณ 7-8หน่วยงานที่เป็นเจ้าของงบประมาณ โดยทั้งหมดนี้ ต้องประเมินมาให้ดีที่สุดและต้องรีบตัดสินใจบนพื้นฐานของการสรุปบทเรียนและป้องกันปัญหา
"ที่ผ่านมา พูดได้เต็มปากว่าไม่มีปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน กรณีมีการทักท้วง ก็หาทางตรวจสอบเพื่อให้หมดข้อสงสัย บางเรื่องที่เห็นว่าจะมีการทุจริต ก็ระงับยับยั้ง ทำการตรวจสอบจนกระทั่งคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างมีมติยกเลิกบางสัญญาไป แต่ก็ยังไม่เป็นผล เพราะมีข้อทักท้วงมาอีก เพราะฉะนั้น โดยรวมแล้วตลอดกระบวนการไม่มีการทุจริตและไม่มีข้อกล่าวหาเรื่องทุจริต แต่กลับพบปัญหาใหญ่ คือ ความไม่สำเร็จในการจัดซื้อ เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดจากความล่าช้า ไม่มีประสิทธิภาพของระบบการจัดซื้อ จึงต้องไปดูกฎระเบียบ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องทั้งหมดทำให้เกิดความเสียโอกาสกับนักเรียนที่ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องสรุปบทเรียนให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้จัดซื้อ ผู้ตรวจรับ เป็นต้น ได้มาร่วมกันแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร" นายจาตุรนต์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทบต่อรัฐบาลอยู่บ้างในแง่นโยบายที่ยังไม่เกิดผลสัมฤทธิ์ แต่ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของนโยบาย เกิดจากระบบการจัดการที่ไม่มีประสิทธิภาพ ความล้มเหลวของการบริหารจัดการที่แม้ตนจะมาในช่วงหลัง ก็ต้องร่วมรับผิดชอบหาทางแก้ปัญหา เพราะฉะนั้น สพฐ.ต้องสรุปรายงานและข้อเสนอ เพื่อนำมาหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการในวันที่ 7 ก.พ. ซึ่งตั้งใจว่าจะต้องให้ได้ข้อสรุปทั้งหมด โดยเฉพาะการจัดประมูลแท็บเล็ตรอบใหม่ในโซนที่มีปัญหาทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะปรับเกณฑ์ให้เขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการจัดซื้อเอง นายจาตุรนต์กล่าวว่า เป็นประเด็นหนึ่งที่สามารถจะคิดได้ เพราะเดิมได้ดำเนินการจัดซื้อรวมมาแล้ว และต่อมามาแบ่งเป็นโซน เพื่อคำนึงถึงความสะดวกในการซ่อม ดังนั้น ตอนนี้ต้องชั่งน้ำหนักการรวมให้ สพฐ. ดำเนินการจัดซื้อให้ ซึ่งทำให้องค์กรเล็กที่หากดำเนินการเองป่านนี้คงเสร็จไปแล้ว แต่ก็อาจจะเจอปัญหาจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินว่าการจัดซื้อราคาต่างกันจะได้หรือไม่ โดยทั้งหมดนี้ต้องมาหารือเพื่อหาข้อสรุปกัน
ทางด้านนายชวนนท์ อินทรโมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่บริษัท เซิ่นเจิ้น ล้มสัญญาที่ทำกับรัฐบาล สะท้อนความล้มเหลวจากนโยบายประชานิยมของพรรคเพื่อไทยที่เห็นประโยชน์ซึ่งหน้ามากกว่าประโยชน์ระยะยาวของประเทศ ใช้นโยบายแจกของฟรี ให้ของเล่นเพื่อเข้าสู่อำนาจ แต่ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น จนปัญหาหมักหมม และยังฟ้องถึงการทุจริตอย่างชัดเจน
"การที่บริษัทเซิ่นเจิ้นล้มสัญญา จะทำให้แท็บเล็ตกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ทันที เพราะจะไม่มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้ และบริษัทยังไม่ยอมจ่ายค่าปรับที่ไม่สามารถส่งแท็บเล็ตได้ตามสัญญา โดยอ้างว่าตีความทีโออาร์ไม่ตรงกัน เป็นเพราะว่า มีปัญหาเงินใต้โต๊ะ ไม่สมประโยชน์ใช่หรือไม่ หรือบริษัทถูกขูดรีดจากนักการเมือง จนไม่สามารถดำเนินโครงการต่อไปได้ สิ่งที่เกิดขึ้นประเทศเสียหายอย่างย่อยยับ ภายใต้การบริหารของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ ดังนั้น ในช่วงสองสัปดาห์จากนี้ไป กกต. ต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ว่าจะทำให้การเลือกตั้งเป็นทางออกที่แท้จริงให้กับประเทศได้อย่างไร"นายชวนนท์กล่าว