ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปู"มั่นใจมีเลือกตั้ง หลังพรรคการเมืองแสดงท่าทีตอบรับ ดักคอ ป.ป.ช. ให้รัฐบาลออก พ.ร.ก.ตั้งสภาประชาชน ไม่แน่ใจทำได้ ยกพระราชดำรัสเตือนสติ ผบ.เหล่าทัพ ให้ทำหน้าที่ตัวเอง หลัง "เทือก" ขอพบยื่นคำขาด ด้านลิ่วล้อดาหน้าปกป้อง "ปึ้ง"อ้างนานาชาติหนุนเลือกตั้ง "ธาริต"รับลูกแก๊งแดง รีบทำคดี "สุเทพ" แถมจ่อโอนคดีชุมนุมมาเป็นคดีพิเศษ พร้อมขู่ฟันผู้สนับสนุน ศอ.รส. ยันตำรวจไม่ทำตามคำสั่ง กปปส. "เหลิม"ยันนายกฯ ลาออกรักษาการไม่ได้ เชียร์ลงปาตี้ลิสต์เบอร์ 1 โวชนะแน่ ด้านที่ประชุมปลัดกระทรวงเห็นพ้องการเลือกตั้ง ไม่สามารถแก้ปัญหาขัดแย้งได้
เมื่อเวลา 17.15 น. วานนี้ (11ธ.ค.) ที่กรมการขนส่งทหารบก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งว่า ภายใต้กฎหมาย เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภาแล้ว ตามหลักก็ควรที่จะปฏิบัติตาม และจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งได้กำหนดไว้ คือ วันที่ 2 ก.พ.2557 และวันนี้ก็ได้เห็นการตอบรับจากพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ตนเชื่อว่าหากเราช่วยกันในการที่ให้การเลือกตั้งเป็นทางออกของประเทศไทย ก็จะทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอให้มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสภาประชาชน เพื่อกำหนดกติกาก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจเรื่องนี้ คงต้องขอปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อน แต่วันนี้เราไม่มีรัฐสภา มีแต่วุฒิสภา จึงไม่แน่ใจว่าในส่วนของวุฒิสภา จะออก พ.ร.ก.ได้หรือไม่ เพราะตามกฎหมาย เราได้ยุบสภาไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่ม กปปส. ประกาศขอเข้าพบผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในมุมมองของนายกฯ อยากให้กองทัพแสดงท่าทีอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือข้าราชการทุกคน มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ และระเบียบของข้าราชการอยู่แล้ว ซึ่งมีพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทุกอย่างต้องมีกติกา มีระเบียบของตัวเองอยู่แล้ว เชื่อว่าข้าราชการทุกคนจะทำตาม
ทั้งนี้ นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวถึงการตั้งสภาประชาชน ตามข้อเสนอของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่า สามารถทำได้ โดยออกพระราชกำหนด และให้รัฐบาลรักษาการ เป็นผู้ดำเนินการ เพราะถือว่าเป็นเรื่องด่วนและฉุกเฉินในทางการเมือง ส่วนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี ทำได้หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ แต่กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ปฏิบัติราชการแทนมาแล้ว
**"ปึ้ง"อ้างนานาชาติหนุนเลือกตั้ง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศต่างๆ ที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้แสดงความห่วงใยในวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยของไทย และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย จึงได้มีมิตรประเทศหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี นิวซีแลนด์ และแคนาดา เป็นต้น ได้ออกแถลงการณ์แสดงความรู้สึกและท่าทีต่อเหตุการณ์ในประเทศไทย นับตั้งแต่วันที่ 9-10 ธ.ค. โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งทั่วไป
**พท.ยื่นหลักฐานกกต.สั่งยุบ ปชป.
นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมาย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ และเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 5 ปี เพราะมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รู้เห็น เกี่ยวข้อง สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.
**"ธาริต"ลั่นเอาผิด สุเทพ-ผู้สนับสนุน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชิต ชื่นบาน ได้เข้าร้องทุกข์ ต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวกในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานล่วงละเมิดพระราชอำนาจ
นายธาริตกล่าวว่า เบื้องต้น ตนจะได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ (ระดับ 9) ดีเอสไอ รับผิดชอบดำเนินการ และจากการประชุมกับ พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทราบว่า เบื้องต้นมีคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองประมาณ 40 คดี เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งจะได้มีการรวบรวมรายละเอียดของเรื่องทั้งหมด ก่อนที่จะเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เวลา 14.00 น.
นายธาริตกล่าวว่า กรณีหมายจับของนายสุเทพ ได้มีการโอนมาไว้ที่ดีเอสไอทั้งหมด เพราะจะมีการยกระดับเป็นคดีพิเศษ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสอบสวน และการดำเนินการ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังดำเนินการในคดีต่อไป สำหรับผู้ที่กระทำความผิดร่วมกับนายสุเทพ เบื้องต้นมี 20 ราย เป็นตัวการร่วม ผู้สนับสนุน จึงขอเตือนนักวิชาการที่ขึ้นเวที กปปส. ให้ระมัดวัง อย่าทำผิดโดยเจตนา ซึ่งตนไม่ได้เสียสติเรียกแขก จึงต้องออกมาให้ข่าวแจ้งเตือนไว้ล่วงหน้า
สำหรับรายชื่อผู้ร่วมบริจาคบนเวที กปปส. นั้น ยืนยันว่า จะไม่ถือเป็นความผิดที่แน่นอน เพราะเป็นลุงป้าน้าอา บริจาคอาหาร เครื่องดื่ม ซึ่งจะดูว่า มีเจนตนาร่วมทำความผิดด้วยหรือไม่
**ยันตำรวจไม่ทำตามคำสั่ง กปปส.
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า หลังผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกจากศูนย์ราชการและกระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบความเสียหาย ทั้งส่วนราชการและของส่วนตัว อาทิ รถที่จอดอยู่ในพื้นที่ กล้องวงจรปิด ห้องทำงานต่างๆ ถูกรื้อค้น โดยส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไม่น้อยกว่า 20 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ เกือบ 30 เครื่อง และเงินสด ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างเก็บรอยนิ้วมือ ภาพวงจรปิด และพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมสั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.น. 2 จัดชุดพนักงานสอบสวนไปรับแจ้งความที่ศูนย์ราชการ และกระทรวงการคลัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย
ส่วนกรณีข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขีดเส้นตายให้ตำรวจออกจากพื้นที่ส่วนราชการ และหยุดการปฏิบัติหน้าที่ โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ยังคงเน้นย้ำให้ตำรวจรักษาสถานที่สำคัญและดูแลความปลอดภัยประชาชนตามปกติ รวมทั้ง ให้คงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งด่วนให้กำลังพลทุกกองบัญชาการมีความหนักแน่น และเชื่อมั่นในตัวผู้บังคับบัญชา อย่าหวั่นไหวต่อคำโฆษณาชวนเชื่อจากกลุ่มกบฏ เพื่อรักษาเกียรติภูมิของตำรวจ
**"เหลิม" เย้ย "เทือก" ยิ่งดิ้นคดียิ่งเพิ่ม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรมว.แรงงาน กล่าวว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศยุบสภา ถือเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ แต่นายสุเทพ กลับยังไม่ยุติการชุมนุม ยังมีการตั้งองค์กรเถื่อนขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรี และ ครม.เป็นกบฏ นอกจากจะมีหมายจับในข้อหากบฏแล้ว อาจจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทอีกด้วย และจากการฟังคำปราศรัยของนายสุเทพ ก็รู้สึกน่ารังเกียจขึ้นทุกที
“นายสุเทพ ต้องการอะไร ยิ่งดิ้น ยิ่งมีคดีขึ้นมากขึ้นไปทุกที ภายใน 48 ชม. หากยังไม่มีการจับกุมนายสุเทพตามหมายจับผมจะไปประท้วงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ดำเนินการ ส่วนที่นายสุเทพ ขอเลื่อนเข้าพบอัยการ คดีสลายการชุมนุมปี 53 นั้น ถือเป็นสิทธิ์ แต่หมายจับข้อหากบฏ จะเลี่ยงไม่ได้ และทางออกของนายสุเทพ คือ การมอบตัวในข้อหากบฏเสีย หวังว่าคนที่มาร่วมชุมนุมกับนายสุเทพจะเข้าใจ และกลับบ้านไป หากนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าคะแนนดี ก็ให้เข้ามาเลือกตั้ง”
ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ให้นายกฯ และ ครม. ลาออกจากการรักษาการ เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ทำไม่ได้ หากนายกฯ ลาออก ก็จะถือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 และ ความผิดตาม ป. อาญา 157 จะทำเหมือนตอนปี 16 ไม่ได้ เพราะตอนนั้นรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. พวกนักวิชาการที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าทำได้ มันโง่ บางคนก็ฉลาดแต่แกมโกง โดยเฉพาะอาจารย์ 4-5 คน ที่ร่างกฎหมายก็รู้ว่า ทำไม่ได้ ส่วนตัวยังเสียดาย นายธีรยุทธ บุญมี ในอดีตครั้งหนึ่งเคยรักกัน ตอนที่นายธีรยุทธ เป็นนักศึกษาแล้วออกมาเคลื่อนไหว สมัยที่ตนเป็น ร.ต.ท. ยังชื่นชอบ แต่การแถลงข่าวของนายธีรยุทธ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่สนับสนุนการปฏิวัติประชาชน ทำให้หมดศรัทธา ตอนนี้นายธีรยุทธ น่าจะถอดเสื้อกั๊กได้แล้ว
** เชียร์"ปู"ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทย จะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ส่วนตัวตนคิดว่ามีความเหมาะสม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะตัดสินใจอย่างไร ก็แล้วแต่ และตนก็เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งผู้สมัครหรือไม่ แต่ก็ภาวนาให้ส่งผู้สมัคร และขอฟันธงว่า พรรคเพื่อไทย ชนะแน่นอน
**ปลัดกระทรวงยันเลือกตั้งแก้ปัญหาไม่จบ
ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) นนทบุรี มีการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า วาระพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของทุกกระทรวง ทบวง กรม ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีปลัดของทุกกระทรวง และตัวแทนจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำการชี้แจงถึง พ.ร.ฎ.ยุบสภา และขอบเขตในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้ โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย ข้าราชการทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในความรับผิดชอบจนเต็มกำลัง และเห็นว่า การแก้ปัญหาไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการเลือกตั้ง จึงควรมีการหารือร่วมกันระหว่างทุกฝ่ายในความขัดแย้งก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแสวงหาสัญญาประชาคมว่าในอนาคตจะมีแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยที่เป็นรูปธรรมอย่างไร เพื่อการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน
เมื่อเวลา 17.15 น. วานนี้ (11ธ.ค.) ที่กรมการขนส่งทหารบก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเลือกตั้งว่า ภายใต้กฎหมาย เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภาแล้ว ตามหลักก็ควรที่จะปฏิบัติตาม และจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งได้กำหนดไว้ คือ วันที่ 2 ก.พ.2557 และวันนี้ก็ได้เห็นการตอบรับจากพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งแล้ว ตนเชื่อว่าหากเราช่วยกันในการที่ให้การเลือกตั้งเป็นทางออกของประเทศไทย ก็จะทำให้การเลือกตั้งเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอให้มีการออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เพื่อเปิดทางให้มีการตั้งสภาประชาชน เพื่อกำหนดกติกาก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง นายกฯ กล่าวว่า ยังไม่แน่ใจเรื่องนี้ คงต้องขอปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อน แต่วันนี้เราไม่มีรัฐสภา มีแต่วุฒิสภา จึงไม่แน่ใจว่าในส่วนของวุฒิสภา จะออก พ.ร.ก.ได้หรือไม่ เพราะตามกฎหมาย เราได้ยุบสภาไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่ม กปปส. ประกาศขอเข้าพบผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในมุมมองของนายกฯ อยากให้กองทัพแสดงท่าทีอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบแทนผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ แต่เชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นกองทัพ หรือข้าราชการทุกคน มีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ และระเบียบของข้าราชการอยู่แล้ว ซึ่งมีพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ทุกอย่างต้องมีกติกา มีระเบียบของตัวเองอยู่แล้ว เชื่อว่าข้าราชการทุกคนจะทำตาม
ทั้งนี้ นายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้กล่าวถึงการตั้งสภาประชาชน ตามข้อเสนอของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ว่า สามารถทำได้ โดยออกพระราชกำหนด และให้รัฐบาลรักษาการ เป็นผู้ดำเนินการ เพราะถือว่าเป็นเรื่องด่วนและฉุกเฉินในทางการเมือง ส่วนกรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี ทำได้หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ แต่กรณีดังกล่าวเคยเกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ประกาศลาออกจากรักษาการนายกรัฐมนตรี และแต่งตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ ปฏิบัติราชการแทนมาแล้ว
**"ปึ้ง"อ้างนานาชาติหนุนเลือกตั้ง
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศต่างๆ ที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้แสดงความห่วงใยในวิถีทางของระบอบประชาธิปไตยของไทย และปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศไทย จึงได้มีมิตรประเทศหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ เยอรมนี นิวซีแลนด์ และแคนาดา เป็นต้น ได้ออกแถลงการณ์แสดงความรู้สึกและท่าทีต่อเหตุการณ์ในประเทศไทย นับตั้งแต่วันที่ 9-10 ธ.ค. โดยส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการยุบสภาและให้มีการเลือกตั้งทั่วไป
**พท.ยื่นหลักฐานกกต.สั่งยุบ ปชป.
นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ในฐานะฝ่ายกฎหมาย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้พิจารณาสั่งยุบพรรคประชาธิปัตย์ และเพิกถอนสิทธิกรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 5 ปี เพราะมีหลักฐานเพิ่มเติมว่าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รู้เห็น เกี่ยวข้อง สนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.
**"ธาริต"ลั่นเอาผิด สุเทพ-ผู้สนับสนุน
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายพิชิต ชื่นบาน ได้เข้าร้องทุกข์ ต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ดำเนินคดีกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ และพวกในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ฐานล่วงละเมิดพระราชอำนาจ
นายธาริตกล่าวว่า เบื้องต้น ตนจะได้มอบหมายให้ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีพิเศษ (ระดับ 9) ดีเอสไอ รับผิดชอบดำเนินการ และจากการประชุมกับ พล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์ รอง ผบช.น. หัวหน้าพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ทราบว่า เบื้องต้นมีคดีเกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองประมาณ 40 คดี เป็นการกระทำต่างกรรมต่างวาระ ซึ่งจะได้มีการรวบรวมรายละเอียดของเรื่องทั้งหมด ก่อนที่จะเข้าสู่การประชุมของคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 17 ธ.ค.นี้ เวลา 14.00 น.
นายธาริตกล่าวว่า กรณีหมายจับของนายสุเทพ ได้มีการโอนมาไว้ที่ดีเอสไอทั้งหมด เพราะจะมีการยกระดับเป็นคดีพิเศษ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการสอบสวน และการดำเนินการ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังดำเนินการในคดีต่อไป สำหรับผู้ที่กระทำความผิดร่วมกับนายสุเทพ เบื้องต้นมี 20 ราย เป็นตัวการร่วม ผู้สนับสนุน จึงขอเตือนนักวิชาการที่ขึ้นเวที กปปส. ให้ระมัดวัง อย่าทำผิดโดยเจตนา ซึ่งตนไม่ได้เสียสติเรียกแขก จึงต้องออกมาให้ข่าวแจ้งเตือนไว้ล่วงหน้า
สำหรับรายชื่อผู้ร่วมบริจาคบนเวที กปปส. นั้น ยืนยันว่า จะไม่ถือเป็นความผิดที่แน่นอน เพราะเป็นลุงป้าน้าอา บริจาคอาหาร เครื่องดื่ม ซึ่งจะดูว่า มีเจนตนาร่วมทำความผิดด้วยหรือไม่
**ยันตำรวจไม่ทำตามคำสั่ง กปปส.
พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) กล่าวว่า หลังผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกจากศูนย์ราชการและกระทรวงการคลัง เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหาย เบื้องต้นพบความเสียหาย ทั้งส่วนราชการและของส่วนตัว อาทิ รถที่จอดอยู่ในพื้นที่ กล้องวงจรปิด ห้องทำงานต่างๆ ถูกรื้อค้น โดยส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สำนักงาน เช่น คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ไม่น้อยกว่า 20 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ เกือบ 30 เครื่อง และเงินสด ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างเก็บรอยนิ้วมือ ภาพวงจรปิด และพยานหลักฐานต่างๆ พร้อมสั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.น. 2 จัดชุดพนักงานสอบสวนไปรับแจ้งความที่ศูนย์ราชการ และกระทรวงการคลัง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้เสียหาย
ส่วนกรณีข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ขีดเส้นตายให้ตำรวจออกจากพื้นที่ส่วนราชการ และหยุดการปฏิบัติหน้าที่ โดยพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. ยังคงเน้นย้ำให้ตำรวจรักษาสถานที่สำคัญและดูแลความปลอดภัยประชาชนตามปกติ รวมทั้ง ให้คงการปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งด่วนให้กำลังพลทุกกองบัญชาการมีความหนักแน่น และเชื่อมั่นในตัวผู้บังคับบัญชา อย่าหวั่นไหวต่อคำโฆษณาชวนเชื่อจากกลุ่มกบฏ เพื่อรักษาเกียรติภูมิของตำรวจ
**"เหลิม" เย้ย "เทือก" ยิ่งดิ้นคดียิ่งเพิ่ม
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รักษาการรมว.แรงงาน กล่าวว่า การที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ประกาศยุบสภา ถือเป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ แต่นายสุเทพ กลับยังไม่ยุติการชุมนุม ยังมีการตั้งองค์กรเถื่อนขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีการกล่าวหาว่านายกรัฐมนตรี และ ครม.เป็นกบฏ นอกจากจะมีหมายจับในข้อหากบฏแล้ว อาจจะมีความผิดฐานหมิ่นประมาทอีกด้วย และจากการฟังคำปราศรัยของนายสุเทพ ก็รู้สึกน่ารังเกียจขึ้นทุกที
“นายสุเทพ ต้องการอะไร ยิ่งดิ้น ยิ่งมีคดีขึ้นมากขึ้นไปทุกที ภายใน 48 ชม. หากยังไม่มีการจับกุมนายสุเทพตามหมายจับผมจะไปประท้วงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ดำเนินการ ส่วนที่นายสุเทพ ขอเลื่อนเข้าพบอัยการ คดีสลายการชุมนุมปี 53 นั้น ถือเป็นสิทธิ์ แต่หมายจับข้อหากบฏ จะเลี่ยงไม่ได้ และทางออกของนายสุเทพ คือ การมอบตัวในข้อหากบฏเสีย หวังว่าคนที่มาร่วมชุมนุมกับนายสุเทพจะเข้าใจ และกลับบ้านไป หากนายสุเทพ และพรรคประชาธิปัตย์ มั่นใจว่าคะแนนดี ก็ให้เข้ามาเลือกตั้ง”
ส่วนข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมที่ให้นายกฯ และ ครม. ลาออกจากการรักษาการ เพื่อให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง ทำไม่ได้ หากนายกฯ ลาออก ก็จะถือเป็นการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 181 และ ความผิดตาม ป. อาญา 157 จะทำเหมือนตอนปี 16 ไม่ได้ เพราะตอนนั้นรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดให้นายกฯ ต้องมาจาก ส.ส. พวกนักวิชาการที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าทำได้ มันโง่ บางคนก็ฉลาดแต่แกมโกง โดยเฉพาะอาจารย์ 4-5 คน ที่ร่างกฎหมายก็รู้ว่า ทำไม่ได้ ส่วนตัวยังเสียดาย นายธีรยุทธ บุญมี ในอดีตครั้งหนึ่งเคยรักกัน ตอนที่นายธีรยุทธ เป็นนักศึกษาแล้วออกมาเคลื่อนไหว สมัยที่ตนเป็น ร.ต.ท. ยังชื่นชอบ แต่การแถลงข่าวของนายธีรยุทธ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่สนับสนุนการปฏิวัติประชาชน ทำให้หมดศรัทธา ตอนนี้นายธีรยุทธ น่าจะถอดเสื้อกั๊กได้แล้ว
** เชียร์"ปู"ลงปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ที่พรรคเพื่อไทย จะให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ อันดับ 1 ส่วนตัวตนคิดว่ามีความเหมาะสม แต่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะตัดสินใจอย่างไร ก็แล้วแต่ และตนก็เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน แต่ไม่รู้ว่าพรรคประชาธิปัตย์ จะส่งผู้สมัครหรือไม่ แต่ก็ภาวนาให้ส่งผู้สมัคร และขอฟันธงว่า พรรคเพื่อไทย ชนะแน่นอน
**ปลัดกระทรวงยันเลือกตั้งแก้ปัญหาไม่จบ
ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) นนทบุรี มีการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวง หรือเทียบเท่า วาระพิเศษ เพื่อหารือเกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของทุกกระทรวง ทบวง กรม ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยมีปลัดของทุกกระทรวง และตัวแทนจากส่วนราชการต่างๆ เข้าร่วมประชุม
ทั้งนี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำการชี้แจงถึง พ.ร.ฎ.ยุบสภา และขอบเขตในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้ โดยที่ประชุมมีความเห็นร่วมกันว่า ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทย ข้าราชการทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในความรับผิดชอบจนเต็มกำลัง และเห็นว่า การแก้ปัญหาไม่อาจสำเร็จได้ด้วยการเลือกตั้ง จึงควรมีการหารือร่วมกันระหว่างทุกฝ่ายในความขัดแย้งก่อนการเลือกตั้ง เพื่อแสวงหาสัญญาประชาคมว่าในอนาคตจะมีแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยที่เป็นรูปธรรมอย่างไร เพื่อการแก้ปัญหาในระยะยาวอย่างยั่งยืน