หมอใหญ่มือปราบอีโบลาเซียร์ราลีโอนสิ้นชื่อ พลาดติดเชื้อไวรัสมรณะเอง

รอยเตอร์ - นายแพทย์ใหญ่แกนนำต่อสู้กับการแพร่ระบาดครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของอีโบลาในเซียร์ราลีโอน เสียชีวิตแล้วในวันอังคาร (29 ก.ค.) ไม่กี่วันหลังถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสมรณะนี้เสียเอง

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่า นับตั้งแต่เริ่มแพร่ระบาดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ อีโบล่าได้คร่าชีวิตผู้คนในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอนไปแล้วรวมกว่า 672 ศพ ด้วยผู้ติดเชื้อจะมีอาการเป็นไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย อาเจียน ท้องร่วง และในบางกรณีอาจทำให้อวัยวะล้มเหลว เลือดไหลไม่หยุด ขณะที่มันสามารถปลิดชีพผู้ป่วยภายในเวลาไม่กี่วันหลังจากติดเชื้อ

ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนหรือยาจำเพาะที่จะสามารถรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อให้หายขาด และกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อจะถึงแก่ความตาย

เหตุเสียชีวิตของนายแพทย์ชีคห์ อูมาร์ ข่าน วัย 39 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “วีรบุรุษของชาติ” จากบทบาทของเขาในการต่อสู้เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาในเซียร์ราลีโอน ด้วยการรักษาผู้ป่วยกว่า 100 คน ตามหลังการตายของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นอีกหลายสิบคนและการติดเชื้อของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์สหรัฐฯ 2 คนในไลบีเรีย ชาติเพื่อนบ้าน ย้ำให้เห็นความอันตรายที่บุคลากรทางการแพทย์ต้องเผชิญท่ามกลางความพยายามระงับการลุกลามของไวรัสมรณะนี้ที่กำลังแพร่ระบาดทั่วแอฟริกาตะวันตก

นายแพทย์ชีคห์ อูมาร์ ข่าน เสียชีวิตในช่วงบ่ายวันอังคาร (29) ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์หลังถูกตรวจพบว่าติดเชื้อ และยังอำลาโลกในวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีเออร์เนสต์ ไบ โกโรมา มีกำหนดเดินทางตรวจเยี่ยมศูนย์รักษาของเขาในเมืองไคลาฮุน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ “มันคือความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงและมิอาจเรียกคืนได้ของเซียร์ราลีโอน เพราะเขาคือผู้เชี่ยวชาญด้านโรคไข้เลือดออกจากไวรัสคนเดียวของประเทศ” พริมา คาร์กโบ หัวหน้าศูนย์การแพทย์แห่งนี้กล่่าว

ในขณะที่องค์กรด้านการแพทย์ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญภาคสนามลงพื้นที่ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาด แต่องค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่าด้วยระบบสาธารณูปโภคด้านสาธารณสุขที่ย่ำแย่และขาดกำลังคนคือตัวฉุดรั้งความพยายามของพวกเขา

ขณะเดียวกัน ความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสมรณะนี้ก็กำลังแผ่ลามออกไปในวงกว้าง ด้วยสายการบินเอสกาย ของแอฟริกันตะวันตก ระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกจากเซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย หลังเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบเหยื่อผู้เสียชีวิตคนแรกในไนจีเรีย ที่เมืองลากอส ดินแดนที่มีประชากร 21 ล้านคน

สายการบินเอสสกายบอกด้วยว่า ในส่วนของผู้โดยสารที่กำลังออกจากกรุงโกนากรี เมืองหลวงของกินี ก็จำเป็นต้องผ่านการตรวจโรคก่อน ถึงจะได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง ด้านอาริคแอร์ สายการบินใหญ่ที่สุดของไนจีเรียก็ระงับเที่ยวบินสู่ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน สืบเนื่องจากความเสี่ยงของอีโบลา