xs
xsm
sm
md
lg

ดี...แต่แพง “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” มังกรยักษ์สุดอลังการแห่งเมืองสุพรรณ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อาคาร “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร”
ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของประเทศไทยและประเทศจีนนั้นสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ซึ่งสามารถเห็นได้จากผู้คนที่สืบเชื้อสายชาวจีนมาอยู่ในเมือง ในย่าน ในชุมชนต่างๆ ของเมืองไทย รวมทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี แม้กระทั่งภาษา ก็เป็นสิ่งแสดงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีนได้

“พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร”(อุทยานมังกรสวรรค์) ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ตอกย้ำความสัมพันธ์อันยาวนานของ 2 ชนชาติระหว่างชาวไทยกับจีน

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานมังกรสวรรค์ ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี 2539 โดยมีจุดประสงค์เพื่อนำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย ตลอดจนประวัติศาสตร์และอารยธรรมจีน ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นอารยธรรมที่เก่าแก่และสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ห้องฉายวิดีโอ 180 องศา เล่าประวัติการก่อตั้ง “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร”
อาคารพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรแห่งนี้ออกแบบเป็นรูปมังกร สัตว์ในตำนานอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวจีน โดยมังกรนี้ออกแบบอย่างถูกต้องตามลักษณะที่ดีของมังกรที่เชื่อกันว่าต้องมี “หน้าคล้ายอูฐ ตาเหมือนกระต่าย มีเขาเหมือนกวาง หูเหมือนวัว ตัวคล้ายงู เกล็ดคล้ายปลา ขาเหมือนเสือ” โดยที่บริเวณใต้รูปปั้นมังกรขนาดใหญ่นี้เป็นที่ตั้งของ “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” นั่นเอง
“เครื่องสัมฤทธิ์” จัดแสดงในตู้กระจกระหว่างทางเดิน
ก่อนจะเข้าไปเที่ยวชมสิ่งต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์นั้น ผู้ที่เข้าชมจะได้รับถุงพลาสติกเพื่อนำมาสวมหุ้มรองเท้า ซึ่งเป็นกฎการดูแลรักษาความสะอาดของทางพิพิธภัณฑ์ โดยในการเข้าไปชมแต่ละห้องของพิพิธภัณฑ์นั้นจะมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้พาเข้าไปเที่ยวชมในแต่ละห้อง และจะเป็นผู้บรรยายในเรื่องราวความรู้ต่างๆ ที่จัดแสดงอยู่ภายในห้องพิพิธภัณฑ์ ไม่สามารถเดินชมเองได้
ห้องเทพนิยาย (กำเนิดโลก) เทพนิยายเรื่อง “เทพผานกู”
ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 20 ห้อง จัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยตำนานการสร้างโลกยุคแรกเริ่มทางประวัติศาสตร์ ลำดับราชวงศ์ต่างๆ ตั้งแต่แรกเริ่มจนหมดยุคการปกครองโดยกษัตริย์ ต่อเนื่องไปจนถึงยุคสมัยการเปลี่ยนแปลงการปกครอง รวมไปจนถึงวัฒนธรรมและประเพณีของชาวจีน อาทิ อาทิ "ห้องเทพนิยาย" (กำเนิดโลก) ห้องนี้จัดแสดงด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยทั้งหุ่นจำลองภาพและเสียง แสดงเรื่องราวการกำเนิดโลกโดยนำเอาเทพนิยายเรื่อง “เทพผานกู” มาจัดเเสดง
ห้องตำนาน (ปฐมกษัตริย์) “จิ๋นซีฮ่องเต้”
"ห้องตำนาน" (ปฐมกษัตริย์) นิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวการรวมแว่นแคว้นต่างๆ ของจิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้เป็นปฐมกษัตริย์ของจีน ห้องนี้มีความพิเศษอยู่ที่พื้นของห้องนั้นจะเป็นกระจกด้านล่างจำลองสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้สร้างความแปลกใหม่ในการบอกเล่าเรื่องราว "ห้องราชวงศ์ซ่งเหนือ" (เปาบุ้นจิ้น) จัดแสดงเรื่องราวของเปาบุ้นจิ้น เรื่องจริงของผู้ทรงความยุติธรรมจนนำมาดัดแปลงเป็นนวนิยายอมตะ ห้องนี้จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งตัวละครในเรื่องเปาบุ้นจิ้นที่เหมือนจริง และนอกจากนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายให้มาติดตามกัน
“ห้องราชวงศ์ซ่งเหนือ” จัดแสดงเรื่องราวเปาบุ้นจิ้น
นิทรรศการในแต่ละห้องนั้นมีความน่าสนใจ และสื่อต่างๆ ที่ใช้ในการจัดแสดงก็ล้วนทันสมัย รวมถึงหุ่นขี้ผึ้งจำลองและของใช้ต่างๆ ก็เหมือนจริง ประกอบกับการบรรยายข้อมูลของเจ้าหน้าที่นั้นทำให้สามารถเข้าใจนิทรรศการที่จัดเเสดงได้โดยง่าย แต่ข้อเสียคือ เมื่อเจ้าหน้าที่พาชมห้องใดห้องหนึ่งเสร็จแล้ว ประตูของห้องถัดไปจะถูกเปิดออกและนักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องเดินไปชมนิทรรศการห้องถัดไปต่อทันที เพราะไฟและประตูของห้องนิทรรศการนั้นจะถูกปิดลง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถชมรายละเอียดของแต่ละห้องที่สนใจได้นานนัก และการเยี่ยมชมในแต่ละห้องนั้นให้เวลาน้อยเกินไป
ทางเดินกลับออกสู่ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ตกแต่งอย่างงดงามด้วยศิลปะจีน
เมื่อเดินชมแต่ละห้องเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นห้องถัดไปก็จะเป็นร้านขายของที่ระลึก โดยจะมีตะกร้าสำหรับถอดพลาสติกหุ้มรองเท้าคืน เเละจะมีประตูทางออกเพื่อไปพบกับทางเดินกลับไปยังบริเวณด้านหน้าทางเข้าผ่านบริเวณหลังอาคารพิพิธภัณฑ์ โดยบริเวณทางนี้ได้ถูกออกแบบมาอย่างสวยงาม มีการตกแต่งด้วยศิลปะแบบจีน

“พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร” ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ซึ่งวันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของจังหวัดสุพรรณบุรี

อย่างไรก็ดี จากการเข้าไปสัมผัสและสอบถามจากผู้ที่เคยมาเที่ยวชม มีข้อเสนอแนะว่า การเยี่ยมชมในแต่ละห้องให้เวลาที่น้อยเกินไป นักท่องเที่ยวไม่สามารถที่จะอยู่ชักช้าเพื่อสัมผัสกับนิทรรศการได้อย่างจุใจเพราะต้องเดินไปที่ห้องถัดไปด้วยความจำยอม เนื่องด้วยประตูทางเชื่อมจะถูกปิดลง

นอกจากนี้ในแต่ละห้องที่ไม่สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้เพราะมีประตูปิดอยู่นั้น อาจเป็นอันตรายได้ หากใครที่พลาดหรือหากมีการพลัดหลงของเด็ก เนื่องจากหากห้องถูกปิดแล้วไฟจะดับและมืด อาจทำให้คนที่พลัดติดอยู่เกิดความกลัวขึ้นได้ ซึ่งหากเป็นเด็กด้วยแล้วก็คงไม่เกิดผลดีอย่างแน่นอน

ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหามีคนพูดถึงกันมากก็คือ เรื่องของราคาค่าเข้าชม ที่วันนี้พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรเก็บค่าเข้าชมอยู่ที่ คนไทย ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 499 บาท เด็ก 299 บาท ซึ่งนี่ดูจะเป็นปัญหาต่อการเข้าชมไม่น้อย เพราะจากการสอบถามของทีมงาน นักท่องเที่ยวทั้งที่เคยเข้าชมพิพิธภัณฑ์และยังไม่เคยเข้าชม ต่างพูดในทำนองเดียวกันบอกว่าราคาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างแพง นั่นจึงทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเลือกที่จะชมบรรยากาศและถ่ายรูปคู่กับสิ่งก่อสร้างรูปมังกรยักษ์แค่ภายนอกเท่านั้น

นี่ก็คือเสียงท้วงติงจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องค่าเข้าชมที่ต่างบ่นกันว่าแพงนั้น ถือเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวอยากให้ผู้บริหารพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรนำไปพิจารณาปรับปรุง ดูในเรื่องราคาที่เหมาะสม เพื่อเปิดกว้างให้คนทั่วไปที่สนใจสามารถเข้าไปท่องเที่ยว เรียนรู้ได้มากขึ้น

เพราะถึงแม้ว่าพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรจะจัดทำอย่างดี แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้ก็นับเป็นการสูญเปล่า

ยังไงๆ พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกรก็ควรที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้คู่กับเมืองสุพรรณที่เปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่เข้าถึง

อย่าให้ใครมาครหาได้ว่า มังกรยักษ์ตัวนี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นอนุสรณ์สำหรับใครบางคน!?!
บรรยากาศบริเวณหน้าอาคาร “พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร”
*********************************************************************************************************************

พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (อุทยานมังกรสวรรค์) ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-อาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์และอังคาร เปิดให้เข้าชมวันละ 7 รอบ รอบแรก เวลา 10.00 น. รอบสุดท้าย เวลา 16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 299 บาท เด็ก 149 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 499 บาท เด็ก 299 บาท ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.0-3522-6211
กำลังโหลดความคิดเห็น