ASTVผู้จัดการรายวัน - "ปู" ปฏิบัติภารกิจที่ สป.กห. ตามปกติ ขอกำลังทหารจากทอ.มาเสริมในการรักษาความปลอดภัย "เหลิม" ขู่ใช้กำลังจับกุมม็อบบุกสถานที่ราชการ พร้อมท้า กปปส.บุก ศรส. เกมจะได้โอเวอร์ สำนักพุทธฯ ขู่โทษถึงจับสึก "หลวงปู่พุทธะอิสระ" ฐานผิดพระธรรมวินัยสงฆ์ ขณะที่ศาลนัดฟังคำขออนุมัติหมายจับ 6 ก.พ.นี้ ด้าน “สุเทพ” เผยอดีตผู้พิพากษาศาลฎีกาแนะช่องสยบระบอบแม้ว
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (4ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางมาปฏิบัติภารกิจตามปกติ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. จะมาปิดล้อมสำนักงานฯ ขับไล่นายกฯ และรัฐมนตรี ไม่ให้ใช้เป็นสถานที่ทำงานไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยนายกฯได้ประชุมร่วมกับ รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อรับฟังรายงาน และประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การรักษาความปลอดภัยในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้เพิ่มรั้วลวดหนามเป็น 3 ชั้นรอบสำนักงานฯ พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำทางเข้าออกทั้งหมด และตรวจพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด หาวัตถุต้องสงสัย หลังกปปส. มาปิดล้อม
ต่อมาเวลา 12.45 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการทหารอากาศโยธิน 1 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาอากาศโยธิน จำนวน 1 กองร้อย ได้เดินมาประจำการที่ สป.กห. จากเดิมที่มีเจ้าหน้าที่ทหารจากจากศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จ.ลพบุรี จำนวน 2 กองร้อย ประจำการอยู่แล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงการจัดกำลังพลมาสนับสนุน ว่า ทาง ศรส.ได้มีหนังสือขอกำลังทหาร มายังกองทัพอากาศ เพื่อสนับสนุนภารกิจการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แจ้งวัฒนะ โดยทาง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ได้สั่งการอนุมัติให้จัดกำลังทหารจากกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ อากาศโยธิน (ตอ.รอ.อย.) จำนวน 120 นาย ซึ่งการสนับสนุนภารกิจของ ศรส. จะมีเพียงแค่โล่เท่านั้น และจะไม่มีการพกอาวุธเข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด เพราะภารกิจเป็นเพียงแค่รักษาความสงบเรียบร้อย และ ดูแลในพื้นที่สำนักงานปลัดเท่านั้น
** "เหลิม"ขู่ฟ่อจับม็อบบุกสถานที่ราชการ
เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (4 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ผอ.ศรส.) กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ยอมรับแล้วว่า ชายชุดดำที่ยืนในเหตุการณ์หลักสี่ เป็นพรรคพวกกับกปปส. มายิงเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้หลวงปู่พุทธะอิสระและนายสุเทพ ยังยืนโค้งคำนับ โบราณบอกว่า น้ำลดตอผุด ทุกอย่างใกล้เข้ามาแล้ว
"ใครอยู่แนวหน้า แนวหน้ามามั้ย ผมเชื่อว่า ผู้สื่อข่าวดี แต่โรงพิมพ์มันเหี้ย มันไปพาดหัวยังไง กกต.หักหน้าเฉลิม ซึ่งมันไม่มีอะไรเลย เจ้าของแนวหน้าสนิทกับผมตั้งแต่ยศร้อยโท และพอผมฟ้องก็โทรมาขอตลอด ก็เพราะมีนักข่าวเหี้ยๆ อยู่ในโรงพิมพ์ ผมไม่เคยกลัว หรือเกลียดหนังสือพิมพ์ แต่แนวหน้า เหี้ย ไปลงให้ทะเลาะกัน กกต.หักหน้าเฉลิม เรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวก็อยู่เป็นร้อย" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ตนจะใช้มาตรการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ตนไม่ได้เตือน กปปส. แต่เตือนทุกภาคส่วน การขัดขวางการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ใครผิดก็จะถูกตั้งข้อหา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือคนขัดขวางการลงคะแนน หากจากนี้ใครก็ตามที่ไปปิด บุกรุกสถานที่ราชการ ตนจะใช้กำลังจับกุม ความผิดตามพระราชกำหนด หากต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ถ้าไม่ออกจากสถานที่บุกรุก จะเอากำลังไปจับออก ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ พร้อมกันนี้ตนได้บอกหน่วยงานที่ถูกบุกรุก ให้แจ้งความร้องทุกข์ จากนี้ กปปส.ไปบุกรุก ปิดล้อมบ้านใคร หากตำรวจอยู่ ต้องจับ เพราะถือเป็นความผิดซึ่งหน้า แต่จะไม่มีการสลายม็อบ คนละประเด็นกัน ขอให้สื่อมวลชนเข้าใจ ลักษณะอย่างนี้ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นพฤติกรรมของการก่อกวนให้ประเทศชาติเกิดความไม่สงบ ซึ่งตนจะทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูตทั่วโลก ในนาม ผอ.ศรส. และจะแจ้งสื่อมวลชนของไทย ให้รับทราบด้วย
**ท้า"เทือก"บุกศรส. จะได้เกมโอเวอร์
เมื่อถามว่า การพูดท้าทายใช้มาตรการที่เด็ดขาดแบบนี้ จะเป็นการเรียกแขกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ห่วง แขก เจ๊กมากันครบแล้ว อย่าว่าเรียกแขก ไม่ได้กลัวคนพวกนี้ เมื่อถามว่าจะเข้าทางของผู้ที่ต้องการให้ใช้ความรุนแรงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เข้าทางใครก็เข้า เอากฎหมายเป็นหลัก และทั้งหมดประชาธิปัตย์สุมหัวด้วย อวดดีจะมา ศรส. มาสักทีเถอะ เกมจะได้โอเวอร์ ใช้มาตรการทางกฎหมายเด็ดขาดบ้านเมืองจะได้ไปได้ ไม่อย่างนั้นมันอึมครึม บุกรุกจับคดีอาญา ส่วนม็อบที่ชุมนุมอยู่ต่อไป ไม่ยุ่ง อยู่จนกว่าไม่มีเงิน อย่าว่าเฉลิมห้าว ห้าวมานานแล้ว แต่ใจดีมากไป
** ศรส.ตั้งทีมประสานสื่อ
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะผอ.ศรส.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะบุคคลให้เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านเผยแพร่ข่าวสาร และประชาสัมพันธ์ใน ศรส. 5 รายดังนี้ 1.นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ 2.นายธนกร วงษ์ปัญญา 3. นายสัญชัย โลจนะรุ่งสิริ 4. น.ส.จตุพร กาฬภักดี และ ตน นอกจากนี้ยังมีคำสั่งแต่งตั้งพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ในฐานะที่ปรึกษาศรส. เป็นหัวหน้าทีมเจรจาขอเปิดพื้นที่สะพานพระราม 8 และประสานงานระหว่าง กกต.กับ ศรส.ด้วย
** "เทือก"ยันสันติ อหิงสา โค่นระบอบทักษิณ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ขึ้นปราศรัยเวทีสวนลุมพินี โดยย้ำถึงแนวทางการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ที่มีเป้าหมายโค่นระบอบทักษิณ เพราะที่ผ่านมานั้นเกิดวงจรทุจริตคอร์รัปชัน ใช้ประชาธิปไตยให้ได้มาซึ่งอำนาจ ไม่สนใจประชาชนและประเทศ โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ยอมเคารพกฎหมายไทย และในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เช่นกัน ที่พยายามผลักดันทั้งกฎหมายล้างผิด การแก้ที่มาของส.ว. เมื่อมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ กลับออกมาประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล
ทั้งนี้ การปฏิบัติภารกิจของ กปปส. ยังคงเดินหน้าปิดสถานที่ราชการ ไม่ให้ข้าราชการเป็นเครื่องมือของรัฐบาล
พร้อมกันนี้ ยังถือโอกาสเชิญชวนชาวสีลมร่วมกิจกรรม เพราะตนเองจะขึ้นปราศรัยเวทีนี้ทุกวันเวลา 12.00 น. เพื่อรายงานแนวทางการต่อสู้สถานการณ์บ้านเมือง โดยพูดจากข้อเท็จจริงทั้งหมด
**"หลวงปู่"เปิดให้ขรก.ทำงานได้วันแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุม กปปส.เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเช้าวานนี้ (4ก.พ.) ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อน และรับประทานอาหารเช้า ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของการ์ดอาสาอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยินยอมให้ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม เข้าทำงานเป็นวันแรกตามข้อตกลงระหว่างหลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งดูแล กปปส.เวทีศูนย์ราชการ กับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ยอมให้ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ที่จำเป็นต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่เข้าทำงาน ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีข้าราชการบางส่วนทยอยเดินทางมาทำงาน หลังจากถูก กปปส.ปิดล้อมมาหลายวัน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า วันนี้ ( 5 ก.พ. ) ตนจะประสานเพื่อไปนมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ ด้วยตัวเอง โดยจะเจรจาขอเข้าไปใช้พื้นที่สำนักงาน กกต. ในศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ โดยการเดินทางไปในนามส่วนตัว เพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่กกต. ปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกขึ้น
**สำนักพุทธฯ ขู่จับสึก"พุทธะอิสระ"
เวลา 9.30 น.วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงกรณีที่ หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้นำมวลชนขัดขวางการเลือกตั้งในพื้นที่เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 1ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่ม กปปส. กับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย และมีผู้บาดเจ็บ จนมีกระแสข่าวว่าสำนักพุทธฯ ไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ทางสำนักพุทธฯ เห็นว่าหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ร่วมกันชุมนุมและปิดสถานที่ราชการ ทางสำนักพุทธฯ ก็เกิดความไม่สบายใจ ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ดำเนินการนิมนต์หลวงปู่พุทธะอิสระไปว่ากล่าวตักเตือน เพราะไม่สมควรที่จะไปกระทำการร่วมกับการชุมนุม เพราะถือเป็นการทำผิดพระธรรมวินัย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากหลวงปู่พุทธะอิสระแต่อย่างใด ทางสำนักพุทธฯ จึงแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อประสานพูดคุยอีกครั้งหนึ่ง ล่าสุดจึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดี โดยประชาชนที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย
คณะสงฆ์จึงสรุปว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ทำผิดพระธรรมวินัยของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากได้ชุมนุม และชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย และล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหมายเรียกให้หลวงปู่พุทธะอิสระ มาให้ปากคำในข้อหากบฏ จึงถือว่าหลวงปู่ฯ มีความผิดทั้งธรรมวินัยและกฎหมายอย่างชัดเจน ขอชี้แจงว่า ทางสำนักพุทธไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ ทางสำนักพุทธฯ จะดำเนินการให้หลวงปู่สึกหรือไม่ นายนพรัตน์ กล่าวว่า ในเรื่องการสึก มีกฎหมายรองรับชัดเจนมาก ถ้าพระรูปใดทำผิดกฎหมายอาญา เมื่อจับกุมแล้ว หากเห็นว่าไม่สมควรให้ประกัน ก็จะทำการสึกได้ทันที
อย่างไรก็ตาม เรื่องการจับกุมนั้น เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจับกุมตามพยาน หลักฐาน ส่วนกระบวนการทางพระธรรมวินัย ทางคณะสงฆ์ยืนยันว่า หากกระทำผิดตามกฎหมายก็ถือว่าทำผิดตามพระธรรมวินัยด้วย จึงขอเรียนว่า สำนักพุทธฯ ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจ มีหน้าเพียงประสานระหว่างเจ้าคณะปกครองในกรุงเทพฯ กับเจ้าคณะปกครองจังหวัด เท่านั้น
** ศาลนัด 6 ก.พ.รู้ผลการขอหมายจับ
วานนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลนัดไต่สวนหมายจับ คดีที่พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ยื่นขออนุมัติหมายจับ หลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งนำมวลชนกปปส. ตั้งเวทีการชุมนุมอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ และหน้าสำนักงานเขตหลักสี่ จนเป็นเหตุให้ผอ.เขตหลักสี่ต้องประกาศงดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งศาลได้นัดฟังคำสั่งว่า จะอนุมัติหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระหรือไม่ ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ เวลา 13.30 น.
*** ด้านสุเทพ สบช่องสยบระบอบแม้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวบนเวทีปราศรัยเวทีปทุมวัน ว่า กปปส. ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจน แน่วแน่ที่จะขจัดระบอบทักษิณให้หมดไปจากประเทศไทย แล้วจะเร่งรัดปฏิรูปประเทศไทยโดยด่วนที่สุด เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ป้องกันไม่ให้คนชั่วเข้ามาบริหารบ้านเมือง ซึ่งพี่น้องทั้งประเทศก็เห็นตรงกัน แต่ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่เหลืออยู่น้อยนิดในสังคมไทยยังคงดื้อดึงดันให้มีเดินหน้าเลือกตั้ง
“แล้วผลที่ออกมาก็คือ พี่น้องทั่วประเทศไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้ได้ ส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อไม่ครบ 500 คน ตอนนี้ประกาศ ส.ส.ไม่ได้แม้แต่คนเดียว ก็ไปบังคับ กกต.อีก ให้จัดเลือกตั้งในเขตที่เหลือ กกต.ก็คงรำคาญเพราะอธิบายจนละเอียดแล้ว แต่รัฐบาลก็ไม่ฟัง ทีนี้จะเจอปัญหาใหญ่ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทุกเขต ถ้าไปกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งแน่นอนว่า พวกยิ่งลักษณ์ไม่สนรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว เพราะเคยแสดงมาแล้วว่าไม่เคารพรัฐธรรมนูญ แต่ก็หนีหลักกฎหมายไม่พ้น ตนจึงเรียนกับพี่น้องว่า ในที่สุดจะต้องถูกศาลพิพากษาว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้รับจดหมายจาก นายยินดี วัชระพงษ์ ต่อสุวรรณ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เนื้อหาระบุว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่มาจากอำนาจของประชาชน ทุกภาคส่วนในสังคมต้องปฏิบัติตามจะไปตีความล่วงล้ำอำนาจประชาชนไม่ได้ จะตีความให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจเกินกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ได้ เมื่อรัฐบาลนี้ยุบสภา แล้วกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งทันทีที่ยุบสภาแล้ว ต้องถือว่าคณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ที่ต้องอยู่ต่อไปเพื่อทำหน้าที่จนกว่า ครม.ชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ แต่กรณีที่จัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ไม่มีทางที่ ครม.ชุดใหม่จะเข้ามารับหน้าที่ได้ เพราะได้ ส.ส.ไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงเรียกประชุมสภาครั้งแรกไม่ได้
“โดยความสำคัญของการประชุมสภาครั้งแรกคือ จะต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ในเวลา 30 วัน ครม.ชุดนี้จึงไม่อาจอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้อีก ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน จึงเป็นหน้าที่ของ กปปส. ต้องแจ้ง ครม.ให้หยุดปฏิบัติการ โดยไม่จำเป็นต้องลาออก ตลอดจนต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยทั่วกันด้วย การดำเนินการใดๆ ของ ครม.ที่พ้นจากตำแหน่ง และผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะถือเป็นผู้ที่กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาเฉพาะบุคคลด้วย ซึ่งผมจะได้ทำหนังสือแจ้งให้ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบภายในวันนี้ (5 ก.พ.)”
นายสุเทพ ได้ฝากข้อความถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ว่า จะปล่อยให้อยู่นอกคุกได้ไม่นาน แต่ก็เป็นความหวังดี กลัวว่าอยู่นอกคุกจะกินไวน์จนเส้นโลหิตในสมองแตก แต่ก็ไม่ต้องห่วง ร.ต.อ.เฉลิม จะไม่เหงาแน่นอน เพราะบรรดาลูกสมุนระบอบทักษิณจะติดคุกเป็นเพื่อนมากมายแน่นอน ตอนนี้รู้สึกสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย อยู่บ้านไม่ได้ เดินทางไปไหนก็ไม่ได้ ต้องอยู่แต่ชั้นบนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (4ก.พ.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เดินทางมาปฏิบัติภารกิจตามปกติ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สป.กห.) ถึงแม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. จะมาปิดล้อมสำนักงานฯ ขับไล่นายกฯ และรัฐมนตรี ไม่ให้ใช้เป็นสถานที่ทำงานไปเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยนายกฯได้ประชุมร่วมกับ รัฐมนตรี และหัวหน้าส่วนราชการ เพื่อรับฟังรายงาน และประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่การรักษาความปลอดภัยในส่วนของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้เพิ่มรั้วลวดหนามเป็น 3 ชั้นรอบสำนักงานฯ พร้อมเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ประจำทางเข้าออกทั้งหมด และตรวจพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียด หาวัตถุต้องสงสัย หลังกปปส. มาปิดล้อม
ต่อมาเวลา 12.45 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมการทหารอากาศโยธิน 1 กรมทหารอากาศโยธิน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาอากาศโยธิน จำนวน 1 กองร้อย ได้เดินมาประจำการที่ สป.กห. จากเดิมที่มีเจ้าหน้าที่ทหารจากจากศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร จ.ลพบุรี จำนวน 2 กองร้อย ประจำการอยู่แล้ว
ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงการจัดกำลังพลมาสนับสนุน ว่า ทาง ศรส.ได้มีหนังสือขอกำลังทหาร มายังกองทัพอากาศ เพื่อสนับสนุนภารกิจการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แจ้งวัฒนะ โดยทาง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.ได้สั่งการอนุมัติให้จัดกำลังทหารจากกรมทหารต่อสู้อากาศยานรักษาพระองค์ อากาศโยธิน (ตอ.รอ.อย.) จำนวน 120 นาย ซึ่งการสนับสนุนภารกิจของ ศรส. จะมีเพียงแค่โล่เท่านั้น และจะไม่มีการพกอาวุธเข้าไปในพื้นที่เด็ดขาด เพราะภารกิจเป็นเพียงแค่รักษาความสงบเรียบร้อย และ ดูแลในพื้นที่สำนักงานปลัดเท่านั้น
** "เหลิม"ขู่ฟ่อจับม็อบบุกสถานที่ราชการ
เมื่อเวลา 10.30 น.วานนี้ (4 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ผอ.ศรส.) กล่าวว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ยอมรับแล้วว่า ชายชุดดำที่ยืนในเหตุการณ์หลักสี่ เป็นพรรคพวกกับกปปส. มายิงเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้หลวงปู่พุทธะอิสระและนายสุเทพ ยังยืนโค้งคำนับ โบราณบอกว่า น้ำลดตอผุด ทุกอย่างใกล้เข้ามาแล้ว
"ใครอยู่แนวหน้า แนวหน้ามามั้ย ผมเชื่อว่า ผู้สื่อข่าวดี แต่โรงพิมพ์มันเหี้ย มันไปพาดหัวยังไง กกต.หักหน้าเฉลิม ซึ่งมันไม่มีอะไรเลย เจ้าของแนวหน้าสนิทกับผมตั้งแต่ยศร้อยโท และพอผมฟ้องก็โทรมาขอตลอด ก็เพราะมีนักข่าวเหี้ยๆ อยู่ในโรงพิมพ์ ผมไม่เคยกลัว หรือเกลียดหนังสือพิมพ์ แต่แนวหน้า เหี้ย ไปลงให้ทะเลาะกัน กกต.หักหน้าเฉลิม เรื่องอะไร ผู้สื่อข่าวก็อยู่เป็นร้อย" ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า นับจากนี้เป็นต้นไป ตนจะใช้มาตรการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด ตนไม่ได้เตือน กปปส. แต่เตือนทุกภาคส่วน การขัดขวางการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว ใครผิดก็จะถูกตั้งข้อหา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ หรือคนขัดขวางการลงคะแนน หากจากนี้ใครก็ตามที่ไปปิด บุกรุกสถานที่ราชการ ตนจะใช้กำลังจับกุม ความผิดตามพระราชกำหนด หากต่อสู้ขัดขวางการจับกุม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ถ้าไม่ออกจากสถานที่บุกรุก จะเอากำลังไปจับออก ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองอยู่ไม่ได้ พร้อมกันนี้ตนได้บอกหน่วยงานที่ถูกบุกรุก ให้แจ้งความร้องทุกข์ จากนี้ กปปส.ไปบุกรุก ปิดล้อมบ้านใคร หากตำรวจอยู่ ต้องจับ เพราะถือเป็นความผิดซึ่งหน้า แต่จะไม่มีการสลายม็อบ คนละประเด็นกัน ขอให้สื่อมวลชนเข้าใจ ลักษณะอย่างนี้ไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตย เป็นพฤติกรรมของการก่อกวนให้ประเทศชาติเกิดความไม่สงบ ซึ่งตนจะทำหนังสือแจ้งไปยังสถานทูตทั่วโลก ในนาม ผอ.ศรส. และจะแจ้งสื่อมวลชนของไทย ให้รับทราบด้วย
**ท้า"เทือก"บุกศรส. จะได้เกมโอเวอร์
เมื่อถามว่า การพูดท้าทายใช้มาตรการที่เด็ดขาดแบบนี้ จะเป็นการเรียกแขกหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ห่วง แขก เจ๊กมากันครบแล้ว อย่าว่าเรียกแขก ไม่ได้กลัวคนพวกนี้ เมื่อถามว่าจะเข้าทางของผู้ที่ต้องการให้ใช้ความรุนแรงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เข้าทางใครก็เข้า เอากฎหมายเป็นหลัก และทั้งหมดประชาธิปัตย์สุมหัวด้วย อวดดีจะมา ศรส. มาสักทีเถอะ เกมจะได้โอเวอร์ ใช้มาตรการทางกฎหมายเด็ดขาดบ้านเมืองจะได้ไปได้ ไม่อย่างนั้นมันอึมครึม บุกรุกจับคดีอาญา ส่วนม็อบที่ชุมนุมอยู่ต่อไป ไม่ยุ่ง อยู่จนกว่าไม่มีเงิน อย่าว่าเฉลิมห้าว ห้าวมานานแล้ว แต่ใจดีมากไป
** ศรส.ตั้งทีมประสานสื่อ
ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะผอ.ศรส.มีคำสั่งแต่งตั้งคณะบุคคลให้เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านเผยแพร่ข่าวสาร และประชาสัมพันธ์ใน ศรส. 5 รายดังนี้ 1.นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ 2.นายธนกร วงษ์ปัญญา 3. นายสัญชัย โลจนะรุ่งสิริ 4. น.ส.จตุพร กาฬภักดี และ ตน นอกจากนี้ยังมีคำสั่งแต่งตั้งพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. ในฐานะที่ปรึกษาศรส. เป็นหัวหน้าทีมเจรจาขอเปิดพื้นที่สะพานพระราม 8 และประสานงานระหว่าง กกต.กับ ศรส.ด้วย
** "เทือก"ยันสันติ อหิงสา โค่นระบอบทักษิณ
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ขึ้นปราศรัยเวทีสวนลุมพินี โดยย้ำถึงแนวทางการต่อสู้ของมวลมหาประชาชน ที่มีเป้าหมายโค่นระบอบทักษิณ เพราะที่ผ่านมานั้นเกิดวงจรทุจริตคอร์รัปชัน ใช้ประชาธิปไตยให้ได้มาซึ่งอำนาจ ไม่สนใจประชาชนและประเทศ โดยเฉพาะพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ไม่ยอมเคารพกฎหมายไทย และในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เช่นกัน ที่พยายามผลักดันทั้งกฎหมายล้างผิด การแก้ที่มาของส.ว. เมื่อมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญ กลับออกมาประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาล
ทั้งนี้ การปฏิบัติภารกิจของ กปปส. ยังคงเดินหน้าปิดสถานที่ราชการ ไม่ให้ข้าราชการเป็นเครื่องมือของรัฐบาล
พร้อมกันนี้ ยังถือโอกาสเชิญชวนชาวสีลมร่วมกิจกรรม เพราะตนเองจะขึ้นปราศรัยเวทีนี้ทุกวันเวลา 12.00 น. เพื่อรายงานแนวทางการต่อสู้สถานการณ์บ้านเมือง โดยพูดจากข้อเท็จจริงทั้งหมด
**"หลวงปู่"เปิดให้ขรก.ทำงานได้วันแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานการชุมนุม กปปส.เวทีศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเช้าวานนี้ (4ก.พ.) ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อน และรับประทานอาหารเช้า ท่ามกลางการดูแลรักษาความปลอดภัยของการ์ดอาสาอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมได้ยินยอมให้ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม เข้าทำงานเป็นวันแรกตามข้อตกลงระหว่างหลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งดูแล กปปส.เวทีศูนย์ราชการ กับนายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ยอมให้ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ที่จำเป็นต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่เข้าทำงาน ยกเว้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีข้าราชการบางส่วนทยอยเดินทางมาทำงาน หลังจากถูก กปปส.ปิดล้อมมาหลายวัน
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เปิดเผยว่า วันนี้ ( 5 ก.พ. ) ตนจะประสานเพื่อไปนมัสการหลวงปู่พุทธะอิสระ ด้วยตัวเอง โดยจะเจรจาขอเข้าไปใช้พื้นที่สำนักงาน กกต. ในศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ โดยการเดินทางไปในนามส่วนตัว เพราะต้องการให้เจ้าหน้าที่กกต. ปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวกขึ้น
**สำนักพุทธฯ ขู่จับสึก"พุทธะอิสระ"
เวลา 9.30 น.วันเดียวกันนี้ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงกรณีที่ หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้นำมวลชนขัดขวางการเลือกตั้งในพื้นที่เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 1ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่ม กปปส. กับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย และมีผู้บาดเจ็บ จนมีกระแสข่าวว่าสำนักพุทธฯ ไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ ทางสำนักพุทธฯ เห็นว่าหลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ร่วมกันชุมนุมและปิดสถานที่ราชการ ทางสำนักพุทธฯ ก็เกิดความไม่สบายใจ ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ดำเนินการนิมนต์หลวงปู่พุทธะอิสระไปว่ากล่าวตักเตือน เพราะไม่สมควรที่จะไปกระทำการร่วมกับการชุมนุม เพราะถือเป็นการทำผิดพระธรรมวินัย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากหลวงปู่พุทธะอิสระแต่อย่างใด ทางสำนักพุทธฯ จึงแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เพื่อประสานพูดคุยอีกครั้งหนึ่ง ล่าสุดจึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดี โดยประชาชนที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย
คณะสงฆ์จึงสรุปว่า หลวงปู่พุทธะอิสระ ได้ทำผิดพระธรรมวินัยของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากได้ชุมนุม และชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย และล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหมายเรียกให้หลวงปู่พุทธะอิสระ มาให้ปากคำในข้อหากบฏ จึงถือว่าหลวงปู่ฯ มีความผิดทั้งธรรมวินัยและกฎหมายอย่างชัดเจน ขอชี้แจงว่า ทางสำนักพุทธไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ ทางสำนักพุทธฯ จะดำเนินการให้หลวงปู่สึกหรือไม่ นายนพรัตน์ กล่าวว่า ในเรื่องการสึก มีกฎหมายรองรับชัดเจนมาก ถ้าพระรูปใดทำผิดกฎหมายอาญา เมื่อจับกุมแล้ว หากเห็นว่าไม่สมควรให้ประกัน ก็จะทำการสึกได้ทันที
อย่างไรก็ตาม เรื่องการจับกุมนั้น เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจับกุมตามพยาน หลักฐาน ส่วนกระบวนการทางพระธรรมวินัย ทางคณะสงฆ์ยืนยันว่า หากกระทำผิดตามกฎหมายก็ถือว่าทำผิดตามพระธรรมวินัยด้วย จึงขอเรียนว่า สำนักพุทธฯ ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจ มีหน้าเพียงประสานระหว่างเจ้าคณะปกครองในกรุงเทพฯ กับเจ้าคณะปกครองจังหวัด เท่านั้น
** ศาลนัด 6 ก.พ.รู้ผลการขอหมายจับ
วานนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณาคดี 808 ศาลนัดไต่สวนหมายจับ คดีที่พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ยื่นขออนุมัติหมายจับ หลวงปู่พุทธะอิสระ ซึ่งนำมวลชนกปปส. ตั้งเวทีการชุมนุมอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ และหน้าสำนักงานเขตหลักสี่ จนเป็นเหตุให้ผอ.เขตหลักสี่ต้องประกาศงดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งศาลได้นัดฟังคำสั่งว่า จะอนุมัติหมายจับหลวงปู่พุทธะอิสระหรือไม่ ในวันที่ 6 ก.พ.นี้ เวลา 13.30 น.
*** ด้านสุเทพ สบช่องสยบระบอบแม้ว
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวบนเวทีปราศรัยเวทีปทุมวัน ว่า กปปส. ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจน แน่วแน่ที่จะขจัดระบอบทักษิณให้หมดไปจากประเทศไทย แล้วจะเร่งรัดปฏิรูปประเทศไทยโดยด่วนที่สุด เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ป้องกันไม่ให้คนชั่วเข้ามาบริหารบ้านเมือง ซึ่งพี่น้องทั้งประเทศก็เห็นตรงกัน แต่ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ที่เหลืออยู่น้อยนิดในสังคมไทยยังคงดื้อดึงดันให้มีเดินหน้าเลือกตั้ง
“แล้วผลที่ออกมาก็คือ พี่น้องทั่วประเทศไม่ให้ความร่วมมือ ทำให้ได้ ส.ส.ทั้งระบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อไม่ครบ 500 คน ตอนนี้ประกาศ ส.ส.ไม่ได้แม้แต่คนเดียว ก็ไปบังคับ กกต.อีก ให้จัดเลือกตั้งในเขตที่เหลือ กกต.ก็คงรำคาญเพราะอธิบายจนละเอียดแล้ว แต่รัฐบาลก็ไม่ฟัง ทีนี้จะเจอปัญหาใหญ่ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าการเลือกตั้งจะต้องเกิดขึ้นพร้อมกันทุกเขต ถ้าไปกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ จะขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งแน่นอนว่า พวกยิ่งลักษณ์ไม่สนรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว เพราะเคยแสดงมาแล้วว่าไม่เคารพรัฐธรรมนูญ แต่ก็หนีหลักกฎหมายไม่พ้น ตนจึงเรียนกับพี่น้องว่า ในที่สุดจะต้องถูกศาลพิพากษาว่า การเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เป็นโมฆะ”
นายสุเทพ กล่าวว่า ตนได้รับจดหมายจาก นายยินดี วัชระพงษ์ ต่อสุวรรณ อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เนื้อหาระบุว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่มาจากอำนาจของประชาชน ทุกภาคส่วนในสังคมต้องปฏิบัติตามจะไปตีความล่วงล้ำอำนาจประชาชนไม่ได้ จะตีความให้ฝ่ายบริหารมีอำนาจเกินกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ได้ เมื่อรัฐบาลนี้ยุบสภา แล้วกำหนดให้มีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งทันทีที่ยุบสภาแล้ว ต้องถือว่าคณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งแล้ว แต่ที่ต้องอยู่ต่อไปเพื่อทำหน้าที่จนกว่า ครม.ชุดใหม่เข้ามารับหน้าที่ แต่กรณีที่จัดให้มีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ไม่มีทางที่ ครม.ชุดใหม่จะเข้ามารับหน้าที่ได้ เพราะได้ ส.ส.ไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จึงเรียกประชุมสภาครั้งแรกไม่ได้
“โดยความสำคัญของการประชุมสภาครั้งแรกคือ จะต้องเลือกนายกฯ คนใหม่ในเวลา 30 วัน ครม.ชุดนี้จึงไม่อาจอยู่ในตำแหน่งต่อไปได้อีก ต้องคืนอำนาจให้ประชาชน จึงเป็นหน้าที่ของ กปปส. ต้องแจ้ง ครม.ให้หยุดปฏิบัติการ โดยไม่จำเป็นต้องลาออก ตลอดจนต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยทั่วกันด้วย การดำเนินการใดๆ ของ ครม.ที่พ้นจากตำแหน่ง และผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะถือเป็นผู้ที่กระทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ต้องรับผิดชอบทั้งทางแพ่งและอาญาเฉพาะบุคคลด้วย ซึ่งผมจะได้ทำหนังสือแจ้งให้ครม.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบภายในวันนี้ (5 ก.พ.)”
นายสุเทพ ได้ฝากข้อความถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศรส. ว่า จะปล่อยให้อยู่นอกคุกได้ไม่นาน แต่ก็เป็นความหวังดี กลัวว่าอยู่นอกคุกจะกินไวน์จนเส้นโลหิตในสมองแตก แต่ก็ไม่ต้องห่วง ร.ต.อ.เฉลิม จะไม่เหงาแน่นอน เพราะบรรดาลูกสมุนระบอบทักษิณจะติดคุกเป็นเพื่อนมากมายแน่นอน ตอนนี้รู้สึกสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย อยู่บ้านไม่ได้ เดินทางไปไหนก็ไม่ได้ ต้องอยู่แต่ชั้นบนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม