การที่ได้มาเยือนยัง “ซีอาน” เมืองหลวงของมณฑลส่านซี ประเทศจีน เป็นเหมือนการที่ได้มาเที่ยวย้อนรอยกลับไปทำความรู้จักถึงประวัติศาสตร์อันน่าสนใจมากมายของประเทศจีน เพราะอย่างที่รู้กันว่าซีอานเคยเป็นเมืองหลวงเก่าอันยิ่งใหญ่ของประเทศจีนมาถึง 13 ราชวงศ์
แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมานับพันปี แต่ซีอานวันนี้ยังเป็นหนึ่งในเมืองสำคัญ โดยเฉพาะยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อยู่มากหลาย ซึ่งส่วนหนึ่งได้นำเสนอไปในตอนที่แล้ว (คลิกอ่าน “หนีห่าว...“ซีอาน” ไหว้พระถังซำจั๋ง พิศโฉมหญิงงามที่สุดในเมืองจีน” ได้ที่นี่)
สำหรับในตอนนี้เพื่อความเข้าใจในประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของเมืองซีอาน “ตะลอนเที่ยว” จึงขอเลือกไปเที่ยวที่ “พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มณฑลส่านซี” ที่ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สำคัญและมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของประเทศจีน
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ฯส่านซี เป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดใหญ่ มีวางผังการก่อสร้างในรูปแบบวังตามแบบโบราณ เมื่อได้เดินเข้ามาชมในพิพิธภัณฑ์จะได้ตื่นตาตื่นใจกับโบราณวัตถุล้ำค่าจำนวนมากมายที่ถูกจัดแสดงอย่างน่าสนใจเป็นอย่างมาก มีการจัดแสดงไล่ตามยุคสมัยต่างๆ เริ่มตั้งแต่ยุคหินเก่า-หินใหม่ ราชวงศ์จาง-ราชวงศ์โจว ไล่เรื่อยไปจนถึงราชวงศ์หมิงและชิง วัตถุโบราณข้าวของเครื่องใช้มากมายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความสวยงามทรงคุณค่า สื่อให้ได้รู้จักซีอานมากขึ้น และได้เห็นถึงอารยธรรมความเจริญของประเทศจีนผ่านจากวัตถุโบราณล้ำค่าเหล่านี้
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับซีอานมากขึ้น และได้ชมของโบราณล้ำค่ามากมายจากที่พิพิธภัณฑ์ฯ แล้ว “ตะลอนเที่ยว” ได้ข้อมูลมาว่าที่เมืองซีอานแห่งนี้มีสุสานของฮ่องเต้ ตั้งกระจัดกระจายอยู่ถึงกว่า 72 แห่ง และหนึ่งในสุสานที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ “สุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังถึงความยิ่งใหญ่ตระการตาของเหล่ากองทัพทหารดินเผาที่ถูกฝังอยู่ใต้ดินพร้อมกับจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ จนได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกลำดับที่ 8 แห่งศตวรรษที่ 20 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อปี ค.ศ.1987 จัดว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไฮไลท์อันดับหนึ่งของเมืองซีอาน ที่ถ้ามาถึงซีอานแล้วก็ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงที่จะต้องเดินทางไปเที่ยวยังสุสานแห่งนี้กันให้ได้
แต่ก่อนที่จะไปตะลุยสุสานจิ๋นซี เรามาทำความรู้จัก “จิ๋นซีฮ่องเต้” หรือ “ฉินสื่อหวงตี้” (259-210 ก่อน ค.ศ.) แห่งราชวงศ์ฉิน (221-206 ปี ก่อน ค.ศ.) กันสักนิดว่า จิ๋นซีเป็นจักรพรรดิที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นทั้งมหาราชและทรราชในพระองค์เดียวกัน เนื่องจากด้านหนึ่ง (ด้านมหาราช) พระองค์ได้สร้างคุณูปการให้กับแผ่นดินจีนมากมาย อาทิ การรวมประเทศจีนในยุคจ้านกั๋ว หรือยุคสงครามที่มีการรบพุ่งกันกว่า 500 ปีให้เป็นหนึ่งเดียว จากเดิมที่แบ่งเป็น 7 ก๊กใหญ่ๆ การกำหนดให้ใช้เงินตรารูปแบบเดียวกัน การกำหนดให้ใช้มาตราชั่ง ตวง วัด อย่างเดียวกัน และยังได้ทำการเชื่อมกำแพงเมืองตามแค้วนต่างๆ เพื่อป้องกันการรุกรานของเผ่าซงหนู จนกลายเป็น “กำแพงเมืองจีน” 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
แต่อีกด้านพระองค์ก็ได้ชื่อว่าเป็นทรราช เพราะเมื่อรวมจีนเป็นปึกแผ่นจิ๋นซีฮ่องเต้ ก็ปกครองเมืองจีนด้วยอำนาจเหล็กอันเหี้ยมโหด ที่ใครขัดขืนหากถูกจับกุมได้ก็มีแต่ตายสถานเดียว ซึ่งในประวัติศาสตร์มีเรื่องราวอันโหดเหี้ยมให้เห็นก็มีการสังหารหมู่นักศึกษาลัทธิขงจื้อ 400 คนแบบฝังทั้งเป็น และการสังหารนักปราชญ์จำนวนมาก การเผาตำราที่เห็นว่าขัดแย้งกับแนวคิดของตนทำให้วิชาการและ ศิลปะในยุคนั้นพลอยหยุดชะงักลง รวมถึงยังใช้อำนาจยังรีดนาทาเร้นส่วยภาษีจากประชาชน เกณฑ์ชาวบ้านจำนวนมากไปสร้างกำแพงเมือง พระราชวัง สวน และสุสาน ทำให้ผู้คนล้มตายกันจำนวนมาก ในขณะที่จิ๋นซีฮ่องเต้กลับใช้ชีวิตเสวยสุขอย่างสุขสบายท่ามกลางความเดือนร้อนของเหล่าประชาชน แต่แล้วจิ๋นซีฮ่องเต้ก็สวรรคตเมื่อ 208 ปี ก่อน ค.ศ.
ด้วยความที่จิ๋นซีฮ่องเต้มีความเชื่อในเรื่องของชีวิตหลังความตาย จึงได้ทำการสร้างสุสานแห่งนี้ขึ้นมา ซึ่งใช้เวลา 37 ปีในการสร้างกองทัพหุ่นดินเผา (246-208 ก่อน ค.ศ.) เพราะเชื่อว่าในชีวิตหลังความตาย หุ่นทหารเหล่านี้จะตามไปรับใช้และปกป้องในปรโลก ซึ่งนักโบราณคดีจีนเชื่อว่า อาณาเขตของสุสานแห่งนี้มีทั้งสิ้น 2,180 ตร.กม.และแบ่งออกเป็น พระราชฐานชั้นนอกและชั้นใน ซึ่งนอกจากจะบรรจุพระศพของจักรพรรดิแล้ว ยังได้ฝังสมบัติข้าวของเครื่องใช้ในพระชนม์ชีพ ตลอดจนนางสนมกำนัล กองทหาร และสัตว์ใหญ่ไปพร้อมกัน เพื่อร่วมในการเดินทางครั้งสุดท้ายของจักรพรรดิ์ฉินองค์แรก
กองทัพทหารหุ่นดินเผาเหล่านี้ถูกพบขึ้นโดยบังเอิญจากการที่มีชาวนาหมู่บ้านซีหยัง พบซากดินเผาชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ ขณะกำลังขุดบ่อน้ำที่ลึก 3 ม.หลังจากนั้น จึงได้มีการขุดค้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้ค้นพบกองทัพทหารมดินเผาของสุสานจิ๋นซีที่ฝังอยู่ใต้ดินมากว่า 2,000 ปี มีจำนวนมากมายกว่า 6,000 ตัว
สำหรับหลุมขุดค้นที่พบเจอกองทหารดินเผานี้ปัจจุบันมีให้ชมอยู่ด้วยกัน 3 หลุม ซึ่งหลุมที่ 1 จะเป็นหลุมใหญ่ที่มีการนำเหล่าทหารดินเผาเหล่านี้มาตั้งโชว์ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพทหารดินเผาที่มีม้าศึกรวมอยู่ด้วย โดยการจัดแสดงหุ่นทหารดินเผาอย่างเป็นระเบียบแบบแผนเสมือนการจัดรูปแบบกองทัพจริงๆ ได้เห็นกองทัพหุ่นทหารดินแล้วก็ต้องทึ่ง และตะลึงกับความมหัศจรรย์ ที่หุ่นแต่ละตัวมีขนาดเท่าคนจริง และต้องอึ่งเมื่อได้เห็นว่าหุ่นทหารแต่ละตัวจะมีสีหน้าที่แตกต่างกันแบบไม่ซ้ำกันเลย และก็มีท่าทางและอิริยาบทที่ไม่เหมือนกัน บ้างก็ยืนเฉยๆ บ้างก็ถือหอก ถือดาบ ถือธนู และที่จริงแล้วหุ่นทหารดินเผาเหล่านี้จะมีการแต่งกายที่แตกต่างกันและมีสีสัน แต่ว่าเมื่อถูกขุดขึ้นมาแล้วเจอกับอากาศภายนอกก็ทำให้สีเหล่านั้นค่อยๆ ลบเลือนจางหายไป
ส่วนหลุมที่ 2 และหลุมที่ 3 จะได้เห็นถึงร่องรอยการขุดค้น และมีซากหุ่นทหารดินเผา ม้าดินเผาที่หักพัก และยังไม่ได้รับการขุดขึ้นมา และในส่วนของการจัดแสดงของหลุมที่ 3 ก็ยังมีการจัดแสดงหุ่นทหารดินเผาที่มีความสมบูรณ์แบบจัดโชว์ไว้ให้ชมอย่างใกล้ชิดด้วย นอกจากนี้แล้วก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ที่ได้นำเอาข้าวของเครื่องใช้โบราณอันล้ำค่าที่ขุดเจอในสุสานมาจัดแสดงไว้ รวมถึงยังมีอาคารที่จัดฉายวีดีทัศน์เกี่ยวกับสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้แห่งนี้ให้ได้ชมกันอย่างได้ความรู้แบบเต็มอิ่ม
“ตะลอนเที่ยว” ได้เดินชมกองทัพหุ่นทหารดินเผาแล้วต้องขอยอมรับในความน่าทึ่งของสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ จริงๆ ช่างยิ่งใหญ่อลังการ แต่ใช่ว่าเราจะเที่ยวสุสานแห่งนี้เพียงที่เดียวเท่านั้น เพราะอย่างที่บอกว่าซีอานมีสุสานหลายแห่ง และสุสานที่น่าสนใจอีกที่ก็คือ “สุสานฮั่นหยาง” ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่น เป็นสุสานที่มีพื้นที่ครอบคลุมกว้างใหญ่กว่า 20 ตร.กม.ที่ถูกขุดลึกลงไปใต้ดินจนเจอสุสานและพบสิ่งของโบราณทรงคุณค่ามากมาย จนที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ใต้ดินแห่งแรกของประเทศจีน
การเดินเที่ยวภายในสุสานฮั่นหยางเหมือนเราได้เดินลงไปในอุโมงค์ขนาดใหญ่ ที่ภายในจะได้เห็นถึงร่อยรอยการขุดค้นพบสิ่งของโบราณมากมายที่ถูกฝังอยู่ภายในสุสาน ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปั้นดินเผารูปคนจำนวนมากขนาดเล็กไม่ใหญ่นัก มีเครื่องปั้นดินเผารูปสัตว์นานาชนิด และสิ่งของเครื่องใช้โบราณมากมาย ที่บ่งบอกให้เห็นได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์ฮั่น
“ตะลอนเที่ยว” มีความรู้สึกอิ่มเอมใจเป็นอย่างมาก และมีความสุขกับการที่ได้มาเที่ยวซีอานในครั้งนี้เป็นอย่างมาก เพราะทำให้เราได้เปิดโลกกว้าง ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของประเทศจีนผ่านจากสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังมากมายของเมืองซีอาน ถึงตรงนี้เราก็ไม่มีอะไรจะพูดกับเมืองซีอานได้มากไปกว่าคำๆ นี้ “ไจ้เจี้ยน ซีอาน” ลาก่อนซีอาน เมืองที่มากมายไปด้วยประวัติศาสตร์จีนที่น่าประทับใจ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
การเดินทางสู่เมืองซีอาน ล่าสุด สายการบินแอร์เอเชียได้เปิดเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) - ซีอาน วันละ 1 เที่ยวบิน ทุกวัน โดยได้เปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์ไปเมื่อวันที่ 16 พ.ย.55 ที่ผ่านมา ซึ่งผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2515-9999 หรือดูรายละเอียดที่ www.airasia.com
