อุบลราชธานี - ชาวบ้าน ญาตินักเรียนสาววงโปงลางไม่พอใจ ตร.ยังจับคนร้ายไม่ได้ บุกกดดันหน้าสถานีจี้จับให้ได้ใน 7 วันก่อนเจอประท้วง ขณะที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสั่งระดมสายสืบจากพื้นที่ใกล้เคียงสนับสนุน พบเงื่อนงำครูชายส่งเฟซบุ๊กหาคนตายในทำนองตัดพ้อ ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 วัน พร้อมส่งตัวอย่างสารคัดหลั่ง-เส้นผมผู้ต้องสงสัยชุดที่ 2 อีก 10 คนตรวจ DNA คาด 2 วันรู้ผล มั่นใจรวบตัวคนร้ายได้ในเร็วๆ นี้
วานนี้ (24 ธ.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านและญาติของ น.ส.นิด (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นดาวประจำวงดนตรีโปงลางของโรงเรียนที่ถูกคนร้ายบุกข่มขืนและทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสในห้องเก็บอุปกรณ์ดนตรีภายในโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 15 ธ.ค.และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ได้มาสอบถามความคืบหน้าในการติดตามจับตัวคนร้าย เพราะไม่พอใจที่เวลาผ่านมานานกว่า 1 สัปดาห์ยังไม่มีความคืบหน้าทั้งที่ชาวบ้านมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในโรงเรียน เพราะมีพฤติกรรมน่าสงสัย มีการเกี้ยวพาราสีคนตายก่อนหน้าจะมีเหตุเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปตั้งประเด็นสงสัยคนอื่น เหมือนต้องการเบี่ยงเบนประเด็นการสืบสวน ทำให้ญาติของ น.ส.นิด ไม่พอใจ จนต้องพากันมาสอบถามความคืบหน้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาพบกับชาวบ้านและญาติของ น.ส.นิด พร้อมชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดประมาณ 30 ปาก ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ DNA ผู้ต้องสงสัยหากพบตรงกับน้ำอสุจิที่พบในช่องคลอดผู้เสียชีวิตก็จะจับกุมดำเนินคดีทันที ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้ให้เวลาอีก 7 วันหากไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ก็จะพากันกลับมาประท้วงอีกครั้ง
นายเพรียวพันธ์ ชัยยะพันธ์ อดีต ส.อบจ.เขต อ.นาเยีย แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านไม่พอใจเพราะทางตำรวจไม่เรียกครูที่ต้องสงสัยมาสอบเพื่อเชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหยื่อกับครูคนนี้ เนื่องจากก่อนวันเกิดเหตุเพียง 1 วันมีการส่งเฟซบุ๊กจากครูถึงเหยื่อ มีข้อความทำนองตัดพ้อต่อว่า "เลี้ยงปลาตัวหนึ่งที่รักมากมาตั้งแต่เล็ก แต่กำลังจะจากไป" เพราะเหยื่อกำลังจะจบมัธยมปลาย และไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ จ.บุรีรัมย์ จึงเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำผู้ต้องสงสัยที่เป็นเพื่อนของกลุ่มนางรำในวงโปงลางมาสอบเพิ่มเติมเพื่อหาข้อพิรุธ รวมทั้งวัยรุ่นที่มีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งมาป้วนเปี้ยนใกล้สถานที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้หลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการนำไปสู่การจับกุมคนร้าย
แต่ พ.ต.ท.ณรงค์ ทองมั่ง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.นาเยีย กล่าวว่า ยังมีความหวังโดยได้เร่งรัดให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจจังหวัดนครราชสีมา ช่วยตรวจ DNA ของเพื่อนชายในกลุ่มนางรำ ครูชายที่ไม่อยู่ในข่ายต้องสงสัยในชุดแรก แต่อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุและทราบว่า น.ส.นิด ไปนอนพักที่ห้องเก็บอุปกรณ์ของชมรมวัฒนธรรมอีสานโปงลาง รวมทั้งชายโรคจิตที่ชอบโชว์อวัยวะเพศกับนักเรียนหญิง ซึ่งคาดว่าจะได้ผลการตรวจอย่างช้าในวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค.นี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการระดมกำลังชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบจากพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุอีก 3 ชุดเข้ามาช่วยตามประกบตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมเรียกพยานที่เป็นเพื่อนอยู่ในวงโปงลางและซ้อมดนตรีในวันเกิดเหตุ ซึ่งได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกกว่า 20 ปาก เพื่อหาสิ่งผิดปกติในวันเกิดเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง และยังได้หลักฐานเป็นผ้าเช็ดตัวและขวดน้ำเปล่าที่พบทิ้งไว้ด้านหลังตึกอาคารเรียนที่เกิดเหตุ ส่งตรวจหาลายนิ้วมือแฝง
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของโรงเรียน มีการเรียกประชุมครูและให้ครูชายดังกล่าวชี้แจง ที่มีข่าวพัวพันกับเด็กนักเรียนในที่ประชุม แต่ผู้บริหารไม่ให้รายละเอียดว่าชี้แจงว่าอย่างไรด้วย สำหรับศพของ น.ส.นิด ญาติจะเก็บไว้ที่วัดของหมู่บ้าน จนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้จึงจะทำการฌาปนกิจต่อไป
ด้านแหล่งข่าวชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี น.ส.นิดว่า คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 ได้ให้ความสำคัญและได้สั่งกำชับให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ และอยู่ในความสนใจของสังคม
โดยช่วงเที่ยงวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาเยีย และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ที่ลงพื้นที่ทำงานร่วมกันตั้งแต่ตอนแรกจะนำตัวอย่างชิ้นเนื้อสารคัดหลั่ง และเส้นผมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยชุดที่ 2 อีก 10 ราย ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิด ทั้งญาติ ครูในโรงเรียน รวมถึงชายสติไม่สมประกอบที่พบมีบาดแผลอยู่บริเวณหน้าอก ซึ่งอยู่ในข่ายต้องสงสัย ส่งตรวจ DNA ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันความถูกต้อง เพราะหลักฐานของคนร้ายที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ทั้งขนอวัยวะเพศ และอสุจิยังไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรกจำนวน 5 รายที่ส่งมาตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวว่า สำหรับผลการตรวจ DNA ผู้ต้องสงสัยทั้ง 10 ราย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วันจึงจะทราบผล เพราะการตรวจ DNA ของแต่ละคนจะแสดงผลต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง ฉะนั้นตอนนี้ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักระยะ
"ขอยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในท้องที่เกิดเหต และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ต่างเร่งหาเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย แต่ต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันอีกทาง เพราะในช่วงเกิดเหตุไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ และเป็นช่วงค่ำประกอบกับมีฝนตกและมีการซ้อมอังกะลุง ซึ่งหากผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครได้ยินที่สำคัญในโรงเรียนดังกล่าวไม่มีการติดกล้องวงจรปิดในจุดใดเลย ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานค่อนข้างลำบาก แต่เชื่อว่าจากการสืบสวนคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนักเกรงจะเสียรูปคดี"
วานนี้ (24 ธ.ค.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ชาวบ้านและญาติของ น.ส.นิด (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นดาวประจำวงดนตรีโปงลางของโรงเรียนที่ถูกคนร้ายบุกข่มขืนและทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสในห้องเก็บอุปกรณ์ดนตรีภายในโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 15 ธ.ค.และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ได้มาสอบถามความคืบหน้าในการติดตามจับตัวคนร้าย เพราะไม่พอใจที่เวลาผ่านมานานกว่า 1 สัปดาห์ยังไม่มีความคืบหน้าทั้งที่ชาวบ้านมั่นใจว่าผู้ก่อเหตุเป็นคนในโรงเรียน เพราะมีพฤติกรรมน่าสงสัย มีการเกี้ยวพาราสีคนตายก่อนหน้าจะมีเหตุเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไปตั้งประเด็นสงสัยคนอื่น เหมือนต้องการเบี่ยงเบนประเด็นการสืบสวน ทำให้ญาติของ น.ส.นิด ไม่พอใจ จนต้องพากันมาสอบถามความคืบหน้า
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาพบกับชาวบ้านและญาติของ น.ส.นิด พร้อมชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดประมาณ 30 ปาก ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจ DNA ผู้ต้องสงสัยหากพบตรงกับน้ำอสุจิที่พบในช่องคลอดผู้เสียชีวิตก็จะจับกุมดำเนินคดีทันที ซึ่งกลุ่มชาวบ้านได้ให้เวลาอีก 7 วันหากไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้ก็จะพากันกลับมาประท้วงอีกครั้ง
นายเพรียวพันธ์ ชัยยะพันธ์ อดีต ส.อบจ.เขต อ.นาเยีย แกนนำชาวบ้าน กล่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านไม่พอใจเพราะทางตำรวจไม่เรียกครูที่ต้องสงสัยมาสอบเพื่อเชื่อมโยงถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหยื่อกับครูคนนี้ เนื่องจากก่อนวันเกิดเหตุเพียง 1 วันมีการส่งเฟซบุ๊กจากครูถึงเหยื่อ มีข้อความทำนองตัดพ้อต่อว่า "เลี้ยงปลาตัวหนึ่งที่รักมากมาตั้งแต่เล็ก แต่กำลังจะจากไป" เพราะเหยื่อกำลังจะจบมัธยมปลาย และไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ จ.บุรีรัมย์ จึงเป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ความสนใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้นำผู้ต้องสงสัยที่เป็นเพื่อนของกลุ่มนางรำในวงโปงลางมาสอบเพิ่มเติมเพื่อหาข้อพิรุธ รวมทั้งวัยรุ่นที่มีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งมาป้วนเปี้ยนใกล้สถานที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้หลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการนำไปสู่การจับกุมคนร้าย
แต่ พ.ต.ท.ณรงค์ ทองมั่ง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี สภ.นาเยีย กล่าวว่า ยังมีความหวังโดยได้เร่งรัดให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจจังหวัดนครราชสีมา ช่วยตรวจ DNA ของเพื่อนชายในกลุ่มนางรำ ครูชายที่ไม่อยู่ในข่ายต้องสงสัยในชุดแรก แต่อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุและทราบว่า น.ส.นิด ไปนอนพักที่ห้องเก็บอุปกรณ์ของชมรมวัฒนธรรมอีสานโปงลาง รวมทั้งชายโรคจิตที่ชอบโชว์อวัยวะเพศกับนักเรียนหญิง ซึ่งคาดว่าจะได้ผลการตรวจอย่างช้าในวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค.นี้
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีการระดมกำลังชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบจากพื้นที่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุอีก 3 ชุดเข้ามาช่วยตามประกบตัวผู้ต้องสงสัย พร้อมเรียกพยานที่เป็นเพื่อนอยู่ในวงโปงลางและซ้อมดนตรีในวันเกิดเหตุ ซึ่งได้ทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกกว่า 20 ปาก เพื่อหาสิ่งผิดปกติในวันเกิดเหตุให้แน่ชัดอีกครั้ง และยังได้หลักฐานเป็นผ้าเช็ดตัวและขวดน้ำเปล่าที่พบทิ้งไว้ด้านหลังตึกอาคารเรียนที่เกิดเหตุ ส่งตรวจหาลายนิ้วมือแฝง
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของโรงเรียน มีการเรียกประชุมครูและให้ครูชายดังกล่าวชี้แจง ที่มีข่าวพัวพันกับเด็กนักเรียนในที่ประชุม แต่ผู้บริหารไม่ให้รายละเอียดว่าชี้แจงว่าอย่างไรด้วย สำหรับศพของ น.ส.นิด ญาติจะเก็บไว้ที่วัดของหมู่บ้าน จนกว่าจะจับตัวคนร้ายได้จึงจะทำการฌาปนกิจต่อไป
ด้านแหล่งข่าวชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี น.ส.นิดว่า คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผบช.ภ.3 ได้ให้ความสำคัญและได้สั่งกำชับให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ และอยู่ในความสนใจของสังคม
โดยช่วงเที่ยงวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาเยีย และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ที่ลงพื้นที่ทำงานร่วมกันตั้งแต่ตอนแรกจะนำตัวอย่างชิ้นเนื้อสารคัดหลั่ง และเส้นผมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยชุดที่ 2 อีก 10 ราย ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิด ทั้งญาติ ครูในโรงเรียน รวมถึงชายสติไม่สมประกอบที่พบมีบาดแผลอยู่บริเวณหน้าอก ซึ่งอยู่ในข่ายต้องสงสัย ส่งตรวจ DNA ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อให้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันความถูกต้อง เพราะหลักฐานของคนร้ายที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ทั้งขนอวัยวะเพศ และอสุจิยังไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรกจำนวน 5 รายที่ส่งมาตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวว่า สำหรับผลการตรวจ DNA ผู้ต้องสงสัยทั้ง 10 ราย คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2 วันจึงจะทราบผล เพราะการตรวจ DNA ของแต่ละคนจะแสดงผลต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง ฉะนั้นตอนนี้ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักระยะ
"ขอยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในท้องที่เกิดเหต และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ต่างเร่งหาเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย แต่ต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันอีกทาง เพราะในช่วงเกิดเหตุไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ และเป็นช่วงค่ำประกอบกับมีฝนตกและมีการซ้อมอังกะลุง ซึ่งหากผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครได้ยินที่สำคัญในโรงเรียนดังกล่าวไม่มีการติดกล้องวงจรปิดในจุดใดเลย ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานค่อนข้างลำบาก แต่เชื่อว่าจากการสืบสวนคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนักเกรงจะเสียรูปคดี"