xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ"จวกเสื้อแดงบัดซบเบี้ยวค่าไฟ-ศธ.เฮงซวยเห่ออาเซียน-เชื่อจำนำข้าวเจ๊ง 3.5 แสนล้าน "บุญทรง"ติดคุกแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"สนธิ"จวกห้างเสื้อแดงเบี้ยวค่าไฟฟ้า 15 ล้าน บัดซบชาติชั่ว เลื่อนเปิดเทอมรับอาเซียน สะท้อน ศธ.เฮงซวย คิดไม่เป็น แค่อยากเสนอหน้า ฟันธงจำนำข้าวทำ"บุญทรง"ติดคุกแน่นอน ขอสาบแช่งผู้เกี่ยวข้องทุกคน ระบุหากตรวจสต็อกข้าวแบบละเอียดข้าวล่องหนเสียหายจำนวนมาก ส่งผลขาดทุนสูงถึง 3.5 แสนล้าน ชี้กรณี"เณรคำ"สัญญาณความเสื่อมวงการสงฆ์ เชื่อหน้ากากขาวสร้างความเปลี่ยนแปลงได้แต่ต้องใช้เวลา และอย่าให้นักการเมืองเข้าแทรก



 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง รายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ"  

วันที่ 21 มิ.ย. นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้กล่าวในรายการ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ทางเอเอสทีวี ถึงมาตรการ QE (Quantitative Easing) ว่า เกิดจากการที่เศรษฐกิจเริ่มล่มสลาย ธนาคารกลางอเมริกาเลยลดดอกเบี้ยเหลือ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งติดเพดานข้างล่างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีการจับจ่ายใช้สอย ธนาคารกลางอเมริกาก็คิด QE ขึ้นมา โดยเอาแบงก์ชาติมาซื้อสินทรัพย์ของแบงก์อื่นๆ อย่างเช่น ซื้อพันธบัตรกลับเข้าไปในแบงก์ชาติ ซื้อตราสารหนี้ ซื้อสัญญาในการเช่าซื้อบ้าน ทีนี้อเมริกามันพิมพ์แบงค์เอง วิธีการคือว่าธนาคารกลางใช้คอมพิวเตอร์กดเปลี่ยนเพิ่มเครดิตตัวมันเองทันทีเลย และเอาเงินก้อนนี้ซึ่งได้เครดิตเพิ่มมา เอาไปซื้อตราสารหนี้เข้ามา สิ่งที่เกิดขึ้นคือว่าดอกเบี้ยหนี้มันลดลง หมายความว่าพันธบัตรอันใหม่ที่ธนาคารจะออกมา หลังจากอันเก่ามันหมดอายุแล้ว และถูกซื้อไปแล้ว แทนที่มันจะต้องเสียค่าดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ มันจะเสียแค่ 1 เปอร์เซ็นต์ มันถูกลง เท่ากับลดต้นทุนแบงก์ลงมา ทำให้แบงก์มีกำไรมากขึ้น ในขณะเดียวกันมันซื้อตราสารอสังหาริมทรัพย์เข้ามา แล้วขายพอร์ตทั้งพอร์ตให้กับธนาคารกลาง ทำให้ราคาบ้านเริ่มสูงขึ้น แปลว่ามีเงินเข้ามาในท้องตลาดมากขึ้น

ทีนี้พอเงินเข้าในท้องตลาดมหาศาลมันเอาเงินไปซื้อทรัพย์สินโดยผ่านตลาดหุ้น นั่นคือที่มาของคิวอี ตลาดหุ้นมันเข้ามายังไง ที่อเมริกาตลาดหุ้นมันเริ่มอิ่มตัว เลยเข้ามาในประเทศที่ฉลาดในเรื่องความโง่ๆ อย่างเช่น ประเทศไทย เวียดนาม เพราะฉะนั้นเงินที่มันได้มาถูกๆ ดอกเบี้ยแทบจะไม่ต้องเสียเลย ก็เข้ามาเมืองไทย นี่คือเหตุผลที่เงินบาทแข็งเอา แข็งเอา

สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือว่า ฝรั่งมันเข้ามาในอัตราเงินบาท ดอลลาร์ละ 28 มันซื้อหุ้น ได้กำไรจากหุ้น กำไรเด้งที่หนึ่ง พอส่งเงินออก ก็กำไรอีกหนึ่งเด้ง เพราะฉะนั้นฝรั่งกำไรสองเด้ง เงินพวกฝรั่งได้มาคือเงินคิวอี ตอนนี้ตลาดหุ้นที่มันตกเพราะว่า มันตกกันทั่วโลก เหตุผลเพราะว่า ฝรั่งมันมองว่า เบอร์นานกีมันบอกว่า คิวอีที่มันจะมีอยู่มันอาจจะพิจารณาตอนสิ้นปีนี้ ขอดูอีกทีนึง ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้น มันอาจจะปรับคิวอี แปลว่าอาจจะเลิกคิวอี เท่านั้นเองตลาดหุ้นทั่วโลกตกกระจายหมดเลย โบรกเกอร์เมืองไทยชอบพูดว่าที่หุ้นร่วงเพราะว่าฝรั่งส่งเงินกลับ ฝรั่งมันไม่ได้ส่งเงินกลับหรอกแต่ขายทำกำไร เพราะว่าเมืองไทยคนโง่มันเยอะเข้าไปเล่นกับมัน แค่เศษเงินจะไปสู้กับพวกเงินก้อนได้อย่างไร พวกแมงเม่าก็คือคนโง่ที่ไปรองรับหลักจิตวิทยาของการปั่นหุ้นของพวกมัน เพราะฉะนั้นแล้วเวลามันจนขึ้นมามันก็ออกมาตรการคิวอีออกมา เพื่อให้พวกมันเอาเงินถูกๆ ออกไปเล่นข้างนอก คนข้างนอกไม่รู้เห็นเงินมา ดีอย่างโน้นอย่างนี้ อีกหน่อยอสังหาริมทรัพย์ ราคาบ้าน คอนโด ที่ดิน จะตก ตอนนี้ใครจะซื้้ออย่าเพิ่งซื้อ ตนถึงบอกว่าวิธีการที่ดีที่สุดของตลาดหุ้นคืออย่าไปเล่นมัน

นายสนธิ กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับคนเล่นทอง มีอยู่พักหนึ่งตนเป็นคนแนะนำให้ซื้อทอง บอกราคาจะขึ้นแล้วก็ขึ้นจริง ซึ่งถ้ารู้จักระงับความโลภ กำไรนิดหน่อยก็ขายได้แล้ว ก็จะไม่เสีย แล้วพวกที่เจ๊งส่วนใหญ่เล่นทองกระดาษ ส่วนพวกที่ซื้อเป็นทองแท่งเก็บไว้ไม่เป็นไรเพราะมีของอยู่ในมือ

นายสนธิ กล่าวถึงโครงการจำนำข้าวว่า คนที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้จริงๆ คือชาวนาฐานะร่ำรวย ชาวนาจนมีอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ พวกนี้เขาไม่ได้อะไรเลย เพราะชาวนารวยมีที่ดิน 100 ไร่ขึ้นไป ข้าวเปลือกตันหนึ่งสีข้าวออกมาได้ประมาณ 610 กิโลกรัม 61 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วชาวนาที่มีไร่นาอยู่ประมาณ 100 กว่าไร่ รวยทุกคน แล้วคนพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีโรงสีด้วย

นายสนธิ กล่าวอีกว่า พอ นางสาวสุภา ปิยะจิตติ (รองปลัดกระทรวงการคลัง) ปิดบัญชีสรุปว่าขาดทุน 2.6 แสนล้านบาท นี้ก็โกรธกัน สั่งย้าย เพราะนางสาวสุภา ดูแลกรมบัญชีกลาง จะต้องดูเงินกู้อีก 3.5 แสนล้าน และอีก 2 ล้านล้าน ซึ่งนางสาวสุภาจะไม่มีวันเซ็น เพราะผิดกฎหมาย ป.ป.ช. ที่บอกว่าจะต้องมีราคากลาง แต่นี่ไม่มีราคากลางเลย เขาไม่เซ็นเพราะจะติดคุก ทีนี้พอย้ายไปแล้ว นายกิตติรัตน์ เริ่มคิดได้ว่าในอนาคตถ้าผิดพลาด มีอะไรเปลี่ยนแปลงติดตารางแน่ ก็เริ่มกลัวเลยดึงนางสาวสุภากลับมาเป็นประธานใหม่

ในอนาคตถ้ามีอะไรผิดพลาด นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) ติดคุกหัวโตแน่นอน ฟันธงไว้เลย รวมทั้งปลัดกระทรวงพาณิชย์และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์อีกหลายคน แล้วตนก็แช่งให้ติดตารางกันทั้งกระทรวงเลย

การที่ นางสาวสุภา เขาคิดจำนวนขาดทุนแค่ 2.6 แสนล้าน เพราะยังเกรงใจ แต่ถ้าเราตรวจสต๊อกทั่วประเทศจริงๆไม่ใช่ตรวจสุ่ม และเอาตัวเลขมาบวกลบคูณหาร จะเห็นว่าข้าวหายไปจากสต๊อกไม่น้อย บวกกับข้าวที่แอบขายไปในราคาขาดทุน ที่ให้พรรคพวกตัวเองเอาไปก็เยอะ และข้าวที่มอดกินไม่ต่ำกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ แล้วข้าวถ้าทิ้งไว้เกิน 6 เดือน ข้าวเสียประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ถ้าเอา 3 ตัวนี้มาบวกกับที่ขาดทุนเห็นชัดๆ อยู่แล้วต้องอยู่ที่ประมาณ 3.5 แสนล้าน ไม่ใช่แค่ 2.6 แสนล้าน

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า การลดราคาจำนำมาเป็น 1.2 หมื่นบาท ด้วยเหตุผลว่าเพื่อรักษาวินัยการคลัง บัดซบไหม แสดงว่าตอน 1.5 หมื่นบาทไม่ต้องการรักษาวินัยการคลังหรือ นอกจากนี้ไม่เคยมีใครตั้งคำถามเลยว่า ทำไมต้นทุนการผลิตข้าวของชาวนาไทยถึงสูงกว่าเวียดนาม อีกทั้งยังถูกโรงสีเลวๆเอาเปรียบ จนในที่สุดก็ถูกยึดที่นาเพราะเป็นหนี้ ฉะนั้นรัฐบาลควรจัดให้มีสหกรณ์ผู้ผลิตของชาวนาขึ้นมา เพื่อให้กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมาก ผลิตข้าวได้เอาไปจำนำกับสหกรณ์นี้ในราคาท้องตลาด และต้องช่วยให้ชาวนาเลิกใช้ปุ๋ยเคมี แจกปุ๋ยออร์แกนิคให้ฟรีเลยเพื่อลดต้นทุน แล้วมีก็เพิ่มกองทุนหมู่บ้านเป็นกองทุนละ 3 ล้านบาท อีก 2 ล้านที่คือเงินที่เอามาลงกันทุกหมู่บ้านในหนึ่งตำบล หรือในหนึ่งอำเภอ เพื่อสร้างสหกรณ์ผู้ผลิต แล้วชาวนา ชาวไร่แถวนั้นเป็นสมาชิกหมดเลย สหกรณ์ผู้ผลิตก็จะมี 1.โรงสี 2.ไซโลเก็บข้าวของตัวเอง และ 3. มีเงินทุนเพื่อที่จะกักข้าวที่ยังไม่ขาย เพื่อให้ราคาขึ้น แล้วค่อยขายออก ขายข้าวได้ก็เอามาใช้หนี้ใช้สิน รัฐบาลต้องทำอย่างนี้ แต่ที่ไม่ทำ เพราะรัฐบาลมันอยู่เบื้องหลังพ่อค้าคนกลาง ซึ่งเป็นฐานเสียงทั้งนั้น

นายสนธิ ได้กล่าวถึงการชุมนุมของหน้ากากขาวว่า มันจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงไม่ได้ทันที แต่ว่าถ้าทำไปเรื่อยๆ ความไม่พอใจมันจะแสดงออกมากขึ้น แล้วปริมาณคนก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ต้องไม่มีอะไรมาขัดขวาง ไม่มีการกลั่นแกล้ง ไม่มีการใช้ความรุนแรง ไม่มีมือที่สาม คือบางทีหน้ากากขาวไม่จำเป็นต้องชุมนุมก็ได้ นั่งในที่ทำงานเอาหน้ากากขาวใส่ ก็เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งได้ ตนว่าเป็นการแสดงออกที่ใช้ได้ เพียงแต่ว่าจะต้องใช้เวลานานพอสมควร และที่น่ากลัวที่สุดก็คือพวกชุบมือเปิบ คิดว่าหน้ากากขาวเป็นมวลชนของตัวเอง พวกนี้จะทำให้ขบวนการหน้ากากขาวเสื่อมลงได้ เพราะตนเชื่อว่าหน้ากากขาวที่ออกมาเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องการนักการเมือง

นายสนธิ ยังกล่าวถึงพฤติกรรมของ หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ว่า เขาบอกว่าจะไม่เกิดอีกแล้ว ตนเชื่อ เพราะว่าคงต้องลงนรกอยู่นานเลย เพราะพระถ้าจะไม่เกิดจริงๆจะสมถะ สำรวมมาก ต้องละเลยพวกกิเลส แต่นี่กิเลสเต็มตัว แล้วมีน้องคนหนึ่งซึ่งอยู่วงการรถยนต์เล่ามาว่า เณรคำ ซื้อมายบัคไว้คันหนึ่ง มายบัคคือรถเบนซ์รุ่นพิเศษ คันละ 32 ล้านบาท

ถือเป็นพระลวงโลก เป็นคนที่อาศัยผ้าเหลืองทำมาหากิน และนี้คือสัญลักษณ์และสัญญาณของความเสื่อมของพระพุทธศาสนา พระวันนี้ในเมืองไทยส่วนใหญ่ทำตัวเหมือนตำรวจ คือวิ่งเข้าหาลาภยศ แล้วไม่รู้ว่าพระเมืองไทยต้องมีพัดยศไปทำไม มีมหาเถรสมาคมทำไม ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่นิดเดียว

แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวต่อว่า พระแบบนี้มีเยอะ ที่อเมริกาก็มีเยอะ วัดไทยในแคลิฟอร์อย่างเดียวมี 40 กว่าวัด และใน 40 กว่าวัดตนว่าน่าจะมีไม่เกิน 3-4 วัดที่เข้าได้และกราบได้ นอกนั้นไม่ไหวเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดีซี มีพระเสื้อแดงชื่อหลวงตาชี พระองค์นี้เป็นปฏิปักษ์กับสถาบันพระกษัตริย์มาก ธรรมดาแล้วพระจะต้องถือว่ากษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของศาสนา เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านสมณโคดมก็เป็นศากยวงศ์ ท่านเป็นเจ้าชายสิทธัตถะมาก่อน แล้วพระเจ้าอโศกมหาราชซึ่งเป็นพระมหากษัตริย์ก็ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ของพระพุทธศาสนา สร้างวัดวาอารามเต็มไปหมดเลย เพราะฉะนั้นแล้วกษัตริย์กับศาสนาพุทธไปคู่กัน ฉะนั้นถ้ามีปฏิปักษ์จิตใจคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อกษัตริย์ไทยแล้ว ถือว่าใช้ไม่ได้ เหมือนกับไอ้พระเสื้อแดงแถวเชียงใหม่



คำต่อคำ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 21 มิ.ย. 2556

 คลิกที่นี่ ฟังเสียง รายการ คุยทุกเรื่องกับสนธิ  


รายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556 เวลา 20.00-22.40 น.ดำเนินรายการโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล นางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และ นางสาวกมลพร วรกุล ร่วมดำเนินรายการ

จินดารัตน์ - สวัสดีค่ะ

กมลพร - ขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ ที่นี่มีการเมืองตลอดเวลา

จินดารัตน์ - นานๆ มาที เพราะปกติวันศุกร์จะไม่ค่อยว่างนะ งานเยอะ เพราะวันนี้เจ้าของรายการบอกว่าต้องมา

กมลพร - ปกติมานะ ปกติก็มาอยู่ที่นี่ มาเชียร์อยู่ด้านหลัง

จินดารัตน์ - ไม่ทักทายเจ้าของรายการหน่อยเหรอ

กมลพร - งั้นก็ไปสวัสดีเจ้าของรายการ สวัสดีค่ะ

จินดารัตน์ - เราคุยกันวันนี้มีหลายประเด็น แอนว่า คุณผู้ชมต้องไม่อยากลุกไปไหน ทั้งเรื่องของ ...

สนธิ - ก่อนไป ขอขายตรงก่อนได้มั้ย ไม่ต้องเนียนเลย เครื่องทำน้ำด่างล็อตใหม่ที่มา ถึงแล้ว ใครจองตอนนี้ได้ทันที ได้ภายในเดือนนี้ทันที ของมาถึงท่าเรือแล้ว เพราะฉะนั้นผมอยากให้ อยากได้ของทันทีโดยไม่ต้องรอ โทรศัพท์ไป หรือว่าไปซื้อ

จินดารัตน์ - อาจจะช้าสุดภายในเดือนกรกฎาคมแน่นอนนะคะ

สนธิ - แน่นอนครับ มาแล้ว

จินดารัตน์ - 500 เครื่อง อย่างที่สัปดาห์ที่แล้วเราพูดกันถึงว่า 500 เครื่องที่มาล็อตใหม่ จะให้ลูกค้าสำหรับคนที่มาจองเงินสดมาซื้อเลย จะได้แน่ๆ ภายในต้น หรือไม่ก็กลางเดือนกรกฎาคม

สนธิ - แน่นอนเลยครับ

จินดารัตน์ - ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณแค่ 200 กว่าเครื่องเองนะคะ คุณสนธิ ต้องรีบนิดนึง

สนธิ - รีบๆ มาซะเดี๋ยวจะหมด และแนวโน้มหมดอีก เดี๋ยวจะรอกันนาน

จินดารัตน์ - โทรศัพท์มาได้นะคะ ที่คอลเซ็นเตอร์ 02

สนธิ - อยากให้รีบๆ ซื้อ เพราะเครื่องทำน้ำด่างตอนนี้มีแต่คนรับประทานเข้าไปแล้ว สุขภาพดีขึ้นมาเยอะเลย

กมลพร - 02-633-5353 คอลเซ็นเตอร์ของเรานะคะ

จินดารัตน์ - จากเรื่องสุขภาพมาดูเรื่องที่เราจะคุยกัน มีข่าวฝากมาถึงพ่อแม่พี่น้องพันธมิตรฯนะคะ เราได้ไปร่วมพิธีไว้อาลัยสวดพระอภิธรรมศพคุณแม่ของน้องแทนที่ขึ้นไปสีไวโอลินบนเวทีทุกครั้งที่เราจัดไม่ว่าจะในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัด คุณแม่ของน้องแทนชื่อว่าพี่โอ๊ต คุณนงเยาว์ วรชัย เสียชีวิต ตั้งศพที่ศาลา 5 สวดพระอภิธรรมเราก็ได้ไปร่วมและพี่น้องพันธมิตรฯทั้งที่รู้จักเป็นการส่วนตัวกับพี่โอ๊ตหรือไม่รู้จัก มาร่วมพิธีกันอย่างอบอุ่น น้องแทนเข้มแข็งมาก น้องเก๋ได้เจอน้องแทนแล้วใช่ไหม

กมลพร - ก็เดินมาสวัสดี คือถ้าเป็นเรานะ อายุเท่านั้นอาจจะนั่งร้องไห้ เสียคุณแม่ แต่นี่น้องแทนเดินมาสวัสดี ทักทาย พูดคุยถามเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีแล้ว คุณแม่สั่งเสียอะไรไว้บ้าง

จินดารัตน์ - ก็คุยกับน้องแทนก่อนเสียคุณแม่ว่า ถ้าต่อไปไม่มีคุณแม่แล้วหนูจะต้องอยู่ได้ จะต้องเข้มเเข็งอย่าร้องไห้ ไม่ต้องเสียใจ ช่วงนั้นที่พี่โอ๊ตรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เตรียมความพร้อมให้ลูก ทั้งความเข้มแข็งทางจิตใจและร่างกาย อะไรที่สำคัญที่สุดรู้มั้ยเก๋ พี่นับถือมากเลยนะ เรื่องความคิดกับส่วนรวม ชาติบ้านเมือง (***) ถามว่าพี่แทนจะมีเลือดพันธมิตรฯ แค่ไหน ต้องบอกว่าพันเปอร์เซ็นต์ ทุกครั้งที่มา (***) จากการสีไวโอลิน ขึ้นมามอบให้คุณตาทุกครั้งเลย วันเสาร์นี้ ถ้าพ่อแม่พี่น้อง (***) สุดท้ายกับพี่โอ๊ต คุณนงเยาว์ (***) ฌาปนกิจเวลาบ่าย 3 โมง วันเสาร์ที่ 22 นี้ คือวันพรุ่งนี้

สนธิ - ที่วัดเสมียนนารี

จินดารัตน์ - ก็ขอแสดงความเสียใจกับน้องแทน พี่น้อง และญาติมิตรของพี่โอ๊ตด้วย อีกคนหนึ่งที่เป็นพันธมิตรฯ เหนียวแน่น ก็คือน้องเจินเจิน เพื่อนรักน้องเก๋

กมลพร - เจินเจิน เป็นมุสลิมที่ดี ตอนนี้ก็ไปอยู่กับพระเจ้าแล้ว

สนธิ - เขาเป็นอะไรเสีย

กมลพร - เป็นมะเร็งกระดูกค่ะ

จินดารัตน์ - เป็นจากก้นกบมาก่อนค่ะ คือน้องเขาเพิ่งมีอาการปวดมากสักเดือนเศษๆ

กมลพร - พอรู้ช่วงหลังสงกรานต์ ตอนแรกหมอบอกว่าน่าจะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี ถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าเป็นบุญของเขานะคะ ที่เขาไม่ทรมานมาก เพราะว่าทุกครั้งคนเป็นมะเร็งกระดูก เวลาปวดมันทรมานมาก

จินดารัตน์ - แอนได้มีโอกาสไปเยี่ยมเขาก่อนที่เขาจะเสีย เขาก็นอน ลุกขึ้นเดินไม่ได้แล้ว ขาลีบไปข้างหนึ่ง แล้วก็มีแผลกดทับ เราก็ไปพิธีตามศาสนาอิสลามเมื่อวานนี้ บ่าย 3 ฝังไปเรียบร้อยแล้ว มีพี่น้องพันธมิตรฯ ไปเยอะมากค่ะคุณสนธิ ทั้งที่รู้จักหรือไม่รู้จัก

กมลพร - เก๋ไปทางเรือ เจอบนเรือ ถามกมลพรไปไหน บอกไปงานศพของพันธมิตรฯ ท่านหนึ่งค่ะ เป็นมุสลิม จะฝัง 3 โมง แค่เจอบนเรือก็ไปด้วยกัน

จินดารัตน์ - มีอาเจ็กคนหนึ่งขับรถมา หลงบ้างอะไรบ้าง นึกหน้าเจินเจินไม่ออก แต่อยากมา รู้ว่าน้องคนนี้จะต้องเป็นพันธมิตรฯ เหนียวแน่นมาก เราเพิ่งเจอเขาช่วงสงกรานต์ที่ไปล้างพิษ เขาก็นอนปวดก้นกบอยู่ เราก็คิดว่าเขาคงไม่เป็นอะไรมาก

กมลพร - เขาเป็นคนที่เป็นมิตร เป็นกัลยาณมิตร เป็นเพื่อน และเป็นคนดูแลคนอื่นมาโดยตลอด เพราะเขาไปช่วยพี่กอบที่ศูนย์ที่ธัญสมุทรด้วย

จินดารัตน์ - ขอแสดงความเสียใจกับน้องสุธี หรือน้องเจินเจินด้วยนะคะ เอาล่ะ เรามาข่าวของเราวันนี้ เป็นข่าวที่คุณผู้ชมจะต้องจับตาดู เพราะว่ามันเกี่ยวเนื่องกับต่างประเทศก็จริง แต่ว่ามันฉายภาพมาถึงเมืองไทยได้พอสมควร เรื่องของบราซิล การชุมนุมใหญ่ครั้งใหญ่คนนับล้านคน ทั่วประเทศ ออกมา (***) เรื่องของ (***) การไฟฟ้านครหลวงไม่กล้าเก็บค่าไฟขาใหญ่ เพราะส่งเจ้าหน้าที่ไปแล้วจะไปตัดไฟ

กมลพร - โดนปิดล้อม เอ้ยขอร้อง

จินดารัตน์ - อ่อหรอ

กมลพร - โดนขอร้องว่าเดี๋ยวไปคุยกัน

จินดารัตน์ - ขอร้องแบบหมาหมู่ เอ้ยแบบมาเป็นหมู่

กมลพร - มากันเยอะๆ หน่อย อะไรอย่างนี้

จินดารัตน์ - และเรื่อง สพฐ.จะขอเลื่อนเปิดเทอม ต้อนรับอาเซียน ปีการศึกษาหน้า จากกลางเดือนพฤษภาคม มาเป็นมิถุนายน เหตุผลกลใดอย่างไรเขาว่า เพิ่มอินเตอร์

กมลพร - อยากเป็นอาเซียนไงพี่

จินดารัตน์ - ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นหรอ

กมลพร - อยากเป็นมากกว่านั้น

จินดารัตน์ - งั้นเอาเรื่องแรกก่อนเนอะ เรื่องแรกเรื่องการไฟฟ้านครหลวงก่อน คือเขาบอกว่า เขา (สัญญาณขาด) ที่เป็นรังเอ้ย

กมลพร - ที่เป็นที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์

สนธิ - จริงๆ ที่นั้นมันเป็นศูนย์บัญชาการ นปช.เสื้อแดง สถานีโทรทัศน์ไปอยู่ที่นั้น เจ้าของอิมพีเรียลก็เป็นเสื้อแดงเต็มตัวชื่อ คุณสงคราม ตอนนี้รู้สึกจะเป็นสมาชิก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ได้เงินจากทักษิณมาสนับสนุน และที่นั่นเป็นศูนย์เสื้อแดงหมดเลย สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ การชุมนุม สัมมนา

จินดารัตน์ - แถลง

สนธิ - แถลง หรือแม้กระทั่งเป็นที่ส่องสุมกำลังคนอยู่ที่นั่นหมด พวกเสื้อแดง ไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเพราะว่า ที่น่าประหลาดใจอยู่เรื่องเดียวคือ เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะว่าคนไม่ได้จ่ายค่าไฟ 400 บาท แล้วเขาดับไฟ แล้วลูกๆต้องจุดเทียนดูหนังสือแล้วไฟไหม้บ้าน กับไอ้คนที่ค้างค่าไฟอยู่ 15 ล้านบาท แล้วพอไปเก็บเงินอ้างกับเจ้าหน้าที่บอกว่า ขอผัดผ่อนเนื่องจากผู้เช่ายังไม่ยอมจ่ายค่าไฟให้ เขามีหน้าที่จะต้องจ่าย คือเดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าถ้าเสื้อแดงจะทำอะไรก็ตามทุกคนจะยอมหมด ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานใครก็ตาม ฉะนั้นประเทศไทยเป็นประเทศ และสิ่งนี้เป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจ พวกเสื้อแดง นปช.ชอบอ้างว่า สู้เพื่อประชาธิปไตย และนี่เป็นประชาธิปไตยแล้วเหรอ ประชาธิปไตยของเขาก็คือว่า ถึงวเลาจะต้องจ่ายเงินค่าไฟไม่ยอมจ่าย ประชาธิปไตยของเขาถ้าศาลพิพากษาว่าเขาผิด เขาก็บอกว่าไม่ผิด ถ้าเป็นประชาธิปไตยเขา กฎหมายต้องลงโทษเขาไม่ได้ เขาติดเงินใครก็เก็บเงินไม่ได้ พูดง่ายๆว่าประชาธิปไตยของเขาก็คือประเทศนี้เขาทำอะไรตามใจชอบเขาได้เลย นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

จินดารัตน์ - และอีก 2 คนที่แม่ติดค้างค่าไฟเสียชีวิตทั้งคู่นะคะ โดนย่างสด

สนธิ - ถูกต้องครับ เป็นเรื่องที่บัดซบแล้วก็ชาติชั่วมาก อันนี้ต้องพูดแรงนิดนึง แล้วผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แล้วก็ยายธิดา ถาวรเศรษฐ ยายนี่ก็เหมือนกับคนเป็นบ้า มากล่าวโทษสหภาพการไฟฟ้านครหลวง อะไรๆ ก็บอกว่าเป็นพวกเสื้อเหลือง อธิบายอะไรไม่ได้นอกจากว่า (***) ย้ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์คนที่แล้วไป เหตุผลเพราะว่าให้กรมประชาสัมพันธ์มีคนเสื้อเหลืองอยู่ 70 เปอร์เซ็นต์

กมลพร -อธิบดีคนใหม่ย้ายมาก็เป็นที่ประหลาดใจมาข้ามหน่วยมาข้ามห้วยกันสุดฤทธิ์

จินดารัตน์ - มาจากไหนก็ไม่รู้

กมลพร - เป็นผู้ว่าฯ มาดูแลกรมประชาสัมพันธ์ เอากับเขาสิ

จินดารัตน์ - ก็ต้องบอกว่าแดงได้ใจเหมือนกันใช่ไหมที่มาเนี่ย คุณสนธิค่ะ คือ วันนี้่คนกำลังรู้สึกเลยว่า เวลาจะทำอะไรที่มัน (***) ใส่เสื้อแดงก็สบายแฮ เขาบอกว่าต่อไปนี้ คือ คนเสื้อแดงแถวๆ ปทุมฯ เขาบอกว่าแค่พกบัตร นปช.ไม่ต้อง (***) หรือตำรวจเรียกตั้งด่านอะไรก็แล้วแต่ตรวจทะเบียนหรืออะไรเนี่ย แค่ชูป้าย นปช.ให้ผ่านสบายเลยนะคะ

สนธิ - เนี่ยไง อันนี้ คือ เลวทรามต่่ำช้า ความด้อยปัญญาของคน พวกเสื้อแดง พวก นปช. พรรคเพื่อไทย ทักษิณ ชินวัตร คือ พวกอภิสิทธิ์ชน คนพวกนี้ไม่ได้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย คนพวกนี้ต่อสู้เพื่อให้ก้าวมาสู่อำนาจที่ตัวเองมีแล้วใช้อำนาจที่ตัวเองมีมาปรนเปรอพวกตัวเองหมด โดยที่ตัวเองไม่มีผิด ทำอะไรก็ได้ทำได้หมดทุกอย่าง แต่ว่ามันมีอะไรบางอย่างซึ่งมันก็เป็นบทเรียนเหมือนกันนะ ช่วงหลังคนเอือมระอากับพวกเสื้อแดงมากๆ แต่ว่าสันดานคนไทยก็เป็นสันดานคนไทย ซึ่งผมก็คิดว่าก็สมน้ำหน้าคนไทย ไม่ชอบแต่ไม่แสดงออก ไอ้พวกเราทำสื่อมวลชน เราจะเป็นสื่ออันเดียวเลยนะที่กล้าชนกับเสื้อแดง ไม่ใช่ว่าสื่ออย่างเช่น บลูสกายเขาไม่กล้าชน แต่เขาชนในนามพรรคประชาธิปัตย์ ในนามพรรคการเมือง เพราะว่าเขาสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจ แต่พวกเราไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองไหนเลย เราชนทั้งเสื้อแดง เราชนทั้งพรรคประชาธิปัตย์ เพราะฉะนั้นแล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ลึกๆ อยากจะสมน้ำหน้าคนไทยนะครับ อาย กลัว เขิน เดี๋ยวนี้การใส่เสื้อเหลืองกลายเป็นอะไรบางอย่างที่คนมันกลัวกัน ผมนี่วันจันทร์ผมใส่เสื้อเหลือง แอน ผมไม่รู้สึก ผมมีความรู้สึกว่าผมชอบสีเหลือง สีเหลืองมันสีสวย สีเหลืองมันให้ความสงบกับตัวผมเอง ผมชอบเพราะเป็นสีพระเจ้าอยู่หัวนะครับ ช่วยไม่ได้

จินดารัตน์ - บางคนอยากเอาสีแดงคืนมาด้วยนะ ไปใส่เนคไทออกรายการ เอาสีแดงเราคืนมา

กมลพร - มีความพยายามเล็กน้อย

จินดารัตน์ - อดทนกันต่อไปนะคะ

กมลพร - เขาบอกว่าเราเป็นชาติที่อดทนมาก ธุระไม่ใช่เป็นเรื่องไกลตัว

จินดารัตน์ - ถ้าวันไหนอดทนไม่ได้ค่อยออกมา ช่วยๆ กันออกมาเดินบนท้องถนน แต่ว่าวันนี้มีบ้างเป็นบางกลุ่ม เดี๋ยวเราจะพูดเรื่องนี้ด้วย เรื่องเปิดเทอมต้อนรับอาเซียนคุณสนธิ มีหลายคนเขาอยากได้คำตอบว่า เออมันคืออะไร ทำไมต้องเปลี่ยน เปลี่ยนเพื่อ แล้วจะได้อะไร

สนธิ - ก็นี่ไง การตัดสินใจของกระทรวงศึกษาฯ เรื่องของการเปิดเทอมเพื่อรับอาเซียน มันสะท้อนถึงจิตใจที่เป็นทาสต่างชาติของคนไทย เท่าที่ผมเช็กดู สิงคโปร์ มาเลเซีย พม่า เขมร เวียดนาม เขาไม่เห็นมีใครต้องปรับเวลาเปิดเทอมเขาเลยให้เข้ากับอาเซียน และคำว่าอาเซียน อาเซียนมันมีมาตรฐานเปิดเทอมที่ไหน ผมเห็นลาวก็เปิดเทอมของเขา เขมรก็เปิดเทอมของเขา เวียดนามก็เปิดเทอมของเขา แต่ไทยทะลึ่งไปทุกเรื่อง ขยันนัก ต้องเข้าไปสู่ความเป็นสากล แต่เวลาต้องต่อสู้กับไอ้พวกประเทศเพื่อนบ้านเรื่องดินแดนของเรา เสือกยอมเขาไปหมดทุกเรื่อง แต่เรื่องบางเรื่องเที่ยวไปเอาใจเขา ผมถามคุณอยาก ผมก็ไปดูว่า เอ๊ะมันเปิดเทอมเข้ากับอาเซียน มันเปิดเทอมเข้ากับใครวะ อาเซียนมันไม่มีมาตรฐานเปิดเทอมนะ เก๋

จินดารัตน์ - เปิดไม่เท่ากัน

สนธิ - ไม่เท่ากันมันบ้าหรือเปล่า เพราะเหตุนี้การศึกษาเมืองไทยมันถึงฉิบหาย เพราะ สพฐ.เอย กระทรวงศึกษาเอย มันเฮงซวยกันแทบจะทั้งกระทรวงเลย กบาลมันไม่มี คิดอะไรไม่เป็น ผมดูลิสต์การเปิดเทอมของแต่ละแห่ง ผมศึกษามา ผมดูสิงคโปร์ มาเลเซีย ผมดูโน้นดูนี่ เขาเปิดเทอมตามสิ่งแวดล้อมของเขา ของเราปิดเทอม เปิดเทอมตามหน้าร้อน หน้าฝน ถูกไม่ถูก เราเนี้ยเหตุผลในกระทรวงศึกษาบางคนบอกอย่างนี้ เราอยากจะเปิดเทอมพร้อมกับเขาเพื่อที่จะให้เวลานักเรียนไทยพอเรียนจบแล้วจะได้ไปต่อต่างประเทศได้ โดยที่ไม่ต้องรอ ผมถามคุณว่านักเรียนไทยที่มันจบพันคน จะมีไปต่างประเทศสักกี่คน คุณตอบผมหน่อยสิ

อีกประการหนึ่งถ้าคุณจัดให้เป็นการเปิดเทอม ก็ทำไมคุณไม่จัดแผนกอินเตอร์ของคุณเฉพาะแผนกอินเตอร์ของคุณให้เปิดเทอมตรงเขาสิ เพราะในเมื่อมันเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลโปรแกรมอยู่แล้ว จะเป็นโรงเรียนอินเตอร์ฯ มัธยม ประถม หรือมหาวิทยาลัยมหิดลอินเตอร์ มูอิก บูอิก คือโครงการไหนมหาวิทยาลัยไหนเขามีโครงการอินเตอร์ คุณอยากจะเปิดให้ตรงกับต่างประเทศเพื่อให้มีการเชื่อมโยงต่อกันก็เรื่องของคุณเพราะเผื่อคุณกะที่จะให้เด็กประเทศโน้น พอเขาจบปิดเทอมแล้วก็มาเปิดเทอมใหม่ต่อได้ทันทีก็เรื่องของคุณ แต่ส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นราชภัฏ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เขาเปิดเทอม ปิดเทอม ตามภูมิศาสตร์บ้านเรา ตามอากาศร้อน หน้าฝน ตามทุกอย่าง มันเป็นแบบนี้มานมนานแล้วการที่คุณจะเข้าเออีซีจนกระทั่งวันนี้ ไอ้กระทรวงศึกษายังอธิบายไม่ได้ว่า เพื่อต้อนรับเออีซี ต้อนรับอะไรเล่าให้ผมฟังหน่อยได้ไหม อีเออีซีนี่มันคืออะไร อ๋อ เราจะก้าวเข้าสู่ประตูอาเซียน เดี๋ยวนี้บ้านนอกประเภทกินข้าวเหนียว ส้มตำ ปลาร้า แล้วก็ขอต้อนรับเข้าสู่อาเซียน ผมจะอ๊วกแตกตาย

กมลพร - มันเหมือนเป็นยาสามัญชุดใหม่ เอะอะเออีซี

สนธิ - ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าไอ้เออีซีนี่แปลว่าอะไร รัฐบาลไม่เคยบอก ไม่เคยมีใครอธิบายให้ฟังว่า ถ้ามันจอยเออีซีแล้ว สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมคืออะไรบ้าง ถ้าเราจอยเออีซีไปแล้ว เราจะมีเงินมากกว่าเก่าหรือเปล่า ข้าวแกงเราจะถูกลงไหม ไอ้ข้าวที่มันโกงจำนำข้าวมันจะลดข้าวเน่าลงไปได้ไหม เราจะขายข้าวออกได้ไหม ไม่เคยมีใครเคยเล่าอะไรให้พวกนี้ฟัง รู้แต่ว่าเตรียมตัวรับเออีซี เตรียมตัวรับเออีซี รับอะไรของมึง รับเละหรือไง แล้วมันก็บอกว่าคนจากประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย สามารถมาทำงานในเมืองไทยได้ คนไทยก็สามารถไปทำงานที่ต่างประเทศได้ ผมถามคุณอย่างว่าคุณภาพการศึกษาของเรา จะมีสักกี่คนไปทำงานต่างประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ ตอบผมสิ พร้อมแค่ไหน เรานี่นะ เอาตัวรอดแค่ภาษาไทยของเราเองมันยังพูดกันไม่ได้เลย พูดกันไม่ชัด ยังไม่มีปัญญาที่จะเรียนรู้ความลึกซึ้งของภาษาเราเลย จะทะลึ่งไปเออีซีบ้าเออีซีบอ เออีซีทางด้านธุรกิจถ้าปูนซีเมนต์ไทยจะไปลงทุนในพม่า จะไปเปิดโรงงานซีเมนต์ในพม่าซึ่งเขาได้รับอนุญาตเรียบร้อย

มันไม่ได้เกี่ยวกับการศึกษาอะไรทั้งสิ้นเลย การศึกษาของเราต้องเน้นช่วยเหลือตัวเราเองก่อน เอาตัวเราเองให้รอดไม่ใช่เอะอะอะไรฝรั่งมีอย่างโน้นที่นี่มีอย่างนั้นเราจะต้องไปเลียนแบบมัน นี่คือสันดานคนไทย โง่ ส่วนคนไทยบางส่วนโง่จนกระทั่งพระพุทธเจ้าโปรดไม่ได้ แล้วมหาวิทยาลัยนเรศวรเจ้าของหอพักมหาวิทยาลัยนเรศวรรู้จักกัน เป็นญาติกัน เรียกผมอา อาตอนนี้กำลังลำบากมาก บอกเรื่องอะไร เนื่องจากว่ามหาวิทยาลัยเขาปิดเทอม เขาให้นักเรียนหยุดไปเลยนะเก๋ 4-5 เดือนเลยนะ ให้รอเปิดพร้อมกันเดือนสิงหาคม เออีซี ม.นเรศวร เอากับเขาด้วย สงสัยจะมีราชภัฏยโสธรอีกแห่งมั้ง มันบ้าไปหมดแล้วตอนนี้ เมืองไทยมันขาดสามัญสำนึกกันจริงๆ ขาดความซื่อสัตย์ ศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม แล้วก็ขาดสามัญสำนึก คอมมอนเซนส์

จินดารัตน์ - คืออยากเป็นเหมือนเขาแต่ไม่เคยดูตัวเอง

สนธิ - แล้วอีกอย่างหนึ่งอยากเป็นเหมือนเขา คำถามไม่เคยถามว่าเป็นแล้วอย่างไง เหมือนอะไรรู้ไหม เหมือนพระพุทธเจ้าในศัพท์ธรรมมีอยู่อย่างว่าอจินไตย มีคนถามพระพุทธเจ้าบอกว่า จักรวาลเกิดขึ้นมายังไง พระองค์ท่านบอกว่า รู้ไปทำไม มันอจินไตย อจินไตยคือคุณไม่รู้ ถ้าคุณรู้ก็ไม่ได้อะไรนี่ รู้แล้วได้อะไร คุณไม่รู้รู้แล้วคุณก็ไม่เสียอะไร ไม่มีประโยชน์ รู้ไปทำไม พระพุทธเจ้ารู้อยู่คนเดียว คนอื่นไม่มีวันจำเป็นต้องรู้ นี่คนไทยเป็นอย่างนี้

จินดารัตน์ - มิน่า ได้ยินเสียงแว่วๆมาจากข้าราชการในกระทรวง เขาบอก ฉลาดนักไอ้เรื่องโง่ๆเนี้ย

สนธิ - จริงๆนะการศึกษาไทยตอนนี้ฉิบหายเพราะกระทรวงศึกษาไทย นี่ผมยืนยันเลย วันนั้นไปดูรายละเอียดในการศึกษาของสิงคโปร์ มาเลเซียของไทย ของเวียดนาม ของลาว ปรากฏอะไรรู้ไหม น่าสนใจมาก ของไทยนะแม่งเหมือนต้มยำจริงๆ

จินดารัตน์ - ยังไงคะ

สนธิ - แม่งมีโอเน็ต เอเน็ต อะไรเยอะแยะไปหมดเลย ระบบการทดสอบอะไรของมัน มันทดสอบจนกระทั่งผมไม่รู้มันจะทดสอบอะไร เยอะแยะไปหมด ในขณะซึ่งที่อื่นเขาไม่มีอะไรมากมาย สิงคโปร์ไปว่าเขาระบบเขาดีมาก เขามีการสอบทีซีอี โอเลเวล เอเลเวล เอาโอเลเวลเป็นตัววัด เอเลเวลเป็นตัววัด ใครสอบผ่านเข้ามหาลัยได้ ใครสอบไม่ผ่านก็เข้าไม่ได้ เขาง่าย เขาธรรมดามาก และเขาเน้นที่คุณภาพ
เวียดนามเขามีโรงเรียนสอนครู ครูที่เรียนในเมืองไทยต้องเรียน 5 ปี เวียดนามเรียน 4 ปี แต่ว่าเวียดนามได้ความรู้มากกว่าไทยเพราะอะไรรู้ไหม เพราะวิทยาลัยครูเขาไปอยู่ที่ฮานอย เขาไม่อยู่ที่โฮจิมินห์นะ

จินดารัตน์ - โฮจิมินห์

สนธิ - เพราะเขาต้องการไปในเมือง ซึ่งไม่มีแหล่งท่องเที่ยว ให้ครูเรียนหนังสือ และเขาเรียนนะ 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นทุกวัน เขาเน้นเรื่องคุณธรรม เขาเน้นเรื่องการสอนเด็ก เขาเน้นเรื่องผลิตครูมีคุณภาพ ไอ้ของเราเรียน 5 ปีไปดูมันสิ พอเริ่มปี 4 วันจันทร์เรียนวิชานึง หยุดวันอังคาร วันพุธเรียน 2 วิชา หยุดวันพฤหัส ความใส่ใจความซีเรียส ความจริงจังมันน้อย เวียดนามมันมีหลักสูตรการศึกษามัน อย่างเช่น มันเริ่มแล้วนะหลักสูตรการศึกษาที่เวียดนาม ม.ปลายสอนเด็กเรื่องการคอร์รัปชัน มีนะว่าคอร์รัปชันไม่ดีอย่างไร ผมถึงบอกว่าไอ้กระทรวงศึกษาฯ บ้านเรา ระบบการศึกษาบ้านเรามันฉิบหายมาตั้งแต่สมัยทักษิณเป็นนายกฯ ครั้งแรก มันเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง เวียดนามเขาเอาครูเป็นศูนย์กลาง เขาเอาครูเป็นศูนย์กลางสอนเรื่องทฤษฎีสักครึ่งนึงก่อน และพอตอนบ่ายเขาให้เด็กไปทำอะไรด้วยตัวเด็กเอง โดยให้เด็กเอาจากครูไป และไปพัฒนาตัวเองต่อ เห็นไหมเขาผสมผสานกัน จำได้เปล่าตอนนั้นทักษิณ รักษาการกระทรวงศึกษาธิการจำได้ไหม

จินดารัตน์ - จำได้ค่ะ

สนธิ - ไปเลคเชอร์ไปพูดให้เด็กฟังที่สามเสนวิทยาลัย

กมลพร - จำได้

สนธิ - ทะลึ่งไอ้บ้านี่มันทะลึ่ง ต้องการโชว์ออฟผมจะเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง ที่พูดอย่างนี้มันฟังแล้วเท่ใช่ไหม มันดูเหมือนว่าเป็นคนทันสมัยเอาเด็กเป็นศูนย์กลาง เมืองไทยคุณให้เอาเด็กเป็นศูนย์กลางได้อย่างไร แต่ขณะเดียวกันการพัฒนาครู จากวันที่ทักษิณมาจนถึงวันนี้มันเละเทะไปหมดและ คุณกลับไปให้ครูเป็นศูนย์กลางก็ฉิบหายเหมือนกัน เพราะครูเมืองไทยแม่งไม่มีคุณภาพ

เพราะฉะนั้นเมืองไทย มันเป็นเมืองที่น่าสงสาร เป็นประเทศที่น่าสงสารที่สุด เดินหน้าเอาครูเป็นศูนย์กลางก็ไม่ได้ เพราะครูแม่งเลว กลับมาให้เด็กเป็นศูนย์กลางก็ไม่ได้ เพราะเด็กมันเฮงซวย เขาจะเอายังไงเมืองไทย เมืองไทยเป็นอย่างนี้จริงๆ นะแอน ไม่ได้พูดเล่นเลยนะ ไม่ได้พูดเล่นเลยจริงๆ ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าสงสารที่สุดในขณะนี้ และเป็นประเทศที่ด้อยพัฒนาที่สุด เราเป็นประเทศที่หลงตัวเอง วันนี้ตอนเช้านั่งกินกาแฟกัน คำนงคำนูณ หลายคนอยู่นั่งกันแล้วบอกว่า รู้ว่าเมืองไทยนี่นะ สิ่งแรกถ้าต้องการจะเดินหน้าต่อไป ถ้าต้องการจะอยู่รอด สิ่งแรกต้องยอมรับก่อน เราเป็นประเทศเล็ก เราจน เราไม่ได้รวย อย่าไปอวดดี อยากไปฝรั่ง ขี้ก็ไปขี้ตามฝรั่ง ไปเลียก้นฝรั่ง ต่างชาติว่ายังไงต้องเอาตามต่างชาติ เขาจะมีเออีซีชูป้าย ตัวอย่างเออีซีเป็นเหยื่อที่คลาสสิค เออีซีมันจะไปกระทบ ม.นเรศวรได้ยังไง ไปกระทบโรงเรียนบ้านนอกได้ไง แต่ไปชูป้ายเออีซีกัน เพียงเพราะว่าไอ้ข้าราชการกระทรวงศึกษาฯ เขาเรียน มันอยากโชว์ออฟกูนี่ทันสมัยกับสากล เพราะฉะนั้นกูลอกคำว่า เออีซีใส่เข้าไป และไปถามไอ้ครูโรงเรียนพวกนั้น มึงเข้าใจไหมเออีซีไหม ไม่มีใครรู้เลยสักคน

ประเทศไทยเป็นประเทศที่เล็กก็ไม่เล็ก แอน ใหญ่ก็ไม่ใหญ่ สังเกตให้ดีนะ ถ้าเล็กแบบสิงคโปร์ไปเลยโอเคเลย ถูกไม่ถูก ของเราประชากร 60 กว่าล้านคน ประชากรเรายังน้อยกว่าพม่า น้อยกว่าเวียดนาม น้อยกว่าฟิลิปปินส์ ตลาดของเวียดนามมันใหญ่กว่าของเรา ตลาดเวียดนามมัน 80 กว่าล้านคนและ อีกไม่กี่ปีก็ 100 ล้านคน ของเราอี 60 กว่าล้านคน และเสือก ความรู้ ความสามารถต่างกันอย่างมหาศาลเลย ไอ้คนที่มีความรู้มีปัญญาก็มี ไอ้ที่ไปโง่ก็โง่ไปเลย รับเงินรับทองเขามา มารับจ้างเขาประท้วง แล้วมาเย้วๆ ใส่เสื้อสีแดงและบอกสู้เพื่อประชาธิปไตย คือควายโง่กว่าควาย ควายมันยังฉลาด ไอ้พวกเสื้อแเดงมันโง่กว่าควาย ผมไม่รู้จะบรรยายยังไงกับพวกมัน นี่ไงเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอเราเริ่มทำธุรกิจ เราเริ่มมีระบบการเงิน ทะลึ่งอยากจะเปิดประเทศ อยากจะเอาเงินบาทลอยตัว ค่าเงินบาท เงินบาทเมืองไทยมันกระจอกจะตาย แต่ว่าพยายามเอาเงินบาทไปให้เป็นเงินตราที่สามารถจะซื้อขายได้ และพอเจอปี 2540 มันโจมตีค่าเงินบาท กางเกงในยังไม่เหลือเลยเมืองไทย เห็นไหม ซึ่งประเดี๋ยวเราจะคุยกันเรื่องนี้ เรื่องตลาดหุ้น เรื่องโน้นเรื่องนี้ จะเห็นได้ชัดว่า ความโง่ของคนไทย ความโง่ของข้าราชการไทย ความโง่และบัดซบของนักการเมืองไทย มันทำให้ประเทศไทยล่มสลายหมดทุกอย่าง

จินดารัตน์ - เขาบอกความโง่ที่คนไทยได้รับ มันถูกยัดเยียดจากนักการเมือง

สนธิ - นักการเมือง นักวิชาการ อาจารย์ ข้าราชการ โง่ไม่มีที่สิ้นสุด โง่จนกระทั่งพระพุทธเจ้าโปรดไม่ได้แล้ว

จินดารัตน์ - เขาบอกในช่วงสัก 10 ปีถึง 15 ปีที่ผ่านมา ลองดูรายชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มันไม่เอาไหนสักคน

สนธิ - ไม่เอา ข้าราชการก็ตัวดี เลว ยกตัวอย่างเรื่องจำนำข้าว ก้าวข้ามไปถึงเรื่องจำนำข้าวสักนิดหนึ่งแล้วกัน เป็นน้ำจิ้ม คุณสุภา ซึ่งเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง ที่เป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชี แค่คุณสุภา คนเดียว ป่วนไปหมดแล้วเห็นมั้ย คุณสุภาไม่ได้ทำอะไรมากกว่าการเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ ยืนยันว่าตัวเลขมัน 260,000 ล้าน เท่านี้เองป่วนฉิบหายเลย ต้องย้ายคุณสุภาไปโน่นไปนี่ ผมถามคำซิ ถ้ากระทรวงการคลังมีคนอย่างคุณสุภาทุกคน นักการเมืองทำอะไรได้มั้ย ไม่ได้ ไอ้ปลัดกระทรวงการคลัง นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม มันไม่อายตัวมันเลยแม้แต่นิดเดียว ไอ้คนกระทรวงการคลังมันต้องรู้นะ มันอยู่กับตัวเลข อยู่กับการเงิน อยู่กับบัญชีของชาติบ้านเมือง จะไปโกหกได้ยังไง ขาดทุนก็คือขาดทุน ตัวเลขมันเป็นอย่างนี้ ติดลบก็ต้องติดลบ ก็ต้องออกมาพูดจาชัดเจน จะต้องไปอายอะไร จะต้องไปกลัวอะไร มีอะไรจะต้องน่ากลัวไปกว่านี้อีก เข้าใจหรือยัง มันไม่ได้ทำงานกระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงมหาดไทย ซึ่งมันพลิกได้ มันหมุนได้ นี่ตัวเลขซื้อข้าวเท่านี้ ขายได้เท่านี้ สินค้าคงคลัง กู้เงินธนาคารไปอย่างนี้ รัฐบาลออกอันนี้ หักกลบลบหนี้แล้วประเทศไทยขาดทุน 260,000 ล้าน คุณจะมาว่าอะไรผม นี่คือตัวจริงไง

กมลพร - ตัวเลขมีถูกผิดชัดเจน

สนธิ - แล้วในที่สุด ดิ้นไปดิ้นมา จากขาดทุนแค่ไม่กี่หมื่นล้าน มาถึงบอก 260,000 สูงไป ดิ้นไปดิ้นมาคิดตัวเลขมาใหม่ ในที่สุดก็ลงที่ 210,000 นี่ขนาดช่วยกันเต็มที่แล้วนะ ในส่วนตัวผมยังคิดว่าขาดทุนเกือบ 4 แสนล้าน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังเพราะอะไร นี่คือประเทศไทย น่าเศร้ามั้ย โคตรเศร้าเลยจะบอกให้รู้ แล้วคุณรู้มั้ยทำไมมันมีเอเน็ต หรือโอเน็ต ที่ก่อนที่เด็กจะจบ ม.6 สามารถจะไปสอบได้ เขาเรียกอะไร

จินดารัตน์ - เอเน็ตค่ะ โอเน็ตวัดเก็บคะแนน

สนธิ - แล้วพอมันมีเอเน็ต สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไรรู้มั้ย เด็กต้องเรียนพิเศษทุกคนเลย

กมลพร - ใช่ค่ะ เดี๋ยวไม่ได้ติวข้อสอบ

สนธิ - เห็นหรือยัง

จินดารัตน์ - เพราะครูจะไม่สอนเหมือนกับที่สอนในห้อง

สนธิ - ถูกต้อง แล้วมีไปทำไม เอเน็ต ก็ทำไมไม่มีมาตรฐาน ม.6 เท่ากันหมดทั่วประเทศไทย เด็กคนไหนจบ ม.6 สอบข้อสอบกลางให้หมดเลย ไม่ผ่านคือไม่ผ่าน ก็ต้องสอบใหม่ ถ้าไม่ผ่านก็ไปเรียนอีกสถาบันหนึ่ง ซึ่งเราเรียกมันว่าสถาบันสำหรับเข้าเตรียมมหาวิทยาลัย จบ
เรื่องง่ายๆ ทำเป็นเรื่องยาก ฉลาดแต่ทำเรื่องโง่ๆ นี่คือกระทรวงศึกษาธิการแห่งประเทศไทย แล้วข้างในนั้นแย่งกันจะเป็นอธิบดี จะเป็นผู้อำนวยการ จะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน จะเป็นโน่นเป็นนี่ ผมพูดมาตลอดเวลา กระทรวงศึกษาฯ ที่มันบังคับให้ครูทำวิจัยเพื่อเลื่อนตำแหน่งเป็นเรื่องที่บัดซบที่สุด เพราว่ามันเป็นคณะกรรมการพิจารณาซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยมาทะลึ่ง อาจารย์ต้องทำวิจัยนะ ถ้าไม่ทำวิจัย ... มันก็เลยกลายเป็นว่า ครูวันๆ ไม่ต้องสอนหนังสือ

กมลพร - ทำแต่งานวิจัย

สนธิ - ทำแต่งานวิจัย หรือไม่ก็จ้างคนเขาทำงานวิจัยเพื่อให้ตัวเองได้วิทยฐานะ มันลืมเบสิคที่ง่ายที่สุด ผมนี่โตมาด้วยครู เพราะว่าครูเป็นคนซึ่งอยู่กับผม สอนหนังสือผม สอนให้ผมเป็นคนดี สอนให้ผมรักพ่อรักแม่ สอนให้ผมรักชาติรักบ้านรักเมือง สอนให้ผมรักโรงเรียน สอนให้ผมรักการอ่าน สอนให้ผมรักการเรียน หน้าที่ครูมีหน้าที่อย่างเดียวคือสอนหนังสือ ไม่ได้มีหน้าที่ไปทำงานวิจัย จบ .. จบข่าวแค่นั้นเอง แค่นี้มันยังไม่เข้าใจ แล้วไปดู ดร.ในกระทรวงศึกษาฯ มีทั้งหมดกี่คน โง่บัดซบกันทั้งนั้น ส่วนใหญ่ ถ้าไม่เลียนแบบฝรั่งมา ก็เอาทฤษฎีฝรั่งมา เพื่ออวดตัวเองว่ากูแน่ๆๆ

กมลพร - พูดภาษาต่างดาวเข้าไว้ให้งงๆ

จินดารัตน์ - เหมือน ดร.บางคนน่ะเหรอ ไม่รู้เรื่อง จบ ดร.กฎหมาย

กมลพร - อันนั้นไม่ใช่ภาษาต่างด้าวพี่ อันนั้นไม่ใช่ภาษาคน

จินดารัตน์ - ก็นี่ล่ะค่ะ เขาบอกว่า กระทรวงศึกษาธิการภายในเหมือนแดนสนธยา

สนธิ - ยิ่งกว่าแดนสนธยาอีก

จินดารัตน์ - เขาบอกเข้าไปจะงงงวยมาก แล้วการวิ่งเต้นตำแหน่ง หรือเลื่อนขั้น หรือเอาตำแหน่งอธิบดีอะไรต่างๆ วิ่งเต้นยิ่งกว่าตำรวจอีกนะบางที ราคาค่างวดมันจะแพงขึ้นไปทุกวัน รวมไปถึงพระด้วยใช่ไหมคะ วันนี้มีทุกองค์กร

กมลพร - จับไปตรงไหนมีปัญหาหมด บ้านเรา

จินดารัตน์ - ถ้างั้นเดี๋ยวพักก่อน แล้วกลับมาเริ่มต้นกันจากเรื่องเศรษฐกิจก่อนดีกว่านะคะคุณสนธิ

สนธิ - ได้ๆ เรื่องหุ้น

จินดารัตน์ - พักกันสักครู่ค่ะ

ช่วงที่ 2

จินดารัตน์ - กลับมาอีกช่วงหนึ่ง รายการคุยทุกเรื่องกับสนธินะคะ เราจะเริ่มจากที่มันร้อนๆกันอยู่ตอนนี้ เห็นบอกว่าแมงเม่านี่ถูกเผาผลาญซะจนวอดวายหมดแล้ว ตลาดหุ้นนี่กู่ไม่กลับเลยนะคะคุณสนธิ ทองคำก็ไปอีก

สนธิ - แอนจำได้หรือเปล่าที่ผมเคยบอกว่าหุ้นปลายๆมันจะลงแรง นี่ยังไม่ถึงปลายปีเลย มันลงแรงและมันลงจริง เมื่อวานซืนมีคนที่เคยรู้จักกันเป็นคนซึ่งไม่ค่อยรู้เรื่องต่างประเทศมีเงินเล็กๆน้อยๆกับเขาก็ไปเล่นหุ้น โทรมาถามผมเรื่อย พี่หุ้นตอนนี้ซื้อดีไม่ดี ถามจนผมรำคาญ ผมบอกว่าเอาอย่างนี้ดีกว่า ตลาดหุ้นมันก็คือบ่อนการพนันนี่เอง ถ้าคุณจะเล่น คุณอย่ามาถามผมว่าตัวไหนดีหรือไม่ดี เพราะว่ามันมีขึ้นมีลง และคุณก็ฟังข่าวลือมาพอหุ้นตกคุณขาดทุนก็จะบอวก่า ผมดูทางเทคนิคแล้วแนวต้านมันไม่ควรจะต่ำกว่านี้นะ ผมก็เลยบอกว่า ไอ้เทคนิคนี้ใครสอนคุณ บอกอาจารย์ แล้วคุณรู้ไหมอาจารย์เอามาจากไหน ฝรั่งมันสอนมาอีกที ฉะนั้นฝรั่งมันหลอกเรามาตลอดทุกเรื่อง จู่ๆ 2 วันที่แล้วนายคนนี้โทรมา พี่ครับ เมื่อคืนนี้ผมไม่ได้ดูข่าวเมืองนอก เบอร์นานกี ประธานเฟด แบงก์ชาติของอเมริกา มันยังให้มี QE ต่อหรือเปล่า ภาษาอังกฤษเขาเรียก Quantitative Easing คือการปล่อยเงินออกมาให้ท่วมตลาด บอก ไม่รู้มันจะยกเลิกหรือเปล่า พี่ดูเปล่า ผมก็ถามว่า มึงนี่นะ ภาษาอังกฤษก็พูดไม่ได้สักคำ ไอ้เหี้ย เสือกสนใจคำว่า QE ใช่ไหม ผมก็บอกว่ารู้ไปทำไม ผมก็นึกได้ในใจนะว่ามันอจินไตย บอกผมว่าต้องการรู้ครับ เผื่อสมมุติว่าถ้ามันยังมี QE แสดงว่าหุ้นจะขึ้นต่อ แล้วมึงฟังมาจากใคร บอกเขาพูดกันในตลาด เมื่อวานนี้ ผมก็เลยเสียเวลาเลคเชอร์มันนานพอสมควร เพื่อเห็นแก่มนุษย์ร่วมโลกและก็เห็นนแก่คนไทยคนหนึ่ง ผมบอกคุณเข้าใจคำว่า QE ไหม บอกไม่เข้าใจอ่ะ มึงไม่เข้าใจนะแต่ว่ามึงถามว่า นี่คือคนไทย ผมบอกว่ QE มันเป็นมาตรการพิเศษที่ไม่มีอยู่ในตำราเศรษฐศาสตร์และตำราการเงิน QE มันเกิดขึ้นได้ยังไง คือ นโยบายธนาคารกลางของทุกประเทศเขาจะใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นตัวกำหนดนโยบายการเงิน ดอกเบี้ยสูงก็จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยชะลอตัวลง ดอกเบี้ยต่ำธนาคารก็จะปล่อยกู้มากขึ้น ก็จะมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น แต่ว่าดอกเบี้ยต่ำจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นก็จะเกิดภาวะเงินเฟ้อ เงินเฟ้อสำหรับท่านผู้ชมที่ไม่เข้าใจก็คือของชิ้นหนึ่งราคาบาทหนึ่งเมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้ได้ของราคาบาทหนึ่งบาทแต่คุณภาพบาทหนึ่งสมัยก่อนแต่ราคาต้อง 2 บาท มูลค่าเงินมันน้อยลง เหมือนก๋วยเตี๋ยวจานหนึ่งแต่ก่อน 10-5 บาท แต่เดี๋ยวนี้ต้อง 40 บาท ผมก็บอกว่าฝรั่งเนี่ย พอเศรษฐกิจมันเริ่มล้มสลายมันก็เริ่มลดดอกเบี้ยมันเรื่อยๆ จนกระทั่งดอกเบี้ยของเฟด เฟดคือดอกเบี้ยธนาคารกลางอเมริกามันเหลือ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง 0.25 เปอร์เซ็นต์ มันติดเพดานข้างล่างแล้ว ติดพื้นแล้ว นโยบายดอกเบี้ยมันไม่มีลบ 1 เปอร์เซ็นต์ คือ ถ้าใครเอาเงินฝากแล้วโดยหักไม่มี มีแต่ 0 ขนาดถึง 0 แล้วมันยังไม่มีการจับจ่ายใช้สอย ธนาคารกลางอเมริกามันก็คิด QE ขึ้นมา QE คือ มันก็จะเริ่มเอาธนาคารของมันหรือว่าแบงก์ชาติของมันมาซื้อสินทรัพย์ของแบงก์ออก อย่างเช่น ซื้อพันธบัตรกลับเข้าไปในแบงก์ชาติ ซื้อตราสารหนี้กลับเข้าไปในแบงก์ชาติ ซื้อสัญญาในการเช่าซื้อบ้านกลับไปในแบงก์ชาติ ทีนี้มันซื้อมันเอาเงินที่ไหนมาซื้อ อเมริกามันพิมพ์แบงก์เอง เพราะฉะนั้นแล้ว วิธีการคือว่า ไอ้ธนาคารกลางมันใช้คอมพิวเตอร์กดเปลี่ยนเพิ่มเครดิตตัวมันเองทันทีเลย เพิ่มวงเงินของมันขึ้นเป็นล้านล้านเหรียญ 2 ล้านล้านเหรียญ มันอยู่ในคอมพิวเตอร์ มันจะเพิ่มเท่าไหร่ คือมันสามารถทำกันได้ และมันเอาเงินก้อนนี้ ซึ่งมันได้เครดิตเพิ่มเติมที่มันทำของมันเอง เอาไปซื้อตราสารหนี้เข้ามา ทีนี้พอมันซื้อตราสารหนี้ปั๊บ สิ่งที่มันจะเกิดขึ้นคือว่า ดอกเบี้ยหนี้มันลดลง หมายความว่าพันธบัตรอันใหม่ที่ธนาคารจะออกมา หลังจากอันเก่ามันหมดอายุแล้ว และถูกซื้อไปแล้ว แทนที่มันจะต้องเสียค่าดอกเบี้ย 3 เปอร์เซ็นต์ มันจะเสียแค่ 1 เปอร์เซ็นต์มันถูกลง เท่ากับลดต้นทุนแบงก์ลงมา ทำให้แบงก์มีกำไรมากขึ้น ในขณะเดียวกันมันซื้อตราสาร อสังหาริมทรัพย์เข้ามา เดี๋ยวนี้พวกแบงก์ต่างๆ มันเริ่มซื้อบ้านกันแล้ว มันซื้อบ้านเข้าในพอร์ตมัน แล้วขายพอร์ตทั้งพอร์ตให้กับธนาคารกลาง เข้าใจยัง
มันทำให้ราคาบ้านเริ่มสูงขึ้น แปลว่ามีเงินเข้ามาในท้องตลาดมากขึ้น มหาศาลเลย ทีนี้พอเงินเข้าในท้องตลาดมหาศาล มันเอาเงินไปทำอะไร มันเอาเงินไปซื้อทรัพย์สินโดยผ่านตลาดหุ้น นั่นคือที่มาของคิวอี ตลาดหุ้นมันเข้ามายังไง ที่อเมริกาตลาดหุ้นมันเริ่มอิ่มตัว มันมาประเทศที่ฉลาดในเรื่องความโง่ๆ อย่างเช่น ประเทศไทย ประเทศเวียดนาม ประเทศที่เขาเรียกว่า Imagine Market เข้ามาหมดเลย เพราะฉะนั้นเงินที่มันได้มาถูกๆ ดอกเบี้ยแทบจะไม่ต้องเสียเลย ก็เข้ามาเมืองไทย นี่คือเหตุผลว่าทำไมเงินบาทแข็งเอา แข็งเอา เข้าใจยังตอนนี้ พอแข็งขึ้นมาตอนนั้น ฯพณฯ โต้ง กิตติรัตน์ ก็บอกว่า เงินบาทแข็งจังเลย บาทดอลลาร์ เงินบาทตั้ง 28 บาท คนส่งออกส่งไม่ได้ต้องลดดอกเบี้ย และปรากฏว่า ผู้ว่าฯ ประสารก็ไม่ยอมลด เพราะว่าเขาดูออกว่า นี่คือเงินคิวอีมันไหลเข้ามา มันลดดอกเบี้ยก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีทาง แบงก์ไม่ได้ปล่อยกู้อะไรมากกว่าเก่า ลดดอกเบี้ยไม่ได้ เขาเลยอยู่เฉยๆ และมาวันนี้ เงินบาทดอลลาร์กลายเป็น 31 บาทไปและ จาก 28 เป็น 31 บาท ต่างกัน 3 บาทเห็นเปล่า ภายในเวลาไม่กี่เดือน อ่อน แข็งปั๋ง กลายเป็นอ่อนยวบไปและตอนนี้

สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือว่า ฝรั่งมันเข้ามาในอัตราเงินบาท ดอลลาร์ละ 28 มันซื้อหุ้น มันกำไรจากหุ้นแล้วใช่ไหม หนึ่งเด้งนะ มันส่งเงินออก กำไรอีกหนึ่งเด้ง สองเด้ง เพราะฉะนั้นฝรั่งกำไรสองเด้ง เงินพวกฝรั่งได้มาคือเงินคิวอี ตอนนี้ตลาดหุ้นที่มันตกเพราะว่า มันตกกันทั่วโลก เหตุผลเพราะว่า ฝรั่งมันมองว่า เบอร์นานกีมันบอกว่า คิวอีที่มันจะมีอยู่มันอาจจะพิจารณาตอนสิ้นปีนี้ ขอดูอีกทีนึง ถ้าสถานการณ์เศรษฐกิจอเมริกาดีขึ้น มันอาจจะปรับคิวอี แปลว่าอะไร แปลว่ามันกำลังบอกว่า ถ้าคิวอีดีกูจะเลิกคิวอี เท่านั้นเองตลาดหุ้นตกกระจายหมดเลย ร่วงหมดทั่วโลก พอร่วงหมดทั่วโลกเมืองไทยก็ร่วงตาม พอร่วงตามแล้วฝรั่งมันขายทำกำไรทันที ไอ้โบรกเกอร์เมืองไทยชอบพูด พูดว่าอย่างไรรู้ไหม บอกว่าที่หุ้นร่วงเพราะว่าฝรั่งส่งเงินกลับ ฝรั่งมันไม่ได้ส่งเงินกลับหรอก ฝรั่งมันขายทำกำไร คุณต้องเข้าใจก่อน ฝรั่งมันขายทิ้งเพื่อกำไร เพราะมันถึงเวลาต้องทำกำไรแล้ว เพราะว่าเมืองไทยคนโง่มันเยอะเข้าไปเล่นกับมัน และเหมือนกับอีเพื่อน อีน้องมันโทรมาหาผม ผมถามว่า มึงรู้เรื่องคิวอี หรือไม่คิวอี และมึงเศษเงินมึงนี่นะ พวกมึงอีนังแมลงเม่าทั้งหลาย รวมกับไอ้พวก ไปสู้กับไอ้พวกเงินก้อนถุงก้อนถังมันได้อย่างไร มึงก็คือคนโง่ที่ไปรองรับหลักจิตวิทยาของการปั่นหุ้นของพวกมัน

จินดารัตน์ - เป็นเหยื่อ

สนธิ - เป็นเหยื่อ ยังไม่รู้สึกอีกหรอ คือโลกนี้ไอ้กันคือเจ้ามือบ่อน ดอลลาร์คือชิปที่มันให้แลกไป และวันดีคืนดีมันบอกว่า เดี๋ยวอีกหน่อยกูจะเรียกชิปคืนนะ กูพอใจที่จะกำไร กูก็ปล่อยชิปออก และก็มีคนเล่นของกู กำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง หักลบหนี้แล้วกำไร ประเทศที่ร่ำรวยขึ้นมาจากการทำเช่นนี้คือ อเมริกา ทำให้ไอ้นักลงทุนอเมริกา แบงก์อเมริกาพวกวาณิชธนกิจอเมริกา มันรวยจากหุ้นทั่วโลกเลย และมันเอาเงินจากไหนไปละ มันก็หอบกลับประเทศมันไง ทำให้มูลค่าทรัพย์สินมันเพิ่มขึ้นเห็นไหม เพราะฉะนั้นแล้วเวลามันจนขึ้นมามันก็ออกมาตรการคิวอีออกมา เพื่อให้พวกมันเอาเงินถูกๆ ออกไปเล่นข้างนอก ไอ้ข้างนอกไม่รู้ก็เห็นเงินมา เงินนอกมา ดีอย่างโน้นอย่างนี้ อสังหาริมทรัพย์ก็ขึ้น อีกหน่อยอสังหาริมทรัพย์ ตอนนี้ใครจะซื้้อคอนโดจะซื้ออะไรอย่าเพิ่งซื้อ มันจะตกไปอีก ราคาบ้าน ราคาคอนโด ราคาที่ดินจะตกไปอีกเยอะ ผมบอกแล้วบอกว่า วิธีการที่ดีที่สุดตลาดหุ้นของพวกเราอย่าไปเล่นมัน ถามไอ้พวกที่โง่ๆที่เสียเงินเสียทอง คือมีอยู่พักหนึ่งเทพ เล่นหุ้นกำไรทุกคน บางคนถึงกับเลิก ลาออกจากงานมาเล่นหุ้น บางคน เดี๋ยวนี้นักศึกษาเล่นกันแล้วนะ คนที่ไปเรียนคอร์สเอ็มบีเอ อาจารย์สอนวิธีเล่นหุ้น สอนวิธีบอกว่าแนวต้านมันเท่านี้นะ เมื่อเช้าผมเพิ่งฟังเขาบอกว่าแนวต้านไม่ต่ำกว่า 1,450 จุด ไม่มีวันตกกว่า 1,450 จุด วันนี้ตลาดปิดที่ 1,400 เห็นหรือยัง ไอ้ทฤษฎีส้นตีนฝรั่งมันคิดเพื่อที่จะมาหลอกเรา แล้วมันยึดตามทฤษฎีมันหรือเปล่าล่ะ ไม่มี อะไรถ้ามันขายทำกำไรได้มันขายทำกำไร แล้วฝรั่งเงินมันเยอะ มันเล่นเป็นระบบ หุ้นมันตกติดกัน 3 วัน มันตัดใจภาษาอังกฤษเรียกว่า Cut Loss ขายทิ้งเลย ขาดทุน ไอ้สันดานคนไทย เดี๋ยวแม่งขึ้นอีก พี่เมื่อวานร่วงอีก 30 จุด ไม่เป็นไรมันขึ้นแน่ๆ นี่คือคนไทยจริงๆ เพราะฉะนั้นคนไทยจะถูกฝรั่งมันหลอกแล้วหลอกเล่า หลอกอีกตลอดเวลา พอฝรั่งมันเห็นเริ่มตกมากอีก ถึงเวลามันเข้ามาซื้อ พอมันเข้ามาซื้อไอ้คนที่ถือหุ้นอยู่ไอ้คนไทยบอกว่าหุ้นแม่งขึ้นแล้ว สมมติว่าราคาหุ้นคุณซื้อที่ 200 บาท แล้วมันตกลงมาอยู่กระทั่งถึง 80 คุณก็ยังถืออยู่หวังจะขึ้น มันก็ขึ้นจริงแต่มันจะขึ้นแค่ 120 คุณก็เห็น ไปซื้อ คนไทยชอบคำว่าเฉลี่ยราคา โง่ทั้งขึ้นทั้งล่องตลอดเวลา ของตัวเองราคา 200 แล้วตกมาที่ 80 แล้วพอมันขึ้น 120 ตัวเองก็ไปซื้อบ้าง พอขึ้น 120 ฝรั่งซื้อตอน 80 แม่งก็เทขายอีกที โง่ซ้ำโง่ซาก เมื่อเช้าผมยกตัวอย่างให้ฟังค่อนข้างจะไม่ค่อยสุภาพ แต่ผมจะต้องขออนุญาตท่านผู้ชม และเก๋กับแอน อย่าไปนึกว่าเป็นคำไม่สุภาพ คนเล่นหุ้นเมืองไทยเหมือนกะหรี่ ฝรั่งเหมือนแมงดา เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นแล้วกะหรี่ก็คือไปทำมาหากินขายได้เงินเท่าไหร่มาส่งเงินแมงดาหมด นี่ไงคือลักษณะตลาดหุ้นเมืองไทยกับฝรั่งอย่างงั้นจริงๆ พอมันเทขายก็ถีบหัวส่งแล้ว มันก็ไปกลับมาอีก น้องๆพี่ขอโทษนะ เรามาเริ่มกันใหม่ อย่างนี้ตลอดเวลา เชื่อสิ ผมไม่รู้จะอธิบายอย่างไร

จินดารัตน์ - ขออนุญาตนะคะ จากเป็นกะหรี่ตอนนี้เป็นชาวดอยกันหมดแล้ว ลงไม่ได้

สนธิ - ที่ผมพูดถูกไหมล่ะ ผมเคยถามคนเล่นหุ้น ผมบอกผมถามจริงๆ มึงมีเงินเหลืออยู่นี่ มึงเก็บไว้กับตัวมึงเป็นไรเปล่าวะ มันจะตายหรือไงวะ

จินดารัตน์ - เงินไม่ได้ฝังดินเหมือนบ้านบางบอนนะ

กมลพร - คุณแม่เก๋เป็นนะ แม่ไม่เล่น แม่บอกว่าพวกนี้มันเหมือนเงินกระดาษ เงินกงเต๊ก และสมมติถ้าผู้ชายคนไหนมาขอ แม่จะใช้คำนี้ และเอาไอ้ใบหุ้นมา ถีบหัวมันส่งซะ มันเหมือนเงินกงเต๊ก มันต้องเงินจริงๆ

จินดารัตน์ - มันเหมือนการพนัน

สนธิ - เหมือนคนเล่นทอง มีอยู่พักหนึ่งผมเป็นคนแนะนำให้ซื้อทองตั้งแต่ต้นแล้ว บอกทองจะขึ้นและก็ขึ้นจริง และก็ขึ้นไปเยอะเลย แล้วมันก็ลง แล้วก็ขึ้นนิดหน่อย แล้วก็ลง 3-4 วันนี้ลงวันละ 4 ครั้ง 5 ครั้ง ฟังก่อนๆ คุณสนธิ ทำไมทองมันลงอย่างนี้ ควรจะซื้อไหม ผมบอก เจ๊ คุณสนธิบอกมันจะขึ้นไง ผมบอกมันจะขึ้นแล้วมันขึ้นหรือเปล่าเจ๊ แล้วเจ๊ขายไหม ไม่ได้ขาย อั๊วจะรอให้มันขึ้นเรื่อยๆแล้วอั๊วค่อยขาย บอกเจ๊ รู้จักระงับความโลภเอาไว้บ้าง กำไรแค่นี้ กำไร 500 บาท พอแล้ว บาทหนึ่งกำไรสัก 500 โอเค 2 % 3 % ขายทิ้ง แล้วเจ๊ทำไง อั๊วไม่ขายแต่พอทองมันตก อั๊วก็ตัดสินใจอั๊วซื้อมาแพง เห็นมันถูกเลยซื้อต่อเพื่อเฉลี่ย เหมือนกันเป๊ะเลยให้ตาย แล้วพวกนี้คือเล่นทองกระดาษ ส่วนไอ้พวกที่ไปเยาวราชแล้วซื้อทองแท่งเนี้ย ไม่เป็นไร มันมีของอยู่ในมือ

กมลพร - ส่วนใหญ่ที่เจ๊งก็ตรงกระดาษนี่แหล่ะ

สนธิ - ทองกระดาษทั้งนั้น ทองแท่งพอมันตัดสินใจซื้อแล้วทองลงมันก็ยังเก็บเอาไว้ มันมีของเก็บไว้นานเลย เพราะเวลาทองซื้อทองแท่งมันใช้เงินสดซื้อ ทองกระดาษมันใช้ Margin ซื้อ อ๊วกกันเป็นแถวอย่างวันนี้ โดนกันเป็นแถวเลย โง่กันฉิบหาย ไม่รู้คนแถวนี้โดนหรือเปล่า เราก็ขี้เกียจจะพูด ทุกคนโดนแบบนี้หมด แล้วแม่งไม่จำ เหมือนกะหรี่ที่โดนแมงดา แมงดาตบตีถีบ แล้วเอาเงินไปส่งมันตลอดเวลานะ ก็ยังรักมันอยู่ รู้นะไม่ใช่ไม่รู้ แล้วแต่ละคนนะหูผึ่งเลยถ้ามีข่าวลืออะไรมา อุ้ย หุ้นตัวนี้ขึ้น ขึ้นแน่นอน เชื่อผมๆ เอางี้ ผมเคยสอนไป จำอะไรไว้อย่างหนึ่ง ข่าวลือว่าหุ้นตัวไหนขึ้นถ้ามันเข้าถึงหูระดับคุณได้แสดงว่าเขาเตรียมกระทืบคุณแล้ว เข้าใจเปล่า เพราะว่าข่าวหุ้นมันจะขึ้น เขาจะไล่หุ้นนี้ขึ้นเขาจะรู้กัน 2-3 คน แล้วเขาเตรียมพร้อมจะซื้อ รีบซื้อพอซื้อถึงระดับหนึ่งแล้วเขาค่อยปล่อยข่าวว่าหุ้นนี้จะขึ้น แล้วเขาก็ไล่อีกสักพักหนึ่งให้เห็นว่า ข่าวที่ปล่อยออกมันจริงหุ้น แต่เขาซื้อมาตรงนี้แล้ว ซื้อไว้เยอะเลยนะ พอซื้อจบปั้บเขาก็ค่อยๆปล่อยข่าว หุ้นที่มาอยู่ตรงนี้ก็ค่อยๆขึ้น แล้วก็เอาตรงนี้มาเทขายทีละนิดออกไปเรื่อยๆ อีที่อยู่บนดอยก็รับอยู่บนดอย เพราะว่าไปเชื่อข่าวลือ ผมนี่วันนี้ยังไม่เห็นเลยว่าตลาดหุ้นเมืองไทยมันมีส่วนช่วยในการลงทุนอย่างไร เพราะมันคือตลาดการพนัน มันซื้อวันนี้ขายพรุ่งนี้ แต่ก่อน พอระยะเวลาผ่านไปสักพักหนึ่ง มันซื้อชั่วโมงนี้ขายตอน 4 ชั่วโมงข้างหน้า ผ่านไปอีกสักพักหนึ่ง มันซื้อนาทีนี้อีก 10 นาทีขาย เดี๋ยวนี้มันซื้อและขายนาทีต่อนาที และผมถามว่าแอนนี่

มันเป็นการลงทุนที่ไหนวะ นี่มันคือตลาดการพนัน และใครเป็นคนสร้างตลาดการพนันนี้ ฝรั่งมันสร้าง แอนไม่เห็นเหรอ ฝรั่งมันสร้างมีตลาดหุ้นในเมืองไทยให้มีในมาเลเซีย ในสิงคโปร์ ให้มีในเวียดนาม จีน และอีกหน่อยก็ต้องมีในพม่า และเขมร เพื่อรองรับ อย่างเช่นอี QE นี่ไง เห็นหรือยัง พอมันออกปั้บเข้าได้ทุกตลาดเลย ไม่ใช่ว่ามีแค่ตลาดสองตลาดที่เข้าได้ มันเข้าได้ทั่วโลกเพราะว่าใช้มาตรฐานมันหมดเลย เห็นหรือยัง และนี่คือมาตรฐานซึ่งเราหลงใหลนัก เหมือนกับมาตรฐานเออีซีไง ยังไงยังงั้นเลย โง่ได้ใจ

จินดารัตน์ - เป็นบ้าอะไรกันก็ไม่รู้ แล้วคนจำนวนไม่กี่เปอร์เซ็นต์เองนะคะที่อยู่ในตลาดหุ้นเนี้ย คนก็จะเป็นบ้าเป็นหลังเอาตลาดหุ้นมาวัดเศรษฐกิจมันไปไหนแล้ว

สนธิ - ไม่เกี่ยว นี่มันคือเศรษฐกิจคาสิโน แล้ววันนี้เงินบาทเริ่มอ่อนแล้ว คุณโต้งเงียบ แล้วไง ตอนนั้นบีบให้แบงก์ชาตินโยบายการเงินลดดอกเบี้ยไปได้นิดหนึ่ง พอลดไปแล้วเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่เกิดอะไรขึ้น วันนี้อัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ประเด็นหลักแล้ว แล้วผมก็เบื่อจังไอ้ปลัดกระทรวงการคลัง อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม พูด มันนึกว่าคนไทยโง่กันเหมือนพวกควายแดง มันบอกเงินบาทก็อ่อน มันจะทำให้ผู้ส่งออกได้กำไรมากขึ้น ก็แน่นอนสิ ไอ้เวร พูดมาทำไม ทำไมต้องพูด เข้าใจรึเปล่าแอน มึงเป็นปลัดกระทรวงการคลัง พูดคำนี้ออกมาได้ยังไง วุฒิภาวะโคตรต่ำเลย ก็ถ้าดอลลาร์มัน 29 บาท แล้วถ้าดอลลาร์มัน 31 บาท มันไม่กำไรขึ้นได้ยังไง มึงไปถามแม่ค้าขายขนมกล้วยหน้าบ้านพระอาทิตย์ หน้าออฟฟิศเรา มันยังเข้าใจเลย

จินดารัตน์ - ทีถามอีกเรื่องหนึ่งก็ทำเป็นอ้ำๆ อึ้งๆ เรื่องข้าวเรื่องอะไร นี่ต่างหากที่จะบอกว่าประเทศเราจะเจ๊งหรือจะอยู่

สนธิ - ข้าวนะ วันนี้เอาอย่างนี้ดีกว่า เราพูดภาพรวม ถ้าจะเอารายละเอียดอาทิตย์หน้าผมจะพูดให้ฟัง อาทิตย์หน้าเป็นตอนหนึ่งเลย เต็มๆ ตอน อาจจะเอานงวดีมาพูด ง่ายๆ ข้าวมันเริ่มตรงที่ว่าทักษิณเป็นคนคิด ทักษิณคิดผ่านอุปนายกสมาคม นายวิเชียร อะไรไม่รู้ คนนี้เป็นคุยกับทักษิณ แล้วในที่่สุดก็เสนอนโยบายให้ทักษิณ คือทักษิณมองอย่างนี้ ทักษิณต้องการตัดพ่อค้าคนกลาง คือผู้ส่งออกข้าว เป็นชาวนาตรงกับรัฐบาล เท่ากับรัฐบาลมาเป็นเจ้ามือ ถึงเกิดโครงการรับจำนำข้าว แต่ความคิดทักษิณ และความคิดเพื่อไทย รับจำนำข้าวมีอยู่ 2 เด้ง เด้งแรกคือได้คะแนน เด้งแรกคิดว่าชาวนาได้คะแนน เด้งที่ 2 หัวคะแนนตัวเองได้หมด เพราะฉะนั้นโรงสีที่เข้าโครงการ เป็นโรงสีของพรรคเพื่อไทย หัวคะแนนพรรคเพื่อไทยทั้งนั้นเลย ไม่ใช่ทุกโรงสีจะได้นะ เฉพาะบางโรงสีได้

อันที่ 2 คิดแบบโง่ๆ คิดแบบว่าถ้าสมมุติว่าตั้งราคาจำนำข้าวไว้ที่ 15,000 บาท แล้วกว้านซื้อข้าวไว้หมดเลย ไม่ให้พ่อค้าส่งออก ข้าวก็จะขาดในตลาดโลก จะบีบให้ราคารตลาดโลกสูงขึ้น แต่ว่าเผอิญเปอร์เซ็นต์ของข้าวไทยซึ่งส่งออกปีละ 10 กว่าล้านตัน คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของข้าวที่ผลิตออกทั่วโลก มันน้อยมาก เพราะข้าวที่ผลิตออกทั่วโลก ผลิตออกประมาณ 400-500 ตันได้ แต่เผอิญ 400-500 ตัน มันมีรับประทานภายใน แล้วเหลือเท่าไร บางที่ก็ไม่เหลือ แต่เอาเป็นว่าเปอร์เซ็นต์การส่งออกข้าวไทย ปริมาณมันน้อยเกินไป ไม่มีผลต่อราคา ในขณะเดียวกัน ข้าวของเราเป็นข้าวที่มีคุณภา เป็นเกรดพรีเมียม ก็เลยไม่มีผลกระทบ ราคาข้าวก็ไม่ได้ขึ้นตามที่เขาคิด ราคาก็ยังเหมือนเดิม คนที่เคยซื้อข้าวไทย มันเจอข้าวไทยตันละ 15,000 บาท มันไม่ซื้อ มันก็ไปซื้อข้าวเวียดนาม ซื้อข้าวอินเดียแทน มันไม่ซื้อหรอก เมื่อไม่ซื้อแล้วข้าวไทยก็ขายไม่ออก จีทูจีที่นายบุญทรงพูดน่ะ โกหกทั้งเพ ไม่มี เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อคุณเริ่มจำนำข้าว จำนำในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด อุปมาอุปไมยเหมือนคุณเปิดโรงรับจำนำ แล้วรับจำนำทองคำ ตลาดเขาขายกันบาทละ 20,000 บาท ที่ร้านคุณเสือกรับจำนำ 25,000 ก็ง่ายนิดเดียว ก็ไม่มีใครไถ่ถอนออกสิ จบ นี่คือขาดทุนข้อแรกแล้ว

ข้อที่ 2 ข้าวที่เอาเข้ามา การรับจำนำเป็นโครงการทั้งประเทศ ข้าวชื้น ข้าวเฮงซวย ข้าวไม่ได้คุณภาพ ข้าวเสีย รับไปหมดเลย บวกกับกระบวนการฉ้อราษฎร์บังหลวง คอร์รัปชัน มีแม้กระทั่งสต๊อกข้าว เป็นสต๊อกลม มีตัวเลขแต่ไม่มีข้าว

ทีนี้พอมันขาดทุนมาตลอดเวลา คนก็พูดกัน ก็โวยวายกัน ปรากฏว่าคนที่ได้จริงๆ คือชาวนารวย ชาวนาจนมีอยู่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ชาวนาจน คนพวกนี้เขาเดือดร้อนมาก เขาไม่ได้อะไรเลย ไอ้ที่ได้คือชาวนารวย เพราะชาวนารวยมีที่ 100 ไร่ขึ้นไป ข้าวตันหนึ่งผลิตออกมาสี ข้าวเปลือกตันหนึ่งสีข้าวออกมาได้ประมาณ 610 กิโลฯ 61 เปอร์เซ็นต์ เพราะฉะนั้นแล้วชาวนาที่มีไร่นาอยู่ประมาณ 100 กว่าไร่ รวยทุกคน แล้วคนพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีโรงสีด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว ปรากฏว่าชาวนาได้เหมือนกัน แต่เป็นชาวนารวย ชาวนาจนยังไม่ได้ ไม่เห็นสมาคมชาวนาที่ประชุมกันเหรอ ในทีวีน่ะ แต่ละคนแต่งตัวดีฉิบหายเลย

คลิก! อ่านต่อ


กำลังโหลดความคิดเห็น