ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - คืบหน้าคดีข่มขืนฆ่า นร.นางรำโปงลางอุบลฯ ล่าสุด ตร.ส่งตัวอย่างสารคัดหลั่ง-เส้นผมผู้ต้องสงสัยชุดที่ 2 อีก 10 คนตรวจ DNA ที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 โคราช เพื่อหาตัวคนร้าย คาด 2 วันรู้ผล ด้านชุดสืบสวนฯ เผย “ผบช.ภ. 3” สั่งเร่งจับตัวคนร้ายให้ได้ ติงโรงเรียนไม่มีกล้องวงจรปิดเป็นอุปสรรค แต่มั่นใจรวบได้ในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดี น.ส.นิด นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นดาวประจำวงดนตรีโปงลางของโรงเรียน ถูกคนร้ายบุกข่มขืนและทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสในห้องเก็บอุปกรณ์ดนตรีภายในโรงเรียน เหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเสียชีวิตเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับกุมนคนร้ายได้นั้น
ล่าสุดวันนี้ (24 ธ.ค.) แหล่งข่าวชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีว่า คดีดังกล่าว พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้ให้ความสำคัญและสั่งกำชับให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้เร็วที่สุด เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายก่อเหตุอุกอาจ และอยู่ในความสนใจของสังคม
โดยช่วงเที่ยงวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ที่ลงพื้นที่ทำงานร่วมกันตั้งแต่ตอนแรก จะนำตัวอย่างชิ้นเนื้อสารคัดหลั่ง และเส้นผมของกลุ่มผู้ต้องสงสัยชุดที่ 2 อีกจำนวน 10 ราย ซึ่งเป็นผู้ใกล้ชิด ทั้งญาติ ครูในโรงเรียน รวมถึงชายสติไม่สมประกอบที่พบมีบาดแผลอยู่บริเวณหน้าอก ซึ่งอยู่ในข่ายต้องสงสัย ส่งตรวจดีเอ็นเอที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 (DNA Center) สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อให้ผลทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันความถูกต้อง เพราะหลักฐานของคนร้ายที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ ทั้งขนอวัยวะเพศ และอสุจิยังไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยกลุ่มแรกจำนวน 5 รายที่ส่งมาตรวจดีเอ็นเอก่อนหน้านี้
แหล่งข่าวคนเดิมกล่าวว่า สำหรับผลการตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยทั้ง 10 ราย คาดว่าเจ้าหน้าที่จะใช้เวลาประมาณ 2 วันจึงจะทราบผล เพราะการตรวจ DNA ของแต่ละคนจะแสดงผลต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง (ชม.) ฉะนั้นตอนนี้ต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ทำงานอีกสักระยะ
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในท้องที่เกิดเหต และชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 3 ต่างเร่งหาเบาะแสเพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้าย แต่ต้องอาศัยหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ช่วยยืนยันอีกทาง เพราะในช่วงเกิดเหตุไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ และเป็นช่วงค่ำประกอบกับมีฝนตกและมีการซ้อมอังกะลุง ซึ่งหากผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มีใครได้ยิน ที่สำคัญในโรงเรียนดังกล่าวไม่มีการติดกล้องวงจรปิดในจุดใดเลย ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานค่อนข้างลำบาก แต่เชื่อว่าจากการสืบสวนคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีในเร็วๆ นี้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนักเกรงจะเสียรูปคดี
