xs
xsm
sm
md
lg

การปฏิรูปประเทศไทยแบบยั่งยืนมั่นคง

เผยแพร่:   โดย: สุทธิพงษ์ ปรัชพฤทธิ์


“อำนาจอธิปไตย (อังกฤษ: Sovereignty) หมายถึง อำนาจสูงสุดในการปกครองรัฐ ดังนั้น สิ่งอื่นใดจะมีอำนาจยิ่งกว่าหรือขัดต่ออำนาจอธิปไตยหาได้ไม่อำนาจอธิปไตย ย่อมมีความแตกต่างกันไปในแต่ละระบอบการปกครอง ตัวอย่างเช่น ในระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน กล่าวคือ ประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ ในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์ คือ กษัตริย์เป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศเป็นต้น

อนึ่ง อำนาจอธิปไตยนี้ นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของความเป็นรัฐ เพราะการจะเป็นรัฐได้นั้น นอกจากต้องประกอบด้วย อาณาเขต ประชากร และรัฐบาลแล้ว ย่อมต้องมีอำนาจอธิปไตยด้วย กล่าวคือ ประเทศนั้นต้องเป็นประเทศที่สามารถมีอำนาจสูงสุด (อำนาจอธิปไตย) ในการปกครองตนเอง จึงจะสามารถเรียกว่า “รัฐ” ได้

สำหรับราชอาณาจักรไทย ใช้การปกครองระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น อำนาจอธิปไตยจึงเป็นของประชาชนอำนาจอธิปไตยนั้น โดยหลักสากล แต่ละรัฐจะมีองค์กรที่ใช้อำนาจอธิปไตยอยู่ 3 องค์กร ได้แก่ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ”(วิกิพีเดีย)

ในความเป็นจริง

ที่เรียกว่าระบอบประชาธิปไตย หรืออำนาจอธิปไตยไม่ได้เป็นของประชาชนจริงแต่เป็นทุนอธิปไตยมากกว่า เป็นระบอบที่ทุนมีอำนาจ หรือทุนเป็นใหญ่เป็นระบอบของคนส่วนน้อยของระบบ

ประเทศไทยและหลายประเทศทุกวันนี้ออกแบบอธิปไตย ให้เป็นตัวแทนของคนส่วนใหญ่แต่เมื่อตัวแทนได้อำนาจแล้ว กลับใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์แก่กลุ่มทุนกันเองได้กลุ่มใดใครมาเป็นรัฐบาล ไม่ต่างกัน มาจากกลุ่มทุนเหมือนกันประชาชนไม่มีตัวเลือก ถูกฉ้อฉล ถูกเอารัดเอาเปรียบโดยตลอด

ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องเป็นระบอบที่คนส่วนใหญ่มีอำนาจจริง แต่ความเป็นจริงทุกวันนี้“ถูกแอบอ้าง” ว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงยังที่ไม่เคยเกิดมีมาก่อนประชาชนได้รับความเดือดร้อนจาก ระบอบประชาธิปไตยจอมปลอม

ถ้าทำระบอบประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงได้ ไม่จอมปลอม จะเป็นระบอบที่ดี

อำนาจอธิปไตย หรืออำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศหากได้ผู้ปกครองประเทศมีปัญญามีสัมมาทิฐิ ก็จะทำให้ประเทศเจริญมั่นคง ไม่ผันผวน แต่เมื่อได้ผู้ปกครองประเทศมีมิจฉาทิฐิ เขาก็นำอำนาจนั้นไปหาประโยชน์ส่วนตน เบียดบังทรัพยากรของประเทศไปเป็นของส่วนตน เอาทรัพยากรของประเทศไปแจกจ่ายต่างชาติ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ส่วนตนกับพันธมิตรต่างชาติ

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้เป็นรัฐบาล วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2544 อีก 7 เดือนต่อมาคือวันที่ 10 กันยายน 2544 ตั้งนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ และจากนั้นอีก 3 เดือน คือวันที่ 6 ธันวาคม 2544 ก็สามารถแปรรูป ปตท.เข้าไปซื้อขายไนตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ รวมแล้วใช้เวลา 10 เดือนหลังได้เป็นรัฐบาลก็ทำการแปรรูปปตท.ซึ่งเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเข้าตลาดหุ้นรวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ

นโยบายของนักการเมืองทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับประโยชน์ส่วนตนเป็นส่วนใหญ่ โครงการใดที่ตนเองไม่ได้ประโยชน์ด้วยจะไม่ทำ แต่จะคิดทำโครงการที่ตนเองได้ประโยชน์ด้วย เช่น โครงการป้องกันน้ำท่วม ที่มีการกู้เงิน 3.5 แสนล้าน การจำนำข้าวที่ขาดทุนปีละ 200,000 ล้านบาท โครงการกู้เงิน 2.2 ล้านล้านบาทที่ชาวบ้านไม่ทราบรายละเอียดว่าจะกู้ไปทำอะไร อย่างไร

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเกี่ยวข้องแต่กับเรื่องใหญ่ๆ โดยเฉพาะกับทรัพยากรสำเร็จรูปเช่นรัฐวิสาหกิจต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบอยู่แล้ว

ไม่ได้มีความรู้สึกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือรัฐบาลตัวแทนของทักษิณ ใช้อำนาจหน้าที่ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนแต่อย่างใด แต่ได้ใช้อำนาจหน้าที่ เวลาราชการ และเครื่องอำนวยความสะดวกของทางราชการ หน่วยงานของรัฐ เช่น ตำรวจ ดีเอสไอ อัยการ ไปเพื่อประโยชน์ส่วนตนแต่อย่างเดียว

ดูแล้วไม่ใช่เป็นการคอร์รัปชันตามธรรมดาที่คนทั่วไปทราบ ประชานิยมก็ไม่ใช่สาเหตุหลักแห่งความเลวร้ายของประเทศ แต่การโกงชาติ ปล้นชาติและขายชาติ ต่างหากคือสาเหตุหลักความเสื่อมของประเทศ การออก พ.ร.บ.วุฒิสมาชิกต้องมาจากการเลือกตั้ง ไม่ใช่เป็นการปล้นทรัพยากรของชาติ แต่เป็นการปล้นอำนาจของชาติไปเป็นของส่วนตนและพวกพ้อง ใว้ให้เป็นสภาผัว สภาเมีย สภาพ่อตา สภาแม่ยาย สภาพี่ป้าน้าอา สภากิ๊ก

การแปรรูปปตท. คือการเอาทรัพยากรของประเทศไปแบ่งขายให้ต่างชาติ จำนวน 320,000,000 หุ้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ส่วนตนกับพันธมิตรต่างชาติ เพื่อการร่วมลงทุนกันในอนาคต

ด้วยการกล่าวอ้างเอาเองว่าโลกปัจจุบันเป็นโลกที่พัฒนา ไม่มีพรมแดน สินทรัพย์จะไม่เป็นของประเทศใด เป็นของสากล ที่ใครๆ ก็สามารถเป็นเจ้าของได้ เป็นความคิดของทุนนิยมสามานย์กิเลสหนาที่เป็นคนส่วนน้อยของระบบ ที่คิดเอาแต่ได้ของตนแต่ฝ่ายเดียวเอาสินค้าและบริการจากทรัพยากรที่ฮุบไปมาขายในราคาสูง ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ เช่น ราคาน้ำมันจาก ปตท.แทนที่ขาย 5 ลิตร 100 บาท เหมือนประเทศต่างๆ ทั่วโลก แต่ก็ขาย 2 ลิตร 100 บาท น้ำมันเป็นต้นทุนของทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อราคาน้ำมันแพงขึ้น ราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ก็แพงตามมา

วิธีการเช่นนี้ ขายไปเรื่อยๆ สินทรัพย์ก็ตกเป็นของต่างชาติมากขึ้นเรื่อยๆ จนจะไม่เหลือเป็นของคนในชาติ หรือถือว่าเป็นการขายชาตินั่นเอง

ตั้งแต่รัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นรองนายกรัฐมนตรีในปี 2539 ที่ได้ประโยชน์จากการลอยค่าเงินบาท กระทั่งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นรัฐบาลเองในปี 2544 กระทั่งมาถึงทุกวันนี้ หรือเป็นเวลากว่า 15 ปี ไม่มีวันใดในประเทศไทยที่ไม่มีคนพูดหรือไม่มีข่าวเกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีทุกวัน

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากอาศัยอำนาจหน้าที่ในการสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อเป็นกองกำลังป้องกันตนเองและกลุ่มของตนเองแล้ว ยังคิดให้กองทัพสหรัฐฯ มาตั้งฐานทัพในไทย เพื่อช่วยปกป้องกิจการของตนเองในภูมิภาคเอเชียด้วย

“เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2556 ว่ารัฐบาลไทยได้มอบหมายให้บริษัทดาเวนพอร์ต แมคเคสสัน เป็นผู้แทนประเทศไทยในภารกิจภายในราชอาณาจักรไทย โดยจะต้องไปทำการชักชวนแนะนำสภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกาและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ว่า ราชอาณาจักรไทยกำลังแสวงหาความช่วยเหลือจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ให้ไปสร้างฐานบินต่อสู้อากาศยานราชนาวี ( Naval Air Defense Base ) ในประเทศไทย และประเทศไทยต้องการความช่วยเหลือทางด้านทหารจากสหรัฐฯ ที่จะกำหนดเขตความปลอดภัยทางน้ำ ( Safe harbor zone around its water ) รวมทั้งบริษัทจะดำเนินการช่วยเหลือไทย เพื่อให้มีศูนย์กลางตัวแทนการค้าในสหรัฐฯ ให้ด้วย โดยไทยได้จ่ายค่าจ้างล่วงหน้าให้แก่บริษัทเป็นเงินจำนวน 20,000 เหรียญสหรัฐ” (ยินดี วัชรพงศ์ ต่อสุวรรณ) http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9560000155146

เป็นไปได้ว่าตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยปกป้องแหล่งร่วมลงทุนด้านพลังงานระหว่างไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเอกชนไทยและเอกชนต่างชาติในพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาในอ่าวไทยด้วย

ปัจจุบันหุ้นปตท.เป็นของกระทรวงการคลัง (ประชาชน) 51 เปอร์เซ็นต์ และเป็นของเอกชนรายย่อย และต่างชาติ 49 เปอร์เซ็นต์

จากราคาหุ้นจอง 35 บาท หลังเข้าตลาดประมาณ 5-6 ปี ราคาสูงขึ้นกว่า 10 เท่า

นักการเมืองสามารถมีตัวแทน (Nominees) ที่ต่างประเทศถือหุ้นแทนตนเองได้ สามารถกู้ยืมเงินที่ต่างประเทศ จองซื้อหุ้นในนามตัวแทน เมื่อราคาหุ้นขึ้นไป 10 เท่า ก็สามารถขายหุ้นออก 1 ส่วน ชำระคืนเงินกู้และค่าใช้จ่ายในการกู้ยืมเงินทั้งหมด ทำให้มีสินทรัพย์มีเงินเหลือที่ต่างประเทศโดยไม่ต้องมีบันทึกทางธุรกรรมผ่านธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ มีเงินซื้อทีมฟุตบอลที่ต่างประเทศได้

อีก 4 ปีหลังการแปรรูป ปตท. คือเมื่อปี พ.ศ. 2548 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็เกือบจะถูก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แปรรูปได้เช่นกัน แต่โชคดีที่นางสาวรสนา โตสิตระกูล สามารถยับยั้งการแปรรูปไว้ได้

เรื่องที่เบี่ยงเบนของนักการเมืองที่นำมาเสนอนี้เป็นเพียงส่วนน้อย แม้บทสรุปทักษิณผิดอะไรนี้ก็ไม่สามารถแจงความผิดของทักษิณได้ทั้งหมดhttp://www.youtube.com/watch?v=RXQbP69QD9M&feature=youtu.be

สิ่งที่ทำให้อธิปไตยเบี่ยงเบนและเลวร้าย คือ เอาการเมืองมาเป็นอาชีพอาชีพการเมืองทำเพื่อเพียงประโยชน์ตนการเมืองจึงไม่ได้ทำประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน กิเลสของนักการเมืองทำให้ประเทศไทยเสื่อมลงทุกด้าน 81 ปีของประชาธิปไตย ประเทศไทยเสื่อมลงทุกวัน และนับวันจะหนักข้อขึ้นทุกวัน เห็นได้จาก 12 ปีที่ผ่านมาการเมืองประเทศไทยเต็มไปด้วยโกงชาติ ปล้นชาติ และขายชาติ คนในชาติแตกกันเป็น 2 กลุ่มใหญ่อย่างมีนัยสำคัญ

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ผู้นำจิตวิญญาณแห่งชุมชนอโศก เทศนาว่า “ไม่ลดกิเลส กู้ประเทศไม่ได้” เป็นวลีแห่งความจริง กิเลสคืออาเพศของความดีงามทั้งปวง

การปฏิรูปประเทศไทยแบบยั่งยืนมั่นคง

ต้องออกแบบไม่ให้ผู้บริหารระดับสูงที่กิเลสหนาเข้ามาบริหารประเทศ แต่ต้องออกแบบให้โอกาสคนที่ละเลิกกิเลสได้มาเป็นผู้นำ มาเป็นผู้บริหารประเทศ

แม้เราเองทำไม่ได้ แล้วทำไมเราไม่ให้โอกาสคนที่ละเลิกกิเลสได้ มาเป็นผู้บริหารประเทศละ
กำลังโหลดความคิดเห็น