xs
xsm
sm
md
lg

“ชากแง้ว” อวลเสน่ห์ชุมชนจีนโบราณ ปั่นจักรยานสุดชิล...เที่ยวมุมใหม่ในเมืองชล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เรือนไม้เก่าแก่ที่ชุมชนจีนโบราณชากแง้ว
“ไปเที่ยวชลบุรี” หลายคนก็มักจะมุ่งเน้นไปเที่ยวทะเลไม่ว่าจะเป็น พัทยา บางแสน สัตหีบ ฯลฯ

แต่การมาเยือนชลบุรีของ “ตะลอนเที่ยว” ในครั้งนี้ อาจแตกต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มา เพราะการมาชลบุรีครั้งนี้เราไม่ได้มุ่งมาสัมผัสกับสายลม แสงแดด และกลิ่นอายของท้องทะเลเป็นหลัก หากแต่มาเพื่อสัมผัสกับอีกแง่มุมหนึ่งของชลบุรี ที่มากไปด้วยวิถีชุมชนอันเป็นเอกลักษณ์แห่งบ้าน“ชากแง้ว”
ชุมชนจีนโบราณที่มีเอกลักษณ์
“ชากแง้ว” เป็นชื่อเรียกชุมชนจีนโบราณที่ตั้งอยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ปัจจุบันชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีอายุถึง 100 กว่าปีมาแล้ว
บ้านเรือนเก่ามีให้เห็นตลอดสองฟากฝั่ง
ชื่อ “ชากแง้ว” ได้แต่ใดมา?

สำหรับชื่อ “ชากแง้ว” นั้นเท่าที่มีข้อมูลปรากฏ มีสองที่มาด้วยกัน ข้อมูลแรกสันนิษฐานว่ามาจากคำว่า “ชะแง้” เนื่องจากชุมชนชากแง้ว ตั้งอยู่ในที่ลุ่ม มีเนินเขาสูงล้อมรอบทุกทิศ ทำให้เวลามองนั้นต้องชะแง้มอง ส่วนข้อมูลที่สองพบว่าคนจีนจะออกเสียงคำว่าชากแง้วว่า “ชั่งงิ่ว” หรือ “ชะแง้ว” และด้วยลักษณะภูมิประเทศของชากแง้วนั้นเป็นที่ลุ่ม จึงเรียกกันว่า “หนองชะแง้ว” แต่ต่อมาเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป มีการเรียกชื่อเพี้ยนออกไปจนเป็นคำว่า “ซากแง้ว” หรือ “ชากแง้ว” ในปัจจุบัน

จากข้อสังเกตพบว่าชื่อ “หนองชะแง้ว” นั้น อาจเป็นชื่อที่เคยใช้เรียก “ชากแง้ว” ในอดีตจริง เนื่องจากคำว่า “หนองชะแง้ว” ได้ปรากฏอยู่ในนิราศเมืองแกลง เมื่อปี พ.ศ. 2350 ของสุนทรภู่ ขณะที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครเพื่อไปเยี่ยมบิดาที่เมืองแกลง จังหวัดระยอง โดยมีความว่า “ถึงปากช่องหนองชะแง้วเข้าแผ้วถาง แม้นค่ำค้างอรัญวาได้อาศัย เป็นที่ลุ่มขุมขังคงคาลัย วังเวงใจรีบเดินไม่เมินเลย หนทางรื่นพื้นทรายละเอียดอ่อน ในดงดอนดอกพะยอมหอมระเหย หายละหวยด้วยพระพายมาชายเชย ชะแง้เงยแหงนทัศนา” จึงทำให้ข้อสันนิษฐานในข้อมูลที่สองมีน้ำหนักมากกว่า
ริมระเบียงชั้นสองสามารถเดินถึงกันได้
ในอดีตชากแง้วเคยเป็นชุมชนที่คึกคักและเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก เนื่องจากแต่ก่อนชาวจีนได้อพยพขึ้นฝั่งแล้วมาตั้งรกรากปักหลักฐานอยู่ที่นี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้ในอดีตชากแง้วเคยเป็นชุมชนชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในพัทยา ต่อมาเมื่อมีการสร้างถนนสุขุมวิทตัดผ่าน ความเจริญที่เคยมี ถูกถ่ายเทไปยังเมืองพัทยา จึงทำให้ชากแง้วที่เคยรุ่งเรืองในอดีตกลับเงียบลง จนทำให้ปัจจุบันชากแง้วกลายมาเป็นชุมชนเก่าแก่อายุนับ 100 ปี ที่ยังคงหลงเหลือบรรยากาศของชุมชนจีนโบราณเก่าแก่เอาไว้ ทั้งวัฒนธรรม ประเพณีจีนโบราณ รวมถึงบ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่มีระเบียงเชื่อมถึงกัน ที่ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
ศาลเจ้าแม่ทับทิมภายในชุมชน
ด้วยความโดดเด่นของวิถีชีวิตชุมชนจีนโบราณแห่งนี้ จึงทำให้ทาง "องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.)" ได้เลือกชากแง้วให้เป็นหนึ่งในชุมชนต้นแบบ แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชุมชนชาวจีน ที่ยังคงรักษาวัฒนธรรม และประเพณีโบราณที่สืบทอดต่อกันมานานนับร้อยปีเอาไว้อีกด้วย

โดยในแต่ละปีชุมชนบ้านชากแง้วจะมีการจัดงานเพื่อสืบสานประเพณีจีนรวมกันถึง 5 ประเพณีด้วยกัน ได้แก่ 1.ประเพณีเฉลิมฉลอง ซึ่งจะจัดก่อนถึงวันตรุษจีน 30 วัน โดยจะมีการแสดงงิ้วและการประมูลของภายในงาน 2.งานวันเกิดเจ้าแม่ทับทิม ซึ่งจะจัดขึ้นหลังวันตรุษจีน 12 – 15 วัน โดยมีการจัดงานเฉลิมฉลองนานถึง 3 วัน 3 คืน 3.งานประเพณีไหว้พระจันทร์ 4.เทศกาลงานออกผนวชของเจ้าแม่กวนอิม โดยปีนี้จะมีขึ้นในวันที่ 12 ตุลาคม 2557 และ 5.งานประทับทรงเจ้าแม่ทับทิมและเทศกาลเทกระจาด สำหรับงานนี้ในอดีตจะมีการประทับทรงเจ้าแม่ทับทิม ต่อมาร่างทรงได้เสียชีวิตไปก็ไม่มีคนสืบทอดต่อ แต่ชุมชนก็ยังคงจัดงานต่อเนื่องมาทุกปี เพียงแต่ไม่มีพิธีประทับทรง
จอมปลวกและเจ้าแม่ทับทิมประดิษฐานอยู่ภายในศาล
เที่ยวชากแง้ว สักการะเจ้าแม่ทับทิม

เมื่อได้รู้ถึงประวัติความเป็นมาของชุมชนกันไปบ้างแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะเที่ยวชมชุมชนโบราณแห่งนี้เสียที เมื่อย่างเท้าเข้ามาในเขตชุมชนสิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ก็คือกลิ่นอายของบ้านเรือนไม้เก่าแก่ ที่ยังคงหลงเหลือให้เราเห็นตลอดสองฟากฝั่ง เป็นบ้านเรือนไม้เก่าแก่ประตูไม้บานพับ(บางบ้านก็มีการต่อเติม เปลี่ยนประตูไม้เดิมเป็นประตูเหล็ก) สองชั้น ที่ตั้งเรียงตัวกันแบบคูหาให้ความรู้สึกย้อนยุคสุดๆ หากลองสังเกตดีๆ จะพบว่าที่บริเวณระเบียงชั้นสองของบ้านบางหลังนั้น ยังคงเป็นระเบียงแบบดั้งเดิม คือเป็นระเบียงไม้ที่สามารถเดินเชื่อมถึงกันได้ ตรงจุดนี้หากใครชอบเรือนไม้เก่าๆ หรือกลิ่นอายจีนโบราณต้องชื่นชอบแน่นอน
ข้างๆ กันเป็นที่ตั้งของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์
จากนั้นไปกันต่อที่จุดที่ใครมาชากแง้วนั้นต้องมากราบสักการะก็คือ “เจ้าแม่ทับทิม” ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้าหลังโรงงิ้ว โดยชาวจีนมีความเชื่อว่า เจ้าแม่ทับทิมเป็นเทพที่ชาวจีนที่ประกอบอาชีพประมง และเกษตรเคารพนับถือ เนื่องจากเจ้าแม่ทับทิมจะช่วยคุ้มครองให้ปลอดภัยในยามออกทะเล และบันดาลให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล และอาชีพหลักของชาวชากแง้วก็คือทำไร่มันสำปะหลัง ดังนั้นจึงทำให้ชาวจีนในชุมชนแห่งนี้นับถือเจ้าแม่ทับทิมกันเป็นอย่างมาก
พบกับธรรมชาติได้ตลอดเส้นทางปั่นจักรยาน
สำหรับศาลเจ้าแม่ทับทิมนั้น เดิมทีเป็นศาลที่มีหลังคามุงด้วยจาก เป็นการสร้างเพื่อคลุมจอมปลวก โดยชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในสมัยนั้นให้ความเคารพนับถือกันมาก ต่อมามีคนนำขอนไม้โบราณอายุกว่า 80 ปี ที่ได้มาจากท้องทะเลมาตั้งไว้ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ จากนั้นจึงมีการนำขอนไม้ดังกล่าวไปแกะสลักเป็นองค์เจ้าแม่ทับทิม เพื่อให้พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวบ้านในละแวกนั้นมากราบไหว้

ปัจจุบันศาลเจ้าแห่งนี้มีการสร้างขึ้นใหม่ มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และสวยงามน่าชม นอกจากนี้แล้วข้างๆ กันยังเป็นที่ประดิษฐานของพระแม่กวนอิมมหาโพธิสัตว์อีกด้วย ซึ่งด้านล่างเป็นที่ประดิษฐานขององค์เล็ก หากเดินขึ้นบันไดไปดาดฟ้าชั้นสอง จะพบกับพระแม่กวนอิมขนาดใหญ่ที่ประดิษฐานไว้ด้านบนอีกด้วย
พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์
ปั่นจักรยานสุดชิล

นับได้ว่าชุมชนจีนโบราณชากแง้วเป็นชุมชนที่เรียบง่าย ไม่มีแหล่งแสงสีแห่งความบันเทิง มีแต่กลิ่นอายของอดีต และบ้านเรือนไม้เก่าแก่ที่ยังหลงเหลือความเป็นชุมชนโบราณเก่าแก่ให้เราได้ชื่นชม

หากใครเป็นสิงห์นักปั่นที่ชุมชนชากแง้วแห่งนี้ยังเรียกได้ว่าเป็นชุมชนที่เหมาะแก่การนำจักรยานคู่ใจมาปั่นเที่ยวอีกด้วย เพราะนอกจากจะได้ชมเรือนไม้เก่าแก่ตลอดสองฟากฝั่งแล้ว ยังสามารถปั่นไปต่อยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้อีกด้วย ซึ่งคราวนี้เรามีเส้นทางปั่นจักรยานต่อเนื่องจากบ้านชากแง้วและพื้นที่ใกล้เคียงมาแนะนำให้นักปั่นได้ไปปั่นเที่ยวกันด้วย
ปั่นจักรยานผ่านไร่องุ่นซิลเวอร์เลค
โดยจะเริ่มจากจุดที่ 1 คือ “ตลาดชากแง้ว” จะไปพบกับ “วิหารเซียน” หรือ “อเนกกุศลศาลา” เป็นวิหารขนาดใหญ่ ก่อสร้างแบบศิลปะจีน มี 3 ชั้น ภายนอกจัดแสดง แปดเซียนข้ามทะเล ภายในชั้นล่างมีรูปปั้นศิลปะจีนต่างๆ อาทิ เจ้าแม่กวนอิม สุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ รูปปั้นจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ เปาบุ้นจิ้น ไซอิ๋ว พระพุทธรูป ฯลฯ บนชั้นสองจะมีรูปปั้น มวยจีนของวัดเส้าหลิน มีพิพิธภัณฑ์ เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวองค์ใหญ่ โบราณวัตถุห้องศิลปกรรมไทย
พระมหามณฑป วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร
จากนั้นจะพบกับ “วันเดอร์ฟาร์ม” ซึ่งไฮไลต์ของที่นี่คือสวนสัตว์ขนาดที่มีทั้งปลา กระต่าย ม้าแคระ แพะ ที่ให้อาหารได้อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้แล้วยังสามารถแวะพักเหนื่อย ด้วยการหาเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อนได้ดี ถัดมาเป็น “พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์” พบกับพระพุทธรูปแกะสลักบนผาหิน เป็นพระพุทธรูปแกะสลักเพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาลที่ 9 น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสทรงครองสิริราชสมบัติปีที่ 50 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระพุทธรูปแบบประทับนั่งปางมารวิชัยเลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตรศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา มีความสูงถึง 109 เมตรทีเดียว
เจดีย์พุทธคยาจำลอง วัดญาณสังวราราม
ใกล้ๆ กับเขาชีจรรย์จะเป็นที่ตั้งของ “ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค” พบกับไร่องุ่นสด แวะพักผ่อนถ่ายรูปกับสวนดอกไม้ กังหันลม หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากองุ่นสดๆ นับเป็นจุดแวะพักรายทางที่ดีทีเดียว จากนั้นจะพบกับ พระมหามณฑป วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร สวนผักไฮโรโปนิกส์ และวัดตะเคียนทอง ก่อนวนมาถึงจุดเริ่มต้นตลาดชากแง้ว

นับได้ว่ามาเที่ยวชลบุรีครั้งนี้ ไม่ได้เจอกับทะเลแม้แต่นิด แต่ก็ได้เที่ยวชลบุรีในมุมใหม่ๆ ที่ไม่เคยสัมผัส ทั้งชุมชนจีนโบราณชากแง้ว ศาลเจ้าแม่ทับทิม รวมถึงได้รู้จักเส้นทางปั่นจักรยานใหม่ๆ เพิ่มมาอีกหนึ่งเส้นทางด้วย หากคราวหน้ามีโอกาสมาเที่ยวอีก คงต้องพกจักรยานคู่ใจมาด้วยซะแล้ว!
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น