xs
xsm
sm
md
lg

โอบามาแต่งตั้ง “ซูซาน ไรส์” ทูตประจำยูเอ็นขึ้นเป็น “ที่ปรึกษาความมั่นคง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซูซาน ไรส์ (ขวาสุด)ทอม ดอนนิลอน(ขวาถัดมา)ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ(กลาง) และศาสตรจารย์ซาแมนต้า พาวเวอร์ (ซ้ายสุด)
รอยเตอร์ - ในที่สุดหลังจากที่ต้องถอนตัวจาการเป็นแคนดิแดตในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซูซาน ไรส์ ทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็น ได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการให้เป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงคนใหม่ในวันพุธ (5) ที่ผ่านมานี้ ถึงแม้จะมีข้อตำหนิจากรีพับลิกันจากข่าวฉาวเรื่องการโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเบงกาซี

ไรส์ได้รับเลือกจากโอบามาให้มาทำหน้าที่แทน ทอม ดอนนิลอน ในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงเพื่อควบคุมนโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯ เน้นโดยเฉพาะสงครามการเมืองซีเรีย ซึ่งโอบามานั่งไม่ติดจากการที่มีหลักฐานว่าประธานาธิบดีซีเรีย บาร์ชา อัล-อัสซาด ได้ใช้อาวุธเคมีกับกลุ่มกบฏที่ต้องการโค่นล้มเขา

ในขณะเดียวกันประธานาธิบดี โอบามา จะแต่งตั้งศาสตรจารย์จากฮาร์วาร์ด และเป็นอดีตผู้ช่วยของทำเนียบขาว และเจ้าของรางวัลพูลิเซอร์จากหนังสือที่เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ซาแมนตา พาวเวอร์ ขึ้นดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นแทนไรส์ เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าว

ซึ่งจากการเลือกของคนทั้งคู่นี้ ทำให้นักวิจารณ์กังขาว่านโยบายการต่างประเทศของโอบามาในวาระการดำรงตำแหน่งที่ 2 นี้จะเน้นหนักไปที่สิทธิมนุษยชนมากขึ้นหรือไม่

อย่างไรก็ตามการแต่งตั้งไรส์ขึ้นมา อาจทำให้รีพับลิกันไม่พอใจด้วยเหตุผลเกี่ยวกับการให้สัมภาษณ์ของเธอออกสื่อเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯในเมืองเบงกาซี ซึ่งทำให้เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำลิเบียถูกสังหาร

โอบามาได้เล็งที่จะแต่งตั้งไรส์ วัย 48 ปี ขึ้นเป็นปรึกษาด้านความมั่นคงของเขา ตั้งแต่การถอนตัวของเธอในเดือนธันวาคมก่อนที่เธอจะได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ แทนนางคลินตัน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์อย่างรุนแรงจากพรรคฝ่ายตรงข้ามในเรื่องเบงกาซี ถึงแม้เธอจะเป็นตัวเลือกแรกที่โอบามาต้องการ แต่ในที่สุด จอห์น เคอร์รี ก็ได้ตำแหน่งนี้ไป

ไรส์จะเข้าทำหน้าที่ในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ ในฐานะเจ้าหน้าที่ประสานงานด้านนโยบายต่างประเทศจากทำเนียบขาว ซึ่งตำแหน่งนี้ไม่ต้องให้วุฒิสภาให้การรับรอง

ในการให้ความเห็นของไรส์นั้น เธอไม่ได้กล่าวถึงการโจมตีที่เบงกาซี หรือการวิพากษ์จากรีพับลิกัน เธอเพียงแต่กล่าวว่าเธอมองไปข้างหน้าที่จะร่วมงานกับ “ผู้นำของประเทศอันเป็นที่รักของเธอจากทั้ง 2 พรรค”

รีพับลิกันโจมตีไรส์ในแง่ที่ไรส์พยายามทำให้เหตุการณ์เบงกาซีดูไม่รุนแรงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง โดยให้สัมภาษณ์ในรายการข่าวทอล์กโชว์ทางทีวีในวันอาทิตย์ว่า การบุกโจมตีสถานกงสุลสหรัฐฯในเบงกาซี เป็นการกระทำของผู้ประท้วงชาวลิเบียที่ไม่พอใจเรื่องภาพยนตร์ที่ดูหมิ่นศาสนาอิสลาม และถูกอัปขึ้นยูทิวบ์แทนที่จะเป็นเรื่องผู้ก่อการร้ายโจมตีและสังหารทูตและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

ภายใต้การนำของไรส์ มีแนวโน้มว่านโยบายการต่างประเทศของสหรัฐฯจะถูกรวมไว้ที่ทำเนียบขาว ดังนั้นเป็นที่สงสัยว่าจะเหลืออะไรให้จอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯทำ ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่างประเทศให้ความเห็น และกล่าวทิ้งท้ายว่า “ไรส์เป็นคนเปิดเผย ตรงไปตรงมา ต่อกรด้วยได้ยาก แต่เป็นคนที่มีความเชี่ยวชาญและมั่นใจ และที่สำคัญที่สุด เธอสนิทกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้เธอเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว”
กำลังโหลดความคิดเห็น