การใช้กลอุบายการเมืองหนีปัญหา โดยให้ยุบสภาแล้วบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งเป็นเล่ห์ร้ายทางการเมืองที่ไม่ใช่ของใหม่อะไร แต่เป็นกระบวนท่าถนัดของระบอบทักษิณมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย
ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย เมื่อสร้างกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองจนผู้คนทนไม่ไหว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็นำประชาชนลุกขึ้นสู้ต่อต้านคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยว ในที่สุดเมื่อเข้าตาจนก็ยื้อเวลาด้วยเล่ห์ร้ายอุบายการเมือง คือยุบสภาแล้วหลอกให้ไปเลือกตั้ง
แล้วก็โกงการเลือกตั้ง จนศาลรัฐธรรมนูญต้องสั่งยกเลิกแล้วให้เลือกตั้งใหม่ก็โกงอีก! แล้วก็มีปัญหาอีก แล้วก็จะเลือกตั้งกันใหม่อีก จนในที่สุดทหารก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นปฏิวัติจน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องร่อนเร่เป็นสัมภเวสีอยู่ในต่างประเทศจนกระทั่งทุกวันนี้
ครั้นถึงยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชนก็โกงเลือกตั้งกันอีก แล้วก็ได้สภาทาส และรัฐบาลหุ่นเชิดเข้ามาโกงบ้านกินเมืองต่อไปอีก แต่ประชาชนอดทนได้ไม่นาน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็นำมวลชนลุกฮือขึ้นต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้การต่อสู้ยืดเยื้อยาวนาน และมีมวลชนเข้าร่วมมากขึ้นจากระดับแสนคนในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ก็เพิ่มเป็นระดับ 300,000 คน จนมีการยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งทำเนียบรัฐบาลหมดสิ้น
ณ เวลานั้นก็ได้แสดงให้เห็นว่าการยื้อเวลาหลอกผู้คนไปเลือกตั้ง นอกจากไม่ได้ทำให้ประชาชนสิ้นเรี่ยวแรง ท้อถอย ท้อแท้ และพ่ายแพ้ดังที่คาดหวัง แต่ประชาชนกลับมีความเคียดแค้นชิงชังมากขึ้น จำนวนประชาชนเข้าร่วมการต่อสู้หลายเท่าตัว
มาถึงปัจจุบันนี้ ด้วยระบอบโคตรโกงและโกงทั้งโคตรในทุกเรื่องทุกราว ก็ได้ขี้ข้ามาเป็นสภาทาสอีก ได้ขี้ข้ามาเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดอีก แล้วโกงบ้านกินเมืองเหมือนเดิมอีก
แต่จำนวนการโกงบ้านกินเมืองนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จากที่เคยโกงกันโครงการละ 7,000-10,000 ล้านบาท ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย และยกระดับการโกงเป็นระดับหลายหมื่นล้านบาท ในยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน ได้ยกระดับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
โครงการรับจำนำข้าวเพียงโครงการเดียวก็โกงกันถึง 700,000-800,000 ล้านบาท เป็นการโกงเย้ยฟ้าท้าดิน โกงกันแบบกินบ้านกินเมือง ใครจะค้านก็ไม่ฟัง จับได้ก็ไม่อาย ยังดึงดันเดินหน้าโกงกันต่อไป
และยังย่ามใจเดินหน้าโกงอย่างไม่บันยะบันยัง ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท จากนั้นก็ลำพองว่าไม่มีใครกล้าต่อต้านอีก ก็เตรียมการโกงครั้งมโหฬารบันลือโลกในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เอามาไว้นอกงบประมาณแล้วล้างผลาญกันตามอำเภอใจไม่ให้ใครตรวจสอบได้
ลำพองหนักขึ้นชนิดไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดินกันอีกต่อไปแล้ว และก้าวไปสู่ขั้นที่จะยึดบ้านยึดเมือง ฟอกพวกขี้ฉ้อ พวกอาชญากรทั้งหลายให้บริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแบบยกเข่งและแก้ไขรัฐธรรมนูญยึดประเทศเป็นของพวกตน
ความอดทนของประชาชนชาวไทยมาถึงจุดสุดท้ายจึงระเบิดขึ้น! แล้วก่อเกิดเป็นขบวนการ กปปส. นำประชาชนลุกฮือขึ้นต่อสู้เพื่อโค่นล้มขับไล่ระบอบทักษิณให้สิ้นแผ่นดินไทย แล้วจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนและสภาประชาชน เพื่อปฏิรูปการเมืองการปกครอง กอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุขสืบไป
การลุกฮือขึ้นต่อสู้ของประชาชนในครั้งนี้ดำเนินต่อเนื่องมาเกือบ 50 วันแล้ว ประชาชนเข้าร่วมในขอบเขตทั่วประเทศ ทุกชนชั้น ทุกชนชาติ ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกถิ่นที่
มีมวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมเดินขบวนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติกว่า 5 ล้านคน เป็นการชุมนุมเดินขบวนโดยสงบ โดยเปิดเผย โดยปราศจากอาวุธ เป็นความงดงามของการปฏิวัติประชาชนของประชาชาติไทยที่ได้ปรากฏต่อสายตาชาวโลกแล้ว
เมื่อประชาชนลุกฮือขึ้นชุมนุมเดินขบวนกว่า 5 ล้านคน นักการเมืองก็ตื่นตระหนกตกใจ จึงใช้กลอุบายยื้ออยู่ในอำนาจต่อไป โดยใช้เล่ห์กลอุบายเดิมคือยุบสภาแล้ว หลอกและบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
ประชาชนเขาลุกฮือขึ้นโค่นล้มขับไล่ระบอบโคตรโกง แต่กลับยื้อเวลาบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งแทน เพื่อจะได้พวกผีโม่แป้งเข้ามาเป็นสภาทาสอีก และเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดอีก แล้วจะโกงกันต่อไปอีก อย่างนี้ประชาชนรู้เท่าทันเล่ห์ร้ายอย่างถ่องแท้แล้ว จึงใช้ไม่ได้ผล
การประกาศยุบสภาในเวลาช่วงเช้า หวังให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านหรือไม่เข้าร่วมชุมนุม แต่กลับยิ่งเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังที่ระบอบโคตรโกงไม่สำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่ยอมแก้ไขปัญหาและยังหลอกลวงบังคับให้ประชาชนหลงไปเลือกตั้งอีก ดังนั้นการต่อต้านคัดค้านนักการเมืองโกงชาติจึงยิ่งขยายวง และไม่มีวันที่จะท้อถอยท้อแท้อีกต่อไปแล้ว
ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็จะได้สภาทาสเหมือนเดิม ก็จะได้รัฐบาลหุ่นเชิดขี้ข้าที่โคตรโกงเหมือนเดิม ก็จะได้อำนาจรัฐตำรวจที่กดขี่ข่มเหงประชาชนเหมือนเดิม ก็จะได้อำนาจรัฐเผด็จการที่ข่มขู่คุกคามข่มเหงข้าราชการเหมือนเดิม และประเทศชาติก็จะถูกฉ้อฉลปล้นสะดมเหมือนกองทัพโจรเข้ามาตั้งอยู่ในบ้านเหมือนเดิม
การใช้กลอุบายยื้อเวลาหลอกและบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งได้ทำให้ประเทศไทยพังพินาศวายวอดด้วยความเห็นแก่ตัวของขบวนการโคตรโกง
ประการแรก ต้องใช้งบประมาณ 3,800 ล้านบาท ให้กับลิ่วล้อบริวารไปจัดการเลือกตั้งและโกงการเลือกตั้งกันเหมือนเดิม
ประการที่สอง ระบบงบประมาณและการพัฒนาประเทศหยุดชะงักในทันทีที่มีการยุบสภาไปจนกระทั่งถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จสิ้น เงินงบประมาณจะไหลไม่ออกไม่น้อยกว่า 600,000 ล้านบาท และโครงการทั้งหมดต้องหยุดชะงักสิ้นเชิง
ประการที่สาม ภาคการผลิต ภาคบริการท่องเที่ยว และระบบเศรษฐกิจของประเทศฉิบหายวายวอดถ้วนหน้า
ประการที่สี่ ทั่วทั้งประเทศเกิดความขัดแย้งถึงขั้นกลียุค ส่อว่าจะเกิดเป็นสงครามกลางเมือง หรือการแบ่งแยกราชอาณาจักร
ประการที่ห้า มีความแตกแยกภายในสังคมหยั่งลึกลงไปถึงทุกหน่วยงาน ทุกครอบครัว ซึ่งเป็นน้ำมือของนักวิชาโกง นักวิชากิน และกระบอกเสียงทรราช แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนยุคสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้
ดังนั้นถ้าระบอบเผด็จการทรราชนี้ยังดำรงอยู่ต่อไปไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ แผ่นดินนี้ไม่มีวันสงบสุข ความพินาศฉิบหายวายวอด ความเดือดร้อนทุกข์เข็ญจะไม่มีที่สิ้นสุด และจะทำให้บ้านเมืองของเราเป็นประเทศล้มเหลวหรือสิ้นชาติอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะนี้ในประเทศก็มีอีกาปีศาจที่จ้องจิกกินคนไทยอยู่ มิหนำซ้ำ ระบอบเผด็จการทรราชยังชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ไปลากเอาโจรสลัดต่างประเทศเข้ามาเตรียมการที่จะปล้นสะดมประเทศไทยกันเป็นการยกใหญ่
สภาพเช่นนี้จะต้องยุติให้ได้โดยกำจัดต้นเหตุของปัญหาคือระบอบเผด็จการทรราชนั้น
ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงตัดสินใจอย่างพร้อมเพรียงกันที่จะโค่นล้มระบอบเผด็จการทรราชให้เสร็จสิ้นลงในคราวนี้ ดีกว่าที่จะให้ประเทศไทยจมปลักในความขัดแย้งภายใต้ระบอบโคตรโกงอีกต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด!
ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย เมื่อสร้างกรรมทำเข็ญกับบ้านเมืองจนผู้คนทนไม่ไหว พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็นำประชาชนลุกขึ้นสู้ต่อต้านคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยว ในที่สุดเมื่อเข้าตาจนก็ยื้อเวลาด้วยเล่ห์ร้ายอุบายการเมือง คือยุบสภาแล้วหลอกให้ไปเลือกตั้ง
แล้วก็โกงการเลือกตั้ง จนศาลรัฐธรรมนูญต้องสั่งยกเลิกแล้วให้เลือกตั้งใหม่ก็โกงอีก! แล้วก็มีปัญหาอีก แล้วก็จะเลือกตั้งกันใหม่อีก จนในที่สุดทหารก็ทนไม่ไหว ลุกขึ้นปฏิวัติจน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องร่อนเร่เป็นสัมภเวสีอยู่ในต่างประเทศจนกระทั่งทุกวันนี้
ครั้นถึงยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชนก็โกงเลือกตั้งกันอีก แล้วก็ได้สภาทาส และรัฐบาลหุ่นเชิดเข้ามาโกงบ้านกินเมืองต่อไปอีก แต่ประชาชนอดทนได้ไม่นาน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็นำมวลชนลุกฮือขึ้นต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้การต่อสู้ยืดเยื้อยาวนาน และมีมวลชนเข้าร่วมมากขึ้นจากระดับแสนคนในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ก็เพิ่มเป็นระดับ 300,000 คน จนมีการยึดสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งทำเนียบรัฐบาลหมดสิ้น
ณ เวลานั้นก็ได้แสดงให้เห็นว่าการยื้อเวลาหลอกผู้คนไปเลือกตั้ง นอกจากไม่ได้ทำให้ประชาชนสิ้นเรี่ยวแรง ท้อถอย ท้อแท้ และพ่ายแพ้ดังที่คาดหวัง แต่ประชาชนกลับมีความเคียดแค้นชิงชังมากขึ้น จำนวนประชาชนเข้าร่วมการต่อสู้หลายเท่าตัว
มาถึงปัจจุบันนี้ ด้วยระบอบโคตรโกงและโกงทั้งโคตรในทุกเรื่องทุกราว ก็ได้ขี้ข้ามาเป็นสภาทาสอีก ได้ขี้ข้ามาเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดอีก แล้วโกงบ้านกินเมืองเหมือนเดิมอีก
แต่จำนวนการโกงบ้านกินเมืองนั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จากที่เคยโกงกันโครงการละ 7,000-10,000 ล้านบาท ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย และยกระดับการโกงเป็นระดับหลายหมื่นล้านบาท ในยุครัฐบาลพรรคพลังประชาชน ได้ยกระดับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
โครงการรับจำนำข้าวเพียงโครงการเดียวก็โกงกันถึง 700,000-800,000 ล้านบาท เป็นการโกงเย้ยฟ้าท้าดิน โกงกันแบบกินบ้านกินเมือง ใครจะค้านก็ไม่ฟัง จับได้ก็ไม่อาย ยังดึงดันเดินหน้าโกงกันต่อไป
และยังย่ามใจเดินหน้าโกงอย่างไม่บันยะบันยัง ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท จากนั้นก็ลำพองว่าไม่มีใครกล้าต่อต้านอีก ก็เตรียมการโกงครั้งมโหฬารบันลือโลกในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เอามาไว้นอกงบประมาณแล้วล้างผลาญกันตามอำเภอใจไม่ให้ใครตรวจสอบได้
ลำพองหนักขึ้นชนิดไม่เกรงฟ้าไม่กลัวดินกันอีกต่อไปแล้ว และก้าวไปสู่ขั้นที่จะยึดบ้านยึดเมือง ฟอกพวกขี้ฉ้อ พวกอาชญากรทั้งหลายให้บริสุทธิ์ผุดผ่องด้วยการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมแบบยกเข่งและแก้ไขรัฐธรรมนูญยึดประเทศเป็นของพวกตน
ความอดทนของประชาชนชาวไทยมาถึงจุดสุดท้ายจึงระเบิดขึ้น! แล้วก่อเกิดเป็นขบวนการ กปปส. นำประชาชนลุกฮือขึ้นต่อสู้เพื่อโค่นล้มขับไล่ระบอบทักษิณให้สิ้นแผ่นดินไทย แล้วจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนและสภาประชาชน เพื่อปฏิรูปการเมืองการปกครอง กอบกู้บ้านเมืองให้กลับคืนสู่ความเป็นปกติสุขสืบไป
การลุกฮือขึ้นต่อสู้ของประชาชนในครั้งนี้ดำเนินต่อเนื่องมาเกือบ 50 วันแล้ว ประชาชนเข้าร่วมในขอบเขตทั่วประเทศ ทุกชนชั้น ทุกชนชาติ ทุกสาขาอาชีพ ทุกเพศ ทุกวัย ทุกถิ่นที่
มีมวลมหาประชาชนออกมาชุมนุมเดินขบวนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษยชาติกว่า 5 ล้านคน เป็นการชุมนุมเดินขบวนโดยสงบ โดยเปิดเผย โดยปราศจากอาวุธ เป็นความงดงามของการปฏิวัติประชาชนของประชาชาติไทยที่ได้ปรากฏต่อสายตาชาวโลกแล้ว
เมื่อประชาชนลุกฮือขึ้นชุมนุมเดินขบวนกว่า 5 ล้านคน นักการเมืองก็ตื่นตระหนกตกใจ จึงใช้กลอุบายยื้ออยู่ในอำนาจต่อไป โดยใช้เล่ห์กลอุบายเดิมคือยุบสภาแล้ว หลอกและบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557
ประชาชนเขาลุกฮือขึ้นโค่นล้มขับไล่ระบอบโคตรโกง แต่กลับยื้อเวลาบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งแทน เพื่อจะได้พวกผีโม่แป้งเข้ามาเป็นสภาทาสอีก และเป็นรัฐบาลหุ่นเชิดอีก แล้วจะโกงกันต่อไปอีก อย่างนี้ประชาชนรู้เท่าทันเล่ห์ร้ายอย่างถ่องแท้แล้ว จึงใช้ไม่ได้ผล
การประกาศยุบสภาในเวลาช่วงเช้า หวังให้ประชาชนไม่ออกจากบ้านหรือไม่เข้าร่วมชุมนุม แต่กลับยิ่งเพิ่มความเคียดแค้นชิงชังที่ระบอบโคตรโกงไม่สำนึกผิดชอบชั่วดี ไม่ยอมแก้ไขปัญหาและยังหลอกลวงบังคับให้ประชาชนหลงไปเลือกตั้งอีก ดังนั้นการต่อต้านคัดค้านนักการเมืองโกงชาติจึงยิ่งขยายวง และไม่มีวันที่จะท้อถอยท้อแท้อีกต่อไปแล้ว
ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นก็จะได้สภาทาสเหมือนเดิม ก็จะได้รัฐบาลหุ่นเชิดขี้ข้าที่โคตรโกงเหมือนเดิม ก็จะได้อำนาจรัฐตำรวจที่กดขี่ข่มเหงประชาชนเหมือนเดิม ก็จะได้อำนาจรัฐเผด็จการที่ข่มขู่คุกคามข่มเหงข้าราชการเหมือนเดิม และประเทศชาติก็จะถูกฉ้อฉลปล้นสะดมเหมือนกองทัพโจรเข้ามาตั้งอยู่ในบ้านเหมือนเดิม
การใช้กลอุบายยื้อเวลาหลอกและบังคับให้ประชาชนไปเลือกตั้งได้ทำให้ประเทศไทยพังพินาศวายวอดด้วยความเห็นแก่ตัวของขบวนการโคตรโกง
ประการแรก ต้องใช้งบประมาณ 3,800 ล้านบาท ให้กับลิ่วล้อบริวารไปจัดการเลือกตั้งและโกงการเลือกตั้งกันเหมือนเดิม
ประการที่สอง ระบบงบประมาณและการพัฒนาประเทศหยุดชะงักในทันทีที่มีการยุบสภาไปจนกระทั่งถึงการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เสร็จสิ้น เงินงบประมาณจะไหลไม่ออกไม่น้อยกว่า 600,000 ล้านบาท และโครงการทั้งหมดต้องหยุดชะงักสิ้นเชิง
ประการที่สาม ภาคการผลิต ภาคบริการท่องเที่ยว และระบบเศรษฐกิจของประเทศฉิบหายวายวอดถ้วนหน้า
ประการที่สี่ ทั่วทั้งประเทศเกิดความขัดแย้งถึงขั้นกลียุค ส่อว่าจะเกิดเป็นสงครามกลางเมือง หรือการแบ่งแยกราชอาณาจักร
ประการที่ห้า มีความแตกแยกภายในสังคมหยั่งลึกลงไปถึงทุกหน่วยงาน ทุกครอบครัว ซึ่งเป็นน้ำมือของนักวิชาโกง นักวิชากิน และกระบอกเสียงทรราช แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นก่อนยุคสมัยพระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้
ดังนั้นถ้าระบอบเผด็จการทรราชนี้ยังดำรงอยู่ต่อไปไม่ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่ แผ่นดินนี้ไม่มีวันสงบสุข ความพินาศฉิบหายวายวอด ความเดือดร้อนทุกข์เข็ญจะไม่มีที่สิ้นสุด และจะทำให้บ้านเมืองของเราเป็นประเทศล้มเหลวหรือสิ้นชาติอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะนี้ในประเทศก็มีอีกาปีศาจที่จ้องจิกกินคนไทยอยู่ มิหนำซ้ำ ระบอบเผด็จการทรราชยังชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน ไปลากเอาโจรสลัดต่างประเทศเข้ามาเตรียมการที่จะปล้นสะดมประเทศไทยกันเป็นการยกใหญ่
สภาพเช่นนี้จะต้องยุติให้ได้โดยกำจัดต้นเหตุของปัญหาคือระบอบเผด็จการทรราชนั้น
ดังนั้นทุกภาคส่วนจึงตัดสินใจอย่างพร้อมเพรียงกันที่จะโค่นล้มระบอบเผด็จการทรราชให้เสร็จสิ้นลงในคราวนี้ ดีกว่าที่จะให้ประเทศไทยจมปลักในความขัดแย้งภายใต้ระบอบโคตรโกงอีกต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด!
