เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2557 องค์การอนามัยโลกรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกว่า มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาแล้วรวม 672 คน โดยแบ่งเป็นรายประเทศดังนี้ คือ กินี 319 คน เซียร์ราลีโอน 224 คน และไลบีเรีย 129 คน โดยหนึ่งในจำนวนนี้เป็นแพทย์ที่ทำงานในศูนย์รักษาผู้ติดเชื้ออีโบลาที่กรุงมันโรเวีย ประเทศไลบีเรีย อย่างไรก็ตาม WHO ยังคงไม่มีประกาศแนะนำการจำกัดการเดินทางและการค้ากับทั้งสามประเทศ
ทั้งนี้ ฝ่ายบริการทางการแพทย์ของสหประชาชาติ (UN Medical Services Division) ได้มีประกาศคำแนะนำข้อควรระวังสำหรับเจ้าหน้าที่ของ UN และบุคคลที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาด้วยในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอแนะนำให้คนไทยที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาให้ปฏิบัติตน ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาออกไปจนกว่าสถานการณ์ระบาดจะคลี่คลาย,
2. ติดตามสถานะการระบาดของไวรัสอีโบลาจากองค์การอนามัยโลกทางเว็บไซต์ www.who.int/csr/disease/ebola/en และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/index.php) และข่าวที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และ
3.หากจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาด ขอให้ลงทะเบียนการเดินทางรวมถึงเที่ยวบิน ขาเข้า–ออก รายละเอียดที่พัก และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้กับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉิน โดยสามารถรับข้อมูลการติดต่อได้ที่ http://www.thaiembassy.org/dakar/th/home
สำหรับมาตรการการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาของประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ติดตามข่าวการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาตรการคัดกรองผู้ถือหนังสือเดินทางที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคที่ด่านควบคุมโรคทุกราย เพื่อทำแบบสอบถามเกี่ยวกับประวัติการเดินทางและสุขภาพทั่วไปของผู้เดินทางก่อนที่จะให้เดินทางเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่มีมาตรการใช้เครื่องสแกนอุณหภูมิร่างกาย (Thermal Scanner) สำหรับผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีถ้าหากมีคำสั่ง เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดดังกล่าว
ทั้งนี้ ฝ่ายบริการทางการแพทย์ของสหประชาชาติ (UN Medical Services Division) ได้มีประกาศคำแนะนำข้อควรระวังสำหรับเจ้าหน้าที่ของ UN และบุคคลที่จำเป็นจะต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาด้วยในการนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอแนะนำให้คนไทยที่จะเดินทางไปยังประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาให้ปฏิบัติตน ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาออกไปจนกว่าสถานการณ์ระบาดจะคลี่คลาย,
2. ติดตามสถานะการระบาดของไวรัสอีโบลาจากองค์การอนามัยโลกทางเว็บไซต์ www.who.int/csr/disease/ebola/en และกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (http://beid.ddc.moph.go.th/th_2011/index.php) และข่าวที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และ
3.หากจำเป็นต้องเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการระบาด ขอให้ลงทะเบียนการเดินทางรวมถึงเที่ยวบิน ขาเข้า–ออก รายละเอียดที่พัก และหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ไว้กับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงดาการ์ ประเทศเซเนกัล เพื่อติดต่อในกรณีฉุกเฉิน โดยสามารถรับข้อมูลการติดต่อได้ที่ http://www.thaiembassy.org/dakar/th/home
สำหรับมาตรการการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาของประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ติดตามข่าวการระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาอย่างต่อเนื่อง โดยมีมาตรการคัดกรองผู้ถือหนังสือเดินทางที่มาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคที่ด่านควบคุมโรคทุกราย เพื่อทำแบบสอบถามเกี่ยวกับประวัติการเดินทางและสุขภาพทั่วไปของผู้เดินทางก่อนที่จะให้เดินทางเข้าประเทศ
ทั้งนี้ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่มีมาตรการใช้เครื่องสแกนอุณหภูมิร่างกาย (Thermal Scanner) สำหรับผู้เดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ด่านควบคุมโรคท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเตรียมความพร้อมและสามารถดำเนินการได้ทันทีถ้าหากมีคำสั่ง เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดดังกล่าว