xs
xsm
sm
md
lg

สำนักพุทธฯ เผยมติสงฆ์ ฟัน “หลวงปู่” ผิดวินัย โบ้ยไร้อำนาจจับสึก โยนดุลยพินิจ ตร.รวบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย (แฟ้มภาพ)
ผอ.สำนักพุทธฯ เผยทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดนครปฐมแล้ว พร้อมนิมนต์ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ตักเตือน แต่ไร้สัญญาณ จึงสรุปทำผิดธรรมวินัยชัด นำม็อบทำผิดกฎหมาย โบ้ยจับสึกไม่ได้ไม่มีอำนาจตัดสินใจ โยนเจ้าหน้าที่จับกุม



วันนี้ (4 ก.พ.) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อเวลา 9.30 น. นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แถลงกรณีที่หลวงปู่พุทธะอิสระได้นำมวลชนขัดขวางการเลือกตั้งในพื้นที่เขตหลักสี่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงทำให้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่ม กปปส.และกองกำลังไม่ทราบฝ่าย จึงทำให้มีกระแสข่าวว่าสำนักพุทธฯ ไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างจริงจัง ทางสำนักพุทธฯ เห็นว่าหลวงปู่พุทธะอิสระได้ร่วมกันชุมนุมและปิดสถานที่ราชการ ทางสำนักพุทธฯ ก็เกิดความไม่สบายใจ ทำหนังสือถึงเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ดำเนินการนิมนต์หลวงปู่พุทธะอิสระไปว่ากล่าวตักเตือน เพราะไม่สมควรที่จะไปกระทำการร่วมกับการชุมนุม เพราะถือเป็นการทำผิดพระธรรมวินัย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากหลวงปู่พุทธะอิสระแต่อย่างใด ทางสำนักพุทธฯ จึงแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมประสานพูดคุยไปอีกครั้งหนึ่ง ล่าสุดจึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดี โดยประชาชนที่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามกฎหมาย

คณะสงฆ์จึงสรุปว่า หลวงปู่พุทธอิสระได้ทำผิดพระธรรมวินัยของสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) เนื่องจากได้ชุมนุมและชักชวนประชาชนให้ทำผิดกฎหมาย และล่าสุดทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งหมายเรียกให้หลวงปู่พุทธอิสระมาให้ปากคำในข้อหากบฏ จึงถือว่าหลวงปู่ฯ มีความผิดทั้งธรรมวินัยและกฎหมายอย่างชัดเจน ขอชี้แจงว่าทางสำนักพุทธไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด

เมื่อถามว่า ข้อกล่าวหาชัดเจน ทำไมจึงไม่ดำเนินการให้หลวงปู่สึกออกไป นายนพรัตน์กล่าวว่า ในเรื่องการสึกมีกฎหมายรองรับชัดเจนมาก ถ้าพระรูปใดทำผิดกฎหมายอาญา เมื่อจับกุมแล้วหากเห็นว่าไม่สมควรให้ประกันจึงจะทำการสึกได้ทันที เมื่อถามว่าขณะนี้หลวงปู่ฯ อยู่ใน กทม.ทำไมจึงไม่ดำเนินการจับกุม นายนพรัตน์กล่าวว่า เป็นดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะจับกุมตามพยานหลักฐาน ส่วนกระบวนการทางพระธรรมวินัย ทางคณะสงฆ์ยืนยันว่าหากกระทำผิดตามกฎหมายก็ถือว่าทำผิดตามพระธรรมวินัยด้วย จึงขอเรียนว่าสำนักพุทธฯ ไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจ มีหน้าเพียงประสานระหว่างเจ้าคณะปกครองในกรุงเทพฯ กับเจ้าคณะปกครองจังหวัด


กำลังโหลดความคิดเห็น