“โอบามา” เตือนโสมแดงเลิกชวนทะเลาะ กร้าวใช้ทุกแนวทางปกป้อง ปชช.และพันธมิตร

เอเอฟพี - บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วานนี้ (11) เรียกร้องเกาหลีเหนือเลิกใช้วิธีชวนทะเลาะ ลั่นพร้อมใช้ทุกมาตรการปกป้องพลเรือนและชาติพันธมิตร ขณะที่โลกกำลังจับตาเปียงยางอาจยิงขีปนาวุธรอบใหม่ในเร็ววันท่ามกลางวิกฤตความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี

โอบามากล่าวกับสื่อมวลชน หลังเปิดห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาว หารือกับ บัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดี (11) ว่า “ไม่มีใครต้องการเห็นความขัดแย้งกับเกาหลีเหนือ แต่สหรัฐฯ พร้อมใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องประชาชนของเราและปกป้องพันธมิตรในภูมิภาค”

“เราทั้งสองเห็นพ้องกันว่า ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เกาหลีเหนือจะหยุดใช้วิธีชนวนทะเลาะแบบที่พวกเขาทำอยู่” โอบามากล่าว “มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเกาหลีเหนือหรือประเทศอื่นๆ ในโลกใบนี้ ที่ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบและบรรทัดฐานพื้นฐาน”

ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือขู่โจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ต่อสหัฐฯ และชาติพันธมิตรในเอเชีย แก้แค้นมาตรการคว่ำบาตรอันหนักหน่วงของสหประชาชาติ ซึ่งกำหนดออกมาตามหลังการยิงจรวดในเดือนธันวาคมและทดสอบนิวเคลียร์เดือนกุมภาพันธ์ของเปียงยาง

ด้านนายบัน กล่าวชมเชยวอชิงตัน ถึงแนวทางตอบสนองต่อคำขู่ของเปียงยาง และเรียกร้องจีนใช้อิทธิพลกดดันพันธมิตรผู้เถลไถลให้คืนสู่เส้นทางที่ถูกต้อง “เราหวังว่าชาติต่างๆ ตามแนวชายแดนรวมทั้งจีน ซึ่งอาจมีอิทธิพลต่อเกาหลีเหนือ จะสามารถใช้ความเป็นผู้นำและอิทธิพลเข้ากดดันให้สถานการณ์คลี่คลายไปอย่างสันติ”

เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ รวมถึงญี่ปุ่น ยังคงสถานะการระวังภัยในระดับสูงจากขีปนาวุธของโสมแดง ท่ามกลางความเป็นไปได้ของทดสอบยิงขีปนาวุธรอบใหม่ ที่อาจผลักความตึงเครียดในภูมิภาคที่พุ่งสูงอยู่ก่อนแล้วระอุหนักหน่วงขึ้นไปอีก

กระนั้น ขณะที่ทั่วโลกยังระแวดระวังคำข่มขู่ทำสงครามจากเกาหลีเหนือ สื่อทางการเปียงยางในวันพฤหัสบดี (11) กลับพุ่งความสนใจไปยังพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 1 ปีของการที่ คิม จองอึน เข้ารับตำแหน่งเลขาธิการคนที่หนึ่ง ของพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พรรคผู้ใช้แรงงานเกาหลี ในวันพฤหัสบดี (11) นี้ ตลอดจนวันคล้ายวันเกิดของ คิม อิลซุง ผู้ก่อตั้งประเทศผู้ล่วงลับ ในวันจันทร์หน้า (15)

สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่า พวกผู้แทนจากชาติต่างๆ เดินทางถึงเปียงยางเพื่อร่วมพิธีฉลอง ซึ่งเป็นหนึ่งในวันสำคัญที่สุดในปฏิทินของประเทศที่อยู่อย่างโดดเดี่ยวอย่างที่สุดรายนี้

โรดง ซินมุน หนังสือพิมพ์ที่เป็นกระบอกเสียงของพรรคผู้ใช้แรงงานเกาหลี สรรเสริญคิม จองอึน ว่าเป็น “บุรุษหมายเลข 1 ผู้เชื่อมั่นและเด็ดเดี่ยว” พร้อมยกความดีความชอบให้แก่เขาสำหรับความสำเร็จในการยิงจรวดพิสัยไกลในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ตลอดจนการทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การยิงจรวดและทดสอบนิวเคลียร์ดังกล่าว ได้ถูกตอบโต้ด้วยมาตรการลงโทษคว่ำบาตรเพิ่มเติมจากสหประชาชาติ หลังจากนั้นเปียงยางก็ออกมาข่มขู่รายวันว่าจะเปิดฉากทำสงครามถล่มอเมริกาและเหล่าพันธมิตรไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น โดยที่อาจจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ด้วย

รายงานของหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุว่า เปียงยางไม่ได้เพียงแค่ขู่ลอยๆ หากได้จัดเตรียมขีปนาวุธ 2 ลูกที่พร้อมยิงทุกขณะไว้ที่ชายฝั่งด้านตะวันออก โดยที่ผู้สังเกตการณ์จำนวนมากเชื่อว่า เพื่อเป็นการรักษาหน้า อย่างน้อยที่สุดเกาหลีเหนือน่าที่จะทดสอบยิงขีปนาวุธเหล่านี้ในระหว่างช่วงเวลานี้จนถึงวันที่ 15 เมษายน แม้มีคำเตือนจากจีน ให้หลีกเลี่ยงความเคลื่อนไหวอันยั่วยุในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดทางทหารเช่นนี้ก็ตาม

ข่าวบอกว่า ขีปนาวุธดังกล่าวเป็นแบบมูซูดัน ที่โสมแดงคุยว่ามีพิสัยทำการ 4,000 กิโลเมตร นั่นคือสามารถไปไกลถึงเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และอาจรวมถึงฐานทัพอเมริกันบนเกาะกวม ขณะที่คณะกรรมการเพื่อการรวมตัวแห่งแผ่นดินเกิดอย่างสันติของเกาหลีเหนือ ระบุในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนแห่งรัฐว่า “หากขีปนาวุธถูกยิงไป มันจะเปลี่ยนป้อมปราการของฝ่ายศัตรูเป็นทะเลเพลิง”

การยิงขีปนาวุธยังอาจเกิดขึ้นประจวบกับการเยือนกรุงโซลของจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในวันศุกร์ (12) และแอนเดอร์ส ราสมุสเซน เลขาธิการองค์การนาโต จะเข้าหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ยุน บยอง-เซ ในวันพฤหัสบดี(11)

สำนักข่าวยอนฮับรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวสายทหารระบุ เกาหลีเหลือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธหลายลูกไปยังพื้นที่ต่างๆ ในความพยายามสร้างความสับสนแก่การรวบรวมข้อมูลข่าวกรองจากภายนอกและเพื่อปิดซ่อนเจตนาที่แท้จริงของพวกเขา

ด้านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ รายหนึ่งเมื่อวันพฤหัสบดี (11) ก็อ้างหน่วยสืบราชการลับของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งทำการประเมินข้อมูลข่าวกรอง มีข้อมูลเชื่อได้ว่าเป็นไปได้ที่เกาหลีเหนือจะพัฒนาถึงขั้นติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนขีปนาวุธนำวิถีได้แล้ว แต่อาวุธดังกล่าวอาจยังไม่น่าไว้วางใจได้นัก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เกาหลีเหนือ ขีดเส้นตายแก่บรรดาทูตต่างชาติในเปียงยาง มีเวลาอพยพจนถึงแค่วันที่ 10 เมษายน และเตือนชาวต่างชาติให้เดินทางออกจากเกาหลีใต้ ก่อนสงครามนิวเคลียร์จะปะทุในไม่ช้า อย่างไรก็ตาม สหภาพยุโรปยืนยันว่า 7 ประเทศสมาชิกยูโร ซึ่งมีสถานทูตในเกาหลีเหนือ ยังไม่จำเป็นต้องอพยพและเห็นว่าในสถานการณ์ ณ ปัจจุบัน ก็ยังไม่จำเป็นต้องอพยพพลเมืองออกจากเกาหลีใต้ตามคำขู่ของโสมแดงเช่นกัน