รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ รุดเยือนโซล-ญี่ปุ่น-จีน ท่ามกลางวิกฤตโสมแดง

เอเอฟพี - จอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ มุ่งหน้าสู่เกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี (11) ในคิวเยือนเอเชีย รวมถึงญี่ป่นและจีน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เพื่อแสดงการสนับสนุนของอเมริกาต่อพันธมิตรในภูมิภาคแถบนี้ หลังมีความกังวลว่าเกาหลีเหนืออาจทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่ ท่ามกลางความตึงเครียดขั้นสูงสุด

สถานการณ์อ่อนไหวบนคาบสมุทรเกาหลี ถูกโหมกระพือความร้อนแรงด้วยถ้อยแถลงอันก้าวร้าวหลายต่อหลายครั้งของเปียงยาง และวิกฤตการดังกล่าวได้กลายเป็นหัวข้อหลักที่นายเคอร์รี หยิบมาพูดคุยหารือระหว่างร่วมประชุมเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 8 ในกรุงลอนดอน ช่วง 2 วันที่ผ่านมา

โดยก่อนหน้าที่นายเคอร์รีจะเดินทางออกจากอังกฤษมุ่งหน้ามายังเกาหลีใต้ เหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี 8 ก็ออกถ้อยแถลงร่วมประณามความเคลื่อนไหวทางนิวเคลียร์ของเปียงยาง ด้วยถ้วยคำที่หนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา

เกาหลีเหนือ เคยขู่โจมตีนิวเคลียร์ต่อสหรัฐฯและเกาหลีใต้ ขณะที่ล่าสุดเหล่านักสังเกตการณ์คาดหมายว่าเปียงยางอาจยิงขีปนาวุธได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงระหว่างนี้จนถึงวันจันทร์หน้า (15)

ในวันพฤหัสบดี (11) นับเป็นวาระครบรอบ 1 ปีของการที่ คิม จองอึน เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการคนที่หนึ่ง ของพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พรรคผู้ใช้แรงงานเกาหลี ขณะที่ในวันจันทร์ (15) ก็เป็นวันคล้ายวันเกิดของของ คิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศผู้ล่วงลับ ซึ่งปกติแล้วจะมีการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ และมีความเป็นไปได้ว่าเปียงยางอาจยิงขีปนาวุธได้ทุกเมื่อ

เคอร์รี เพิ่งรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ได้แถลงตำหนิพฤติกรรมต่างๆ ของเปียงยาง ในนั้นรวมถึงขู่กลับมาเปิดปฏิบัติการ ณ โรงงานแปรรูปยูเรเนียมอีกครั้ง ว่าเป็นการยั่วยุ ขณะที่สหรัฐฯ ได้เสริมระบบป้องกันขีปนาวุธในภูมิภาค เพื่อปกป้องพันธมิตรอย่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น รวมถึงฐานทัพอเมริกาบนเกาะกวม นอกจากนี้สหรัฐฯและเกาหลีใต้ ยังได้กำหนดสถานะการระวังภัยในระดับสูงจากขีปนาวุธของโสมแดงด้วย

รายงานข่าวระบุว่า ครั้นที่นายเคอร์รีเดินทางถึงกรุงโซล รัฐมนตรีต่างประเทศรายนี้มีกำหนดรับฟังบรรยายสรุปจากเหล่าผู้บัญชาการทหารสหรัฐฯ บนภาคพื้น จากนั้นก็จะเข้าพบปะกับ พัค กึน-ฮเย ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้และนายยุน บยอง-เซ รัฐมนตรีต่างประเทศ

โปรแกรมทัวร์ 3 วันครั้งนี้นับเป็นการเยือนเอเชียครั้งแรกของนายเคอร์รีก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ โดยนอกจากโซลแล้ว เขามียังกำหนดมุ่งหน้าต่อไปยังจีนและญี่ปุ่นด้วย

แม้เคยผ่านศึกสงครามเวียดนามและเป็นคณะกรรมาธิการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภามาอย่างช้านาน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นายเคอร์รี ก็แทบไม่ได้เดินทางมายังภูมิภาคแถบนี้เลย และไม่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเหล่าผู้นำชาติเอเชียด้วย

ทั้งนี้ คิวเยือนปักกิ่งในวันเสาร์ (13) ได้รับคาดหมายว่าจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง ด้วย เคอร์รี น่าจะใช้โอกาสนี้กดดันเหล่าผู้นำจีน ในนั้นรวมถึงหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศแดนมังกร ให้ดำเนินการมากกว่าที่เป็นอยู่ในความพยายามยับยั้งชั่งใจเกาหลีเหนือ

ดักลาส พาล นักวิเคราะห์จากกองทุนคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ บอกว่า “วอชิงตันหวังว่าจีนจะทำอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ สำหรับการระงับส่งพลังงานและอาหารไปยังเกาหลีเหนือ และชะลอการลงทุนใหม่ๆ แต่ปัญหาก็คือทั้งหมดล้วนสวนทางกับผลประโยชน์หลักของจีน”

ขณะที่ทุกฝ่ายพยายามหยุดยั้งสถานการณ์ไม่ให้ลุกลามออกจากการควบคุม เหล่าผู้เชี่ยวชาญมองว่าบางทีอาจถึงเวลากลับมาทบทวนข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวปี 1953 ซึ่งยุติสงครามเกาหลี แล้วยกระดับเป็นสนธิสัญญาสันติภาพโดยสมบูรณ์แทน

อนึ่งนายเคอร์รี ยังมีกำหนดเดินทางเยือนญี่ปุ่นในวันอาทิตย์ (14) และวันจันทร์ (15) ก่อนบินกลับวอชิงตันหลังจากนั้น