xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลตั้งธงเลือกตั้ง2ก.พ. พรรคเล็กขู่ฟ้องนายกฯ-กกต.หากเลื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการรับหนังสือจากตัวแทนพรรคการเมืองที่ยื่นถึงนายกรัฐมนตรี ให้เดินหน้าเลือกตั้ง ในวันที่ 2 ก.พ. ว่า ขอขอบคุณ 4 พรรคการเมือง ที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 ก.พ. ตนจะนำหนังสือไปกราบเรียนนายกฯ เพราะเป็นเรื่องที่ทำตามกฎหมาย ตนคิดว่า รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการไปตามนี้ สิ่งที่นำเสนอไม่ได้เป็นมติของรัฐบาล แต่เป็นสิ่งที่หลายพรรคเสนอให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 2 ก.พ. และหากดูข้อกฎหมายทั้งหมด ไม่มีกฎหมายมาตราใดเปิดโอกาสให้เลื่อนเลือกตั้งได้ รวมถึงนักวิชาการหลายคน ก็ยืนยันตรงกันว่า จะต้องมีการเลือกตั้ง และวิพากษ์วิจารณ์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจในการวินิจฉัย ในเรื่องการเลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม นายกฯจะต้องหารือกับทีมกฎหมาย และพรรคร่วมรัฐบาลก่อนที่จะไปหารือกับกกต. เพื่อหาจุดที่ดีที่สุด และถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจตนารมณ์ครั้งแรกของรัฐบาล ก็ยืนยันแล้วว่า ไม่สามารถเลื่อนได้ และนายกฯ ก็ยึดตามกฎหมาย ไม่ได้ยึดตามความรู้สึก ทั้งยังรับฟังเสียงประชาชน และสื่อมวลชน นายกฯ ยึดความถูกต้อง และหลักกฎหมายตลอดมา
เมื่อถามว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญ แนะนำมาว่า สามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพียงครึ่งเดียว ไม่ได้พูดหมดทุกอย่าง และมอบให้เป็นหน้าที่ของนายกฯ และกกต.ไปคุยกัน ซึ่งสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำมา ไม่สามารถที่จะดำเนินการได้ เพราะศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัยออกมาว่า เลื่อนได้หรือไม่ ประเด็นนี้เหมือนทิ้งปัญหาให้ไปคิดเอง ทำเอง
เมื่อถามว่า แนวทางที่นายกฯ จะไปพูดคุยกับกกต. จะมีการหารือเรื่องการออกพระราชกฤษฎีกา กำหนดวันเลื่อนตั้งใหม่ หรือไม่ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า คิดว่าคงไม่ถึงจุดนั้น เพราะรัฐบาลยืนยันตามกฏหมายว่า ต้องเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ซึ่งการเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา ก็เป็นไปด้วยดี มีปัญหาแค่ไม่กี่จุด ปัญหาที่เกิดขึ้นสื่อมวลชน และประชาชน ก็เห็นว่าเกิดจากจุดไหน อย่างไร ซึ่งแต่ละเขตเลือกตั้งมีความปราถนาที่จะไม่ให้มีการเลือกตั้ง
เมื่อถามว่าการทำหน้าที่ของกกต. ในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า เป็นอย่างไร รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า การทำงานของกกต.รัฐบาลไม่ขอวิจารณ์ แต่ประชาชน และสื่อมวลชน ได้วิพากษ์วิจารณ์หมดแล้ว นักวิชาการที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ชี้ให้เห็นว่า กกต.มีเจตนาและวัตถุประสงค์อย่างไร ซึ่งเป็นเพียง กกต.บางคนเท่านั้น ไม่เป็นมติของกกต. เพราะกกต.ส่วนใหญ่ยังยึดว่า ต้องมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ทั้งนี้หากมีปัญหาในวันที่ 2 ก.พ. รัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุน ให้การช่วยเหลือ เพื่อให้การเลือกตั้งเดินไปได้อย่างเรียบร้อย รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็พร้อมที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หากเดินหน้าเลือกตั้ง รัฐบาลได้คำนึงถึงเหตุความรุนแรงหรือไม่ พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า รัฐบาลนี้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนมาตลอด ถ้าไม่คำนึงถึงความปลอดภัยคงใช้มาตราการที่รุนแรง หรือยาแรงแล้ว และรัฐบาลเองก็ถอยจนที่สุดแล้ว ไม่มีที่จะถอยแล้ว
เมื่อถามว่าหากมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. คาดว่าจะเกิดเหตุการณ์นองเลือดหรือไม่ รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า คงไม่ถึงขึ้นนั้น เพราะการเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา การดำเนินการ และเหตุความวุ่นวายในบางส่วนสามารถคลี่คลายไปได้ ซึ่งการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ไม่ได้อยู่จุดเดียว มีการกระจายจุดเลือกตั้งหลายหมื่นหน่วย คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ถ้ามีปัญหาก็แก้จุดนั้น ปัญหาจุดเดียว จะทำให้ภาพรวมของประเทศเสียหายเป็นไปไม่ได้
เมื่อถามว่า ปัญหาการเปิดสภาไม่ได้ และส.ส.บัญชีรายชื่อไม่ครบตามสัดส่วน จะแก้ปัญหาอย่างไร พล.ต.ต. ธวัช กล่าวว่า เป็นเรื่องอนาคตที่ยาวเกินไป ต้องมีการเลือกตั้งก่อน ค่อยว่ากันอีกครี้ง เมื่อถามว่า มีการเรียกร้องจากลุ่มผู้ชุมนุม ให้รัฐบาลรับผิดชอบเหตุการความวุ่นวายที่เกิดขึ้น รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ส่วนนี้รัฐบาลต้องดูแลทุกคน ไม่ว่าใครเจ็บใครตาย เมื่อถามย้ำว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลออกมารับผิดชอบผู้ที่เสียชีวิต รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า การตายที่ผ่านมา ไม่เห็นมีใครรับผิดชอบกันเลย

**"จารุพงศ์" ลั่นมีฟ้องกกต.แน่

นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่พรรคพลังชล และพรรคภูมิใจไทย เสนอให้ทุกพรรคการเมืองหารือให้ได้ข้อสรุปก่อนที่นายกฯ และกกต. จะมีการหารือกันเรื่องเลื่อนวันเลือกตั้งนั้น เท่าที่หารือกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย เห็นว่าไม่จำเป็น เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลได้เชิญพรรคการเมืองทุกพรรคหารือร่วมกันแล้ว มติชัดเจน เห็นด้วยกับการเดินหน้าเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.ไปแล้ว วันนี้มีพรรคการเมืองกว่า 41 พรรค มาลงนามร่วมกันว่า เห็นด้วยกับการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. และจะเอาหลักฐานไปยื่นให้กับกกต.วันนี้ และหลายพรรคเตรียมฟ้องกกต.ด้วย เตรียมรับมือไว้เลย และบอกให้เลยว่า การเลื่อนการเลือกตั้ง ประชาชน 48 ล้านคน ที่มีสิทธิในการเลือกตั้ง แต่ต้องถูกลิดรอนสิทธิไป อย่าลืมผอ.เขต ที่ปิดการเลือกตั้งไปอย่างไม่มีเหตุผล
ส่วนที่นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารการเลือกตั้ง ระบุ ไม่ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงมหาดไทย ในการจัดการเลือกตั้ง ทั้งที่มีหนังสือมายังกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 22 ม.ค.นั้น จากการสอบถามไปยังปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่ได้มีการตรวจสอบไปยังสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) แล้ว พบว่าไม่มีหนังสือมาจาก กกต. จึงได้ติดต่อไปอย่างไม่เป็นทางการ กับรองเลขาธิการ กกต.ท่านหนึ่ง ก็บอกว่าไม่กล้ายืนยันว่ามีหนังสือขอรับการสนับสนุนไปหรือไม่ สรุปคือไม่มี แต่ไม่เป็นไร มีก็บอกมา จะดูหลักฐานใครรับหนังสือ เพราะเมื่อวันที่ 20 ม.ค.กระทรวงมหาดไทย ร่วมหารือกับเลขาธิการ กกต. เชิญนายอำเภอ 867 อำเภอทั่วประเทศ ปลัด 76 จังหวัด ยกเว้น ปลัดกทม. เชิญผู้ว่าราชการจังหวัด 15 จังหวัดภาคใต้ รวมจ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้มาประชุมซักซ้อมแผนการเลือกตั้งด้วยตนเองทั้งหมด รวมกับตัวแทน 3 เหล่าทัพ และ สตช. ให้ความร่วมมือกับ กกต.เต็มที่ แต่ปรากฏไม่มีหลักฐานการขอรับการสนับสนุน
นายจารุพงศ์ กล่าวว่า วันนี้จึงสั่งให้ปลัดมหาดไทย เรียกผู้ว่าฯ 10 จังหวัด ที่ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้าให้ชี้แจงกลับมาว่า ให้ความร่วมมือกับกกต.จังหวัดอย่างไรบ้าง กกต.ขอความร่วมมือมาอย่างไร หรือ ไม่ขอ แต่ยืนยันว่าการปิดเขตการเลือกตั้ง เป็นอำนาจของ กกต.จังหวัด และกกต.แต่ละเขตพื้นที่ ไม่ใช่อำนาจกระทรวงมหาดไทย เพราะตั้งแต่มี รัฐธรรมนูญปี 40 มา หน้าที่จัดการเลือกตั้งเป็นของกกต.แต่ผู้เดียว ไม่ใช่หน้าที่ของกระทรวงมหาดไทย เพราะฉะนั้น ผู้มี หน้าที่รับผิดชอบในการจัดการให้มีการเลือกตั้งให้ได้ ต้องตกเป็นความรับผิดชอบของ กกต.แต่เพียงผู้เดียว ขอวิงวอนว่า อย่าเอากระทรวงมหาดไทยมาเป็นแพะรับบาปด้วย
** เลื่อนเลือกตั้งแล้วยังวุ่นใครจะรับผิดชอบ

นายวิม รุ่งวัฒนจินดา เลขานุการ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การที่ กกต.เสนอให้มีการออก พ.ร.ฏ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ อยากถามว่า ถ้ารัฐบาลยอมเลื่อนเลือกตั้ง แล้วยังเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาอีก ใครจะรับผิดชอบ กปปส. จะหยุดการชุมนุมแล้วหันหน้าเข้าเจรจา และร่วมเวทีปฏิรูปหรือไม่ และพรรคประชาธิปัตย์ จะกลับมาลงสมัครับเลือกตั้งหรือไม่ พรรคการเมือง กว่า 30 พรรค ที่ส่งผู้สมัครลงสมัครรับเลือกตั้งไปแล้ว ความเสียหายที่เกิดขึ้น ค่าใช้จ่ายในการหาเสียง โอกาสในการเลือกตั้ง และหากเกิดการฟ้องร้อง ใครจะรับผิดชอบ กกต.ใช้งบประมาณในการดำเนินการจัดการเลือกตั้งไปแล้ว 2,000 กว่าล้านบาท จากงบประมาณทั้งหมด 3,000 กว่าล้านบาท ถ้าเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ใครจะรับผิดชอบงบประมาณตรงนี้ และกกต.จะของบเพิ่มอีกหรือไม่ กรณีนี้ กกต.น่าจะต้องถามสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ด้วย ว่ายอมหรือไม่ มีใครการันตีได้หรือไม่ว่า จะไม่มีใครฟ้องร้องนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นกระทำความผิด พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง และพระบรมราชโองการ

** พรรคเล็กเล่นละครขู่ฟ้องนายกฯ-กกต.

เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมืองทองธานี นายสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ พร้อมหัวหน้าพรรคเล็กจำนวนหนึ่ง ได้นำเอกสารลงบันทึกประจำวัน ที่กองปราบปราม ลงบันทึก วันที่ 25 ม.ค. 57 มาโชว์สื่อ เพื่อยืนยันว่าพรรคประชาธิปไตยใหม่ และพรรคเล็กๆ ได้มีมติร่วมกันว่า จะดำเนินการฟ้องร้องทั้งทางแพ่ง และอาญา กับกกต. และนายกรัฐมนตรี หากภายหลังการหารือของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว มีการเลื่อนการเลือกตั้ง จากวันที่ 2 ก.พ.ออกไป
หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กล่าวด้วยว่า ภายหลังมีพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ทางพรรคเล็กๆ ส่งผู้สมัคร และมีค่าใช้จ่ายในการสมัคร รวมถึงได้มีการรณรงค์หาเสียงแล้ว ดังนั้นหากเลื่อนวันเลือกตั้งออกไป จะทำให้พวกตนเกิดความเสียหาย ซึ่งตอนนี้ได้เตรียมฟ้องร้องต่อศาลอาญา และศาลแพ่ง เพื่อเรียกค่าเสียหายแล้ว โดยความเสียหายในส่วนหัวหน้าพรรค 15 ล้านบาท ส่วนผู้สมัคร คนละ 1 ล้าน 5 แสนบาท
ดังนั้นขอเรียกร้องให้ กกต. ดำเนินการเลือกตั้งให้เสร็จสิ้น แม้จะเกิดปัญหาก็ตาม และหากทำไม่ได้ พวกตนจะร้องยุบกกต. และเสนอให้กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้จัดการเลือกตั้งแทน และกำลังหารือกันว่าอาจจะพิจารณาฟ้องร้องศาลรัฐธรรมนูญด้วย ที่วินิจฉัยให้เลื่อนการเลือกตั้งได้ เหมือนเป็นการชี้ทางสว่างให้ กกต.
ด้านนายวิชิต ดิษฐประสพ หัวหน้าพรรคชาติประชาธิปไตยก้าวหน้า ยืนยันว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 108 กำหนดไว้ ว่าการยุบสภา จะกระทำได้เพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์เดียวกัน และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้ง มาตรา 78 กำหนดให้สามารถเลื่อนการเลือกตั้งได้ เพียงบางเขต เท่านั้น เพราะฉะนั้นนายกฯ และประธานกกต. จะเลื่อนการเลือกตั้งจากวันที่ 2 ก.พ. ออกไปไม่ได้

**กกต.สรุปผลเลือกตั้งล่วงหน้า


นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงการใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า สำหรับจำนวนสถานที่เลือกตั้งในเขต จำนวน 548 แห่งทั่วประเทศ มีงดการลงคะแนน 111 แห่ง ส่วนสถานที่เลือกตั้งนอกเขต 152 แห่ง งดการลงคะแนน 64 แห่ง จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งมีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ 55,243 คน มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนน 38,093 คน คิดเป็น 68.96 % ส่วนผู้มาใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด มีผู้มาลงทะเบียน 2,163,025 คน มีผู้มาใช้สิทธิลงคะแนน 113,030 คน
เลขาธิการ กกต. กล่าวต่อว่า ในการประกาศงดการลงคะแนน ทั้งการเลือกตั้งนอกเขตจังหวัด และในเขตเลือกตั้ง อำนาจเป็นของคณะกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.) สาเหตุเนื่องจากมีการปิดล้อม กีดขวางการเข้าไปในหน่วยเลือกตั้ง และประชาชนไม่สามารถเดินทางเข้าไปใช้สิทธิได้ กปน. จึงใช้อำนาจตาม มาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. งดการลงคะแนน อย่างไรก็ตาม กปน. ต้องเก็บเอกสาร บัตรเลือกตั้ง ส่งไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย
เมื่อถามถึงการดำเนินการกับผู้ขัดขวางการเลือกตั้ง นายภุชงค์ กล่าวว่า การขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กกต. หรือประชาชนผู้ไปใช้สิทธิ ถือเป็นความผิดอาญา แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานภาพถ่าย ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายก่อนดำเนินการ
นายภุชงค์กล่าวต่อว่า สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจังหวัด ในวันที่ 26 ม.ค. ตามกฎหมาย ไม่สามารถไปใช้สิทธิในภูมิลำเนาในวันที่ 2 ก.พ.ได้ แต่ประชาชนที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง สามารถไปใช้สิทธิได้ในวันที่ 2 ก.พ. ถ้าวันที่ 2 ก.พ.ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ให้แจ้งต่อนายทะเบียนทองถิ่น เช่น กทม.ไป ผอ.เขต ถ้าไม่สะดวกสามารถแจ้งทางไปรษณีย์ได้ ส่วนต่างจังหวัดสามารถแจ้งปลัดเทศบาล หรือนายอำเภอเพื่อจะได้ไม่เสียสิทธิ์ภายในวันที่ 9 ก.พ.
เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต. จะพูดคุยกับนายกฯ ในวันที่ 28 ม.ค. นายภุชงค์ กล่าวว่า กกต. คงไปพบนายกฯทั้ง 5 คน ทั้งนี้ กกต.คงมีแนวคิดอยู่แล้ว ในส่วนของสำนักงาน กกต. เพียงแค่เตรียมความเรียบร้อยในวันที่ 2 ก.พ. เพราะไม่แน่ใจว่า พ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ จะทันหรือไม่ จะเห็นได้ว่า การเลือกตั้งในวันที่ 26 ม.ค. ยังหนักหนาสาหัสขนาดนี้ โดยเฉพาะกทม. และ 15 จังหวัดภาคใต้ แล้วในวันที่ 2 ก.พ. หน่วยเลือกตั้งมีเป็นแสนหน่วย แต่ละหน่วยต้องมีอุปกรณ์เลือกตั้งครบ กกต.ต้องเตรียมพร้อมให้มากที่สุด สำหรับแนวทางการหารือที่จะออกมา ก็เหมือนเหรียญ 2 ด้าน วันนี้ จะรู้ว่าเหรียญจะออกมาด้านใด .
กำลังโหลดความคิดเห็น