ASTVผู้จัดการรายวัน - “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” คาดตลาดอสังหาฯปี 57 เติบโตในกรอบแคบๆ 5% ยอมรับชัตดาวน์กทม.ฉุดยอดขายเดือนม.ค.ลด 20% ยันยังไม่กระทบยอดโอน หวั่นชุมนุมยืดเยื้อถึงสิ้นไตรมาส 1 คาดตลาดอสังหาฯหดตัว 2-5% เผยแผนลงทุนปี 57 เปิด 40-50 โครงการจับตลาดกลาง-ล่าง
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยถึง ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 ว่าจะเติบโตในกรอบแคบๆ เพิ่มจากปี 2556 ประมาณไม่เกิน 5% โดยมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 640,000 ล้านบาท โดยต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่และจังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ได้
อย่างไรก็ตามหากเกิดผลกระทบจากปัจจัยลบด้านต่างๆ อาจทำให้ตลาดอสังหาฯชะลอตัวลงประมาณ 2-5% ซึ่งกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบมากกว่าจากสถานการณ์ทางการเมือง โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในส่วนของพฤกษามียอดขายลดลง 15% แต่ยอดโอนยังเป็นปรกติ และในเดือนม.ค.2557 นี้ คาดว่ายอดจองจะลดลงอีกประมาณ 20% เชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองจบเร็ว ตลาดก็จะฟื้นตัวเร็ว หากบรรยากาศทางการเมืองดีผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
ส่วนแผนธุรกิจปี 2557 นั้นบริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 40-50 โครงการ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 25-29 โครงการ บ้านเดี่ยว 9-12 โครงการ คอนโดมิเนียม 5-8 โครงการ และต่างประเทศ 1 โครงการ คิดเป็นแนวราบ 80% แนวสูง 20% ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาการลงทุนระหว่างเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย หรือที่ประเทศประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้ คิดเป็นแนวราบ 80% แนวสูง 20% ในแง่ของจำนวนโครงการลดลงจากลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่เปิดโครงการใหม่ 60 โครงการ มูลค่า 50,193 ล้านบาท
ส่วนเป้าหมายยอดขายตั้งไว้ที่ 41,000 - 45,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในปี 2556 จำนวน 41,282 ล้านบาท ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ตั้งไว้ที่ 40,000-42,000 ล้านบาท โดยยอดรายได้ 9 เดือนมีจำนวน 25,109 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ต้นปี 2557 นี้มี Backlog มูลค่าประมาณ 37,836 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 20,786 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาพฤกษาฯสามารถโอนบ้านให้ลูกค้าได้จำนวน 16,969 ยูนิต สูงกว่าปี 2555 ที่โอนบ้านได้ 12,283 ยูนิต
ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทพฤกษา กล่าวว่า บริษัทฯจะเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อรักษาอัตราการเติบโตแบบยั่งยืน จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นเรียลดีมานด์ ส่วนใหญ่จะเป็นในเซกเมนต์ระดับล่าง-กลาง และจะมีเพียงส่วนน้อยที่จะมีการขยายฐานลูกค้าไปยังเซกเมนต์ระดับกลาง-บน และจะเน้นหนักในเรื่องการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบ Real Estate Manufacturing (REM) ที่จะนำมาใช้กับทุกโครงการแนวราบ เพื่อสามารถควบคุมคุณภาพ บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า
"ขณะนี้บริษัทฯยังจะมีรายได้จากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา รวม 164 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 59,689 ล้านบาท จึงมั่นใจได้ว่าในปีนี้ จะเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทฯ จะสามารถรักษามาตรฐานคุณภาพของบ้านที่ดี เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า โดยยังสามารถเติบโตและบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา”
ทั้งนี้เพื่อรองรับกับเป้าหมายและการเติบโตของบริษัทฯ จึงขยายโรงงานพฤกษาพรีคาสท์เพิ่มอีก 2 โรงงาน คือโรงที่ 6 และ 7 ที่นวนคร กำลังการผลิต 480 หลัง/เดือน โดยใช้งบลงทุน 2,100 ล้านบาท โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลกจากประเทศเยอรมนีควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทุกขั้นตอน ทำให้ได้บ้านที่มีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป และจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตบ้าน รวมสูงถึง 1,120 หลังต่อเดือน คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในเดือนกันยายน ปีนี้”
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS เปิดเผยถึง ภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2557 ว่าจะเติบโตในกรอบแคบๆ เพิ่มจากปี 2556 ประมาณไม่เกิน 5% โดยมีมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดประมาณ 640,000 ล้านบาท โดยต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่และจังหวัดที่ติดชายแดนประเทศเพื่อนบ้านจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และสามารถรองรับกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่จะเกิดขึ้นในปี 2558 ได้
อย่างไรก็ตามหากเกิดผลกระทบจากปัจจัยลบด้านต่างๆ อาจทำให้ตลาดอสังหาฯชะลอตัวลงประมาณ 2-5% ซึ่งกรุงเทพและปริมณฑล จะได้รับผลกระทบมากกว่าจากสถานการณ์ทางการเมือง โดยในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาในส่วนของพฤกษามียอดขายลดลง 15% แต่ยอดโอนยังเป็นปรกติ และในเดือนม.ค.2557 นี้ คาดว่ายอดจองจะลดลงอีกประมาณ 20% เชื่อว่าสถานการณ์ทางการเมืองจบเร็ว ตลาดก็จะฟื้นตัวเร็ว หากบรรยากาศทางการเมืองดีผู้บริโภคก็ยังมีความต้องการซื้อที่อยู่อาศัย
ส่วนแผนธุรกิจปี 2557 นั้นบริษัทฯ ตั้งเป้าเปิดโครงการใหม่ 40-50 โครงการ มูลค่ารวม 40,000-50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 25-29 โครงการ บ้านเดี่ยว 9-12 โครงการ คอนโดมิเนียม 5-8 โครงการ และต่างประเทศ 1 โครงการ คิดเป็นแนวราบ 80% แนวสูง 20% ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาการลงทุนระหว่างเมืองบังกาลอร์ ประเทศอินเดีย หรือที่ประเทศประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าจะสามารถสรุปได้ในเร็วๆนี้ คิดเป็นแนวราบ 80% แนวสูง 20% ในแง่ของจำนวนโครงการลดลงจากลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปี 2556 ที่เปิดโครงการใหม่ 60 โครงการ มูลค่า 50,193 ล้านบาท
ส่วนเป้าหมายยอดขายตั้งไว้ที่ 41,000 - 45,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดขายในปี 2556 จำนวน 41,282 ล้านบาท ขณะที่ยอดรับรู้รายได้ตั้งไว้ที่ 40,000-42,000 ล้านบาท โดยยอดรายได้ 9 เดือนมีจำนวน 25,109 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าถึงสิ้นปีจะมีรายได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ต้นปี 2557 นี้มี Backlog มูลค่าประมาณ 37,836 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 20,786 ล้านบาท ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาพฤกษาฯสามารถโอนบ้านให้ลูกค้าได้จำนวน 16,969 ยูนิต สูงกว่าปี 2555 ที่โอนบ้านได้ 12,283 ยูนิต
ด้านนายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัทพฤกษา กล่าวว่า บริษัทฯจะเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงเพื่อรักษาอัตราการเติบโตแบบยั่งยืน จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นเรียลดีมานด์ ส่วนใหญ่จะเป็นในเซกเมนต์ระดับล่าง-กลาง และจะมีเพียงส่วนน้อยที่จะมีการขยายฐานลูกค้าไปยังเซกเมนต์ระดับกลาง-บน และจะเน้นหนักในเรื่องการปรับปรุงกระบวนการทำงานด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบ Real Estate Manufacturing (REM) ที่จะนำมาใช้กับทุกโครงการแนวราบ เพื่อสามารถควบคุมคุณภาพ บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า เพื่อเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจลูกค้า
"ขณะนี้บริษัทฯยังจะมีรายได้จากโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการพัฒนา รวม 164 โครงการมูลค่ารวมประมาณ 59,689 ล้านบาท จึงมั่นใจได้ว่าในปีนี้ จะเป็นอีกปีหนึ่งที่บริษัทฯ จะสามารถรักษามาตรฐานคุณภาพของบ้านที่ดี เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้า โดยยังสามารถเติบโตและบรรลุเป้าหมายที่ได้วางไว้เหมือนเช่นปีที่ผ่านมา”
ทั้งนี้เพื่อรองรับกับเป้าหมายและการเติบโตของบริษัทฯ จึงขยายโรงงานพฤกษาพรีคาสท์เพิ่มอีก 2 โรงงาน คือโรงที่ 6 และ 7 ที่นวนคร กำลังการผลิต 480 หลัง/เดือน โดยใช้งบลงทุน 2,100 ล้านบาท โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดในโลกจากประเทศเยอรมนีควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทุกขั้นตอน ทำให้ได้บ้านที่มีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานทั่วไป และจะทำให้บริษัทฯ มีกำลังการผลิตบ้าน รวมสูงถึง 1,120 หลังต่อเดือน คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในเดือนกันยายน ปีนี้”