ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์- ดวงเมืองศักราชใหม่ 2557 ปีมะเมีย ประเทศไทยจะตกม้าตายหรือก้าวหน้าไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง "ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์" สัมภาษณ์โหราศาสตร์ชื่อดังมาช่วยทำนายทิศทางของประเทศทั้งเรื่องการเมืองที่ลุ้นกันอยู่ว่าการปฏิรูปประเทศไทยจะสำเร็จหรือไม่ เรื่องเศรษฐกิจ การลงทุนต่างๆ กิจการค้าขายจะรุ่งเรืองหรือเจ๊งระนาว หรือแม้แต่เรื่องภัยพิบัติธรรมชาติ ที่หลายคนประหวั่นว่าจะเกิดเหตุน้ำ ท่วมใหญ่ที่เคยเป็นฝันร้ายแก่ประชาชนมาแล้วในปี 2554ที่ผ่านมา หรือไม่
ดวงการเมือง
ชะตาขาด! ขัดแย้งรุนแรง ต่อสู้ฟาดฟัน
ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์
ดวงเมืองไม่ดีอย่างมาก จะเกิดความขัดแย้ง อาจถึงขั้นเสียเลือดเนื้อก็ได้ ความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่ยุติลง ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายน เป็นต้นไป จะมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงยังไม่สามารถจะยุติลงได้ แต่การปฎิวัติของประชาชนโดยปกตินั้นฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรมในประวัติศาสตร์โลก ฝ่ายธรรมะต้องชนะเสมอ เพียงแต่ว่าจะช้าหรือเร็วก็แค่นั้น
เพราะว่าฝ่ายธรรมะเป็นฝ่ายพลังบวก เป็นพลังที่มีอำนาจ จะสามารถผลักดันหรือเปลี่ยนแปลงอะไรก็ได้ แต่ว่าฝ่ายพลังลบหรือฝ่ายอธรรม พลังของการต่อสู้มันกระจัดกระจาย ไม่เป็นปึกแผ่น มันจะพ่ายแพ้ต่อฝ่ายธรรมะที่เป็นพลังบวก อันนี้เป็นเรื่องของหลักธรรม และหลักของโหราศาสตร์ด้วย
ส่วนนายกรัฐมนตรีในปีหน้าก็คงไม่มีแล้ว ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 นี้ก็อาจไม่มีการเลือกตั้ง เมื่อไม่มีการเลือกตั้งหมายความว่า ฝ่ายมวลมหาประชาชนจะเข้าขัดขวางการเลือกตั้ง ไม่ว่าคุณยิ่งลักษณ์จะลาออกหรือไม่ลาออกก็ตาม ก็จะเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ในขณะที่รัฐบาลก็ไม่ยอมลาออก เพราะฉะนั้นก็จะมีการใช้อำนาจรัฐเข้ามาจัดการกับมวลมหาประชาชน ก็จะเกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกุมพาพันธ์ปี 2557 สองเดือนนี้เป็นช่วงวิกฤตมาก
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นนั้นจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหลังวันที่ 26 มิถุนายน 2557 ไปแล้ว ความขัดแย้งทั้งหลายทั้งปวงที่มีอยู่จะค่อยๆ ดีขึ้น เมื่อดาวพฤหัสบดีย้ายจากราศีเมถุนเข้าสู่ราศีกรกฏในวันที่ 26 มิถุนายน 2557 ดาวเสาร์กับราหูก็ยังอยู่ที่เดิม ยังสร้างความขัดแย้งอยู่ แต่ว่าดาวพฤหัสบดี มีพละกำลังสูงมาก เมื่ออยู่ในราศีกรกฏ เพราะดาวพฤหัสบดีเป็นดาวที่ให้คุณสูงสุดในสุริยะจักรวาล เป็นดาวเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม เป็นดาวแห่งศาสนา ดาวแห่งความเจริญงอกงาม
เมื่อดาวพฤหัส อยู่ในราศีกรกฏจะให้คุณแก่โลกและดวงเมืองของเรา ในขณะที่ยังมีความขัดแย้งอยู่ แต่จะค่อยๆ ลดน้อยลงไปเรื่อยๆ ก็จะให้กระแสที่ดี ให้ชัยชนะแก่มวลมหาประชาชน เพราะเป็นดาวฝ่ายธรรมะ จะโดดเด่นขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะเดียวกัน ดาวบาปพระเคราะห์หรือดาวที่ให้โทษก็ยังมีอยู่ แต่จะให้โทษได้น้อยลง ดาวดีจะขัดขวางการทำชั่วร้ายของฝ่ายอธรรม
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2557 ราหูก็จะย้ายไป จากที่เคยให้โทษดวงเมืองก็จะให้โทษได้น้อยลง พูดกันง่ายๆ ว่าทุกอย่างจะคลี่คลายลงหลังจากนั้น แต่อย่างไรก็ตาม ดาวเสาร์ขึ้นเป็นดาวบาปพระเคราะห์ ก็ยังส่งกระแสความขัดแย้งไปยังดวงเมืองอยู่ จะดีขึ้นมากจริงๆ ต้องวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 เป็นต้นไป ฝ่ายมวลมหาประชาชนก็จะมีการปฎิรูปประเทศไทยได้ จะสามารถคัดค้านไม่มีการเลือกตั้งได้ จนสามารถปฎิรูปประเทศไทยได้สำเร็จ
สรุปรวมความว่า ตั้งแต่วันที่1 มกราคม 2557 จนถึง 16 มิถุนายน 2557 ความขัดแย้ง เศรษฐกิจการเงิน การคลัง ก็ยังแกว่งอยู่ ความขัดแย้งภายในประเทศในด้านการเมืองก็ยังขัดแย้งกันอยู่ และจะคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นหลังกลางเดือนมิถุนายน 2557ไปแล้ว
จุฑามาศ ณ สงขลา
การดูดวงตามหลักเลขศาสตร์สากล รหัสลับไคโรนั้น จะเป็นการถอดรหัสปี 2557 เป็นเลข 7 เราถอดจากปี 2014 ฉะนั้นดวงเมืองของเรามีรหัสชีวิตเป็นเลข 3 กับ 7 เราเรียกว่ามีเลขวิญญาณ 7 มันชนกับดวงปี ก็เลยต้องอธิบายว่า เลข 7 แปลว่าการสู้รบ สงคราม ศัตรู ความเหนื่อยยากทั้งหลาย พอไปชนกับดวงเมืองก็เลยทำให้ประเทศเราก็จะมีเรื่องของการสู้รบ มีอุปสรรคปัญหา มีการแตกแยก มีการต่อสู้ฟาดฟันเกิดขึ้น ในปี 2557 มันจะมีอิทธิพลของดาวเนปจูน มีดาวอาทิตย์ ดาวพุธ ดาวเสาร์ เป็นการส่งเสริม
ดังนั้น ทำให้คนที่เป็นดาวอาทิตย์พวกนักการเมือง พวกมีอำนาจวาสนาทั้งหลาย จะเกิดความมัวเมา หลงใหลในอำนาจ พวกที่มีอำนาจกับผู้มีอำนาจจะสู้รบกันได้ แล้วก็จะยิ่งทำให้เกิดสิ่งร้ายๆ ต่างๆ ยั้งไม่อยู่ ไม่มีใครสามารถฉุดได้เลย เพราะแต่ละคนก็อัตตาสูง ดาวอาทิตย์แปลว่าร้อน ยิ่งมีอำนาจ ยิ่งมีเงินเท่าไหร่ ยิ่งร้อนมากยิ่งขึ้น เพราะว่ามีดาวพุธมาส่งเสริมด้วย เลยทำให้ยิ่งมัวเมาหลงใหลมากยิ่งขึ้น ทำให้มีปัญหาค่อนข้างเยอะ มีสิ่งร้ายๆ แรงๆ เข้ามาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์กับเดือนมีนาคม ในปี 2557 สองเดือนนี้จะเป็นเดือนที่มีความแตกแยก ทุกอย่างจะแตกเป็นหลายฝ่าย เราจะไม่ได้มีแค่สองฝ่ายอีกแล้ว
ในตอนนี้อาจจะมีฝ่ายประชาชนกับรัฐบาล แต่พอปี 2557 อย่างน้อยก็มีสามฝ่ายเกิดขึ้น ทีนี้พอมันเกิดความแตกแยกเป็นหลายฝ่ายแล้ว ไม่รู้ใครจะมาคุม ก็จะมีอุปสรรคปัญหาค่อนข้างเยอะ จะส่งผลว่า ผู้มีอาวุธอย่างทหาร ตำรวจ จะยิ่งเสื่อมอำนาจมากขึ้น แล้วสิ่งที่จะมีปัญหาต่อไปก็คือ ทหารกับทหารก็จะรบกันเองได้
ทีนี้ถ้าเราหวังว่าใครจะมาช่วยได้ ก็จะมีดาวเสาร์เป็นดาวนักปราชญ์ เป็นดาวอิทธิพลของปีเหมือนกัน นักปราชญ์ผู้รู้ทั้งหลายเวลาแสดงตัวออกมาแล้ว ก็จะมาทะเลาะกันเอง คนที่ออกมาก็จะเจ็บตัว เสียชื่อเสียง แล้วก็สร้างศัตรูให้กับตัวเองเพิ่มมากยิ่งขึ้น ก็เลยกลายเป็นว่า นักปราชญ์กับนักปราชญ์ทะเลาะกัน ทหารกับทหารทะเลาะกัน ตำรวจกับตำรวจทะเลาะกัน นักการเมืองกับนักการเมืองทะเลาะกัน เลยกลายเป็นว่า มันค่อนข้างร้อนรุ่ม โดยเฉพาะเดือนกุมภาพันธ์กับเดือนมีนาคม ไม่ว่าจะมีเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้งก็ตาม แตกแยกทั้งนั้น แล้วก็จะมีอีก 2 เดือน คือพฤศจิกายนกับธันวาคม 2557 ก็จะเป็นช่วงแตกแยกอีกทีเหมือนกัน
พอดูในรายละเอียดถึงปี 2557 ตั้งแต่สร้างศาลหลักเมืองมาก็จะครบ 232ปี ในปี 2557 บวกรวมกันก็เป็นเลข 7 อีกเหมือนเดิม มันก็เลยจะทำให้ 7 ซ้อนกัน 3ดวง ก็คือว่า ทุกอย่างก็จะประเดประดังกันเข้ามา
ทีนี้ เราจะเจอสิ่งที่เราไม่อยากเจอเลย ก็คือความมัวเมาหลงใหลในอำนาจ และจะมี'พญามาร'เกิดขึ้นอีกตนหนึ่ง คนที่จะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเราจะกลายเป็นพญามารขึ้นมาได้ ก็จะกลายเป็นว่า เราจะได้เจอหน้าพญามารเพิ่มขึ้นมาอีกคนหนึ่ง อาจจะเป็นการนำประเทศ หรือนำบ้านเมืองไปสู่ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจ หรืออะไรก็ได้
นอกจากนั้น ยังเชื่อมโยงไปถึงวงการศาสนา ที่จะเข้าไปมีบทบาททางการเมืองเยอะขึ้น แต่เมื่อเข้าสู่ยุคเสพติดความมัวเมาและอบายมุขแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า วงการศาสนาจะเสื่อมถึงที่สุด เพราะว่าเข้ามาอยู่ในลักษณะที่ยุ่งเกี่ยวการเมืองเยอะขึ้น และก็คนที่น่าเชื่อถือ น่าเคารพน่าศรัทธา จะถูกฝ่ายการเมืองชูขึ้นมา แต่กลายเป็นว่าเป็นซาตาน เป็นพญามารด้านอบายมุขขึ้นมาก็เป็นได้ด้วย
ใครเด่นๆ ก็จะถูกจับมาวางไว้ว่า คือคนที่เราจะต้องเชื่อถือเขา เขาจะพาประเทศเรารอด ไม่ว่าจะเป็นด้านทางโลกหรือด้านการเมือง
ส่วนนายกรัฐมนตรี จริงๆ แล้วเป็นปีที่มีจุดเปลี่ยน มันแปลกมากเลย ตั้งแต่คำนวณมาเพิ่งเจอว่า เราอาจจะมีนายกฯ 2 คน คือขึ้นมาแล้วลง ในปีเดียวกันเลย ปีหน้าเป็นปีของผู้ชายแล้วก็ผู้ชายต่อผู้ชายนี่แหละ ที่จะห้ำหั่นกันเอง เพราะฉะนั้นแล้ว นายกรัฐมนตรีจะไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอนในปี 2557 แต่ว่าใครมาก็ตามจะต้องเปลี่ยน
แล้วเราจะมีปัญหามากๆ ในช่วงเดือนมีนาคม แล้วก็ในเดือนเมษายนนั้นก็จะเริ่มมีระเบียบมากยิ่งขึ้น แต่พอเริ่มปลายปีก็จะเริ่มอีกแล้ว ขัดแย้งอีก มีสงครามเกิดขึ้นและเสียเลือดเสียเนื้อ
อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา
การเมืองปี 2557 ชะตาขาด ล่มจม คนจะไม่เชื่อฟังกัน จะมีม็อบอยู่ตลอดเวลา สหประชาชาติจะเข้ามา มีการรบรา ฆ่าฟันเกิดสงครามกลางเมืองกันแหลกลาน จะมีการนัดหยุดงาน คนไทยจะไม่ทำงานแล้ว จะมีพวกต่างชาติเข้ามา ฝรั่งเข้ามาเต็มเมือง กฏหมายไม่เป็นกฏหมาย ถ้าพูดทางด้านโหราศาสตร์ก็คือดวงเดิมนั่นเอง การเปลี่ยนแปลงในด้านการเมืองยังไม่ได้จบที่กลุ่มบุคคลหรือจากการเปลี่ยนรัฐบาล มันต้องทำการเปลี่ยนรูปแบบเมือง
ดวงเมืองตอนนี้มีภูตผี ปีศาจเข้ามา ทั้งภายใน ภายนอกมันแทรกซ้อน อะไรที่เกิดแล้วก็เกิดอีก คำว่าปรองดองก็เลิกพูดไปได้เลย คงยากที่จะแก้ไขได้ ถ้าคนทะเลาะกัน 2 คนไม่เป็นไร แต่ถ้าทะเลาะกันเป็นล้านก็ยากจะเยียวยา ก็ไม่มีจุดจบ สุดที่จะเยียวยาได้ แต่จะมีการปฏิรูปทั่วโลกโดยอัตโนมัติแน่นอนในปี 2559 จะมีการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง
ส่วนการเลือกตั้งไม่เลือกตั้ง ก็ต้องให้นักวิชาทั้งหลายรวมทั้งประชาชนผสมกันแล้วก็จะเกิดการปฏิรูปกัน แต่ขั้นแรกต้องปรองดองกันก่อน เพราะฉะนั้นในปี 2557ไม่ต่างอะไรกับปี 2556 มันจะแรงกว่าเก่าด้วย จะมีการเปิดศึกช่วงเดือนกันยายน พอมีรัฐบาลขึ้นมาแล้วก็จะทะเลาะเบาะแว้งกันในสภา ถ้าพูดตามหลักโหราศาสตร์ การโต้เถียงกันในสภาเป็นจุดของการไม่ปรองดอง การที่คนทะเลาะกันในสภา มันทำให้คนแตกแยกกัน พอโกรธกันก็จะมีการล้างแค้นไม่จบสักที ต้องมีการปรับปรุงระบบ การเมืองของไทยยังไว้ใจไม่ได้สักคน
การเมืองจะวุ่นวายไปถึงเดือนกันยายน ก็จะมีการแตกแยก เลือดนองแผ่นดิน ยิงกันไป ยิงกันมา ฆ่ากันไปฆ่ากันมา รวมทั้ง 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล
หมอดูชื่อดังที่เคยทำนายว่า “ทักษิณจะไม่มีแผ่นดินอยู่” ได้ทำนายสถานการณ์บ้านเมืองในอนาคตข้างหน้าไว้อย่างน่าสนใจว่า ปี 2557 เป็นปี 'ม้ากระหย่องกระแหย่ง' คือเดินไปแบบกระหย่องกระแหย่ง แต่บ้านเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น จะมีนักการเมืองรุ่นใหม่ไฟแรงและมีอิสระทางความคิดเข้าสู่วงจรอำนาจมากขึ้น เป็นปีที่ประชาชนมีพลังมาก จะไม่มีการเลือกตั้ง หรือถ้ามีการเลือกตั้งก็ต้องมีอันเป็นไป ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ยังดึงดันจะให้มีการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.2557 เหตุการณ์บ้านเมืองจะมีปัญหาหนักถึงขั้นเสียเลือดเสียเนื้อ ระหว่างนี้จะมีรัฐบาลแห่งชาติ มีคนดีๆ มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันบริหารประเทศ จัดระบบให้มีความถูกต้องชอบธรรม ส่วนการเลือกตั้งจะมีขึ้นหลังเดือน ต.ค. 2547 ไปจนถึงตรุษจีน ปี 2558
ในปี 2557 มีเกณฑ์จะมีการเคลื่อนทัพ แต่เคลื่อนไปไหนไม่ไม่รู้ ดังนั้นตั้งแต่ ม.ค.- 4 ก.พ.ต้องระวังการเสียเลือดเสียเนื้อ เดือน ก.พ.และ มี.ค.เป็นเดือนเสือธาตุไฟ เป็นเสือดุ ต้องระวังระเบิดปืนไฟ การจลาจล กลียุค เกิดการสูญเสียอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่หลัง มิ.ย.บ้านเมืองจะเริ่มดี
ปี 2558 เป็นปี 'กวาดมารทั้งแผ่นดิน' ใครทำอะไรไม่ดีกับบ้านเมืองจะต้องเสวยกรรม นักการเมืองหลายคนอาจต้องหนีออกนอกประเทศ แต่ทักษิณมีลักษณะตาลอยๆ ซึ่งคนลักษณะนี้จะไม่เลี้ยงใครด้วยความจริงจังหรอก มีผลประโยชน์ก็เลี้ยง
ปี 2559 เป็นปี 'หนุมานเผาลงกา' เพราะจะมีคนออกมากวนเมือง เผาบ้านเผาเมือง มีเรื่องเดือดร้อนวุ่นวายหนัก
ปี 2560 เป็นปี 'จุกจิก' เพราะต้องเคลียร์ทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง
ปี 2561-2562 เป็นปี 'บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง'
ดวงเศรษฐกิจ
การเงิน การคลัง ยังร่อแร่
ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์
ในช่วง 16 มิถุนายน 2557 ถึงเดือนมิถุนายน 2558 เป็นช่วงที่ดีมาก เพราะดาวพฤหัสบดีไปอยู่ในราศีกรกฎแล้วจะให้คุณในด้านการลงทุน ความสงบร่มเย็นจะเกิดขึ้นในช่วงนั้น แล้วก็เศรษฐกิจจะบูมไปทั่วประเทศและทั่วโลก เพราะดวงเมืองกับดวงโลกมันดวงเดียวกัน จะดีขึ้นทุกอย่างเลย แสดงว่าฝ่ายธรรมะจะชนะแน่นอน
จุฑามาศ ณ สงขลา
ข้อดีของเรา คือแม้จะมีเหตุวุ่นวายทางการเมืองแต่ก็ไม่ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำเท่าไหร่นัก มีกระแสสะพัดทางเศรษฐกิจหลายด้านทีเดียวที่มันประคับประคองประเทศเราไว้ได้ แล้วก็รายได้อาจจะต่ำลงก็จริง แต่ไม่ได้เรียกว่าย่ำแย่
แน่นอนทีเดียวว่าข้าวยาก อาหารแพง โดยเฉพาะอะไรที่กินได้ มันจะแพง มีอยู่ช่วงหนึ่งของปี 2557 ที่เกี่ยวกับระบบการเงิน การธนาคารจะปั่นป่วน มันจะทำให้ถอนเงินไม่ได้หรืออีกประการหนึ่งคือ คนจะแห่ไปถอนเงินกันเยอะ มันอาจจะสั้นมากเลยคือเกิดขึ้นวันเดียวหรือสองวันคือปั่นป่วนไปเลยทั้งเมือง ทำให้เกิดการระส่ำระส่าย มีข่าวลือต่างๆ นาๆ เยอะทีเดียว
อันที่จริงแล้วมันไม่ได้มีเรื่องเลวร้าย แต่มันอาจจะเป็นระบบผิดพลาดหรือมีปัญหาอะไรก็ตามที่มันไม่ควรจะเกิดในระบบเศรษฐกิจ แต่มันจะเกิดขิ้น ก็ขอแนะนำว่า คนไทยควรเก็บเงินติดตัวไว้บ้าง อย่ามีแต่บัตรเอทีเอ็มฝากเงินไว้ในธนาคารควร ควรมีเงินสำรองติดบ้านไว้ จะได้ไม่เกิดการช็อตเงินในตอนนั้น ในเรื่องปัญหาที่เกี่ยวกับระบบที่เกี่ยวกับธนาคาร แต่มันจะมีอยู่แค่วันเดียวหรือสองวันเท่านั้นที่มีปัญหา
แต่การส่งออกก็ยังโอเคอยู่ เรายังคาดหวังในเรื่องตรงนี้ได้ ทีนี้ปัญหาอยู่ที่ว่า การส่งออกสินค้าหลักที่ใหญ่ๆ เลย เราจะมีปัญหาด้านคุณภาพ อย่างเรื่องข้าวที่เราเคยเจอเมื่อปี 2556 เราก็ยังต้องประสพอยู่เหมือนเดิมในปี 2557 นี้ ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวก็ยังคงสร้างรายได้ดีอยู่
จุดที่ตกต่ำที่สุดเลยคือด้านการเงิน การธนาคาร การคลัง นั่นหมายถึงว่าจะทำให้คนแห่ไม่ใช้หนี้ คนไม่เสียภาษี
ส่วนผู้ประกอบการรายย่อยก็อาจจะเจอปัญหามากทีเดียว ถึงขั้นกิจการตายไปเลย เพราะฉะนั้นไม่เหมาะเลย หากใครจะต้องเปิดกิจการใหม่ๆ ในปีหน้า และไม่เหมาะกับการเล่นหุ้นอย่างยิ่ง
ขุนทอง อสุนี
ในส่วนเศรษฐกิจไม่ค่อยดีนัก ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2557 แต่พอเข้าเดือนมีนาคมก็จะดีขึ้นมาหน่อย แต่ผู้คนก็จะไม่ค่อยใช้ตังค์กัน ส่วนผู้ประกอบการค้าระดับล่างจนถึงระดับกลางร่วงหมดเลย ระดับบนก็หยุดการลงทุน ผู้ประกอบการจะเจ๊งกันเป็นแถบ จะมีการปิดร้าน ขาย เช่า เซ้งกันเยอะมาก คนที่เก็งกำไรซื้อขายบ้านจะต้องเทขายทิ้งกันหมดภายในเดือนมีนาคม ส่วนระบบการขนส่งทั้งหมด พวกโลจิสติกส์ การเดินทางการขนส่ง เรื่องธุรกิจขายรถยนตร์หรือยานพาหนะ ยังพออยู่ได้ แต่โรงงานนี่จะแป๊กหมดเลย
ธุรกิจนี่ตายทั้งเป็นยิ่งกว่าภัยพิบัติอีก เดือนกุมภาพันธ์จะมีคนว่างงานกันเยอะแน่นอน จึงทำให้มีผลกระทบต่อระบบเงินเดือน เพราะพวกนี้ว่างงานไม่ได้โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ เรื่องการเงินจะกระเตื้องขึ้นมานิดนึงในเดือนพฤษภาคม ต้องให้ถึงเดือนมิถุนายนไปแล้วถึงจะเริ่มเข้าที่ แต่จะรอดก็ไม่เท่าไหร่ คือจะมีตัวเลขชัดเจน มีการปิดกิจการ มีการปิดโรงงาน การปิดบริษัท
ส่วนถ้าใครคิดจะลงทุนไม่พ้นมิถุนายนต้องเจ๊งแน่นอน กว่าจะเริ่มขยับก็ต้องพ้นกลางปีไปแล้ว การเงินกระเตื้องมานิดในช่วงพฤษภาคม แล้วที่ว่ามิถุนายนถึงจะเข้าที่ก็ไม่ใช่ว่าดีขึ้นนะ แต่ยังพอไปรอด ทางด้านหุ้นดึงไม่ขึ้น จากนี้ไปเต็มที่ก็ขึ้นประมาณ 1400จุด คือยังไงก็ขาดทุน
อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา
เศรษฐกิจจะตกต่ำ อย่าไปลงทุน คอนโดจะไม่มีใครอยู่ บ้านจะเป็นบ้านร้าง หมู่บ้านต่างๆ จะถูกยึด ส่วนธนาคารก็เจ๊ง ตอนนี้ดวงเมืองแตกหมดแล้ว
ต่อไปประเทศไทยจะไม่มีกิน เศรษฐกิจจะตกต่ำเป็นอย่างมาก คนจะว่างงานกันเป็นแถว อาหารจะแพงมาก ตกงานกันหมด ข้าวของแพงขึ้น บ้านจะไม่มีอยู่ ข้าวจานละยี่สิบ สามสิบ ก็จะขึ้นเป็นจานละร้อย ค่าเงินจะเฟ้อ เศรษฐกิจจะตกต่ำ ประเทศไทยจะถูกฮุบไป กลายเป็นต่างประเทศเข้ามาดูแล จะล่มจมตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป
ภัยพิบัติธรรมชาติ
โลกแปรปรวน น้ำมาก็มามาก แห้งแล้งก็แห้งมาก
ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์
ภัยพิบัติก็ยังมีอยู่ น้ำจะลง พายุที่นำน้ำ เข้าไปท่วมที่ต่างๆ ทั่วประเทศและทั่วโลกก็ยังมีอยู่ ก็ต้องระวังเหมือนกันเรื่องภัยพิบัติจากน้ำ จากลม วาตภัย แต่จะไม่รุนแรงมากนัก ดาวที่เกี่ยวกับน้ำก็อยู่ในราศีที่ สามารถทำลายล้างดวงเมือง ดวงโลกได้อยู่ คือดวงเมืองกับดวงโลกมันดวงเดียวกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นดวงเมืองเป็นอย่างไร ดวงโลกก็จะโดนกระทบอย่างนั้นตามไปด้วย
จุฑามาศ ณ สงขลา
อย่างที่ได้บอกไปว่าเลข 7 นั้นเกี่ยวข้องกับภัยพิบัติด้วย อุปสรรคปัญหา ศัตรู การสู้รบ พอมันมาชนกันแล้ว มันเลยกลายเป็นปีแห่งภัยพิบัติค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน อาจจะถึงขั้นเขื่อนแตก ธรณีสูบ หรือแผ่นดินถล่ม
แต่สิ่งที่มันชัดเลยก็คือ น้ำเยอะอยู่แล้ว ระบบการปรวนแปรทั้งหลายของดวงดาวมันจะทำให้แห้งแล้งก็แห้งแล้งมาก จะน้ำท่วมก็ท่วมเยอะมาก แต่มันมีอย่างอื่นตามด้วย มีทั้งวาตภัย แล้วก็แผ่นดินไหว ในการปรวนแปรต่อเนื่องเลย
ข้อดีเราอยู่ที่ เราเป็นเมืองพุทธ มันอาจจะแก้ได้ แต่ดาวบาปเคราะห์ของประเทศมันชนกันอยู่ ทีนี้ด้วยประเทศไทยที่เป็นประเทศเพื่อนบ้านอยู่ในเส้นระนาบ เส้นศูนย์สูตรเดียวกัน ก็อาจจะเกิดความรุนแรงด้านภัยพิบัติหลากหลายอย่าง ต้องเรียกว่ามหาภัยพิบัติเลยก็ว่าได้ เราจะเจอน้ำท่วม พายุ แผ่นดินไหว คือ ปัญหาใต้ดิน ทำให้แผ่นดินแยก แผ่นดินไหว เราจะเจอเยอะขึ้นในประเทศไทย หรือประเทศเพื่อนบ้านที่มันส่งผลกับประเทศเรา ถ้าพูดกันตรงๆ อย่างน้อยผู้เสียชีวิตต้องมีมากกว่า 700 คน
ส่วนการบรรเทาคือให้คนไทยหันมาสวดมนต์ ปฎิบัติธรรมกันเยอะๆ ตั้งแต่มกราคมขึ้นไปเลย มันเคยช่วยให้เกิดปาฎิหาริย์เหล่านี้มาแล้ว เช่น พายุแทนที่จะมาขึ้นประเทศไทยก็ย้ายเป็นประเทศอื่นมาเยอะแล้ว ถ้าเรารวมพลังสมาธิในการสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมกันเยอะๆ ก็พอช่วยได้
ส่วนสึนามิน้ำกับลมมาพร้อมกันก็อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น แต่ว่ามันมี โอกาสอยู่แค่ 30เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะว่าเคยคำนวณย้อนกลับไป ตอนที่มีเกิดสึนามิครั้งใหญ่ มันมีโอกาสอยู่ตั้ง 70 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่ว่าภัยที่มันเกี่ยวกับน้ำจะแปลกๆ ขึ้น เช่น เราอาจจะเจอสตอร์มเซิร์จ แต่มันคงไม่ได้ใหญ่เท่ากับฟิลิปปินส์ ภัยพิบัติน้ำมันอาจจะท่วมถึงกรุงเทพฯ อีกก็ได้ มีโอกาสสูงมาก
อรรถวิโรจน์ ศรีตุลา
ฝนตกน้ำท่วม ไฟดับหมด น้ำก็ไม่มีจะกิน ทุกบ้านต้อง สร้างเรือไว้บนหลังคา จะเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ปี 2559 น้ำท่วมกรุงเทพฯ บ้าน 2 ชั้นก็ท่วมมิดหมด เขื่อนพัง