xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นร่วง7จุด-นักลงทุนลุ้น2ก.พ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการายวัน – หุ้นไทยปิดลบ 7 จุด ปรับตัวลงตามตลาดโลกหลังเฟดเริ่มลดวงเงินQE อีกทั้งปัจจัยการเมืองในประเทศยังกดดัน คาดปรับตัวลงต่อเหตุนักลงทุนยังกังวลสถานการณ์ โดยเฉพาะการเลือกตั้ง 2 ก.พ. ทำให้เริ่มชะลอลงทุน

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (30ม.ค.) ยังเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยปิดที่ระดับ 1,264.07 จุด ลดลง 7.35 จุด หรือ -0.58% มูลค่าการซื้อขาย 21,085.95 ล้านบาท ภาพรวมตลาดหุ้นไทยแกว่งผันผวนในแดนลบจากปัจจัยลบทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการปรับลดขนาดมาตรการ QE ของธนาคารกลางสหรัฐที่กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก โดยระหว่างวันดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,267.98 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,258.05 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,364.19 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปซื้อสุทธิ 2,713.14 ล้านบาท สถาบันซื้อสุทธิ 639.70 ล้านบาท และ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ซื้อสุทธิ 11.36 ล้านบาท
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีรธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เอเชียพลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยทั้งวานนี้ผันผวนอยู่ในแดนลบ จากแรงกดดันสถานการณ์ทางการเมืองเป็นหลัก และยังต้องรอความชัดเจนเกี่ยวกับการพิจารณาของศาลแพ่งตามที่แกนนำผู้ชุมนุมร้องขอให้ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ประกอบกับ ตลาดหุ้นต่างประเทศปรับตัวลดลงค่อนข้างมากตอบรับการปรับลดขนาด QE ของธนาคารกลางสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคหลายแห่งปิดทำการในเทศกาลตรุษจีน
สำหรับ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(31 ม.ค.) ตลาดหุ้นไทยจะมีการซื้อขายเบาบาง และมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้งได้ว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางใด และยังต้องมีการติดตามเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมให้แนวรับ 1,250 จุด และแนวต้าน 1,280 จุด
ด้านนางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส กล่าวว่า ภาพรวมดัชนียังอ่อนไหวต่อปัจจัยการเมืองภายในประเทศ ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญมาก แต่นักลงทุนก็ชะลอการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับปัจจัยภายนอกประเทศที่ขณะนี้สถานการณ์การเงินของตลาดเกิดใหม่ค่อนข้างอ่อนแอ ตามค่าเงินที่อ่อนค่า ทำให้เป็นที่น่ากังวลว่าจะเกิดภาวะวิกฤตทางการเงินรอบใหม่ในโลกอีกหรือไม่
โดยแนวโน้มของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้(31ม.ค.) คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวผันผวนตามตลาดหุ้นทั่วโลก หลังการลงมติของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้มีการลดการอัดฉีดเงินเข้าไปในระบบอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ จากที่เคยดำเนินการไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ขณะเดียวกันยังรวมไปถึงความกังวลว่าสถานการณ์การเมืองในวันเลือกตั้ง 2 ก.พ.นี้ จะเกิดความรุนแรง ซึ่งนักลงทุนที่ไม่สามารถรับความเสี่ยงกับความผันผวนได้ก็จะปรับกลยุทธ์ด้วยวิธีชะลอการลงทุนเพื่อตั้งรับในการลงทุนระยะกลาง-ยาวอีกรอบ ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ชะลอการลงทุน ประเมินแนวรับที่ 1,250-1,200 จุด และแนวต้านที่ 1,270-1,280 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น