xs
xsm
sm
md
lg

ศ.สมปองชี้ยังไม่สาย! ไม่รับศาลโลก ชุมนุมป้องพระวิหารวันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาตินัดชุมนุมที่ลานพระรูป ร.5 วันนี้ คัดค้านการพิจารณาคดีเขาพระวิหารของศาลโลก ก่อนไปยื่นหนังสือถึงผู้นำเหล่าทัพและศาลฎีกา "สมปอง" ชี้ยังไม่สายที่ไทยจะประกาศไม่ยอมรับคำพิพากษาศาลโลก ที่กัมพูชายื่นให้ตีความ "อภิสิทธิ์" จี้ "ปึ้ง" ประท้วงรัฐบาลเขมร ที่มากล่าวหาว่าไทยรุกราน เลิกเอาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มาเป็นข้ออ้าง เพราะจะทำให้ไทยเสียเปรียบในชั้นศาล "จำลอง" ย้ำรัฐบาลไทยต้องไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก

วานนี้ ( 20 ม.ค.) ที่สนามม้านางเลิ้ง องค์การพิทักษ์สยาม จัดงานเลี้ยงด้วยรักและผูกพัน โดยมีการเปิดตัวคณะกรรมการองค์การพิทักษ์สยาม ที่มี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เป็นรักษาการประธานอพส . หลังจากนั้นเป็นการบรรยายพิเศษของ ศ.สมปอง สุจริตกุล อดีตทนายความผู้ประสานงานคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2502-2505 ในหัวข้อ วิกฤติพรมแดนเขาพระวิหาร

โดย ศ.สมปอง กล่าวว่า ศาลโลกไม่มีอำนาจพิพากษาคดีอะไรโดยบังคับได้ นอกเสียจากไปรับเขตอำนาจของศาลโลก หรือลงนามในสนธิสัญญาทวิภาคี การที่คดีเขาพระวิหารไปสู่การพิจารณาของศาลโลกในอดีต เมื่อ 50 ปีก่อน เกิดจากความผิดพลาดของหลายฝ่าย

ขณะที่การเตรียมการต่อสู้ ประเทศไทยก็ได้ตั้งคณะกรรมการมาสู้คดีหลายฝ่าย และในขณะนั้นตนก็เสนอให้ตัดฟ้องตั้งแต่ต้น โดยให้เหตุผลว่า ศาลโลกไม่มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องดังกล่าว ซึ่งมติครม.ก็เห็นชอบ ทำให้สามารถยื้อเวลาสู้คดีต่อไปอีก 9 เดือน จึงมีคำพิพากษาออกมา ซึ่งเหมือนเป็นการเอากฎหมายมาปิดปากประเทศไทยเพียงประเทศเดียว เพราะศาลโลกขณะนั้น ไม่ได้มีความเป็นกลางแต่อย่างใด ประเทศไทยจึงขอสงวนข้อโต้แย้งเอาไว้ และรัฐบาลออกแถลงการณ์ว่า ศาลโลกวินิจฉัยผิด

ส่วนการเรียกร้องให้ประเทศไทยถอนตัวจากสมาชิกศาลโลก และสหประชาชาตินั้น มองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรอย่างยิ่ง และขณะนี้ก็ยังถือว่าไม่สายเกินไปที่จะขอคัดค้านการวินิจฉัย เพราะการยื่นขอศาลตีความคำพิพากษาศาลโลก เมื่อ 50 ปีที่แล้ว แต่เชื่อว่าไม่เป็นผล เพราะการยื่นตีความควรกระทำภายใน 1-2 ปี หลังคำตัดสิน ส่วนคำวินิจฉัยที่ออกมาจะทำให้ประเทศเสียประโยชน์หรือไม่ เชื่อว่าศาลจะไม่ทำเช่นนั้นแน่นอน

ศ.สมปอง ยังได้ตำหนิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ ที่ประเมินล่วงหน้าว่า ถ้าไทยไม่แพ้ ก็เสมอตัว เพราะการกระทำเช่นนั้นเท่ากับการหมิ่นประมาทศาลโลกเช่นกัน

** จี้"ปึ้ง"ประท้วงเขมรที่หาว่าไทยรุกราน

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของภาคประชาชนที่คัดค้านการตัดสินคดีปราสาทเขาพระวิหารของศาลโลก ที่จะมีขึ้นในวันนี้ (21 ม.ค.) ว่า เป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะคนที่มาก็มาด้วยความห่วงใยในเรื่องของดินแดน จึงขอให้ทุกฝ่ายรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่อยากให้เกิดความแตกสามัคคี ขอให้ทุกคนมองว่าคนที่ทำงานเพื่อปกป้องอธิปไตย หรือรักษาดินแดนมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ความเห็นอาจแตกต่างกันบ้าง แต่ตัวรัฐบาลต้องแสดงออกถึงความมุ่งมั่น ความเข้มแข็งในการทำหน้าทีด่้วย เพราะเสียงสะท้อนจากผลสำรวจความเห็นประชาชน ของนิด้าโพล ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ว่า ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล เพราะจากท่าทีของ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ รวมถึงรัฐบาลในการตอบกระทู้ถาม ที่มีจุดยืนไม่ตอบโต้กัมพูชา ที่กล่าวหาว่าไทยรุกรานอธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ตนเห็นว่า ปล่อยผ่านไปไม่ได้ ยังยืนยันว่า รัฐบาลไทยต้องมีหนังสือตอบโต้ไป เพราะการรักษาสิทธิประเทศไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่เป็นการแสดงจุดยืน เพื่อรักษาสิทธิที่สามารถทำได้ โดยต้องคิดว่ากัมพูชาได้แสดงท่าทีที่กระทบกระเทือนมาถึงไทย เราสามารถรักษาความสัมพันธ์ที่ดี ควบคู่ไปกับการรักษาสิทธิและอธิปไตยของไทยด้วยต้องอยู่บนความพอดี

"การรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ ไม่จำเป็นต้องเลือกระหว่างความสัมพันธ์ที่ดีกับการรักษาอธิปไตยของชาติ เพราะไม่ได้มีความขัดแย้งกัน แต่ความสัมพันธ์ที่ดีต้องอยู่บนพื้นฐานการให้เกียรติ เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน ถ้าเห็นไม่ตรงกันก็แสดงจุดยืนได้ด้วยวิธีสันติ เราไม่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลไปใช้กำลัง แต่บอกว่ารัฐบาลต้องเข้มแข็งในการแสดงจุดยืน โดยเฉพาะในระหว่างที่คดีอยู่ในการพิจารณาของศาลโลก จะต้องไม่แสดงออกในสิ่งที่จะกระทบกระเทือนต่อคำวินิจฉัยของศาลโลก ผมคิดว่าการที่รัฐบาลยกเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีกับกัมพูชาขึ้นมานั้น เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น เพราะในรัฐบาลที่แล้ว แม้จะมีการรักษาอธิปไตยอย่างเข้มแข็ง แต่การค้าแนวชายแดน ก็เพิ่มพูนขึ้นมากในระหว่างไทย-กัมพูชา รวมถึงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความช่วยเหลือต่างๆ ไม่หยุดชะงัก แต่เดินหน้าต่อในทุกโครงการ มีแต่ประเด็นที่เราต้องตอบโต้เมื่อเขาใช้กำลังโจมตีไทยเท่านั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวด้วยว่า จนถึงขณะนี้คิดว่า รมว.ต่างประเทศ ยังขาดความเข้าใจ และไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเดินหน้าคดี ว่าจะทำอย่างไร ตนจึงเรียกร้องว่า ต้องเอาเรื่องผลประโยชน์ทางการเมือง ผลประโยชน์ทางธุรกิจ ออกไปก่อน และเอาเรื่องผลประโยชน์ของชาติมาเป็นตัวตั้ง ถ้าทำแบบนี้ เชื่อว่าคนทุกกลุ่มจะสนับสนุนรัฐบาลในการต่อสู้เรื่องนี้ แต่ถ้าเป้าหมายไม่มีความชัดเจน ตนมีความเป็นห่วงมากว่าจะทำให้ไทยเสียเปรียบมากขึ้น เพราะการไม่แสดงจุดยืนเช่น ไม่ตอบโต้ประท้วงคำพูดที่กล่าวหาว่าไทยรุกรานดินแดนของกัมพูชา ตนยืนยันว่ารัฐบาลต้องรีบทำโดยเร็ว ไม่อย่างนั้นไทยจะเสียเปรียบ และไม่มีเหตุผลที่ไทยจะไม่ทำเรื่องนี้ด้วย เพราะทำแล้วไม่ได้กระทบความสัมพันธ์อะไร แต่เป็นการแสดงจุดยืนในการรักษาสิทธิของประเทศ โดยสามารถทำเป็นหนังสือไปถึงกัมพูชา ให้เป็นหลักฐานได้ แต่ถ้าท่าทียังเป็นแบบนี้ตนก็เป็นห่วงมาก เพราะทั้งท่าทีของ รมว.ต่างประเทศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พยายามที่จะเอาเงื่อนไขทางการเมืองเข้ามามากกว่าที่จะสนใจในเรื่องการต่อสู้เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ

**ตร.จัดกำลังดูแลกลุ่มผู้ชุมนุม

ด้านพล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงมาตรการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน ที่จะมีการนัดรวมตัวชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ในวันนี้ (21ม.ค.) ว่า ได้ประสานงานกับแกนนำคนไทยหัวใจรักชาติ รักษาแผ่นดิน ที่จะมีการรวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อแสดงเจตจำนงในการต่อต้านการพิจารณาคดีเขาพระวิหารของศาลโลก ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปพบผู้นำเหล่าทัพ และไปที่ศาลฎีกา เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านคำสั่งศาลโลก โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมกว่า 1,000 คน ซึ่งได้จัดกำลังตำรวจจราจรเป็นหลัก แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ ต้องประเมินสถานการณ์ในวันนี้ก่อน และคาดว่าการชุมนุมจะไม่ยืดเยื้อ และไม่มีเหตุรุนแรง

**"ปึ้ง"ยันไม่รับอำนาจศาลโลกไม่ได้

ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ จะชุมนุมในวันนี้ว่า ทราบข่าวว่าจะไปยื่นหนังสือที่กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพบก ซึ่งเราก็จะรับฟัง ว่าเขาต้องการอะไร หากสิ่งที่เขาเรียกร้องมา แล้วเรารับได้ ก็จะดำเนินการให้ หากเรียกร้องในสิ่งที่เขาคิดเอาเอง ก็จะต้องมีการชี้แจงกันต่อไป

ส่วนการชุมนุมถ้าหากเป็นไปด้วยความสงบ ก็คงไม่มีปัญหาอะไร ถ้าหากชุมนุมแล้วทำให้คนเดือดร้อน ก็ต้องมีการดำเนินการตามกรอบกฎหมาย

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ผู้ชุมนุมเคยเรียกร้องในอดีต จนทำให้เกิดการปะทะ และเกิดความวุ่นวายมาแล้วครั้งหนึ่ง คงไม่ใช่เหตุผลที่รัฐบาลจะต้องดำเนินตามข้อเรียกร้องนี้ เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายแดน และในที่สุดก็ไม่ได้แก้ไขอะไรเลย

ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้รัฐบาลไม่ยอมรับอำนาจของศาลโลกนั้น คงทำไม่ได้ เพราะจะทำให้เกิดการว่าความกันฝ่ายเดียว ยิ่งทำให้เราเสียหายมากกว่า สิ่งต่างๆเหล่านนี้เราก็ไม่ได้รับอำนาจจากศาลอยู่แล้ว การต่อสู้คดีในชั้นศาลเพื่อปกป้องสิ่งที่อีกฝ่ายเรียกร้อง หากศาลมีคำตัดสินออกมาแล้ว โดยเราไม่ดำเนินการอะไรเลย เราก็จะเจอกับสิ่งที่สหประชาชาติ ทำกับเรา อาจจะมีการกดดันทางเศรษฐกิจ และการค้า หรือหากมีการสู้รบกันเกิดขึ้น กองกำลังของสหประชาชาติ ก็จะเข้ามา เพื่อทำการห้ามปราม หรืออยู่ระหว่างกลาง ดังนั้นก็จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ซึ่งในปัจจุบันเราได้ใช้ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน ทุกครั้งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายรัฐมนตรี พบกับ สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา ก็มาหารือพูดคุยกัน

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมีเวทีทำความเข้าใจระหว่างผู้ชุมนุมกับรัฐบาล หรือไม่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำสารคดีออกมาชี้แจง อีกทั้งมีการพูดคุยกับนักวิชาการตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่จะจัดเสวนาเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้จะใช้เวทีของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อชี้แจงไปยังประชาชนอีกทาง

อย่างไรก็ตาม เราจะเดินหน้าต่อไปอีก 8 เดือน เพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย โดยไม่จำเป็นต้องชี้แจงให้กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เพราะบางส่วนของกลุ่มพันธมิตรฯ ก็มีการติดตามข่าวและสนใจเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

***"จำลอง" ย้ำไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก

วานนี้ (20 ม.ค.) พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น จัดเสวนาปัญหาบ้านเมืองภายใต้หัวข้อ "พลังงานน้ำมัน ก๊าซแพง? เขาพระวิหาร ดินแดนไทย?" มีพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำพธม. ดร.ณรงค์ โชควัฒนา นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพธม.เป็นวิทยากร โดยมีพธม.จากอ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงเข้าร่วมเวทีเสวนาแน่นห้องประชุมโนนเมือง โรงแรมชีวินพาเลซ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

พล.ต.จำลอง กล่าวต้อนรับพี่น้องพธม.ว่า เป็นภารกิจของเราที่ต้องร่วมกันเดินหน้าสร้างภูมิความรู้ให้กับพี่น้องทุกภาคส่วนทั่วประเทศ เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศไทยให้ปลอดนักการการเมืองชั่ว กรณีปํญหาเขาพระวิหารนั้น เราได้ยื่นหนังสือต่อรัฐบาลไปแล้วว่า ต้องไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก หากยอมรับเมื่อไหร่ก็สุ่มเสี่ยงที่จะเสียดินแดนทันที การออกมาเคลื่อนไหวปกป้องดินแดนของพธม.นั้น ถูกรัฐบาลและคนของรัฐบาลโจมตี กล่าวหาว่าเป็นการคลั่งชาติ พยายามโยงเรื่องนี้ไปเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งไม่จริง เพราะเราไม่มีพรรคการเมือง และไม่สังกัดพรรคการเมืองใด

"อยากให้พี่น้องพันธมิตรเตรียมตัวให้พร้อม เรื่องเขาพระวิหารเป็นเรื่องใหญ่ หน้าที่ของคนไทยต้องปกป้อง แม้แต่ตารางนิ้วเดียวก็ยอมเสียไม่ได้ ใครจะว่าเราคลั่งชาติก็ยอม ดีกว่าพวกขายชาติ ในโลกนี้ไม่มีพลเมืองของประเทศใดที่จะยอมเสียแผ่นดินของตนเองง่ายๆ แม้แต่ตารางนิ้วเดียวก็ไม่ยอม มีแต่นักการเมืองไทยเท่านั้น ที่เห็นเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็ก"

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า น่าดีใจมากที่มาจัดเวทีที่ อ.ชุมแพ เพราะวันนี้มีพี่น้องพันธมิตรคนรักชาติมาร่วมรับฟังเสวนากันจนแน่นห้อง พวกเราไม่เคยทิ้งกัน สำคัญที่สุดพวกเราต้องนำข้อมูลที่ได้ในวันนี้ไปขยายผล บอกเล่าให้คนรอบข้าง ลูกหลาน และเพื่อนบ้านฟังต่อกันไปให้มากที่สุด เพื่อจะได้ร่วมกันผนึกพลังปฏิรูปประเทศให้สัมฤทธิผล

ด้าน ดร.ณรงค์ โชควัฒนา นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า ประเทศไทยทุกภูมิภาคล้วนมีแหล่งพลังงานน้ำมันทั้งนั้น และมีจำนวนมาก ค้นพบตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้ว แต่นักการเมืองไทยไม่เคยบอกความจริงกับประชาชน หลอกคนไทยมาตลอดว่าต้องนำเข้าน้ำมันมาจากต่างประเทศ จะมีก็แค่บ่อก๊าซในอ่าวไทยเท่านั้น ภาคอีสานมีพื้นที่กว่า 170,000 ตารางกิโลเมตร ครึ่งหนึ่งเป็นบ่อน้ำมัน หลายจุดได้ขุดเจาะไปแล้ว และมีอีกไม่น้อยที่กำลังเจาะสำรวจ

"ไทยถือได้ว่าเป็นประเทศส่งออกน้ำมันอันดับที่ 33 ของโลก แต่ละปีกว่า 3 แสนล้านบาร์เรล ส่งออกน้ำมันมากกว่าส่งออกข้าวและยางพาราด้วยซ้ำ แต่คนไทยไม่ค่อยรู้กัน เพราะไม่มีนักการเมืองบอกความจริง เนื่องจากกลัวจะขึ้นราคาน้ำมันไม่ได้ จะเอาเปรียบคนไทยในชาติไม่ได้ มีอย่างที่ไหนในโลกที่เขาเอารัฐวิสาหกิจหรือธุรกิจผูกขาดไปเข้าตลาดหลักทรัพย์ ถ้าเป็นประเทศอื่นคนของเขาไม่ยอม แต่นี่เมืองไทย คนไทยอ่อนด้อยปัญญา ถูกครอบงำจากนักการเมือง พวกนักการเมืองนายทุนจึงหลอกได้ง่ายๆ บริษัทใดก็ตามที่เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ต้องทำกำไรสูงสุดเข้าไว้ เพื่อจะได้ปันผลกันมากๆ ซึ่งมีแต่นักการเมืองและนายทุนเท่านั้นที่ได้ประโยชน์"

ดร.ณรงค์ ย้ำในตอนท้ายว่า คนไทยถูกโกงแต่ละปีนับแสนล้านบาท น้ำมันขึ้นราคาไม่หยุด แต่ทุกคนเงียบ นักการเมืองก็ไม่ต้องไปคาดหวังว่าจะช่วยปกป้องประโยชน์ของประชาชน ตอนนี้พวกเราซื้อน้ำมันเกือบจะ 2 ลิตร 100 บาทแล้ว บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เองก็กว้านซื้อนักการเมืองไปทุกพรรค เพื่อแลกกับผลประโยชน์ด้านพลังงานของชาติ

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้ยังวิทยากรอีกหลายคน ทั้งนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายพิภพ ธงชัย นายชัชวาล ชาติสุทธิชัย พ.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ และนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวที ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีปัญหาบ้านเมือง น้ำมันและก๊าซแพง กรณีเขาพระวิหารซึ่งเป็นประเด็นปัญหาใหญ่ของชาติ โดยได้รับความสนใจจากพี่น้องพันธมิตรที่เข้าร่วมเวทีเสวนาเป็นอย่างมาก.
กำลังโหลดความคิดเห็น