xs
xsm
sm
md
lg

ออมสินแต่งดำค้านจำนำ ไม่กลัวคุก!คลังกู้1.3แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-สหภาพฯ ออมสิน แต่งดำค้านนำเงินฝากปล่อยกู้รัฐบาลนำไปจ่ายจำนำข้าว เผยหากยังดื้อดึง จะยกระดับชุมนุมทั้งประเทศ ด้าน ผอ. โยนบอร์ดตัดสินใจ "พงษ์ภาณุ" หมูไม่กลัวน้ำร้อน เซ็นกู้ 1.3แสนล้าน เริ่มล็อตแรก 2 หมื่นล้าน เชิญแบงก์ร่วมประมูลดอกเบี้ยวันนี้ "อรรถวิชช์"เตือนระวังติดคุกหัวโต ห่วงชาวนาถูกตกเขียว รัฐใช้เล่ห์จ่ายเงินหลังเลือกตั้ง "พาณิชย์" เคาะขายข้าวให้เอกชน 7 ราย 8 แสนตัน หาเงินคืนคลัง ชาวนาต่างจังหวัดขู่ยกระดับชุมนุม หากยังไม่ได้เงิน

วานนี้ (22 ม.ค.) เวลาประมาณ 09.00 น. สมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจธนาคารออมสิน (สร.อส.) ประมาณ 400 คน ได้นัดแต่งชุดดำรวมตัวที่ห้องประชุมเพชรรัตน์ บริเวณธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่ เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านธนาคาร ไม่ให้นำเงินไปปล่อยกู้ให้รัฐบาล เพื่อไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว

นายลิขิต กลิ่นถนอม ประธาน สร.อส. กล่าวว่า สร.อส.ได้นัดกลุ่มสมาชิกรวมตัวกัน เพื่อแสดงเจตนารมณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อมในการคัดค้านการปล่อยกู้โครงการรับจำนำข้าว โดยมีเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ไม่ให้ทางธนาคารนำเงินฝากของประชาชนไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าวรัฐบาลในทุกช่องทาง การดำเนินธุรกรรมของทางธนาคารต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งธนาคาร คือการส่งเสริมการออมของประชาชน รวมทั้งจะติดตามและตรวจสอบการดำเนินงาน เพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของธนาคาร ลูกค้า และประชาชนต่อไป

ก่อนหน้านี้ มีการตกลงรวมกัน 3 ฝ่าย คือ สร.อส. กปปส. และฝ่ายบริหารธนาคาร ว่าจะไม่มีนโยบายให้รัฐบาลนำเงินฝากของประชาชนไปใช้ในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งทางตรงและทางอ้อม แต่ที่ผ่านมา มีกระแสข่าวกดดันอย่างหนักจากกระทรวงการคลังที่ต้องการให้ธนาคารนำเงินฝากไปใช้ในโครงการดังกล่าว ทำให้กลุ่ม สร.อส.ต้องออกมาแสดงจุดยืน และอยากให้ความมั่นใจกับลูกค้าว่าโครงการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อเงินฝากของลูกค้าอย่างแน่นอน โดยยอมรับว่าเห็นใจชาวนา ซึ่งรัฐบาลควรดำเนินการให้เร็วที่สุด

"จะส่งหนังสือถึงกระทรวงการคลัง สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) คณะกรรมการธนาคาร และนายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยธนาคารออมสิน เพื่อแสดงจุดยืนและคัดค้านแนวทางดังกล่าว หากรัฐบาลยังพยายามที่จะเข้ามาดึงเงินฝากของธนาคารไปใช้ กลุ่มสหภาพแรงงานพร้อมยกระดับคัดค้าน โดยจะร่วมกับพนักงานธนาคารออมสินทั่วประเทศ"นายลิขิตกล่าว

***ผอ.ออมสินโยนบอร์ดตัดสินใจ

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ยังไม่ได้รับหนังสือจากกระทรวงการคลังถึงนโยบายการปล่อยกู้โครงการรับจำนำข้าวและยังไม่ได้รับหนังสือเชิญประมูลการปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวจาก สบน. แต่อย่างใด และก็ไม่ใช่อำนาจการตัดสินใจในระดับฝ่ายบริหาร เพราะหากเป็นวงเงินกู้ที่เกิน 1 พันล้านบาท จะต้องนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการ(บอร์ด) ธนาคารให้พิจารณาอนุมัติ ซึ่งบอร์ดเพิ่งประชุมไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และไม่ได้มีการหารือในประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด หากได้รับหนังสือในเรื่องดังกล่าว ก็ต้องมีการประชุมหารือในบอร์ดอีกครั้ง รวมถึงให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาด้วยว่าจะเป็นการดำเนินการที่ขัดต่อกฎหมายหรือไม่

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ธนาคารได้ปล่อยกู้ให้กับกระทรวงการคลังหรือรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกันและไม่ค้ำประกัน ซึ่งไม่มีความเสี่ยง และไม่เคยมีปัญหา เพราะอยู่ในแผนก่อหนี้ที่รัฐรับผิดชอบทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย แต่โครงการจำนำข้าวเป็นอีกประเด็นที่ไม่ใช่ความเสี่ยงด้านเครดิต แต่เป็นความเสี่ยงด้านความเชื่อมั่นที่ประชาชนอาจไม่มั่นใจ หากธนาคารไปปล่อยกู้ในโครงการดังกล่าว ส่วนกรณีที่ สร.อส. ได้ทำหนังสือถึงบอร์ดโดยตรงทั้ง 15 คนเพื่อคัดค้าน ทำให้การมีมติเรื่องใดออกมา ก็ต้องระมัดระวัง เพราะเป็นการขัดแย้งกับพนักงานโดยตรง

***"พงษ์ภาณุ"ไม่กลัวเซ็นกู้1.3แสนล้าน

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน กล่าวว่า ได้ลงนามในหนังสือชี้ชวนให้สถาบันการเงินเข้าร่วมปล่อยกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยมีกระทรวงการคลังค้ำประกันตามที่ สบน. เสนอมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ม.ค.2557 เพราะถือเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการเร่งด่วนในการกู้เงิน เพื่อใช้ในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาลวงเงิน 1.3 แสนล้านบาท โดย สบน. จะเปิดให้สถาบันการเงินเสนอวงเงินกู้เข้ามาในวันที่ 30 ม.ค.นี้ ก้อนแรกจำนวน 2 หมื่นล้านบาท

"เงินก้อนแรก 2 หมื่นล้านบาท สบน.จะกู้จากตลาด ซึ่งก็เหมือนกับการกู้เงินตามปกติตามกลไกลตลาดที่สถาบันการเงินจะแข่งขันกันเสนออัตราดอกเบี้ยเข้ามา โดยมองว่าสถาบันการเงินทั้งแบงก์รัฐและแบงก์เอกชนน่าจะสนใจเข้าร่วมปล่อยกู้ เพราะกระทรวงการคลังค้ำประกัน จึงถือเป็นเครดิตของรัฐบาลและมีความเสี่ยงเป็นศูนย์ ได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่แน่นอน จึงเชื่อว่าการกู้เงินจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด" นายพงษ์ภาณุกล่าว

***เตือนเดินหน้ากู้ระวังติดคุกหัวโต

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี โฆษกครม.เงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การที่รัฐบาลอ้างว่าคณะกรรมการกฤษฎีกามีความเห็นว่ารัฐบาลรักษาการกู้เงิน 1.3 แสนล้านบาทได้นั้น เป็นเพียงความเห็นของนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเท่านั้น ถือเป็นการลักไล่ของรัฐบาล และท้าให้รัฐบาลนำความเห็นกฤษฎีกาดังกล่าวมาเปิดเผย และขอเตือนถึงข้าราชการกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะนางจุฬารัตน์ สุธีทร ผอ.สบน. ซึ่งเรียนวิทยาลัยตลาดทุน รุ่นที่ 12 รุ่นเดียวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เพราะถ้ามีวันนี้เพราะน้องให้ ให้ระวังว่าเวลากำลังจะหมดลงแล้ว ถ้ากู้เงินจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 181 ที่ระบุว่าห้ามไม่ให้ดำเนินการใดๆ ที่จะมีผลผูกพันกับรัฐบาลชุดใหม่

"รัฐบาลต้องขายข้าวในโกดัง ต้องเปิดประมูลเป็นการทั่วไป จะทำให้ได้เงินเร็วขึ้น เพื่อไปจ่ายชาวนา แต่รัฐบาลเลี่ยง เพราะไม่ต้องการให้มีการตรวจสอบคุณภาพข้าวว่าเน่าหรือไม่ เพราะต้องการซุกขยะไว้ใต้พรม ในที่สุดก็จะเกิดวงจรโกดังถูกเผาตามมา"

อย่างไรก็ตาม ขอเตือนไปยังธนาคารที่จะปล่อยกู้ให้รัฐบาล ก็จะผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน ถ้าตัดสินใจทำ จะติดคุกกันหลายคน หากรัฐบาลจะกู้จริง ก็ยังไม่ตอบโจทย์ เนื่องจากต้องการเงินถึง 1.8 แสนล้านในการจ่ายเงินให้ชาวนา แต่รัฐบาลกำลังจะขอกู้คราวละ 2 หมื่นล้านต่อสัปดาห์ งวดแรกได้เดือนมี.ค. จึงถือเป็นการตกเขียวชาวนา คือ ไม่มีการจ่ายเงินก่อนการเลือกตั้ง ต้องรอหลังเลือกตั้งถึงจะได้เงิน

***ไม่พิจารณา ธ.ก.ส. ขอเงินสำรองจ่ายค่าข้าว

นายสุเทพ พรหมวาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต. เห็นว่า ไม่มีอำนาจในการพิจารณาประเด็นที่ ธ.ก.ส. ขอหารือว่า สามารถใช้เงินทุนสำรองจ่ายวงเงินไม่เกิน 5.5 หมื่นล้านบาท ในการดำเนินโครงการรับจำนำข้าวปี 2556/57 ได้หรือไม่ เพราะเป็นเรื่องระหว่าง ธ.ก.ส. กับกระทรวงการคลัง และเกษตรกร และไม่ต้องด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 181 (1) (2) และ (4)

***"ยิ่งลักษณ์"อ้อนขอให้สงสารชาวนา

ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี กรณีโครงการรับจำนำข้าวว่า คงว่าไปตามขั้นตอน ตนพร้อมชี้แจง เป็นเรื่องระดับนโยบาย และหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม

ส่วนการที่มีสถาบันการเงิน โดยเฉพาะออมสิน คัดค้านการนำเงินฝากไปใช้ในโครงการจำนำ อยากให้ทุกคนเห็นใจชาวนา เพราะรัฐบาลพยายามสุดกำลัง สุดความสามารถ ในการประสานกับทุกฝ่าย ซึ่งกำลังดำเนินการตามขั้นตอน แต่ต้องใช้เวลา ทำอะไรรวดเร็วเหมือนปกติไม่ได้ ที่มีการชุมนุมขัดขวาง ก็ต้องขอความเห็นใจ เป็นความเดือดร้อนของชาวนาจริงๆ

***"นิวัฒน์ธำรง"เคาะขายข้าวหาเงินจ่ายจำนำ

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าวได้เสนอให้ขายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลที่เปิดให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศยื่นซื้อเข้ามา จำนวน 7 ราย รวมปริมาณ 8 แสนตัน โดยกำหนดส่งมอบและชำระเงินภายใน 2 เดือน เพื่อนำเงินส่งคืนกระทรวงการคลังนำไปใช้จ่ายค่าข้าวให้กับเกษตรกรต่อไป แต่ไม่สามารถเปิดเผยราคาขายได้ ยืนยันว่าใกล้เคียงกับราคาตลาด

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังจะเดินหน้าระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาลต่อไป ทั้งการประมูลทั่วไป การเปิดให้ยื่นซื้อทางตรง และการระบายข้าวผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) รวมทั้งการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งทุกช่องทางจะให้เป็นการระบายระยะสั้น โดยรับมอบภายในรัฐบาลนี้ แต่มีเงื่อนเพิ่มเติมให้กับผู้ซื้อในสัญญาขายด้วยว่าหากการรับมอบข้าวลากยาวไปถึงรัฐบาลหน้า รัฐบาลหน้าสามารถมีสิทธิ์ทบทวนการอนุมัติขายได้

***ชาวนาจังหวัดต่างๆ ขู่ยกระดับชุมนุม

นายกิตติพงษ์ ฉัตรหลวง ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ได้นัดสมาชิกประมาณ 200-300 คน มาชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย วันนี้ (30 ม.ค.) เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินค่าจำนำข้าว และค่าชดเชยข้าวโพด ต่อผู้ว่าราชการจังหวัด หากไม่ได้คำตอบ ก็จะยกระดับชุมนุมทั่วประเทศต่อไป

นายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ ประธานเครือข่ายชาวนาภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า ครอบครัวของแกนนำชาวนาถูกข่มขู่ทำร้ายหลายราย ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของพวกไม่เคารพกฎหมาย ไม่เห็นใจคนเดือดร้อน แต่ตนไม่กลัว เนื่องจากชาวนาเดือดร้อนแสนสาหัส จึงจะเรียกร้องจนกว่าจะได้เงินโกงค่าข้าวคืนมา โดยหลังพ้นเลือกตั้งไปแล้ว จะกลับมาชุมนุมใหญ่อีกครั้ง และเตรียมบุกกรุงเทพฯ แน่นอน

ที่จ.เพชรบูรณ์ ยังมีชาวนานำหลักฐานใบประทวนไปยื่นต่อสภาทนายความแห่งประเทศไทย ที่ได้จัดตั้งแทนมาตั้งโต๊ะรับเรื่องเพื่อดำเนินคดีกับรัฐบาล
กำลังโหลดความคิดเห็น