วานนี้ (27ม.ค.) เว็บไซต์ http://thai.bangkok.usembassy.gov เผยเเพร่คำแถลงของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เรื่องเหตุการณ์ความวุ่นวายอันเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งในประเทศไทย เผยเเพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา สำนักโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ 26 มกราคม พ.ศ. 2557 โดยเป็นคำแถลงของ Jen Psaki โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เรื่องเหตุการณ์ความวุ่นวายอันเกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งในประเทศไทยว่า "สหรัฐอเมริการู้สึกกังวลอย่างมากกับความพยายามปิดกั้นหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งในประเทศไทย ตลอดจนเหตุการณ์รุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นล่าสุด
สหรัฐอเมริกาไม่เข้าข้างฝ่ายใด ในความขัดแย้งทางการเมืองนี้ และสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นรวมทั้งสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ ทว่า การขัดขวางไม่ให้พลเมืองใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงถือเป็นการละเมิดสิทธสากลของพลเมืองเหล่านั้น และไม่สอดคล้องกับค่านิยมแห่งประชาธิไตย สหรัฐอเมริกา ขอย้ำถึงข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้ทุกฝ่ายระงับการใช้ความรุนแรง พยายามอดทนอดกลั้น และมุ่งมั่นที่จะเจรจาอย่างจริงใจเพื่อแก้ปัญหาความคิดต่างทาง การเมืองอย่างสันติในแนวทางประชาธิไตย"
ด้านนายนพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีข้อกล่าวหาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ต่อนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแล้ว และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นตนจะทำหนังสือถึงประเทศที่มีที่นั่งถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อาทิ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และจะทำหนังสือชี้แจงต่อ นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงองค์กร สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติด้วย
อย่างไรก็ตาม การขัดขวางและปิดสถานที่เลือกตั้งที่เกิดขึ้น นายสุเทพ ต้องรับผิดชอบ เพราะการที่นายสุเทพ บอกว่าต้องการเรียกร้องอำนาจอธิปไตยให้กับปวงชน แต่สิ่งที่นายสุเทพ กลับทำตรงกันข้าม ส่งคนไปปิดกั้น ไม่ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตนขอย้ำว่านายสุเทพ อ้างการปฏิรูปบังหน้า โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการไม่ให้คนไปเลือกตั้ง ซึ่งที่อาหรับมีอาหรับสปริง เรียกร้องการเลือกตั้ง แต่ที่ประเทศไทยกลับทำตรงกันข้าม ตนขอเรียกว่า ฤดูใบไม้ร่วงที่ประเทศไทย คือ เรียกร้องไม่ให้มีการเลือกตั้ง
"ผมขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า รู้สึกอย่างไรกับการมีการปิดกั้นไม่ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผลงานของสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ หลายคนที่มีการร่วมมือในการปิดกั้น ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกมาขอโทษประชาชน และต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และกำหนดอนาคตของตน" นายนพดล กล่าว
เมื่อถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการที่นายอภิสิทธิ์ ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา นายนพดล กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เป็นไปในรูปแบบปากว่าตาขยิบ คือ ตัวเองไปบอยคอตการเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในขณะเดียวกัน มาตรการการปฏิรูปทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ ต้องใช้อำนาจรัฐถึงจะทำได้ แต่ไม่เสนอตัวเพื่อให้ได้อำนาจรัฐผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน แล้วท่านจะไปดำเนินการปฏิรูปให้เกิดผลในทาง ปฏิบัติได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่ กปปส. ต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ตนอยากถามว่า ในเมื่อมีคณะกรรมการการเลือกตั้งที่คอยแจกใบเหลือง ใบแดง อยู่แล้ว ซึ่งสมาชิกพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยได้รับ เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แปลว่า ไม่มีกติกาที่ไม่เป็นธรรม ทำไมถึงต้องยังปฏิรูปอีก
เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ต่อการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร นายนพดล กล่าวว่า ท่าทีของพรรค และรัฐบาลเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้มีความชัดเจน เป็นแค่คำแนะนำเท่านั้น ทั้งนี้พรรคก็รู้อยู่แล้วว่า ทำอะไรก็ผิด ฝั่งตรงข้ามทำอะไรก็ถูก แต่ณ ขณะนี้ขอยืนยันว่าไม่สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ได้ เพราะเราไม่สามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีที่มีภาพปรากฏบนในโลกออนไลน์ ว่า ตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ขอยืนยันว่า ได้เดินทางไปจริง และเป็นภาพจริง แต่ว่าไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ตนเดินทางไปคัดค้านการเลือกตั้ง ที่เขตวังทองหลาง โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพขณะที่ตนพูดคุยกับ ผอ.เขตการเลือกตั้ง เพราะเขตวังทองหลาง อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว และขณะนั้นมีมวลชน 2 กลุ่ม เผชิญหน้ากัน ตนจึงมีความเป็นห่วงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งในขณะนั้นมีสื่อมวลชนอยู่ด้วยจำนวนมาก สามารถเป็นพยานได้ และตนไม่ได้นำมวลชนไปปิด หรือขัดขวางผู้มาใช้สิทธิ์ และนำโซ่ไปคล้องประตูแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนจะไปใช้สิทธิ์ได้อย่างไร เพราะชื่อตนไม่ได้อยู่เขตวังทองหลาง แต่อยู่เขตพญาไท ซึ่งเรื่องนี้สามารถไปตรวจสอบจากรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้
สหรัฐอเมริกาไม่เข้าข้างฝ่ายใด ในความขัดแย้งทางการเมืองนี้ และสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นรวมทั้งสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ ทว่า การขัดขวางไม่ให้พลเมืองใช้สิทธิในการลงคะแนนเสียงถือเป็นการละเมิดสิทธสากลของพลเมืองเหล่านั้น และไม่สอดคล้องกับค่านิยมแห่งประชาธิไตย สหรัฐอเมริกา ขอย้ำถึงข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ให้ทุกฝ่ายระงับการใช้ความรุนแรง พยายามอดทนอดกลั้น และมุ่งมั่นที่จะเจรจาอย่างจริงใจเพื่อแก้ปัญหาความคิดต่างทาง การเมืองอย่างสันติในแนวทางประชาธิไตย"
ด้านนายนพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีข้อกล่าวหาของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ต่อนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาแล้ว และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นตนจะทำหนังสือถึงประเทศที่มีที่นั่งถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อาทิ จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร และจะทำหนังสือชี้แจงต่อ นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ รวมถึงองค์กร สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติด้วย
อย่างไรก็ตาม การขัดขวางและปิดสถานที่เลือกตั้งที่เกิดขึ้น นายสุเทพ ต้องรับผิดชอบ เพราะการที่นายสุเทพ บอกว่าต้องการเรียกร้องอำนาจอธิปไตยให้กับปวงชน แต่สิ่งที่นายสุเทพ กลับทำตรงกันข้าม ส่งคนไปปิดกั้น ไม่ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ตนขอย้ำว่านายสุเทพ อ้างการปฏิรูปบังหน้า โดยไม่ผ่านการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการไม่ให้คนไปเลือกตั้ง ซึ่งที่อาหรับมีอาหรับสปริง เรียกร้องการเลือกตั้ง แต่ที่ประเทศไทยกลับทำตรงกันข้าม ตนขอเรียกว่า ฤดูใบไม้ร่วงที่ประเทศไทย คือ เรียกร้องไม่ให้มีการเลือกตั้ง
"ผมขอเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า รู้สึกอย่างไรกับการมีการปิดกั้นไม่ให้คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นผลงานของสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ หลายคนที่มีการร่วมมือในการปิดกั้น ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ ต้องออกมาขอโทษประชาชน และต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง และกำหนดอนาคตของตน" นายนพดล กล่าว
เมื่อถามว่า มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการที่นายอภิสิทธิ์ ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา นายนพดล กล่าวว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจ เป็นไปในรูปแบบปากว่าตาขยิบ คือ ตัวเองไปบอยคอตการเลือกตั้ง แต่ขณะเดียวกันก็ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ในขณะเดียวกัน มาตรการการปฏิรูปทางการเมืองของนายอภิสิทธิ์ ต้องใช้อำนาจรัฐถึงจะทำได้ แต่ไม่เสนอตัวเพื่อให้ได้อำนาจรัฐผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน แล้วท่านจะไปดำเนินการปฏิรูปให้เกิดผลในทาง ปฏิบัติได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่ กปปส. ต้องการให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง เพื่อให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม ตนอยากถามว่า ในเมื่อมีคณะกรรมการการเลือกตั้งที่คอยแจกใบเหลือง ใบแดง อยู่แล้ว ซึ่งสมาชิกพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยได้รับ เพราะฉะนั้นมันไม่ได้แปลว่า ไม่มีกติกาที่ไม่เป็นธรรม ทำไมถึงต้องยังปฏิรูปอีก
เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ต่อการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไร นายนพดล กล่าวว่า ท่าทีของพรรค และรัฐบาลเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ก็ไม่ได้มีความชัดเจน เป็นแค่คำแนะนำเท่านั้น ทั้งนี้พรรคก็รู้อยู่แล้วว่า ทำอะไรก็ผิด ฝั่งตรงข้ามทำอะไรก็ถูก แต่ณ ขณะนี้ขอยืนยันว่าไม่สามารถเลื่อนวันเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ได้ เพราะเราไม่สามารถฝ่าฝืนกฎหมายได้
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ แกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีที่มีภาพปรากฏบนในโลกออนไลน์ ว่า ตนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า ขอยืนยันว่า ได้เดินทางไปจริง และเป็นภาพจริง แต่ว่าไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่ตนเดินทางไปคัดค้านการเลือกตั้ง ที่เขตวังทองหลาง โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพขณะที่ตนพูดคุยกับ ผอ.เขตการเลือกตั้ง เพราะเขตวังทองหลาง อยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล ลาดพร้าว และขณะนั้นมีมวลชน 2 กลุ่ม เผชิญหน้ากัน ตนจึงมีความเป็นห่วงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งในขณะนั้นมีสื่อมวลชนอยู่ด้วยจำนวนมาก สามารถเป็นพยานได้ และตนไม่ได้นำมวลชนไปปิด หรือขัดขวางผู้มาใช้สิทธิ์ และนำโซ่ไปคล้องประตูแต่อย่างใด นอกจากนี้ ตนจะไปใช้สิทธิ์ได้อย่างไร เพราะชื่อตนไม่ได้อยู่เขตวังทองหลาง แต่อยู่เขตพญาไท ซึ่งเรื่องนี้สามารถไปตรวจสอบจากรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้