xs
xsm
sm
md
lg

แนะตั้งกองทุนอาชีวะ จบปุ๊บมีทุนทำธุรกิจ ขายฝันเด็กเก่งอยากเป็นเถ้าแก่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กมธ.ศึกษาฯ ผุดไอเดีย “ตั้งกองทุนผู้สำเร็จอาชีวศึกษา” ดูดเด็กเก่งสนใจอาชีพอยากเป็นเถ้าแก่กิจการ มาเรียนจบแล้วมีทุนทำธุรกิจ ยันหาก สอศ.เสนอพร้อมหนุนเต็มที่ ด้าน อาชีวะ ตั้งเป้าเพิ่มยอดผู้เรียนให้ได้ 4 แสนคนต่อปีจึงได้สัดส่วนผู้เรียนอาชีพ:สามัญ 50:50 เล็งเพิ่มยอดผู้หญิง เรียนอาชีพเพิ่ม ส่วนกองทุนต้องไปดูรายละเอียด
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
วันนี้ (10 ก.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นายประกอบ รัตนพันธ์ ประธานคณะกรรมมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุม กมธ.ศึกษาฯ สัญจร ว่า ได้เดินทางมาเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการบริหารและการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของประเทศ พร้อมทั้งรับฟังปัญหาและอุปสรรค รวมถึงติดตามการใช้งบประมาณปี 2556 ที่ผ่านมาว่าโครงการใดยังมีปัญหาและโครงการใดที่ดำเนินการสำเร็จ รวมทั้งขอให้ สอศ.พิจารณางบประมาณปี 2557 ที่ขอเพิ่มไปแล้วถูกตัดและจะขอแปรญัตติเพิ่มหากเป็นโครงการสำคัญ กมธ.ศึกษาฯ จะหาทางช่วยสนับสนุนโดยเฉพาะงบที่จะนำมาใช้ในการจ้างครูซึ่งถูกตัดลงทุกปีนั้น ทำให้ขณะนี้จำนวนครูและจำนวนนักเรียนไม่สมดุลกัน จึงยากต่อการผลิตกำลังคนสายอาชีพไปสู่เป้าหมายของประเทศได้

ประธาน กมธ.ศึกษาฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะต้องสนับสนุนผู้เรียนหันมาเรียนสายอาชีพเพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันสัดส่วนยังอยู่ที่สายสามัญร้อยละ 60 สายอาชีพ ร้อยละ 40 ซึ่งจะต้องผลักดันให้สัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 50:50 รวมถึงต้องมีมาตรการร้องรับที่ชัดเจนว่าสาขาใดต้องการกำลังคนเท่าไร เพื่อให้เป็นการการันตีว่าเรียนจบแล้วมีงานทำ อีกทั้งจะต้องส่งเสริมให้เด็กที่จบอาชีวะทุกคนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เมื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเชี่ยนแล้วจะได้ไม่เสียโอกาส

กมธ.ศึกษาฯ ยังได้เสนอให้อาชีวศึกษา เป็นเจ้าภาพเสนอจัดตั้งกองทุนผู้สำเร็จอาชีวศึกษา โดยแยกต่างหากจากกองทุนตั้งตัวได้ของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดูแลอยู่ ทั้งนี้ เพื่อจูงใจให้ผู้เรียนหันมาเรียนสายอาชีพเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่เรียนเก่งและมีความตั้งใจจะทำธุรกิจซึ่งโดยหลักการจะกองทุนนี้จะให้ผู้ที่จบระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ได้มีเงินทุนไปประกอบธุรกิจ หรือประกอบอาชีพส่วนตัวได้” นายประกอบ กล่าวและว่า หาก สอศ.ยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนผู้สำเร็จอาชีวศึกษา พ.ศ... ทาง กมธ.ศึกษาฯ พร้อมผลักดันและนำเสนอนายกรัฐมนตรีด้วย

ด้านนายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล ประธานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนคือสร้างแรงจูงใจให้เด็กหันมาเรียนอาชีวะมากขึ้น ปัจจุบันมีเด็กมาเรียนสายอาชีพจำนวน 2.9 แสนคนต่อปี ขณะที่มีเด็กจบมัธยมต้น จำนวน 9 แสนคนต่อปี ดังนั้น การจะเพิ่มสัดส่วนสายอาชีพและสายสามัญเป็น 50:50 จะต้องเพิ่มผู้เรียนให้เป็น 4 แสนคน ซึ่งหากไม่ทำอะไรเลยก็จะไม่มีทางเพิ่มจำนวนนักเรียนสายอาชีวะได้ตามเป้า ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการจะดึงมาเพิ่มก็คือเด็กที่เรียนดีและชอบสายปฏิบัติการ แต่เพราะเรายังมีค่านิยมปลูกฝังให้เด็กเรียนดีเลือกเรียนต่อในมหาวิทยาลัย แต่ถ้าไม่ได้เด็กกลุ่มนี้มาเพิ่มก็จะทำให้ยอดผู้เรียนเป็น 4 แสนคนนั้นคงยาก นอกจากนี้ ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มกลุ่มนักเรียนหญิง เพราะปัจจุบันนักเรียนหญิงจะเลือกเรียนสายอาชีพน้อยมาก รวมทั้งจะต้องมีการเปิดสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น สาขาพลังงาน และสาขาหุ่นยนต์ ที่ตลาดแรงงานมีความต้องการเพิ่มขึ้น

นายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการ กอศ.กล่าวว่า กมธ.ย้ำว่าภารกิจหลักของอาชีวะจะต้องผลิตผู้เรียนระดับ ปวช.และปวส.เพิ่มขึ้นเป็นหลัก ส่วนระดับปริญญาตรี ที่อาชีวะเปิดสอนอยู่เวลานี้จะรับผู้เรียนเพียง 2 พันคน อย่างไรก็ตาม สำหรับกองทุนผู้สำเร็จอาชีวศึกษา ที่ กมธ.ศึกษาฯ เสนอนั้น ความจริงแล้วใน พ.ร.บ.สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา พ.ศ...มีมาตราหนึ่งที่กำหนดเรื่องการระดมทรัพยากร ซึ่งพูดถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อนำมาใช้ในการจัดการเรียน การสอน และการพัฒนาครู เพียงแต่ไม่ได้กำหนดว่าให้เอืิ้อประโยชน์ผู้สำเร็จการศึกษาซึ่งหากจะดำเนินการก็ต้องแยก ให้เห็นความแตกต่างชัดเจน ซึ่งต้องหารือรายละเอียดต่อไป

กองทุนผู้สำเร็จอาชีวะ ที่ กมธ.ศึกษาฯเสนอจะแตกต่างจากกองทุนตั้งตัวได้ของรัฐบาล เพราะเน้นแต่ผู้จบอาชีวะ แต่กองทุนตั้งตัวได้นั้น ทางอาชีวศึกษาก็ได้เข้าร่วมอยู่ซึ่งมีศูนย์บ่มเพาะธุรกิจที่ดูแลผู้เรียนอาชีวะอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี และ จ.อุดรธานี เพื่อฝึกอบรมอาชีพ มีพี่เลี้ยงคอยดูแลจนสามารถเปิดธุรกิจของตัวเองได้” เลขาธิการ กอศ.กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น