รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายแพทย์ใหญ่แห่งเซียร์ราลีโอน หัวหน้าสำนักงานรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส “อีโบลา” พลาดท่าติดเชื้อไวรัสมรณะเสียเอง ล่าสุดมีการยืนยันจากทางการว่านายแพทย์มากฝีมือรายนี้ “อาการปางตาย”
รายงานข่าวล่าสุดจากกรุงฟรีทาวน์ เมืองหลวงของเซียร์ราลีโอน ยืนยันว่า นายแพทย์ชื่อดังอย่าง “ชีคห์ อูมาร์ ข่าน” ในวัย 39 ปี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น “วีรบุรุษของชาติ” จากบทบาทของเขาในการต่อสู้เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในเซียร์ราลีโอน พลาดท่าติดเชื้อไวรัสมรณะที่ยังไม่มีหนทางรักษาชนิดนี้เสียเอง โดยการติดเชื้อของหมอข่านเกิดขึ้นภายในหอผู้ป่วยในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่มีองค์กรการกุศลชื่อดัง “แพทย์ไร้พรมแดน” เป็นผู้ดูแล
รายงานข่าวระบุว่า นายแพทย์ชีคห์ อูมาร์ ข่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเชื้อไวรัสระดับแถวหน้าของเซียร์ราลีโอน ได้ให้การดูแลผู้ติดเชื้ออีโบลามากกว่า 100 รายในช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่จำนวนผู้เสียชีวิตจากการตกเป็นเหยื่อของไวรัสชนิดนี้เฉพาะในเซียร์ราลีโอนเพียงประเทศเดียวได้เพิ่มเป็นอย่างน้อย 206 รายแล้ว โดยที่กว่า “90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อจะถึงแก่ความตาย” หลังรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายไม่นาน
ด้านมิอัตตา คาร์กโบ รัฐมนตรีสาธารณสุขของเซียร์ราลีโอน ออกมายืนยันข่าวการติดเชื้อของหมอข่าน โดยระบุอาการล่าสุดของเขายังน่าเป็นห่วง มีโอกาสรอด-เสียชีวิตเท่าๆ กัน แต่รัฐมนตรีรายนี้ให้คำมั่นจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตวีรบุรุษของชาติรายนี้
ก่อนหน้านี้ไม่นาน นายแพทย์ชีคห์ อูมาร์ ข่านเพิ่งออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างประเทศเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าตัวเขาไม่รู้สึกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่ตนเองอาจติดเชื้อไวรัสอีโบลา ขอเพียงให้เขาได้มีโอกาสทำหน้าที่ดูแลผู้ติดเชื้อ และหาทางยับยั้งการระบาดของเชื้อมรณะ
“ผมไม่กลัวเชื้อไวรัสอีโบลาแม้แต่น้อย ผมไม่เคยกังวลว่ามันอาจคร่าชีวิตผมในสักวันหนึ่ง ตราบใดที่ผมสามารถใช้วิชาชีพแพทย์ที่ผมมีติดตัวในการช่วยชีวิตผู้อื่น” เนื้อหาส่วนหนึ่งในการให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนมิถุนายนของนายแพทย์ชีคห์ อูมาร์ ข่าน ระบุไว้
ในอีกด้านหนึ่งมีรายงานว่า พยาบาลอย่างน้อย 3 รายที่ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับนายแพทย์ข่านในโรงพยาบาลแห่งเดียวกันนี้เพิ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาเช่นกัน
ทั้งนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสมรณะระลอกล่าสุดในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกนี้ เริ่มปะทุขึ้นในเขตป่าลึกทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศกินี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะลุกลามเข้าสู่เขตเมืองและแพร่กระจายไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งไลบีเรียและเซียร์ราลีโอน โดยองค์การอนามัยโลก (World Health Organisation : WHO) ยืนยันว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้ออีโบลาในทั้ง 3 ประเทศได้เพิ่มเป็น “มากกว่า 600 รายแล้ว”
