xs
xsm
sm
md
lg

“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 21 มิ.ย. 2556 (ต่อ)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


จินดารัตน์ - เขาบอกมีเป็นร้อยไร่ พันไร่กันเลย

สนธิ - ใช่ ไม่ได้จนนะ พวกนี้ ร่ำรวย ทีนี้พอเป็นอย่างนี้แล้ว หักกลบลบหนี้แล้ว เสร็จเรียบร้อยแล้วกู้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรฯ สัญญาณหลายสัญญาณที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลเจ๊ง ตรงที่ว่า ประการแรก ธ.ก.ส.ไม่มีเงินแล้ว รัฐบาลก็เลยบอกให้หาเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. ให้ ธ.ก.ส.เป็นคนกู้ ธ.ก.ส.เลยต้องออกพันธบัตร เป็นพันธบัตร 8 เดือน ยาวไม่ได้ ดอกเบี้ย 3.5 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าดอกเบี้ยธรรมดา 1 เปอร์เซ็นต์ เกือบ 2 เปอร์เซ็นต์ การที่คุณออกพันธบัตรแล้วดอกเบี้ยสูงเป็นพิเศษ แสดงว่าอะไร

กมลพร - เงินขาด

สนธิ - เงินขาด คุณต้องรีบระดมเงินเข้ามา ถูกมั้ย ทีนี้คุณสุภา แกอยู่กระทรวงการคลังมานาน แกปิดบัญชีมาเยอะมาก โครงการอะไรก็ตามที่ใช้เงินกระทรวงการคลังไป เมื่อใช้ไปเรียบร้อยแล้ว พอถึงสิ้นโครงการเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังเขาต้องปิดบัญชี เขาจะได้รู้ว่าโครงการนี้ขาดทุนเท่าไหร่กำไรเท่าไหร่ ใครเป็นหนี้ใครเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นตัวเลขของกระทรวงการคลังค่อนข้างจะแม่น กระทรวงการคลังก็ขอข้อมูลกระทรวงพาณิชย์ อีตาบุญทรงก็ไม่ให้ ไม่เคยให้ เพราะรู้ว่าให้เมื่อไหร่ฉิบหายเมื่อนั้น จำไว้นะ ให้เมื่อไหร่ฉิบหายเมื่อนั้น สุภาก็เลยทำ ทำไปทำมาก็บวกลบคูณหารความชำนาญของแก แกบอกขาดทุน 260,000 ล้าน วันนั้นคือวันที่วงแตก ไม่ยอมรับกัน ออกมาโวยวายอำมาตย์เต้นออกมาชี้แจงใหญ่ เป็นไปไม่ได้อย่างโน้นอย่างนี้

คือไอ้เต้นมันต้องยอมรับอย่างว่า มันเป็นคนที่พูดเก่งเท่านั้นเอง เหมาะกับสภาโจ๊ก แล้วก็เหมาะที่จะประชันกับอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทั้ง 2 คนนี้ ใครพูดเก่งกว่าใครต้องถ่ายรูปนะ เฉือนกันด้วยรูปถ่าย แต่ถ้าพูดถึงการทำงานแล้วทั้งคู่ห่วยแตกพอๆกัน ฉะนั้นจำเอาไว้ไอ้คนที่พูดเก่งอย่าเอามันมาทำงานนะ เด็ดขาดเลย ไอ้เต้น อภิสิทธิ์ เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เพราะฉะนั้นแล้วพอสุภาปิดบัญชีมาอย่างนี้ก็โกรธกัน ย้ายสุภา ทำไมต้องย้ายสุภารู้ไหม เพราะสุภา ดูแลกรมบัญชีกลาง ดูแลเงินกู้ที่จะมาอีก 350,000 ล้านและอีก 2 ล้านล้าน สุภาจะไม่มีวันเซ็น เพราะสุภาพูดชัดเจนว่า นี่ผิดกฎหมาย ป.ป.ช. รู้สึกจะมาตรา 207 อะไรก็ไม่รู้ ที่บอกว่าจะต้องมีราคากลาง นี่ไม่มีราคากลางเลย ไม่มี สุภาบอก เขาไม่เซ็น ติดคุก ก็เลยย้ายสุภาไป ทีนี้พอย้ายสุภาไปแล้ว พณฯ ท่านกิตติรัตน์ รู้สึกเริ่มคิดได้ ว่าฉิบหาย ในอนาคตถ้าผิดพลาดมีอะไรเปลี่ยนแปลงกูติดตารางนะ ไอ้บุญทรงนี่มันติดแน่นอนแล้ว ฟันธงไว้เลยนะ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลง บุญทรงติดตารางหัวโต รวมทั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์คนนี้ด้วย และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์อีกหลายคน แล้วผมก็แช่งให้แม่งติดตารางกันทั้งกระทรวงเลยไอ้พวกห่านี่ ปรากฏว่ากิตติรัตน์ก็เริ่มกลัวแล้ว ก็เลยดึงสุภากลับมา มาเป็นประธานใหม่ ทีนี้สุภา เขายังเกรงใจ เขาคิดแค่ 260,000 ล้าน การปิดบัญชี บริษัทเวลาเขาปิดบัญชี โครงการหนึ่งเขาปิดบัญชีว่าเงินปล่อยกู้ไปเท่าไหร่ รายได้เข้ามาเท่าไหร่ หักลบกลบหนี้แล้วขาดทุนเท่าไหร่ นี่เฉพาะตัวเงินนะ ถ้ามีสินค้าคงค้าง เขาต้องไปตรวจสินค้าทันที วันที่ปิดบัญชีตรวจวันนั้นแหละ ข้าวมีเหลืออยู่เท่าไหร่ ข้าวที่ระบุว่าเหลือเท่านี้ในโกดังนี้ มี 10 ตันหรือเปล่า ถ้าไม่มี 10 ตัน มีอยู่แค่ 5 ตัน อีก 5 ตันคือสต๊อกลม แล้วหายไปไหน เห็นไหมแสดงว่า ทรัพย์สินหายไปแล้ว 5 ตัน

จินดารัตน์ - คือความสูญเสีย

สนธิ - ยังมีศูนย์อีกประเภทนึง ขาดมีอยู่ 10 ตัน เสียกี่ตัน ถ้าเสีย 3 ตันเหลือจริง 7 ตัน ถ้าเราตรวจสต๊อกมันทั่วประเทศทีเดียวเลยนะ ไม่ใช่ตรวจสุ่มนะ ทั่วประเทศนับวันรอเวลาว่า เช้าวันเสาร์พรุ่งนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีคนกลาง มี สตง.สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าไปประกบทุกแห่ง เข้าไปตรวจพร้อมกันทันทีเลย และเอาตัวเลขมาบวกลบคูณหาร จะเห็นว่าข้าวหายไปจากสต๊อกไม่น้อย 2.ข้าวที่แอบขายไปในราคาขาดทุนให้พรรคพวกตัวเอง เอาไปก็เยอะ 3.ข้าวที่มอดกินเสีย ไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เขาบอกข้าวถ้าทิ้งไม่เกิน 6 เดือน ข้าวเสียไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นผมตั้งให้ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเอาไอ้ 3 ตัวนี้มาบวก กับที่ขาดทุนเห็นชัดๆ อยู่แล้ว จากราคา 15,000 และราคาตลาดแค่ 12,000 ต้องมี 3.5 แสนล้าน ไม่ใช่ 2.6 แสนล้าน

จินดารัตน์ - นี่ปราณีแล้วนะ

สนธิ - นี่ปราณีแล้วนะ นี่ผมปราณีแล้ว เอาผมฟันธงได้เลย และความจริงจะปรากฏเพราะว่า ตัวเลขทางบัญชีจะโกหกกันไม่ได้ ผมภาวนาถ้ามีการเปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ ผมอยากเห็นบุญทรง ปลัดกระทรวงพาณิชย์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ให้แม่งติดตาราง ติดตารางกันเลยไอ้พวกนี้ ไอ้พวกนี้คือพวกขายชาติ ข้าราชการที่ร่วมมือกับนักการเมือง เพื่อโกงชาติโกงบ้านโกงเมือง ฉิบหายทุกคน และผมสาปแช่งแม่งทั้งโคตรเหง้าทั้งตระกูลมันด้วย

จินดารัตน์ - แต่เห็นว่าจะปรับ ครม.กันแล้วค่ะ แต่ไปอยู่ที่ไหนความผิดมันก็ติดตัวไปด้วย และนับจากวันนี้มันมีค่าดูแลข้าว ค่าพ่นยา

สนธิ - ค่าดูแลข้าว ค่าเช่าโกดัง และข้าวที่เหลือ ความที่มันไม่ต้องการให้มอดขึ้น มันก็พ่นยาใส่ฉิบหายป่วงเลย และมันจะเป็นผลต่อการรับประทานข้าวของคนไทยในอนาคต

จินดารัตน์ - ก็มันมีข้อความค่ะคุณสนธิ ว่อนทั่วเน็ตหมดเลยบอกว่า ข้าวที่รัฐเอาไปขายให้พวกห้างค้าปลีกใหญ่ๆ

สนธิ - เทสโก้โลตัสอะไรพวกนี้ ซื้อลำบาก

จินดารัตน์ - เขาบอกว่าคือบางทีหนูกินไป มันยังแห้งตายเลย เพราะว่าการพ่นยา หรือว่าไม่มีประสิทธิภาพ คือพ่นยามากเกินไป คือหนูยังตายคิดเอาละกัน คนกินไปจะขนาดไหน ไม่รู้เท็จจริงยังไงนะคะ

สนธิ - เสร็จแล้วเลยถอยจาก 15,000 บาท มาเป็น 12,000 บาท ด้วยเหตุผลที่ให้สัมภาษณ์กันหน้าตาเฉย ทั้งยิ่งลักษณ์ และบุญทรง เพื่อรักษาวินัยการคลัง บัดซบไหม

กมลพร - มากค่ะ

สนธิ - ตอนมึงตั้ง 15,000 บาท มึงไม่ต้องการรักษาวินัยการคลังหรอ

จินดารัตน์ - ไม่มีวินัยเลย

สนธิ - และมึงให้เงินกู้ มึงให้ ธ.ก.ส.ออกให้ปล่อยเงินกู้ และเงินกลับมาไม่ครบ ขาดทุนไป วินัยการคลังมีไหมตรงนี้

จินดารัตน์ - เขาบอกว่าต่อไปนี้ต้องลดระดับมูลค่าเงิน

สนธิ - คือจริงๆ แล้วทั้งหมด ชาวนาจนซวยทุกคน จู่ๆ มาให้เขา 15,000 เขาก็เอาสิ และจู่ๆ มาลดจาก 15,000 มาเหลือ 12,000

กมลพร - เขาต้องไม่ยอมเป็นธรรมดา

สนธิ - ปัญหามันอยู่ที่รัฐบาล มันไม่ได้อยู่ที่ชาวนา ทั้งหมดไม่เคยมีใครตั้งปุจฉา และวิสัชนาเลยว่า ทำไมต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาไทยถึงสูงกว่าเวียดนาม ทำไมผลผลิตข้าวของเวียดนามต่อไร่ถึงสูงกว่าผลผลิตข้าวของไทยต่อไร่ ต้องวิสัชนาว่าเราใช้ปุ๋ยมากไปหรือเปล่า ต้นทุนปุ๋ยเราแพงเกินไปหรือเปล่า ระบบส่งน้ำเราเป็นอย่างไร ระบบเงินล่วงหน้าที่ให้ชาวนาเอามา เพื่อจะเอามาทำนาดอกเบี้ยแพงไปหรือเปล่า จบสุดท้ายลงมาตรงที่ว่า ชาวนาถูกพ่อค้าคนกลาง พ่อค้าคนกลางคือพวกโรงสี ผลิตข้าวเสร็จเอาข้าวไปขายโรงสีก็เหมือนผลิตอ้อยเสร็จ เอาอ้อยไปขายโรงงานผลิตอ้อย แต่เผอิญระบบอ้อย กับระบบโรงงานกับระบบคนปลูกอ้อย มันลงตัวแล้ว 70 : 30 มันแบ่งกันชัดเจน มันไม่มีใครเสียเปรียบได้เปรียบอะไรมากมายนัก แต่ชาวนายังไม่มี เพราะเจ้าของโรงสีที่มันเลวๆ มันยังมีอยู่เยอะพอสมควร ไอ้ตัวการพวกนี้คือ ตัวการซึ่งไปบีบชาวนา และในที่สุดถึงจุดๆ หนึ่งมันยึดที่นาเขามา เนื่องจากชาวนาค้างหนี้มันอยู่เยอะ เพราะว่าเงินแอดวานซ์ที่ชาวนาต้องเอาไป เพื่อทำนาเอามาจากโรงสีพวกนี้ พ่อค้าคนกลางซึ่งมันขายให้ พอมันได้มันไม่มีเงินคืนปั๊บ มันยึดที่นามา และมันจ้างชาวนาผลิต และไอ้พวกนี้คือ ชาวนารวยไง พวกนี้คือชาวนารวย ไอ้นี้คือ phantom of the opera เลยนะ ใส่หน้ากากไอ้พวกห่านี่

รัฐบาลมันทำอย่างไรที่จะให้ชาวนามีสหกรณ์ผู้ผลิตของชาวนาขึ้นมาได้ 1.สหกรณ์นั้นจะสามารถให้ชาวนาที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ กู้เงินไปทำนาได้ในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก เมื่อกู้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลิตข้าวมาได้เอาข้าวไปจำนำกับสหกรณ์นี้ เพื่อใช้หนี้ในราคาท้องตลาดที่เขาขายกันอยู่ในขณะนั้น ในขณะเดียวกันลดต้นทุนและเงินไปแล้วนะ อันที่ 2 รัฐบาลต้องช่วยให้ชาวนาเลิกใช้ปุ๋ยเคมี แล้วรัฐบาลซัพพลายปุ๋ยออแกนิคที่ไม่มีสารพิษให้ฟรี เพื่อลด้นทุนของชาวนาลงไปเรื่องปุ๋ย ลดต้นทุนเรื่องการเงิน ลดต้นทุนเรื่องปุ๋ย แล้วสหกรณ์ที่มีอยู่เข้ามีหนึ่งตำบลหนึ่งหมู่บ้านหนึ่งล้านบาทไม่ใช่เหรอ กองทุนหมู่บ้าน ก็เพิ่มกองทุนหมู่บ้านเป็นกองทุนละ 3 ล้านบาท อีก 2 ล้านที่เกินคือเงินที่เอามาลงกันทุกหมู่บ้านในหนึ่งตำบล หรือในหนึ่งอำเภอ เพื่อสร้างสหกรณ์ผู้ผลิตแล้วชาวนา ชาวไร่แถวนั้นเป็นสมาชิกหมดเลย สหกรณ์ผู้ผลิตมีอะไร 1.มีโรงสี 2.มีไซโลเก็บข้าวตัวเอง มีไซโลเก็บข้าวตัวเองเพื่อไม่ให้ข้าวมันเน่า เพื่อไม่ให้มีความชื้น แล้ว 3 มีเงินทุนเหลืออยู่ก้อนหนึ่ง เพื่อที่จะกักข้าวที่ยังไม่ขาย แล้วข้าวเก็บเอาไว้เนื่องจากมีไซโลที่ดีมันจะไม่ชื้นจะไม่เสีย เมื่อทุกสหกรณ์มันจะกักข้าวไว้ราคาข้าวก็จะขึ้น พอขึ้นแล้วค่อยขายข้าวออก ขายข้าวได้ก็เอาข้าวมาใส่สหกรณ์แล้วก็เอามาใช้หนี้ใช้สิ้นกัน รัฐบาลต้องทำอย่างนี้ทำไมต้องไม่ทำ เพราะรัฐบาลมันอยู่เบื้องหลังพ่อค้าคนกลาง

จินดารัตน์ - ฐานเสียงทั้งนั้น

สนธิ - ฐานเสียงทั้งนั้น แล้วมันไปทะเลาะกับพ่อค้าส่งออก พ่อค้าส่งออกมันจะส่งออกในราคาอะไรก็ตามเรื่องของมัน แต่ถ้ามันจะส่งออกมันต้องซื้อข้าวในราคาที่สหกรณ์เขายินดีจะขาย แล้วสหกรณ์จะขายต้องเป็นราคาที่เขาขายได้อยู่แล้ว พ่อค้าส่งออกไม่ซื้อเขาก็ขายได้ในประเทศ เห็นไหม นี้ไงประเด็นนี้มันไม่ใครคิดกัน เข้าใจยังแอน

จินดารัตน์ - ก็พยายามถามว่ามันโง่หรือว่ามันฉลาดเกินไปที่มันคิดวิธีโกงจนเรารู้สึก

กมลพร - น่าจะเป็นอย่างหลังมั้งค่ะ

สนธิ - คือมันโกงกันมา งานนี้ผมว่าโกงมีแสนล้าน ประมาณแสนล้าน เฉลี่ยกันไปเลยนะ ทั้งโรงสีพรรคพวกมัน คนสวมสิทธิ์ คนสวมสิทธิ์ไม่มีข้าวตัวเองเอาสิทธิ์มาสวม ไปเอาคนโน้นคนนี้มา รวมทั้งไปเอาข้าวเขมรมาสวมสิทธิ์อีก เยอะแยะไปหมดเลย ต้องมีแสนล้าน ประเทศไม่ล่มสลายวันนี้ แล้วจะไปล่มสลายวันไหน แล้วนักการเมืองทั้งนั้นนะ นี่ฝีมือนักการเมืองหมดเลยนะ

จินดารัตน์ - เขาบอกให้ไปดูเจ้าของโรงสี ตั้งแต่มีโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ทุกโรงสีที่เป็นเครือข่ายนักการเมืองรวยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สนธิ - รวย รวยมหาศาล มันสองอย่าง สมัยก่อนโรงสีรวย พักหนึ่งสมัยสุวิทย์ คุณกิตติ อยู่ โรงงานน้ำตาลรวย จำได้มั้ยที่ราคาน้ำตาลขึ้นทันทีเลยกิโลฯ ละ 5 บาท ขึ้นอีก 5 บาททันทีเลย เหมือนกัน

จินดารัตน์ - เศร้า

กมลพร - เศร้า มันเห็นแก่ตัวของมัน ไม่เห็นแก่ประชาชน

จินดารัตน์ - มันเศร้าเพราะว่า เรากำลังต่อสู้กับอะไรอยู่ แล้วประชาชนที่คิดจะออกมาต่อสู้ มันมีหยิบมือหนึ่ง ถึงหรือเปล่ายังไม่รู้เลย คนที่รู้สึกว่าตัวเองเดือดร้อนจริงๆ

สนธิ - ที่เหลือก็บอกว่าไม่ใช่ธุระ

กมลพร - ธุระไม่ใช่

จินดารัตน์ - เป็นเรื่องไกลตัว

สนธิ - เรื่องไกลตัว ผมถึงบอกไงแอน สิ่งที่ผมพูด ผมเหมือนกับทำนายไว้ล่วงหน้าเลย ต้องให้ประเทศไทยมันล่มสลาย ให้มันรู้สึกกัน มันถึงจะรู้สึก ก็เป็นไปได้ยังไง น้ำมันส้นตีน 2 ลิตร 100 บาท มีประเทศนี้ประเทศเดียวในโลก ซึ่งมันก็ยังนั่งหน้าตาเฉย ยังยิ้มแฉ่งกันอยู่ทุกคน ไม่มีใครเดือดร้อนสักคนเลย

จินดารัตน์ - มันจะมีโอกาสเป็นเหมือนบราซิลได้ไหมคะ ที่ล่าสุดออกมาชุมนุมกันทั่วประเทศ เป็นล้านคน

สนธิ - เป็นไปได้แต่ต้องใช้เวลา ถ้าพูดถึงบราซิล ต้องพูดถึงขบวนการหน้ากากขาวด้วย คือผมเห็นว่าขบวนการหน้ากากขาวมันจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ทันทีหรอก แต่ว่าถ้าทำไปเรื่อยๆ ความไม่พอใจมันจะแสดงออกเรื่อยๆ แล้วปริมาณคนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หมายถึงว่าไม่มีการขัดขวางอะไรนะ ไม่มีการขัดขวาง ไม่มีการกลั่นแกล้ง ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่มีมือที่สาม คือคนเรา บางทีหน้ากากขาวไม่จำเป็นต้องชุมนุมก็ได้ นั่งทำงานในที่ทำงานเอาหน้ากากขาวใส่ ก็เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งได้ ผมว่าเป็นการแสดงออกที่ใช้ได้ เป็นเพียงแต่ว่าจะต้องใช้เวลานานพอสมควร และที่น่ากลัวที่สุดก็คือไอ้พวกชุบมือเปิบ ไอ้พวกที่คิดว่าหน้ากากขาวเป็นมวลชนของตัวเอง ต้องการ ไอ้ประเภทที่ปิดหน้ากากขาว พอเข้าไปในที่นั้นก็เปิดหน้ากากให้เห็นหน้าว่าเขาเป็นใคร อะไรอย่างนี้ ไอ้พวกแสดงออกประเภทนี้ นึกออกมั้ย

จินดารัตน์ - บางคนไม่ใส่หน้ากาก ไปขึ้นเวทีเลย

สนธิ - ใช่ๆๆ คือต้องการที่จะยึดมวลชน ผมคิดว่าอันนี้อันตราย เพราะผมเชื่อว่าหน้ากากขาวที่ออกมา ผมเชื่อว่าเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องการนักการเมือง เพราะว่าปัญหานักการเมืองเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อไทย หรือว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาธิปัตย์สมัยทำไทยเข้มแข็งก็โกงฉิบหายนะ โกงจริงๆ อยู่ในกระบวนการตรวจสอบ พอดีล้มเสียก่อน ถ้าตรวจสอบต่อไปโดนแน่นอน หลายเรื่อง เหมือนกัน นักการเมืองสันดานเหมือนกันหมดทุกคน ไม่ได้ต่างกัน

บราซิลนี่คล้ายๆ กัน บราซิลคล้ายตรงไหน บราซิลคือผลพวงของคิวอี และผลพวงของการเดินตามก้นสหรัฐฯ บราซิลใช้นโยบายเสรีนิยมเหมือนสหรัฐฯ เป๊ะเลย เพราะฉะนั้นแล้ว บราซิลในที่สุดก็เลยกลายเป็นรวยกระจุก จนกระจาย เหมือนกันเลย เหมือนอเมริกาไม่มีผิดเลย เพราะฉะนั้นเศรษฐีบราซิลจะมีจำนวนหนึ่ง ซึ่งรวยฉิบหายเลย แล้วคนก็จนลงๆๆ ทั้งหมดนี้มันปะทุเพราะว่าสวัสดิการของประชาชนไม่ดี ประชาชนรายได้ไม่ดี รายได้ตกต่ำ ค่าครองชีพแพงขึ้น น้ำมันแพงขึ้น ทุกอย่างแพงขึ้นหมด จนกระทั่งในที่สุด มันปรี๊ดแตกตรงที่ว่าบราซิลมันจะใช้เงินตั้ง 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ที่จะไปจัดฟุตบอลโลก ไอ้พวกนี้ก็บอกว่า ไอ้ห่ากูกินจะไม่มีกิน โรงเรียนกูก็ไม่มีเงินจ่ายค่าเล่าเรียน เมืองไทยก็ไม่ใช่ย่อยนะ มีเด็กตอนนี้เรียนมหาวิทยาลัยแต่ละคน อย่างที่ผมเคยเรียนมา แล้วผมพูดบนเวที 193 วัน บอกส่งเด็กเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน 4 ปี 1 ล้านบาท จบมาได้เงินเดือนตอนนั้นแค่ 9 พัน-1 หมื่น ตอนนี้ 15,000 แต่ตอนนี้หลายเจ้าก็ยังไม่ได้จ่าย 15,000 นะ เพราะฉะนั้นแล้ว วันนี้ส่งเด็กเรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยตอนนี้ มหาวิทยาลัยเอกชนนะ 1 ล้านไม่อยู่แล้ว 4 ปี ต้องมีล้านห้า บราซิลเจอแบบเดียวกัน ค่าเล่าเรียนแพง ทุกอย่างออกนอกระบบหมด ไฟฟ้าแพง ประปาแพง รถเมล์แพง แล้วทะลึ่งจะมาใช้เงิน 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อมาจัดบอลโลก มันเลยรับไม่ไหว มันเลยประท้วงฉิบหายวายป่วง

จินดารัตน์ - จะขึ้นค่าโดยสารรถนี่ก็เป็นประเด็นนะคะ จุดประกาย มีความคล้ายๆ กับประเทศไทยอยู่บางอย่าง มีประธานาธิบดีคนแรกของประเทศ

สนธิ - ที่เป็นผู้หญิง

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ ชื่อดิลมา รูสเซฟฟ์ รับตำแหน่งมา 2 ปีแล้ว ตั้งแต่ 1 มกราคม ปี 54 อายุ 65 ปีแล้วปีนี้ ต้องงดการเดินทางไปเยือนญี่ปุ่นเพื่อที่จะรอดูว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไง มันน่าจะบานปลาย มันจะจบยังไงคะคุณสนธิ

สนธิ - ผมเดาไม่ออก แต่ผมรู้อยู่อย่างหนึ่งว่า ในขณะนี้ระบบทุนนิยมสามานย์ที่อเมริกามันส่งออก มันเริ่มส่งผลแล้ว หลายประเทศ ส่งผลให้หลายประเทศ เมืองไทยนี่มันเป็นกันชนของจีนและอเมริกา จีนก็ไม่อยากให้อเมริกาได้เมืองไทยไป 100 เปอร์เซ็นต์ อเมริกาก็ไม่อยากให้จีนได้ไป 100 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าอเมริกาเวลามันจะลงโทษเมืองไทย มันจะลงโทษยังไง มันจะลงโทษด้วยการเงิน มันจะทำให้เมืองไทยเจ๊งอีกครั้งหนึ่ง เหมือนสมัยปี 2540 แต่มันก็ไม่กล้าทำ เพราะมันกลัวว่าถ้าเมืองไทยเจ๊ง คนได้ประโยชน์จะเป็นจีน เข้าใจหรือยัง มันก็ไม่กล้า มันก็เลี้ยงเมืองไทยไว้ ทีนี้คำถามว่า เมืองไทยนี่อเมริกาพอใจมั้ย มันพอใมาก มันรักเมืองไทยมาก เพราะเมืองไทยยอมให้แบงก์กงเต็กของมันเข้ามาปู้ยี่ปู้ยำ เข้ามาซื้อทรัพย์สินออกไปได้ตลอดเวลา ไม่ตั้งเงื่อนไข ไม่ตั้งกติกา ไม่ทำอะไรทั้งสิ้น มึงอยากทำอะไรทำไป

จินดารัตน์ - เป็นเด็กดี ว่าอย่างนั้นเถอะ

สนธิ - เป็นกะหรี่ที่อยู่ในโอวาทของแมงดา

กมลพร - โห ชัดๆๆ เจ็บปวดมั้ย รู้สึกหรือเปล่า รู้สึกกันบ้างมั้ย

สนธิ - เพราะอเมริกามันคือแมงดาดีๆ นั่นเอง มันมาสูบความมั่งคั่งของเรากลับไป ไปเพิ่มความมั่งคั่งของมัน ซึ่งมันกำลังลำบาก

จินดารัตน์ - แล้วผู้นำประเทศเรา แทบกราบ แทบปูพรมแดง

สนธิ - ก็ดูเขามองหน้าบารัก โอบามา สิ ตาแทบถลนออกมานอกเบ้าเลย

จินดารัตน์ - แอนว่าตาถลนน่ะ เมียโอบามามากกว่า จากบราซิลเราต้องติดตาม เพราะอย่างที่เก๋บอกว่าคนไทยต้องยกนิ้วให้เลยนะ

กมลพร - เรื่องความอดทนใช่มั้ย

จินดารัตน์ - เรื่องความอดทน อดทนสูงมาก ถ้าเป็นประเทศอื่น อย่างที่คุณสนธิเคยบอกว่า ถ้าเป็นอเมริกา น้ำมัน 2 ลิตร 100 ป่านนี้ ...

สนธิ - ตายไปแล้ว

กมลพร - ประท้วงกันตาย

จินดารัตน์ - ไม่รู้โอบามาไปอยู่ตรงไหนแล้ว แต่ถ้าอย่างผู้นำบราซิลเขารู้ว่า ถ้าสถานการณ์มันบานปลาย ควบคุมไม่อยู่ มีโอกาสไหมคะที่จะแถลงการณ์ลาออก

สนธิ - ก็เป็นไปได้ เพราะว่า ผมคิดว่า ... ผมค่อนข้างมั่นใจนะ นักการเมืองเมืองไทยความด้านของมันน่าจะด้านติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกนะ เผลอๆ อันดับ 1 ของโลกเลย

จินดารัตน์ - แอนว่าอันดับ 1 ในสามโลกมากกว่าค่ะ

สนธิ - เป็นไปได้ 1 ในสามโลก 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน คือนโยบายข้าวที่ล้มเหลว การอุ้มฆ่าเอกยุทธ อัญชันบุตร การที่จะมาทำในเรื่องของกรณีการกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ความผิดพลาดทั้งหลายทั้งปวงนี้ รัฐบาลชุดนี้หน้าด้านที่สุด ไม่รู้ร้อนรู้หนาว รู้อยู่อย่างเดียว ไม่ผิด รู้อยู่อย่างเดียว กรณีคุณถวิล เปลี่ยนศรี นี่ขนาดศาลปกครองพิพากษาให้คืนตำแหน่ง ก็ยังไม่คืนให้เขา อุทธรณ์เพื่อกวนตีน เพื่อยื้อเขา หาทาง มึงแน่นักกูอุทธรณ์ต่อ ทิ้งไปอีก ซึ่งคุณถวิลเขาก็ฟ้อง ป.ป.ช.แน่ๆ ถ้าเขาฟ้อง ป.ป.ช. อีนังพวกนี้มันไม่รู้นะ ถ้าวันหนึ่งมันไม่มีอำนาจแล้ว ป.ป.ช.เกิดพิพากษาว่ามันกลั่นแกล้งเขา 157 แล้วมันฟ้องศาล มันติดคุกเลยนะ ยัยยิ่งลักษณ์นี่ติดคุกนะ

จินดารัตน์ - เพราะมีลายเซ็นเรียบร้อยแล้ว

สนธิ - เพราะมีลายเซ็นเรียบร้อยหมดแล้ว มันไม่รู้สึกกัน เหมือนอย่างบุญทรงนี่ ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล มีการตั้งคณะกรรมการดูเรื่องการจำนำข้าว ติดคุกทันทีนะ คำถามมีต่อมาที่ผมอยากจะถามแอนกับเก๋ และผมอยากจะถามท่านผู้ชม ไอ้นักการเมืองนี่ เวลามันบริหารชาติบ้านเมือง เวลามันเสียหาย เวลาทำชาติบ้านเมืองเสียหาย ไม่มีกฎหมายเล่นงานมันเหรอ ทีนี้คำนูณก็บอกว่า จริงๆ มันมี แต่ไอ้คนที่ทำงานตรงนั้น 1. มันล่าช้า 2. มันขี้กลัว ป.ป.ช.ไง

จินดารัตน์ - ค้างไว้ไม่รู้กี่คดี

สนธิ - ค้างไว้ไม่รู้กี่คดี มีไปทำไมก็ไม่รู้ ป.ป.ช.วันนี้ เพราะฉะนั้นเมืองไทย ด้วยเหตุของพฤติกรรมของ ป.ป.ช.ที่เป็นอย่างนี้ สู้ไม่มียังดีเสียกว่า หรือว่ามีแล้วมันก็เท่ากับไม่มี ก็เท่ากับไอ้นักการเมืองเมืองไทยทำเหี้ยทำห่าอะไรก็ได้ ประเทศชาติฉิบหาย พอหมดวาระมันไป มันก็เอาทรัพย์สินเงินทองที่มันฉ้อราษฎร์บังหลวงไป เอาไปเสวยสุข ไปซื้อรถเฟอร์รารี่ ไปอยู่ที่เมืองนอก ไปซื้อบ้านที่อังกฤษไปอยู่โน้นอยู่นี่ มันไม่สนใจประเทศชาติเจ๊ง ฉิบหายหมดเลย มันต้องมีบทลงโทษนักการเมือง คุณเริงชัย มะระกานนท์ สมัยก่อนที่เป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ จำได้ไหม และค่าเงินบาทมันพัง แบงก์ชาติเขายังไปฟ้องคุณเริงชัยให้รับผิดชอบแสนกว่าล้านบาท และทำไมถ้ามันเล่นงานเริงชัย อดีตผู้ว่าฯ แบงก์ชาติได้ ทำไมอดีตนักการเมืองถึงไม่ถูกเล่นงาน ไอ้นักการเมืองจะหน้าด้านบอกว่า อ่อถ้าผมทำไม่ถูกไม่ต้องเลือกผมเข้ามาสิ มันง่ายเกินไป มันไม่ได้
อย่างกรณีการจำนำข้าว ชาติเสียหาย 2.6 แสนล้าน ต้องมีคนรับผิดชอบ ไม่ใช่ยายปูรับผิดชอบคนเดียวนะ และไม่ใช่บุญทรงรับผิดชอบคนเดียวนะ ต้อง ครม.ทั้ง ครม. เพราะ ครม.ทั้ง ครม.เห็นชอบด้วยกับการจำนำข้าว รวมไปถึงข้าราชการ กระทรวงพาณิชย์ คณะกรรมการนโยบายข้าวเล่นงานหมดเลย คนพวกนี้ต้องเอามาหารเฉลี่ยต้องชดใช้คืนชาติบ้านเมือง 2.6 แสนล้าน ต้องมีตรงนี้ไม่มีไม่ได้

จินดารัตน์ - ดูอย่างไต้หวันนะคะ แค่คอร์รัปชันไม่ต้องทำให้ประเทศชาติฉิบหายล่มจม ยังโทษประหารชีวิต

สนธิ - ถูกต้อง เฉิน สุ่ยเปียนไง เมียโดนด้วย ลูกโดนด้วย ไม่สำคัญว่า คุณเคยเป็นประธานาธิบดี หรือไม่เคยเป็นประธานาธิบดี พรรคการเมืองของคุณ พรรคดีพีดี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่มีพลังมากที่สุด ยังช่วยอะไรไม่ได้ เพราะนี่คือการคอร์รัปชัน

จินดารัตน์ - ลูกเขยยังโดนด้วย

สนธิ - ลูกเขยก็โดน และทำไมตำรวจไต้หวัน อัยการไต้หวันมันถึงกล้าทำ เพราะตำรวจไต้หวัน อัยการไต้หวันมันไม่ใช่ตำรวจไทย และอัยการไทย จบข่าว

จินดารัตน์ - ไปไม่เป็นเลย

กมลพร - ไปข่าวเราต่อไหม

จินดารัตน์ - ไปถึงวงการสงฆ์บ้าง

สนธิ - โอ้ยยาวเลยงานนี้

กมลพร - พักก่อนไหม หรือจะยังไง

สนธิ - พักก่อนก็ได้

จินดารัตน์ - พักก่อนเนอะ วงการสงฆ์แล้วค่อยตามด้วยคำถามนะคะ

สนธิ - ได้ๆ วงการสงฆ์นี่สนุก

จินดารัตน์ - พักกันสักครู่ค่ะ คุณผู้ชม

ช่วงที่ 3

กมลพร - อายุเป็นตัวเลข ไม่สำคัญ ดูนายเราสิ

จินดารัตน์ - กลับมานะคะ บางคนเขาความจำสั้นเหมือนกัน ว่าตกลงคดีเอกยุทธ เป็นฆ่าชิงทรัพย์แน่นอน ฟันธงไปก่อนตำรวจ แล้ววันนี้ว่าไงนะ

กมลพร - การเมืองแน่นอน

จินดารัตน์ - ดร.เฉ-ลิม นี่นะคะ แกก็แถไถลเถลือกไปเรื่อย แล้วเรื่องรถแกก็ปรากฏว่าเปิดหนังสือพิมพ์เอเอสทีวีผู้จัดการ ตกใจค่ะคุณสนธิ ว่าดีเอสไอ มีอีกหน้าที่หนึ่งแล้วเหรอ

กมลพร - ทำไมคะ

สนธิ - ล้างรถ

จินดารัตน์ - เขาถือแก้วไวน์หน้าเหมือนพี่เฉ-ลิมเลยนะคะ เอาให้สะอาดเอี่ยมเลยนะนายธาริต คร้าบนายเหลิม

กมลพร - ผิดนะ เอเอสทีวีผู้จัดการเขียนผิด เพราะคุณธาริตเรียกคุณเฉลิมว่า ท่านเฉลิม ทุกคำเลย ไปดูให้สัมภาษณ์ ท่านเฉลิมสั่งอย่างนั้น ท่านเฉลิม อยู่บำรุง ว่าอย่างนั้นว่าอย่างนี้ตลอดเวลา

สนธิ - ผมยังไม่รู้เลยว่า จุดจบของเฉลิมกับจุดจบธาริตจะเป็นไงในอนาคต คือเฉลิมนี่เขาจะเป็นคนได้ดีเพราะปากนะ และเขาก็จะฉิบหายเพราะปากเหมือนกัน คือเขาพูดจาเขาไม่ระวังเลยแม้แต่นิดเดียว ผมฟังคำให้สัมภาษณ์เขาแล้วผมสงสารเขามากคือ มันมีประโยชน์อะไรเที่ยวเอารถมาโชว์การกระทำ วัตถุประสงค์ต้องการโชว์ให้รู้ว่าตัวเองมีรถ ในขณะเดียวกันตัวเองไม่กลัว เพราะตัวเองถูกต้องตามกฎหมาย ต้องการพิสูจน์ตัวนี้ ตัวเองก็เลยขุดเรื่องราวซึ่งมันก็จะเป็นหลักฐาน ซึ่งในที่สุดคนที่มีปัญญาถ้าเขาถามคำถามเป็นเฉลิมตายเลยนะ เขาบอกสมัยก่อนเขามีเหมืองแร่ พูดง่ายๆ สรุปเขารวยจากเหมืองแร่

ทีนี้ถ้าคุณรวยจากเหมืองแร่ ไอ้บริษัทที่ทำเหมืองแร่คุณ ถ้าคนเขาไปค้นว่า เสียภาษีเท่าไหร่คุณตายนะ เพราะถ้าภาษีคุณเสีย หรือคุณมีขาดทุน หรือกำไรปีละไม่กี่หมื่นบาท ซึ่งธรรมดาแล้ว ตามบัญชีถ้ามีจริงก็คงจะไม่มีกำไร คงจะขาดทุน ถ้าขาดทุน คำถามแล้วคุณจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อรถ ถูกไหม แล้วคุณก็ไปเที่ยวอ้างว่ารถคันนี้ สิงคโปร์เพื่อนกันอย่างโน้นอย่างนี้ขึ้นมา ถ้าวันหนึ่งเขาถามว่าไหนคุณเฉลิม เพื่อความสะดวกใจคุณ เพื่อความบริสุทธิ์ใจเปิดเผยได้ไหม ไอ้สิงคโปร์คนนี้เป็นใคร ผมอยากรู้เพื่อพิสูจน์สักทีว่าคุณบริสุทธิ์ เอาตัวมาโชว์หน่อยได้ไหม แล้วทำธุรกิจอะไร คือมันผิดตรรกะทั้งมวล ที่คนมีรถดีๆ แบบนี้แล้วมาฝากทิ้งเอาไว้ มันไม่ใช่ ตรรกะนี้ผิด ถ้ามาให้ใช้หรือมาฝากทิ้งไว้อย่างนี้อย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นคนซึ่งคุณเฉลิมมีบุญคุณด้วย ไม่ใช่เขามีบุญคุณกับคุณเฉลิม เฉลิมต้องทำอะไรให้เขาบางสิ่งบางอย่าง ทำให้เขารู้สึกว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณ ผมอาจจะถามว่าจริงหรือเปล่าว่า รถคันนี้เป็นชื่อคุณแต่ว่าใส่ชื่อคนอื่นเอาไว้ คำถามมันมีเยอะแยะไปหมดเลย เพราะเกิดขึ้นจากความซ่าของตัวคุณเอง วันนี้คุณสนุกเพราะคุณมีอำนาจ วันไหนที่คุณมีอำนาจเรื่องที่คุณพูดมานี่นะ เขาสืบมาแต่ละเรื่อง เขามัดคอเอาเชือกผูกคอคุณ เอาโซ่ล่ามขาคุณนะ เอาค้อนทุบคุณตาย คุณตายคุณยังไม่รู้ยิ่งว่าเอกยุทธอีกนะ ถูกไม่ถูกแอน คือตรรกะของการมีรถ ตรรกะของการคนเอารถมาฝาก ตรรกะของการที่มีคนสิงคโปร์เคยทำบุญคุณกันรักกันมาก เป็นคนดี และเข้ามาช่วย ตรรกะที่ลูกชายไปร่วมลงทุนด้วย และมีบริษัทขนส่ง มันเป็นตรรกะซึ่งฟังไม่ขึ้น คือตรรกะแบบนี้ถ้าต้องการจะพิสูจน์ให้เห็นชัดว่า คุณมีจริง คุณต้องมีตัวมีตน คุณต้องมีบริษัท อ้าวคุณไม่ได้ยินชื่อหรอเนี้ยะ บริษัทซื้อยา บริษัทขนส่งทางน้ำบรรทุกยา ไม่เห็นหรือไงนี่ไง รับขนส่งทางน้ำใหญ่โตมโหราฬ คุณไปเช็กได้เลย นี่นายคนนี้ถือหุ้นอยู่ และลูกชายผมถือหุ้นอยู่ มันยังพอฟังขึ้น นี่ประเภทพูดตลอดเวลา เหมือนกับพูดว่า นี่คือการชิงทรัพย์ และพรุ่งนี้ก็บอกว่า นี่คือการเมือง ฉันใดฉันนั้น ผมถึงบอกเฉลิมได้ดีเพราะปาก และจะตายเพราะตาย

จินดารัตน์ - ตกลงกับเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ นี่เป็นลิเกหรือว่า

สนธิ - น่าจะเป็นลิเกมากกว่า

กมลพร - ลิเกล้างรถ

สนธิ - ไม่เพราะว่าเรืองไกรต้องไปยื่นให้ธาริต เพื่อให้ทายจิ๊กซอว์ และทายที่ 2 บอกว่าไม่ผิด

จินดารัตน์ - ล้างให้เสร็จ

สนธิ - ล้างให้เสร็จเลย ล้างรถให้เสร็จเรียบร้อย

จินดารัตน์ - เอี่ยมเลย ขัดให้เงาเลย แมลงวันลื่นหัวแตกงานนี้

สนธิ - และธาริตอีกคน ผมไม่รู้ว่าจุดจบเขาจะเป็นอย่างไรนะ เพราะสิ่งที่เขาทำนี่นะ 157 หลายเรื่องเลย มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เยอะมาก

จินดารัตน์ - ข้าราชการดีเขาถึงขั้นเอ๋ยปากคุณสนธิว่า ตั้งแต่เขามีชีวิตเติบโตมา พ่อก็เป็นข้าราชการ เขายังไม่เคยเห็นใครเท่ากับคุณธาริตมาก่อนเลย เท่าในแง่ไหนคุณผู้ชมคงรู้

กมลพร - ไปคิดกันเอง

จินดารัตน์ - คือสุดๆ แล้วค่ะ

สนธิ - คือคุณธาริตแกรับใช้เครือข่ายทักษิณ อย่างชนิดที่เรียกว่า เป็นไงเป็นกัน เหมือนกับมีใบสั่งต้องทำอย่างนี้ เขาก็ต้องทำ เขาไม่คิดเลยว่า ถูกหรือผิด ควรหรือไม่ควร

จินดารัตน์ - สังคมจะประณามหยามเหยียดอย่างไรก็ไม่แคร์

สนธิ - ไม่สนใจ เพียงเพราะตัวเองขอให้เป็นอธิบดีดีเอสไออยู่แค่นั้นแหละ อธิบดีดีเอสไออำนาจมันล้นฟ้า มันจะหาเรื่องใครดำเนินคดีใคร ออกหมายจับใครมันทำได้หมด

จินดารัตน์ - ตายละพูดมากไม่ได้ เดี๋ยวตำรวจ

กมลพร - ยังจะกลัวอีก

จินดารัตน์ - จากพี่เฉ-ลิมและ จากธาริตและ สุดๆ จากฝ่ายการเมืองและฝ่ายราชการ มาสุดๆ ฝ่าย

สนธิ - ฝ่ายศาสนจักรบ้าง

จินดารัตน์ - เป็นที่ฮือฮากันมาก มีคนออกมาแฉเอารูปร่อนเน็ตเลยนะคะ ตั้งแต่เรื่องรถหรูมาได้โอกาสเลย แฉกันในเน็ตอะไรนะ

กมลพร - หลวงปู่เณรคำ

จินดารัตน์ - หลวงปู่เณรคำ คนที่ไม่รู้จักหลวงปู่เณรคำมาก่อน เขาฟังโอ้ยคงจะอายุเยอะนะ คงจะมากพรรษา แต่ดูแล้ว 30 เศษๆ เอง และชู 2 นิ้ว

กมลพร - ถ่ายรูปผ่านอิริยาบถ

จินดารัตน์ - มีใส่แว่นเรแบน

กมลพร - รุ่นใหม่ด้วยนะ

จินดารัตน์ - จริงหรอ

กมลพร - Aviator รุ่นไอ้นี่ไง ปรอทสีทอง

จินดารัตน์ - และมีกระเป๋าหลุยส์วิตตอง พระข้างหลังนั่งก็เดินทางด้วยกันก็ใส่ซาวน์อะเบาท์ไอโฟนด้วยนะ ใส่หูฟังไอโฟน หมดเลยทั้งลำ นี่ซื้อเหมายกโหล ซื้อแว่นยกโหล เอามาแฉก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรค่ะ คุณสนธิ มันมีหลายรูปนะคะ มีรูป

กมลพร - วันนี้ลูกศิษย์ออกฟรีทีวีช่องหนึ่งบอกว่า อิริยาบถอย่างนี้

สนธิ - ออกรายการนายสรยุทธ

จินดารัตน์ - ใช่ ช่อง 3

กมลพร - เราก็อุตส่าห์กลางๆ หน่อยนะ ช่อง 3 ออกสรยุทธอธิบายว่า อิริยาบถอย่างนี้เขาเอาไว้สอนกับศิษยานุศิษย์อีกแบบหนึ่งว่า ถ้าเกิดเราทำมาหากิน ซื่อสัตย์สุจริตอาจจะมีรถแบบนี้

จินดารัตน์ - หรอ

กมลพร - และให้เป็นการปลงสังขารว่า ไอ้รถแบบนี้

สนธิ - นี่คือภาพปลงสังขาร

กมลพร - ยังมีท่า 2 นิ้วอีกอันนึง

จินดารัตน์ - ชู 2 นิ้วมีไหม

กมลพร - ไอ้การที่ลูกศิษย์เขาอธิบายก็น่ารักดีนะคะ

จินดารัตน์ - ไอ้ชู 2 นิ้วลูกศิษย์ว่าอย่างไร

กมลพร - ชู 2 นิ้วลูกศิษย์บอกว่า ท่านไม่ได้มีอิริยาบถที่ไม่สำรวจแต่อย่างใด วันนั้นลูกศิษย์ถามว่า เออหลวงปู่จะเอาสินค้าชิ้นนี้ที่อยู่ในเชลล์กี่ชิ้น 2 ชิ้น และลูกศิษย์ถ่ายรูปไว้พอดี

จินดารัตน์ - อ่อหรอ

กมลพร - ซื้อของเข้าวัด

จินดารัตน์ - และที่นั่งดูด้วยกันคือ คุณเติมศักดิ์ใช่ไหม เติมศักดิ์พูดว่าอย่างไร

กมลพร - พี่เติมบอกว่า อันนี้มันเป็นอุบายทางธรรม ว่าถ้าเกิดเราสามารถดูรูปภาพต่างๆ เหล่านี้แล้วผ่านไปได้ ท่านเอาตัวเข้าเสี่ยงนะ

จินดารัตน์ - และฟังคำอธิบายของลูกศิษย์

กมลพร - แปลว่าเราจะไม่อุเบกขา

จินดารัตน์ - ถ้าเราไม่วิพากษ์วิจารณ์

กมลพร - มันเป็นอุบายอย่างหนึ่ง

จินดารัตน์ - ไม่ธรรมดานะคุณเติมศักดิ์

กมลพร - คุณเติมศักดิ์มองโลกแบบเก่งมากเลย

จินดารัตน์ - บางคนเขาถามค่ะ คุณสนธิว่า อายุแค่นี้ทำไมถึงไม่รู้ที่มาที่ไป ทำไมถึงเรียกหลวงปู่เณรคำ คือเล่าประวัติโดยสังเขปว่า หลวงปู่เณรคำตอนเด็กๆ มีความสนใจเรื่องศาสนา ไปนั่งวิปัสนา นั่งสมาธิตั้งแต่ 6-7 ขวบเลย หลังเลิกเรียนก็ไปที่ป่าช้า

สนธิ - อันนั้นคือ ประวัติที่เขาเขียนขึ้นมาเอง

จินดารัตน์ - เขาว่าอย่างนั้น เขาเขียนในเว็บไซต์เขาอย่างนั้นว่า พอบวชเณรปุ๊บก็มีวิชาอาคมแกร่งกล้ามองทะลุชาติที่แล้ว กี่ร้อยชาติ กี่แสนชาติมาแล้ว และบอกว่าชาตินี้จะไม่ไปเกิดอีกแล้วนะ จะเป็นชาติสุดท้ายแล้ว ถึงขั้นว่าเมื่อชาติที่แล้ว เคยมีภรรยาและทำร้ายภรรยาไว้เยอะ ภรรยาเลยมาเกิดเป็นงูเห่า ตอนที่ไปนั่งวิปัสนาอยู่ในป่าช้า อยู่ในป่าไปธุดงค์ นั่งให้งูเห่ากัด กัดอย่างไรก็ไม่ตายค่ะ

สนธิ - ผมว่าท่านคงไม่เกิดอีกแล้ว ผมว่าท่านคงลงนรกอยู่นานเลย ผมว่าท้าวเวสสุวรรณคงจ้องท่านอยู่ตอนนี้ ว่าจะเอาท่านลงนรกเมื่อไหร่ ผมไม่อยากจะเรียกท่านด้วยซ้ำ นี่ไม่ใช่พระ คนที่มองทะลุหมื่นชาติแสนชาติในอดีตชาติตัวเอง ตัวเองต้องมีความรู้สึกสังเวช สงสารตัวเอง แล้วตัดสินใจจะไม่เกิด เหมือนหลวงตา แล้วถ้าชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ถ้าปฏิบัติตนอย่างนี้ มันจะไม่เกิดได้อย่างไร มันลงนรก ถ้าจะไม่เกิดจริงๆ แล้วจะเป็นสมถะจริงๆ เป็นพระที่จะมุ่งหวังนิพพานจริงๆ ต้องสำรวมมาก ต้องละเลยสิ่งที่ผมเรียกว่าพวกกิเลส นี่ไม่มีเลย กิเลสเต็มตัว แล้วรูปที่ชู 2 นิ้ว เก๋ นั่งอยู่ในอะไรรู้เปล่า คอสโก้ ที่เมืองนอก ซื้อของ ผมเกิดมายังไม่เคยเห็นพระที่ผมเคารพนับถือไปเดินห้างสรรพสินค้า และไปเดินแวร์เฮ้าส์ซื้อของ ไม่มี นี่พระไปเดินช้อปปิ้งเลยนะ เหมือนไปฝรั่งเศสกระเป๋าหลุยส์ เขาบอกว่าสั่งทำพิเศษของตัวเขาเอง แล้วไม่มีใครรู้ น้องคนหนึ่งซึ่งอยู่วงการรถยนต์เล่ามา ซื้อมายบัคไปคันหนึ่ง คือรถเบนซ์รุ่นพิเศษ ราคาใหม่เอี่ยมคันละ 32 ล้านบาท ซื้อมายบัคไปคันหนึ่ง รถเบนซ์ เราดูง่ายๆว่า ถ้ายืนพิงรถเบนซ์แล้วก็ทำท่าอย่างนี้เนี่ยนะ มันไม่ใช่พระผู้ทรงศีล ใช่ไหม เหมือนกับแต่งชุดพระเพื่อมาแสดงแฟชั่นโชว์อย่างนั้นมากกว่า มันรับไม่ได้จริงๆ แอน มันเศร้า

จินดารัตน์ - แล้วสร้างพระแก้วมรกตองค์จำลองหน้าตักคือ ใหญ่ที่สุดในโลก องค์ละ 1,500 ล้าน แล้วตอนแรกมีกำหนดการว่า จะกลับมาวันนี้ เพื่อที่จะไปเปลี่ยนเสื้อทรงของพระเป็นฤดูฝน พอมีข่าวแบบนี้เลื่อนการเดินทางกลับตอนนี้อยู่ฝรั่งเศส แล้วเจ้าของที่ดินที่วัดป่าขอที่คืน และเปลี่ยนผู้สร้างวัด บอกว่าไม่ต้องมาเหยียบที่วัดนี้อีกทั้งพระผู้ติดตามด้วย เพราะว่าพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปมาก 2-3 ปีนี้

สนธิ - คือเป็นพระลวงโลก เป็นคนที่อาศัยผ้าเหลืองทำมาหากิน และนี้คือสัญลักษณ์ และสัญญาณของความเสื่อมของพระพุทธศาสนา พระวันนี้ในเมืองไทยส่วนใหญ่ หรือบางส่วนทำตัวเหมือนตำรวจเลย วิ่งเข้าหาลาภยศ และจริงๆ แล้ว ไม่รู้ว่าพระเมืองไทยต้องมีพัดยศไปทำไม เรามีมหาเถรสมาคมทำไม ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว ถูกไม่ถูก พระอย่างนี้คนที่มีปัญญาจะไหว้ไม่ลง ผมจะเรียกว่าตาเณรคำ ผมไม่เรียกหลวงปู่เณรคำหรอก ไม่ใช่พระ คือ ใครก็ตามอาศัยผ้าเหลือง มาแล้วสร้างศรัทธาผิดๆ หลอกชาวบ้าน แล้วที่สำคัญคือ ไอ้คนซึ่งไปหลงไอ้คนๆ นี้เนี่ย มันโง่ฉิบหาย เหมือนสมัยหนึ่งคนไปหลงยันตระไม่ได้ต่างอะไรกันเลย แล้วสังเกตสิยันตระก็มีหลวงพี่ หลวงพ่ออะไรบ้าๆ บอๆ ที่ติดคุกติดตารางไปจำได้ไหม คุ้นๆ ชื่ออ่ะ

จินดารัตน์ - อะไรเรายังพูดกันอยู่เลยนะเมื่อตอนเย็น

สนธิ - มันจะต้องมีตัวตายตัวแทนมาตลอด เพราะว่าคนไทยถูกหลอกด้วยเรื่องศรัทธา พอศรัทธาไปแล้วเสียเงินเสียทองเท่าไรยอมเสียหมด เพราะศรัทธาอาศัยที่มันผิดไง ไม่รู้จักใช้ปัญญา คือ พระถ้าเป็นพระที่ประพฤติดีปฏิบัติดีจะไม่ใช่พระลักษณะนี้ ใช่ไหม นี้คือพระต้มตุ๋นแล้วใช้ผ้าเหลือง และที่ผมสงสัยว่าทั้งตำรวจทั้งทหารขึ้นเต็มไปหมด เพราะอะไร อาคมแก่กล้า เป็นพระมาใช้อาคมได้ยังไง พระต้องปฏิบัติธรรม พระต้องปลีกวิเวก พระต้องสำรวม พระต้องประหยัดมัธยัสถ์ พระต้องทำตัวเหมือนพระ นี้ไม่ได้ทำตัวเหมือนพระเลย และจู่ๆ ไปอยู่ฝรั่งเศส ไปทำไมฝรั่งเศส

จินดารัตน์ - เนี่ยลูกศิษย์บอกว่า ถือเป็นพระชุดแรกของประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจในการร่วมประชุมวันวิสาขโลก หรืออะไรซักอย่าง

สนธิ - นี้ไง ชู 2 นิ้วเห็นไหม

กมลพร - สั่ง 2 ชิ้น

สนธิ - นั่งอยู่ในคอสโก้ผมดูออกนะ และพระแบบนี้มีเยอะจะบอกให้รู้นะ และก็พระลักษณะคล้ายๆ กับแบบนี้ที่ใช้ศรัทธาอาศัยที่ผิดๆ ที่อเมริกาก็มีเยอะ วัดไทยในแคลิฟอร์อย่างเดียวมี 40 กว่าวัด และใน 40 กว่าวัดผมว่าน่าจะมีไม่เกิน 3-4 วัดที่เข้าได้ และกราบได้ นอกนั้นไม่ไหวเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัดไทยในแอลเอเป็นพระที่คิดไม่ดี เป็นพระที่ไม่เข้าใจเป็นพระเสื้อแดงคือ มีอยู่องค์หนึ่งที่ ดี.ซี. ชื่อหลวงตาชี พระองค์นี้เป็นปรปักษ์กับสถาบันพระกษัตริย์มาก แปลกมาก ธรรมดาแล้วพระจะต้องถือว่า กษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของศาสนา เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านสมณโคดมท่านก็เป็นศากยวงศ์ ถูกไม่ถูก ท่านเป็นเจ้าชายสิทธัตถะมาก่อน แล้วพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระพุทธศาสนา สร้างวัดวาอารามเต็มไปหมดเลย

จินดารัตน์ - ยิ่งใหญ่มาก

สนธิ - ยิ่งใหญ่มาก เพราะฉะนั้นแล้วกษัตริย์กับศาสนาพุทธไปคู่กัน และกษัตริยทุกองค์ที่นับถือพระพุทธศาสนาในอินเดีย หรือในศรีลังกาหรือในประเทศไทยล้วนแล้วแต่ เป็นคนซึ่งศึกษาพระพุทธศาสนามา องค์ดำ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ท่านก็ถือว่าศึกษาธรรมะอย่างสูง สมเด็จพระเจ้าตากสินก็เช่นกัน องค์ดำท่านก็มีพระมหาเถระซึ่งเป็นพระอาจารย์ท่านคือ ท่านมหาเถรคันฉ่อง องค์ดำก็จะเป็นคนสวดคาถาพาหุง ตามตำนานเวลาออกรบ ท่านก็จะสวดพาหุง สะหัสสะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง ค๎รีเมขะลังอุทิตะโฆระสะเสนะมารัง

เพราะฉะนั้นแล้วกษัตริย์กับพุทธศาสนาไปด้วยกัน ฉะนั้นพระองค์ไหนก็ตามในแผ่นดินไทย ถ้ามีปฏิปักษ์จิตใจคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อกษัตริย์ไทยแล้ว ถือว่าใช้ไม่ได้ เหมือนกับไอ้พระเสื้อแดงแถวเชียงใหม่ ที่ออกมา แล้วมาเชียร์นโยบายเสื้อแดง ก็ไอ้พวกเสื้อแดงมันเป็นพวกที่ไม่เอากษัตริย์ รวมทั้งไอ้พวกซ้ายทั้งหลาย เยอะแยะไปหมด เพราะฉะนั้นแล้วพระที่อเมริกาหลายคน พอเป็นพระเสื้อแดงผมก็ถามว่า แล้วคุณเป็นพระได้อย่างไร ผมไม่เคยไหว้พวกมันเลย ผมไปแอลเอไม่รู้กี่ครั้ง ผมไม่เคยแวะไปเลย วัดไทยในแอลเอ ไปแล้วไม่เป็นสิริมงคลแก่ตัวผม

จินดารัตน์ - คนไทยในแอลเอก็เอือมระอานะคะ ไม่รู้จะอย่างไร

สนธิ - ใช้ไม่ได้

จินดารัตน์ - ก็มีพระบางรูปที่พยายามที่จะสลัดตัวเองออกจากพุทธพาณิชย์ อย่างพระมิตซูโอะ คือหลายคนก็วิเคราะห์ว่า อย่างที่ท่านลาสิกขาแล้วก็กลับไปอยู่ญี่ปุ่น ไปตั้งเหมือนกับคอร์สสั้นๆ

สนธิ - ศูนย์ปฏิบัติธรรมเล็กๆ

จินดารัตน์ - เพื่อที่จะอบรมนั่งวิปัสสนากัน แอนก็สงสัยว่า จริงๆถ้าท่านอ้างว่าสุขภาพ เรื่องอะไรก็แล้วแต่ จริงๆเป็นพระก็อยู่ในสมณะก็สามารถดูแลรักษาตัวเองได้ ว่าทำไมจะต้องบินกลับไปถึงญี่ปุ่นคะ อยากให้คุณสนธิพูดถึงท่านนิดหนึ่ง

สนธิ - ท่านมิตซูโอะ ท่านเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกของหลวงปู่ชา ภัทโท ท่านมิตซูโอะเป็นคนไปสร้างวัดสาขา วัดหนองป่าพง ที่กาญจนบุรี ความเป็นคนญี่ปุ่น คนญี่ปุ่นเป็นคนขี้เกรงใจคน สังเกตสิ แอนไปญี่ปุ่นหลายครั้ง เก๋น่าจไะป ไปแล้วจะชอบ คนญี่ปุ่นเป็นคนสุภาพ ขี้เกรงใจคน มีอะไรถ้าไม่พอใจจะไม่พูด จะเงียบ

ฉะนั้นโดยนิสัยคนญี่ปุ่นแล้ว ซึ่งท่านเป็นคนอย่างนั้น แล้วยิ่งท่านเป็นพระนักปฏิบัติ ผมเข้าใจว่าท่านปฏิบัติได้สูงพอสมควร ฌาณท่านมีสูงพอสมควร แล้วนิสัยของคนญี่ปุ่น ฉะนั้นใครมาครอบงำท่าน ท่านอึดอัดใจท่านไม่พูด ผมเข้าใจเนื่องจากว่าท่านเทศน์ดี 2.ท่านปฏิบัติดี และท่านมีวัดปฏิบัติที่น่าเลื่อมใส ทำให้คนขึ้นท่านเยอะ มันก็เลยเกิดอาการว่าใช้ท่านเป็นเครื่องมือ มูลนิธิไม่รู้ใครก็ตาม ก็มาล้อมตัวท่าน จัดคิวให้ท่าน แล้วกำหนดว่าพรุ่งนี้ต้องไปที่นี่นะ ท่านไม่พอใจท่านก็คงจะไม่พูด เพราะพระจริตไม่เหมือนกัน อย่างหลวงตา ถ้ามาทำอย่างนี้ท่านด่าเอาเลยนะ มายุ่งกับเราทำไม ท่านจะพูดเลย มายุ่งกับเราทำไม แต่ว่าความเป็นคนญี่ปุ่นไง ผมเข้าใจว่าถึงจุดสุดท้ายแล้ว ท่านต้องสึก เพราะว่าถ้าท่านไม่สึกยังทำตัวเป็นพระอยู่ ท่านบินไปญี่ปุ่นเดี๋ยวไอ้พวกนี้ก็ตามไปที่ญี่ปุ่นต่อ ใช้ชื่อท่านทำมาหากิน แทนที่จัดตัดทิ้งไปเลย นี่คือธรรมขั้นสูงของท่าน ยอมสละไปเลย ตัดตอนทันที ทีนี้พวกที่อยู่มูลนิธิที่เคยหลอกใช้ท่านหรือมาทำมาหากินกับท่านก็เดินไม่เป็นเลยสิทีนี้ ไม่รู้จะหามิตซูโอะคนที่ไหนมา

จินดารัตน์ - แนะนำให้ไปหาหลวงปู่เณรคำ

กมลพร - น่าจะเหมาะกัน

สนธิ - พวกมูลนิธิน่าจะไปหาตาเณรคำ

กมลพร - แต่ตอนที่ท่านมิตซูโอะไปแล้วมีคนไปสัมภาษณ์ บทสัมภาษณ์สุดท้ายน่าสนใจนะ ท่านบอกว่า จริงๆ การเผยแผ่พระพุทธศาสนาไม่จำเป็นต้องอยู่ในผ้าเหลืองก็ได้ ทำได้เหมือนกัน

สนธิ - ท่านบรรลุแล้วไง อย่าลืมนะว่า คนที่เป็นปัจเจกพระพุทธเจ้า ฆราวาสก็เป็นได้นะ ไม่ได้พูดเล่น นี่เรื่องจริงเลย บรรลุด้วยตัวเองเลย

จินดารัตน์ - ท่านคงอยากจะให้สติพุทธศาสนิกชนด้วย ว่าอย่ายึด อย่าเกาะ

สนธิ - ผมพูดค้าง ว่าพระเหมือนตำรวจ คือพระมันมีตั้งแต่เจ้าคณะตำบล ขึ้นมาเจ้าคณะอำเภอ ขึ้นมาเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะภาค แล้วก็มาเป็นเจ้าคณะหนกลาง มาเป็นสมเด็จ องค์โน้นองค์นี้ อุปมาอุปมัยก็เหมือนกับสารวัตร ผู้กำกับ ผู้การ ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ แล้วในที่สุดก็จบลงด้วยการเป็นสมเด็จพระสังฆราชก็คือสำนักผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เหมือนกันเป๊ะเลยนะ ไม่ได้ต่างกันเลยนะ

จินดารัตน์ - แม้แต่การวิ่งเต้นใช่ไหมคะ

สนธิ - การวิ่งเต้นเหมือนกัน กลางค่ำกลางคืนนี่กุฏิ หรือวัดที่สมเด็จองค์ไหนก็ตามที่ดูแลภาคไหน ตอนค่ำจะมีพระมาเป็นแถวเลย จากบ้านนอก หิ้วชะลอม หิ้วของมาให้ บางองค์ก็เอาเงินสดมาถวาย บอกเอามาถวายเพื่อให้ท่านเอาไปทำบุญ พอเรื่องราวขึ้นไปถึงมหาเถรสมาคม รอการแต่งตั้ง อาตมาคิดว่าน่าจะเอาองค์นี้่เป็นนี่ .. คือวันนี้แม้กระทั่งพระก็ต้องเลือกไหว้ ผมอ่านปฏิปทาของหลวงปู่ชาแล้วผมก็ซึ้ง มีคนเอารถไปถวายท่าน ท่านประชุมสงฆ์เลยว่าควรจะรับดีไหม สรุปแล้วที่ประชุมสงฆ์ รวมทั้งท่านบอกไม่ควรรับ เพราะเขาบอกว่าควรเอารถให้ท่านเอาไว้ใช้ เพื่อท่านไปเทศน์ที่โน่นที่นี่ บอกไม่มีความจำเป็น เพราะการเป็นพระไม่จำเป็นต้องมีรถ และไม่จำเป็นต้องนั่งรถ ถ้าจะไปไหนมาไหน ถ้าญาติโยมมีจะมาบริการก็บริการไป แต่วัดไม่จำเป็นต้องมีรถ

จินดารัตน์ - รถประจำตำแหน่ง

สนธิ - รถประจำตำแหน่ง เหมือนคนเอารถไปถวายหลวงตา หลวงตาท่านมีรถอยู่คันหนึ่งแล้ว คือรถโฟล์กตู้ สีน้ำเงินเข้ม ท่านก็จะใช้รถคันนี้วิ่งไปวัดป่าสุธาวาส ที่ จ.สกลนคร ไปกราบหลวงปู่มั่น พิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่น หรือไม่ก็นั่งรถคันนี้ลงมาสวนแสงธรรม เพราะท่านไม่นั่งเครื่องบิน หรือไปวัดที่ตรงเขาใหญ่ วัดที่ท่านสร้าง แล้วให้พระอาจารย์อุทัยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ ท่านไม่นั่งเครื่องบิน แต่นอกจากนั้นแล้ว คนถวายรถท่านเป็นสิบคัน มาทีไรท่านยกให้โรงพยาบาลหมดเลย ท่านไม่เอา ไม่เหมือนตาเณรคำ มีรถกี่คัน มีทั้งมายบัค มีทั้งเบนซ์ มีเฮลิคอปเตอร์มันบ้าไปแล้ว นี่ไม่ใช่พระ ผมถึงกล้าพูด มันบอกเกิดชาติสุดท้าย ก็ใช่ เพราะจะต้องลงนรกแล้ว แล้วอยู่นานด้วยงานนี้

จินดารัตน์ - จะไม่ได้เกิดอีกนะ

สนธิ - ไม่ได้เกิดอีกนาน นี่ชาติสุดท้ายจริงๆ

จินดารัตน์ - เดี๋ยวคุณผู้ชมบอกว่า อะไรเนี่ย มานั่งวิพากษ์วิจารณ์พระ บาปกรรมหรือเปล่า

สนธิ - ไม่บาป

จินดารัตน์ - เพราะเราไม่ถือว่านี่เป็นพระ

สนธิ - นี่ผมไม่ได้ถือว่าเป็นพระเลยแม้แต่นิดเดียว

จินดารัตน์- แค่ใส่ผ้าเหลือง

สนธิ - แค่ใส่ผ้าเหลือง

จินดารัตน์ - มีพระอีกรูปหนึ่ง วัดไผ่ล้อมค่ะ

สนธิ - หลวงพี่ฝนเหรอ

จินดารัตน์ - รถโบราณ

กมลพร - สะสมเนาะ อนุรักษ์ให้ลูกหลานน่ะ

สนธิ - สะสมให้ลูกหลาน

จินดารัตน์ - คำถามไหมคะ

สนธิ - เอาเลยๆ ดีกว่า ไม่ต้องเบรคแล้ว คำถามให้จบๆ ไปเลย

กมลพร - คุณวิชาญ ต่อจากเมื่อกี้นี้เลย เรื่องหน้ากากขาว เขาบอกว่าอยากให้คุณสนธิช่วยวิเคราะห์กลุ่มหน้ากากขาวหน่อยว่าจะอยู่ยาว หรือกระแสจะตกเร็วมั้ย หลายคนก็ตั้งคำถามนี้เหมือนกันนะ

สนธิ - ผมคิดว่ากระแสคงไม่ตกหรอก เหตุผลก็เพราะว่าความชั่วรัฐบาลมันมีมาก ยิ่งมีมากเท่าไรคนยิ่งแสดงออกมาก แต่จะตกก็ตกในกรณีเดียว คือพรรคประชาธิปัตย์จะส่งตัวแทน อย่างเช่นหมอตุลย์ ไปแย่งชิงการนำ ถ้าอย่างนั้นกระแสตกแน่นอน

จินดารัตน์ - เริ่มนะคะ เริ่มเผยหน้า

สนธิ - ไม่รู้ ผมเล่าให้ฟัง คือผมไม่รู้หมอตุลย์จะไปหรือไม่ไป แต่ถ้ามีลักษณะนี้เกิดขึ้น มันไม่ถูกต้อง เพราะเป็นการรวมตัวของคนที่ไม่ต้องการ ทั้งๆ ที่ พูดอย่างตรงไปตรงมานะ ไม่น้อยเลยที่เป็นพันธมิตรฯ อยู่ในนั้น แต่เราก็เฉยๆ ผมคิดว่าเป็นการดีที่แสดงออกด้วยการแสดงสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง แต่ถ้าจะให้มันมีอิทธิพล จะเป็นกดดันทางสังคม ต้องให้เวลากับมันนิด แล้วต้องไม่ไปยุ่งกับมัน ให้มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แล้วค่อยๆ สร้าง ค่อยๆ เพิ่มทีละนิดๆๆ

จินดารัตน์ - อย่าไปจัดตั้ง

สนธิ - อย่าไปจัดตั้งให้เขา

กมลพร - แต่นี่เห็นล่าสุด เมื่อกี้เห็นเอสเอ็มเอสข่าวของเอเอสทีวี บอกว่าเซ็นทรัลเวิลด์ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่แล้ว

สนธิ - ก็ถ้าเขาไปรวมตัว จะไม่อนุญาตเขาได้ยังไงล่ะ อ๋อ แต่เซ็นทรัลเวิลด์เขาให้เฉพาะเสื้อแดง

จินดารัตน์ - ขนาดเขาเผานะ ยังให้ ก็ยังงงเหมือนกัน

กมลพร - นี่เขาไปเงียบๆ เขาไปซื้อของด้วย

จินดารัตน์ - มาเรื่องชีวิต สังคม เขาถามว่าทำไมคนจีนถึงไม่อยากได้ลูกสะใภ้คนไทยคะคุณสนธิ

กมลพร - คำถามจากทางบ้านจริงๆ นะคะ อันนี้ไม่เกี่ยวอะไร ...

จินดารัตน์ - ยืนยันนะคะมีในคำถาม

สนธิ - ผมคิดว่ามันเป็นบางกรณีเท่านั้นเอง มันไม่ใช่เหมือนกันทุกคนหรอก เพราะว่า ผมคิดว่าโดยพื้นฐานแล้ว ถ้าคุณมีลูกชาย แล้วลูกชายคุณมีสะใภ้เข้ามา จะเป็นคนอะไรก็ตาม โดยพื้นฐานแล้ว ถ้าคุณเห็นลูกคุณรักเมียคนนี้ รักสะใภ้คนนี้ ถ้าคุณรักลูก คุณก็ต้องรักเขาด้วย ถูกมั้ย นอกเสียจากว่า อยู่บ้านเดียวกัน ถ้าอยู่บ้านเดียวกันถ้าเป็นกงสี สะใภ้คนไทยจะปรับตัวยาก เพราะความที่คนไทยสังคม วัฒนธรรม และก็ประเพณีของคนไทยในบ้าน จะคนละแบบกับคนไทย คนจีนจะอยู่แบบกงสี แต่คนไทยจะอยู่แบบของใครของมันพอสมควร

จินดารัตน์ - มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า

สนธิ - ถ้าจะมีปัญหาก็มีปัญหาตรงนี้ ถ้าพูดถึงเรื่องไม่ชอบ ผมอธิบายไม่ได้ เพราะว่าเงื่อนไขมันเยอะเหลือเกิน

กมลพร - แต่ละบ้านไม่เหมือนกัน

สนธิ - แต่ละบ้านไม่เหมือนกัน เช่น สะใภ้คนไทยพูดภาษาจีนไม่ได้ และลูกชายตัวเองชอบพูดภาษาจีนกับพ่อแม่ เข้าใจไหม และในขณะเดียวกันลักษณะ ขนบธรรมเนียม ประเพณีของพ่อผัวแม่ผัวซึ่งเป็นคนจีน อาจจะโฉ่งฉ่างโวยวาย คนไทยคนนี้อาจจะมาจากครอบครัวซึ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดจา พูดเบาๆ และการกินข้าวบางทีเขาค่อยๆ กิน แต่บางที่อาจจะกินรวมโต๊ะยาว โต๊ะกลม นั่งก็คุ้ยข้าวกัน ที่บ้านอาจจะวางตะเกียบ นี่ก็ถนัดช้อนส้อม อะไรเข้าใจไหม เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และอีกอย่างนึงเขาไม่กินเผ็ด นี่อยากกินเผ็ด มันเยอะแยะอธิบายไม่ได้

จินดารัตน์ - ส้มตำปลาร้าแบบนี้กินไม่ได้

สนธิ - คำถามแบบนี้คือ อจินไตย

กมลพร - รู้ไปทำไม ไม่ต้องรู้ก็ได้

จินดารัตน์ - เรื่องธรรมะละกัน บอกช่วยเปิดโปงพวกไอ้โล้นห่มผ้าเหลืองทีเถอะครับ หากินกับความงมงายของชาวบ้าน สะสมทรัพย์สินมากมาย พูดไปแล้วนะคะ และอีกท่านบอกว่า อยากรู้ว่าในทางพุทธนักการเมืองที่โกงกินขายชาติ ทำบาปทำกรรมกับบ้านเมือง ผลกรรมจะเป็นอย่างไร

สนธิ - ผลกรรมคือ เกิดเป็นเปรต เปรตที่ปากเป็นรูเข็มเลย กินอะไรยากมาก กินอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

กมลพร - ข้าวเม็ดนึงยังสอดไม่ได้

สนธิ - ข้าวเม็ดนึงก็เข้าไม่ได้

จินดารัตน์ - อยู่อย่างหิวโหย

สนธิ - หิวโหยตลอด จนกระทั่งเวรกรรมจะหมด แต่เวรกรรมอีกนาน คือถ้าใครโกงกินแผ่นดินนะ กินทรัพย์ของแผ่นดิน โกงทรัพย์สินของแผ่นดินจะเป็นเปรตไปตลอดเลย ไอ้พวกนี้มันไม่รู้สึกหรอก เอาไว้รอมันตายเสียก่อน

จินดารัตน์ - แต่บางคนยังไม่ตายนี่เริ่มเห็นอาการแล้วนะคะ เพราะวันนี้ใครฉลองวันเกิดอะไรสักอย่าง พ่อบ้านคุณสนธิบอกว่า สงสัยจะกินอิฐหินปูนทรายเยอะ พองเชียว

กมลพร - ใส่กระโปรงไม่เลือกเลยเนอะ

จินดารัตน์ - พองเชียว ถ้าพี่โสอยู่เคืองนะ

สนธิ - ผมมีเรื่องเล่านิดนึงแอนก็รู้ เก๋ก็รู้ ท่านผู้ชมหลายท่านก็รู้ว่า ผมเป็นคนที่สวดมนต์วันละ 2 เวลา ผมสวดกลางวันและกลางคืน ประมาณชั่วโมงนึง ผมสวดคาถาพระปริตร และคาถาพระมหาปฏกฐาน ทั้งหมดก็พระปริตร 7 คาถา พระมหาปฏกฐานยาวมาก และกรวดน้ำ แผ่ส่วนกุศล อุทิศส่วนกุศลให้ ทุกวันนี้ผมอุทิศส่วนกุศลให้กับพวกคนที่ตายไปเมื่อ 7 ตุลาฯ รวมทั้ง พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม น้องโบว์ กมลวรรณ หมื่นหนู เจนจิต กลัดสาคร รวมไปหมด สารวัตรจ๊าบไปจนกระทั่งน้องโบว์ อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ทั้งหมดมี 12 คน 2 วันนี้เพิ่งมาเพิ่มอีก 2 คน

จินดารัตน์ - ใครคะ

สนธิ - คนนึงใครรู้ไหม เอกยุทธ อัญชันบุตร ผมเรียกเขามา ผมพูดกับเขาๆ คงได้ยิน บอกถึงว่าตอนคุณมีชีวิตอยู่ คุณเคยดุด่าว่าอะไรผม เขียนอะไรกระแหนะกระแหนผม ผมไม่ว่าอะไรคุณ ผมอโหสิกรรมให้คุณ คุณมารับบุญและกุศลไป คนที่ 2 ใครรู้ไหม คุณนงเยาว์ วรชัย

จินดารัตน์ - อ่อ พี่โอ๊ตแม่น้องแพร

สนธิ - เพิ่งจะอุทิศส่วนกุศลให้ประมาณสัก 2-3 วันนี่เอง เวลาเราสวดเราตั้งจิตอธิษฐานว่า มนต์ที่เราสวดอันนี้ บุญอันนี้ที่เรากำลังจะสวด มนต์เราขอเชิญมามีใครบ้าง เราเอ๋ยชื่อเลย เขาจะได้ยิน เขาจะมาทันที เขาจะมารอเรา และไม่มีอะไรที่จะดีเท่าการสวดมนต์อุทิศส่วนกุศลให้เขา การตักบาตรให้เขาได้ระดับหนึ่ง แต่การได้บุญจะทำให้เขาไปเกิดเร็วขึ้น การที่เขาได้ฟังธรรม นี่คือสิ่งที่ผมทำ

กมลพร - พอดีเลยค่ะ คุณวรศักดิ์บอกว่า อยากจะขอรบกวนบทสวดมนต์ฉบับคุณสนธิ ให้พิมพ์ลงเป็นพีดีเอฟให้ได้ดาวน์โหลดหน่อยได้ไหมครับ จำได้ช่วงนึงมีจำหน่าย

สนธิ - ขอมานาน จริงๆ แล้วมันก็คือที่มี ที่ในหนังสือสวดมนต์จะไม่มีจะมีอยู่ 2 บท บทนึงชื่อบทพระธารณปริตรนี่เป็น พระปริตรที่มาจากพม่านะครับ และพระสงฆ์องค์เจ้าเป็นพระสุปฏิปันโน บอกว่า สวดมนต์บทนี้แล้ว เทพเทวดาชอบ อีกบทคือ พระมหาปฏกฐานคือ บทสรุปของพระไตรปิฎกทั้งหมดมีทั้งหมด 24 บท นี่แหละทั้งพระปริตร ทั้งอาราธนาพ่อแม่ครูอาจารย์มาตลอดจน อัญเชิญเทวดา สะมันตา จักกะวาเฬสุ อัตราคัจฉันตุ เทวะตา รวมไปจนถึงสวดสัมพุทเธ อัญเชิญพระพุทธเจ้า นะโมการะอัฏฐะกะบูชาพระรัตนตรัย และอิติปิโส ภะคะวาไปเรื่อย เบ็ดเสร็จประมาณชั่วโมงนึง นี่อย่างคล่องแล้วนะ

จินดารัตน์ - ที่สวดทุกวันๆ ละ 2 รอบใช่ไหมคะ

สนธิ - คล่องครับ ผมค่อนข้างจะคล่องวันละ 2 รอบคล่อง และถ้าไม่คล่อง 2 ชั่วโมงครึ่งถึง 3 ชั่วโมง ต้องค่อยๆ ไปทีละบรรทัด เป็นอย่างนี้ประจำ เป็นสัจจะบารมีที่สร้างไว้ เพราะว่าได้ให้สัจจะไว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า จะสวดวันละ 2 เวลา แอนรู้ไหมผมไปเมืองนอกก็สวด ไม่เคยพลาด สมมุตินะเราไปเมืองนอกระหว่างนั่งเครื่องบินไปอเมริกา เวลาที่เป็นเวลากลางวันเมืองไทยก็สวดบนเครื่องบิน พอตกกลางคืนอยู่ที่ไหนเราก็สวด บนเครื่องบินยังสวดเลย

จินดารัตน์ - คือจริงๆ บนเครื่องบินเหมาะนะคะ แอนว่า ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์จะได้ไม่เบื่อ

กมลพร - ดีนะ

จินดารัตน์ - เรื่องสุขภาพนิดนึงนะคะ ข้อนึงละกันคุณอุ่นทิพย์บอกว่า อยากถามคุณสนธิจังเลยว่า เราควรกินข้าวยี่ห้อไหนดีที่ปลอดภัยที่สุด ทุกวันนี้เหมือนเป็นโรคจิตกลัวข้าวสารไปหมด กลัวเป็นมะเร็งค่ะ

สนธิ - ผมว่าข้าวกล้อง เพราะว่าการจำนำข้าวคงไม่ได้เอาข้าวกล้องไปจำนำ เพราะข้าวกล้องเป็นข้าวซึ่งขายได้ราคาแพงอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวกล้องหอมนิล

จินดารัตน์ - อร่อยมากนะคะ

สนธิ - อร่อยมาก คุ้มค่า มีสารอาหารที่รักษาสุขภาพได้ดี

จินดารัตน์ - จริงๆ ต้องมาซื้้อเอเอสทีวีช็อป รับรองปลอดภัย และมียางด้วย

กมลพร - อยากกินแล้วมียาง

จินดารัตน์ - กินข้าวนี้มียางนะคะ หมดเวลาแล้วคำถามเราจะรวบรวมไปตอบวันอาทิตย์สิ้นเดือน สิ้นเดือนนี้คุณสนธิจะตอบทุกๆ คำถาม เดี๋ยวน้องๆ เขาจะรวบรวมคำถามที่ค้างอยู่ รวมไปถึงผงถ่าน เขาถามผงถ่านซื้อที่ไหน

สนธิ - เอเอสทีวีช็อปมี

จินดารัตน์ - แต่เขาบอกหมดทุกทีเลยค่ะ เขาบอกมาหมดทุกทีตั้งแต่คุณสนธิพูด เขามาซื้อกันไป แอนยังซื้อไม่ได้

สนธิ - แต่ว่าวันนี้อย่าลืมนะเรื่องน้ำด่าง

จินดารัตน์ - รีบโทรมา

สนธิ - รีบโทรมาเลยนะครับ น้ำด่าง ล็อตนี้จะได้เร็ว เหลืออยู่แค่ 200 กว่าเครื่องเอง

จินดารัตน์ - ใช่ค่ะ 02-633-5353 วันนี้ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ/ครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น