สายตาตะวันตกมองวิกฤติไทย

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

สายตาของสังคมตะวันตกมองสถานการณ์การเมืองของประเทศไทยแตกต่างจากเหตุการณ์คล้ายคลึงกับยูเครน เมื่อรัฐบาลตะวันตกมองว่าผู้ประท้วงขับไล่ “รัฐบาลนังซั่ม” เป็นฝ่ายผิด ใช้ความรุนแรง ทั้งที่เป็นฝ่ายถูกกระทำโดยตำรวจและกุ๊ยการเมืองสนับสนุนรัฐบาลซึ่งอยู่ในสภาพเถื่อน เป็นโมฆะไปแล้ว

การชุมนุมครั้งใหญ่ของมวลมหาประชาชนโดยแกนนำ 3 กลุ่มใหญ่ มีทุกภาคส่วนในสังคมมีส่วนร่วมเต็มที่ ทั้งรัฐวิสาหกิจ ข้าราชการบางส่วน นิสิต นักศึกษา มวลชนระดับชนบทรากหญ้าเกิดขึ้น 2 ครั้ง คือ 24 พฤศจิกายน และ 9 ธันวาคม มีมากกว่า 1 ล้านคน แต่สื่อเทศประเมินตัวเลขเพียงระดับแสนคน

การชุมนุมวันที่ 9 ธันวาคม สื่อหลักตะวันตกคือ ซีเอ็นเอ็น บีบีซี และเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานตัวเลขผู้ชุมนุมตรงกันเป๊ะว่ามี 150,000 คน ทั้งๆ ที่ผู้ชุมนุมอยู่เต็มพื้นที่รอบทุกด้านบนถนนราชดำเนินและทำเนียบรัฐบาล

ทำไมทั้ง 3 สื่อหลักมีตัวเลขตรงกัน? เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบจากสื่อเทศ หรือทุกสื่อพึ่งพาการนับตัวเลขจากสื่อใดสื่อหนึ่งและตกลงใช้ตัวเลขตรงกัน การรายการตัวเลขผิดจากสภาพจริงสะท้อนให้เห็นทัศนคติด้วย

ยิ่งความเป็นสื่อมืออาชีพต้องถูกซักถามอย่างมิต้องสงสัย เพราะตัวเลขของผู้ชุมนุมสะท้อนให้เห็นความหนักเบาของวิกฤติ สถานการณ์ ทำให้ผู้บริโภคสื่อมีความคิด มุมมอง ประเมินสถานการณ์ต่างกันด้วย ดังเช่นการมีคนชุมนุม 1 แสนคน ย่อมดูเบาบางต่างจากผู้เข้าร่วมชุมนุม 1 ล้านคนแน่นอน

ทำไมทั้ง 3 สื่อหลักนับจำนวนคนได้เพียงแค่นั้น ทั้งๆ ที่ภาพถ่ายจากโดรน ยานร่อนถ่ายภาพทางอากาศทำให้เห็นความหนาแน่นของคลื่นมหาชนตลอดถนนราชดำเนิน ถนนพิษณุโลก ถนนใกล้เคียงลามมาถึงถนนเพชรบุรี

ไม่ว่าจะประเมินอย่างไร ให้ต่ำสุด อย่างน้อยก็ 3-4 แสนคน ถ้าไม่มีอคติจนเกินไป และไม่ใช่ครั้งแรกของการนับของทั้ง 3 สื่อ ที่น่าเกลียดมาก คือการสอบถามความเห็นของนักวิชาการแต่ละครั้งจะเน้นเฉพาะนักวิชาการเสื้อแดง

เป็นความมักง่ายเพราะนักวิชาการเหล่านั้นเป็นนักเรียนนอก ติดต่อได้ง่าย พูดภาษาอังกฤษได้คล่อง การทำเช่นนี้ทำให้เกิดภาพบิดเบือนด้วย เมื่อผู้บริโภคสื่อไม่ได้รู้ว่าในประเทศไทยมีสื่อแท้ สื่อเทียม สื่อแดง นักวิชาการแดง

ในประเทศไทย มีความคิดแตกแยกของประชาชนและทุกภาคส่วนของสังคม การที่สื่อตะวันตกรายงานในลักษณะเช่นนี้ทำให้ความน่าเชื่อถือ ความเป็นมืออาชีพ ความเที่ยงธรรมมีปัญหาแน่นอน ผู้ที่จับทางได้ก็คือคนทำสื่อด้วยกันและรู้ว่าสื่อแต่ละคนทั้งไทยและเทศมีที่ไปที่มา แนวคิดอย่างไร

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นได้ว่าสื่อตะวันตกจองคิวสัมภาษณ์นางโพยปูโพรกเน่าในผู้นำกำมะลอของรัฐบาลเถื่อน พูดภาษาอังกฤษห่วยแตกกว่าเมียเช่า คนขับรถรับจ้างในยุคทหารอเมริกันยึดพื้นที่บันเทิงในย่านอู่ตะเภา พัทยา

ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลไม่ได้มีโอกาสได้เปิดตัว แสดงความคิดเห็น หรือประกาศจุดยืน เจตนารมณ์ของการต่อต้าน ขับไล่รัฐบาลเถื่อน นายกฯ เถื่อน คงเป็นเพราะมีปัญหาในการสื่อสาร หรือมองไม่เห็นความสำคัญ ไม่ดังเท่านางโพย ทำให้ผู้ชุมนุมต้องให้นักเรียนนอกมาประกาศชี้แจงให้สื่อตะวันตกทุกเย็น

กรณีการประท้วงรัฐบาลยูเครน ผู้ชุมนุมมีน้อยกว่าในประเทศไทยมาก ตามภาพที่ปรากฏบนจอทีวี แต่สื่อตะวันตกรายงานว่ามีมวลชนหลายแสนคน และรายงานว่าฝ่ายรัฐบาล ตำรวจปราบจลาจล เป็นผู้ใช้ความรุนแรง

ไม่ใช่เฉพาะเพียงสื่อตะวันตก แม้แต่รัฐบาลตะวันตก หรือรัฐบาลฝรั่งขาว ก็มีมุมมอง ทัศนคติด้านลบต่อผู้ชุมนุม ออกคำเตือนให้ประชาชนของตัวเองให้ระวังการเข้าพื้นที่ชุมนุม ทั้งๆที่เห็นชัดว่าไม่มีความรุนแรงโดยมวลชน

ภาพที่ตำรวจประเคนแก๊สน้ำตา กระสุนยาง หนังสะติ๊ก กระสุนจริง น้ำ ผสมสารพิษเข้าใส่มวลชน 3 วัน 2 คืน ไม่ได้ถูกประณามโดยรัฐบาลสหรัฐและกลุ่มประชาคมยุโรป เพียงแต่ออกแถลงการณ์อ้อมๆ แอ้มๆ ว่าให้เลี่ยงการใช้ความรุนแรง แต่มีนัยว่าเกิดจากผู้ชุมนุมบุกทำเนียบ กองบชก.ตำรวจนครบาล

ทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยแสดงท่าทีชัดเจนว่าสนับสนุนรัฐบาลเถื่อนของนางโพย นอกจากไปเยี่ยมให้กำลังใจอย่างน่าเกลียดแล้ว ยังปรามมวลชนไทยให้ระวังการใช้ความรุนแรงทั้งๆ ที่นักศึกษารามฯ ถูกสังหาร 4 ราย

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายจอห์น เคอร์รี่ ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลยูเครนว่าใช้ความรุนแรง โดยแท้ที่จริงแล้วไม่พอใจที่ผู้นำรัฐบาลยูเครนต้องการมีความสัมพันธ์กับรัสเซียมากกว่าจะมีความใกล้ชิดกับประชาคมยุโรป

ดังนั้นมาตรฐานของสหรัฐขึ้นอยู่กับผลประโยชน์โดยตรงที่ตัวเองได้รับ! บักเหลี่ยมและนางโพยต่างพร้อมสวามิภักดิ์ เสนอผลประโยชน์ให้รัฐบาลและนักลงทุนข้ามชาติจากสหรัฐ มองว่าถ้ากลุ่ม กปปส. และมวลชนกุมอำนาจรัฐได้ สหรัฐจะเสียผลประโยชน์ อำนาจต่อรอง สุญเสียอิทธิพลครอบงำแน่นอน

การที่ยูเครนไม่สนใจอยู่กับกลุ่มชาติอียู ทำให้สหรัฐเสียโอกาสขยายพื้นที่ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง แหล่งทรัพยากรธรรมชาติ จึงประณามรัฐบาลยูเครน แต่อุ้มก้นแม่นางโพย ไม่ลืมหูลืมตาว่าเป็นรัฐบาลเถื่อนขัดรัฐธรรมนูญ

เราจะว่าสื่อต่างชาติ รัฐบาลต่างชาติเต็มปากก็ไม่ได้ แม้แต่กองทัพไทยยังไม่ยอมพบปะพูดคุยรับรู้ข้อมูลจากฝ่ายกำนันสุเทพและเครือข่ายต่อต้านขับไล่รัฐบาลเถื่อนเช่นกัน! คงยอมให้พวกโกงบ้านกินเมืองย่ำยีแผ่นดินจนล่มจม การทำเช่นนั้นมีมีผลประโยชน์ตอบแทนอย่างไรหรือไม่ อย่าเสียเวลาคาดเดา!