อุบลราชธานี - ตำรวจเร่งตรวจดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยกลุ่มที่ 2 คดีข่มขืน"นางรำโปงลาง" ร.ร.มัธยมในอุบลฯ ขณะญาติเริ่มไม่พอใจคนร้ายยังลอยนวล เชื่อคนในก่อเหตุ พร้อมตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมครูรายหนึ่ง ชอบให้นักเรียนหญิงไปมั่วสุมที่บ้านพัก ผู้ปกครองต้องมาตามลูกหลานกลับบ้านเป็นประจำ
จากกรณี น.ส.นิด (นามสมมติ) นักเรียนชั้นมัธยมปลายโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นประธานชมรมฯ วงดนตรีโปงลางของโรงเรียนถูกคนร้ายบุกข่มขืนและทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสในห้องเก็บอุปกรณ์ดนตรีภายในโรงเรียน โดยเหตุเกิดเมื่อค่ำวันที่ 15 ธ.ค.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ซึ่งพนักงานสอบสวนนำเพื่อนนักเรียน ครู กลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยในและรอบโรงเรียนร่วม 30 ปากมาสอบ พร้อมส่งดีเอ็นเอผู้ต้องสงสัยไปตรวจ แต่ผลการตรวจชุดแรกไม่ตรงกับผู้ต้องสงสัยตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (24 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี ยังนำผู้ต้องสงสัยเป็นเพื่อนของกลุ่มนางรำในวงโปงลางมาสอบเพิ่มเติมเพื่อหาข้อพิรุธ รวมทั้งวัยรุ่นที่มีประวัติพัวพันกับยาเสพติด ซึ่งมาป้วนเปี้ยนใกล้สถานที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้หลักฐานที่เป็นประโยชน์ในการนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้
แต่ พ.ต.ท.ณรงค์ ทองมั่ง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีกล่าวว่ายังมีความหวัง โดยได้เร่งรัดให้ศูนย์พิสูจน์หลักฐานภาค 3 สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ จ.นครราชสีมา ช่วยตรวจดีเอ็นเอของเพื่อนชายในกลุ่มนางรำ ครูชายที่ไม่อยู่ในข่ายต้องสงสัยในชุดแรก แต่อยู่ด้วยในวันเกิดเหตุ และทราบว่า น.ส.นิดไปนอนพักที่ห้องเก็บอุปกรณ์ของชมรมวัฒนธรรมอีสานโปงลาง
รวมทั้งชายโรคจิตที่ชอบโชว์อวัยวะเพศกับนักเรียนหญิง ซึ่งคาดจะได้ผลการตรวจอย่างช้าในวันศุกร์ที่ 27 ธ.ค.นี้
ขณะเดียวกัน การเสียชีวิตของ น.ส.นิด ยังสร้างความไม่พอใจให้แก่คนในชุมชน โดยนายเคน แก่นคำ ประธานสภาเทศบาลตำบลนาเยียและเป็นกรรมการการศึกษาของโรงเรียนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นลุงของเหยื่อกล่าวว่า เวลาผ่านมานานกว่า 1 สัปดาห์เจ้าหน้าที่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งที่คนในชุมชนตั้งข้อสงสัยเป็นคนในโรงเรียนที่เกิดเหตุแน่นอนเพราะรู้ความเคลื่อนไหวของเหยื่อ
รวมทั้งมีครูชายบางคนมีพฤติกรรมให้ลูกศิษย์ไปนอนพักที่บ้าน จนผู้ปกครองต้องไปตามลูกกลับบ้านเป็นประจำ
สำหรับ น.ส.นิด เหยื่อรายนี้ เป็นคนตั้งใจเรียน ไม่สนใจเรื่องชู้สาว และเป็นหน้าเป็นตาของชุมชน เพราะเป็นประธานชมรมวัฒนธรรมอีสานโปงลาง เป็นคนคิดประดิษฐ์ท่ารำให้วงโปงลางไปใช้แสดงจนได้รับรางวัลระดับภาค
นอกจากนี้ น.ส.นิดยังตั้งความหวังจะเข้าเรียนต่อด้านนาฏศิลป์เพื่อจบออกมาจะเป็นครูสอนศิลปะพื้นบ้านตามโครงการครูช้างเผือกของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งก็ได้โควตาไปเรียนต่อระดับปริญญาตรีในแขนงวิชาดังกล่าวที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ในปีการศึกษา 2557 แต่มาถูกทำร้ายและเสียชีวิตก่อน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญของชาวอำเภอนาเยียอย่างยิ่ง เพราะตั้งแต่มีชุมชนแห่งนี้มาเกือบ 100 ปีไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายให้ได้ จะได้ไม่ไปทำกับเด็กรายอื่นอีกต่อไป